วิธี ปลูกข้าวโพด ให้ได้ผลดี ฝักใหญ่สวย ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร

ปลูกข้าวโพด อย่างไรให้ได้ผลผลิตดี  ฝักใหญ่สวยงาม สร้างรายได้ให้เกษตรกร SGE มี วิธีปลูกข้าวโพด มาฝาก

ใครสนใจอยากเริ่มต้นปลูก ข้าวโพด หรือ กำลังศึกษาวิธีปลูก ที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นแล้วละก็ ตามมาดูกันเลย

ปลูกข้าวโพด พันธุ์ไหนดีที่สุด

ปลูกข้าวโพด

อยาก ปลูกข้าวโพด สามารถปลูกได้ทุกสายพันธุ์ แต่ที่นิยมมากที่สุดก็คือ ข้าวโพดหวาน เนื่องจาก ให้ผลผลิตเร็ว รสชาติหวานอร่อย ขายได้ราคาดี โดยพันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่ จัมโบ้สวีท ส่วนข้าวโพดอื่น ๆ ที่นิยมปลูกรองลงมาคือ ข้าวโพดอ่อน ข้าวโพดข้าวเหนียว และ ข้าวโพดเทียน ตามลำดับ

ข้อควรรู้ในการ ปลูกข้าวโพด

ข้าวโพด

ปลูกข้าวโพดกี่วันงอก

หากปลูกข้าวโพดหวาน พันธุ์จัมโบ้สวีท ช่วงระยะเพาะเมล็ด อยู่ที่ 2- 3 วันก็งอกแล้ว

ปลูกข้าวโพดใช้เวลากี่เดือน

ส่วนใหญ่ จะใช้เวลาประมาณ 70 วัน หรือ ประมาณ 2 เดือน ก็พร้อมเก็บเกี่ยว

สภาพดินที่เหมาะกับการปลูกข้าวโพด

ดินที่เหมาะกับการเพาะปลูกข้าวโพด หากเป็นในช่วงเพาะเมล็ด ควรใช้วัสดุปลูกที่มีความร่วนซุย เก็บความชื้นได้ดี เช่น จอก หรือ ผักตบชวาหมัก ในการเพาะเมล็ด สำหรับแปลงเพาะปลูก สามารถปลูกได้ในดินที่ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรด-ด่าง (PH) อยู่ระหว่าง 5.5 – 6.8

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มปลูกข้าวโพด ควรเตรียมดิน โดยการใช้ไถลาก หรือ รถแทรกเตอร์ ขุดร่องดินก่อน เพราะนอกจากจะช่วยเปิดหน้าดิน กำจัดวัชพืชและคลุกเคล้าอินทรียวัตถุแล้ว ยังเป็นการเตรียมร่องดิน สำหรับเตรียมย้ายต้นกล้าข้าวโพด ลงในแปลงเพาะอีกด้วย

นอกจากนี้ หลังจากขุดร่องดินเสร็จแล้ว ควรใส่ปุ๋ยรองพื้น แล้วใช้ไถลากกลบดินอีกรอบด้วย เพื่อให้หลังจากย้ายต้นกล้าเสร็จแล้ว รากของข้าวโพดจะได้รับสารอาหารจากปุ๋ย สามารถเติบโตได้ดีขึ้น โดยปุ๋ยที่ใช้นั้น แนะนำให้ใช้ ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 อัตรา 15 – 20 กิโลกรัม/ไร่ หรือ ปุ๋ยเคมีสูตรอื่น ๆ ที่เหมาะกับสภาพดินในแต่ละพื้นที่

ฤดูที่เหมาะกับการปลูกข้าวโพด

ข้าวโพด สามารถปลูกได้ตลอดปี ถ้ามีแหล่งน้ำเพียงพอ แต่ฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกข้าวโพด คือ ฤดูร้อน ช่วงเมษายน – พฤษภาคม เพราะอากาศแห้ง ไม่มีโรครา น้ำค้างระบาดกวนใจ ทำให้ได้ผลผลิตดีกว่าฤดูอื่น ๆ ซึ่งถ้าหากปลูกในช่วงฤดูฝนแล้วละก็ อาจจะต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ สำหรับหน้าหนาวนั้น แม้จะปลูกได้ดี แต่ก็อากาศเย็น ทำให้ได้ผลผลิตค่อนข้างน้อย

การให้น้ำ

  • ครั้งแรกเมื่อเริ่มปลูก : หลังจากขุดร่องดินเสร็จแล้ว พร้อมเตรียมย้ายต้นกล้าลงแปลงเพาะปลูก ให้ปล่อยน้ำเข้าร่อง ให้ดินพอชุ่มก่อน โดยจะตักรด หรือ ปล่อยทางสายยางก็ได้
  • ช่วงระยะเติบโต : หลังจากย้ายต้นกล้าลงแปลงเพาะปลูกเสร็จแล้ว ให้หมั่นรดน้ำเช้า-เย็น เป็นเวลา11 – 12 ครั้ง/สัปดาห์ พอข้าวโพดอายุได้ 25 – 30 วันแล้ว จึงค่อยลดความถี่ลง โดยการรดน้ำทุก ๆ 2 – 3 วัน/ครั้ง หรือ เฉพาะช่วงที่ต้นข้าวโพดต้องการน้ำเป็นพิเศษ เช่น ใบข้าวโพดมีอาการเหี่ยวหรือม้วนลง และ ช่วงผสมเกสรและติดเมล็ด

การให้ปุ๋ย

ควรใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีควบคู่กัน โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีที่ต้องใช้เป็น ปุ๋ยเร่ง ทำการเร่งโต ให้ข้าวโพดเติบโตดี โดยปุ๋ยเร่งนั้น แนะนำให้ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ สูตร 16-16-16 ผสมกับ ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ในอัตรา 2:3 ใส่ลงไป 2 รอบคือ หลังจากต้นข้าวโพด อายุ 25 – 30 วัน 1 รอบ และ หลังจากต้นข้าวโพด อายุ 40 – 45 วัน อีกหนึ่งรอบ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

วิธีปลูกข้าวโพด ง่ายๆ

การเพาะเมล็ด

ปลูกข้าวโพด

เคล็ดลับ ใช้ จอก หรือ ผักตบชวาหมัก เพราะเป็นวัสดุปลูกที่มีความร่วนซุย เก็บความชื้นได้ดี ทำให้เมล็ดข้าวโพดเติบโตได้ดี โดยจะหมักเอง หรือ ซื้อแบบสำเร็จรูปมาใช้ก็ได้

อุปกรณ์และวัสดุ

  • เมล็ดข้าวโพด
  • ถาดเพาะเมล็ด
  • กระสอบ หรือ ถุงพลาสติก
  • จอก หรือ ผักตบชวาหมัก

วิธีทำ

  1. นำจอก หรือ ผักตบชวาหมัก ใส่ถาดเพาะเมล็ดให้เต็มทุกหลุม
  2. หยอดเมล็ดข้าวโพดลงไปในหลุมเพาะ หลุมละ 1 เมล็ด แล้วกดเมล็ดให้จมลง
  3. ใส่จอกกลบลงไป ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้จำนวนที่ต้องการ
  4. รดน้ำให้ชุ่ม แล้วนำถุงกระสอบ หรือ ถุงพลาสติก มาคลุมปิดเอาไว้
  5. รอประมาณ 3 วัน เมล็ดก็จะแตกหน่อ งอกออกมา
  6. พอเมล็ดข้าวโพดแตกหน่อแล้ว ให้รดน้ำอีก 1 รอบ แล้วตากแดดทิ้งไว้ รอประมาณ 2 วัน ก็จะมีใบงอกออกมา
  7. หมั่นรดน้ำเช้า – เย็น พออายุได้ประมาณ 15 วัน เมื่อข้าวโพดแตกใบสีเขียว โตเป็นต้นกล้าดีแล้ว จึงย้ายลงแปลงเพาะปลูก

การปลูกข้าวโพด ในแปลงเพาะปลูก

ข้าวโพด

อุปกรณ์และวัสดุ

  • ปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16
  • ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0
  • ไถลาก

วิธีทำ

  1. ขุดร่องดิน เป็นแถว ๆ ตามแนวยาว
  2. จากนั้น ใส่ปุ๋ยสูตร 16–16-16 เพื่อรองพื้นไว้ อัตรา 15-20 กิโลกรัม/1 ไร่ เสร็จแล้ว ใช้ไถลาก หรือ จอบ เสียม ไถดินกลบไว้
  3. ปล่อยน้ำเข้าร่องดิน แล้วย้ายต้นกล้าลงในแปลงเพาะ กดลงไปให้จมดิน โดยให้ระยะห่างระหว่างต้น อยู่ที่ประมาณ 20 – 25 เซนติเมตร
  4. เสร็จแล้ว หมั่นรดน้ำเช้า – เย็น ประมาณ 11 – 12 ครั้ง สัปดาห์ จนกว่าต้นข้าวโพดจะเติบโตได้ดี
  5. พอข้าวโพดมีอายุ 25 – 30 วัน ให้ใส่ปุ๋ยคอก ตามด้วยปุ๋ยเร่ง ซึ่งผสมระหว่าง ปุ๋ยสูตร 16-16-8 กับปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ในอัตรา 2:3 ตามลงไป โดยปุ๋ยเร่งนั้น ให้ใช้ปริมาณ 15- 20 กิโลกรัม/1 ไร่
  6. หลังจากใส่ปุ๋ยเสร็จแล้ว ให้ไถดินกลบโคนต้น แล้วรดน้ำให้ดินชุ่ม
  7. พออายุได้ 40 – 45 วัน เมื่อต้นข้าวโพดอยู่ในช่วงออกดอกแล้ว ให้ใส่ปุ๋ยเร่งอีก 1 รอบ โดยใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ผสมกับปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ในอัตรา 2:3 เหมือนเดิม พอใส่เสร็จแล้ว ใช้ไถลากดินกลบปิดโคนต้นเอาไว้
  8. หลังจากปลูกข้าวโพดได้ 70 วัน ข้าวโพดก็จะเริ่มออกฝัก สามารถตัดเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

เป็นยังไงกันบ้างกับ วิธีปลูกข้าวโพด ที่ SGE นำมาฝาก สามารถนำไปปฏิบัติตามได้เลย รับรองว่า ปลูกง่าย โตไว ให้ผลผลิตดี ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และ ผู้ที่สนใจ ได้อย่างแน่นอน 

สำหรับใครที่สนใจ อยากได้ถาดสำหรับเพาะเมล็ดข้าวโพด ให้กลายเป็นต้นกล้าได้อย่างรวดเร็ว ขอแนะนำ ถาดเพาะกล้า กระบะเพาะเมล็ด ของ SGE ผลิตจากวัสดุ PET มีความเหนียว และ ยืดหยุ่นสูง ไม่กรอบแดด ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน มีรูระบายน้ำทุกหลุม ป้องกันโรคที่เกิดกับต้นกล้า ช่วยให้ต้นกล้าข้าวโพด เติบโตแข็งแรง พร้อมสำหรับย้ายลงแปลงเพาะปลูก มีให้เลือกถึง 5 ขนาด 32, 50, 72, 105 และ 128 หลุม สนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/product/seedling-tray/ หรือ สอบถามเพิ่มเติมทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย