วิธีปลูกกระเทียมในกระถาง ง่าย ๆ เพียง 4 ขั้นตอน
“กระเทียม” เครื่องเทศประจำบ้านของหลาย ๆ คน นิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู ในบทความนี้เลยจะขอเสนอ วิธีปลูกกระเทียมในกระถาง ให้ได้หัวใหญ่ไว้กินเองที่บ้าน ในปัจจุบันมีหลายวิธีที่เห็นกันได้ทั่วไป แต่ที่พูดถึงเป็นวิธีปลูกในกระถางที่ทำตามง่าย อุปกรณ์หาได้ทั่วไป ใช้เวลาไม่นาน ดูแลไม่ยาก ใช้แค่พื้นที่เล็ก ๆ ก็สามารถทำตามได้แล้วค่ะ
สายพันธุ์กระเทียมที่นิยมปลูก
กระเทียมพันธุ์จีน
กระเทียมเป็นพืชที่เจริญได้ดีในสภาพอากาศเย็น มีถิ่นกำเนิดมาจากตอนใต้ของทวีปยุโรปถึงตอนกลางของทวีปเอเชีย และเเพร่กระจายไปทั่วจนกลายมาเป็นเครื่องเทศสำคัญของประเทศไทย มีการพัฒนาสายพันธุ์ที่หลากหลาย ที่นิยมปลูกกระเทียมมี 4 สายพันธุ์ด้วยกัน
- พันธุ์พื้นเมืองเชียงใหม่ เปลือกนอกสีขาวปนม่วง ขนาดหัวเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร มีกลีบ 8-10 กลีบ อายุเก็บเกี่ยว 110-130 วัน
- พันธุ์พื้นเมืองศรีษะเกษ ขนาดหัวใหญ่กว่าพันธุ์พื้นเมืองเชียงใหม่ ปลายกลีบหางแหลมสีขาวปนเหลือง มี 8-13 กลีบ อายุเก็บเกี่ยว 70-90 วัน
- พันธุ์บางช้าง คล้ายกับพันธุ์พื้นเมืองเชียงใหม่ แต่กลีบและหัวจะเล็กกว่า
- พันธุ์จีน ขนาดใหญ่กว่าพันธุ์พื้นเมืองเชียงใหม่ ขนาดหัวเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-7 เซนติเมตร มีกลีบ 2-6 กลีบ อายุเก็บเกี่ยว 150-180 วัน สามารถเก็บรักษาได้นาน 4-6 เดือน
สายพันธุ์ที่เราเลือกมาคือพันธุ์จีน เนื่องจากนิยมนำมารับประทาน สามารถหาซื้อได้ง่ายตามตลาดทั่วไป กลิ่นไม่ฉุน และรสชาติไม่จัด หรือใครที่ชอบรสจัดแนะนำเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองศรีษะเกษก็ได้เช่นกัน
TIPS
เทคนิคการเลือกหัวกระเทียมสำหรับมือใหม่
- เลือกหัวที่สมบูรณ์: หัวใหญ่ แน่น และกลีบไม่ฝ่อ จะมีโอกาสการแทงต้นอ่อนสูงกว่า
- เลือกต้นที่แก่จัด และแห้งสนิท: เปลือกด้านนอกแห้งและกรอบ คอหด และส่วนกลางของก้านที่ตัดแข็ง
- เลือกหัวที่ไม่มีโรค: ควรหลีกเลี่ยงกลีบกระเทียมที่มีราสีดำ หรือรอยช้ำสีน้ำตาล เมื่อนำไปปลูกมีโอกาสเกิดเชื้อราสูง
วัสดุอุปกรณ์สำหรับปลูกกระเทียม
อุปกรณ์สำหรับปลูกกระเทียม
อุปกรณ์ที่จะเเนะนำสำหรับ วิธีการปลูกกระเทียมในกระถาง เราสามารถหาได้ทั่วไป หากใครที่ไม่มีสามารถดัดแปลงใช้อย่างอื่นตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ
วัสดุปลูก
- ดิน 2 ส่วน ควรเป็นดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย *ไม่แนะนำให้เป็นดินเหนียวอาจทำให้กลีบเน่าได้
- มูลไส้เดือน 1 ส่วน อาจใช้เป็นมูลไส้เดือนหรือมูลวัวก็ได้
- ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
- แกลบดิบ 1 ส่วน
- หัวเชื้อไตรโคเดอร์มา 2.5 กรัม หากไม่มีสามารถไม่ใส่ได้
อุปกรณ์ปลูก
- กระถางผ้าขนาด 5 แกลลอน อาจใช้เป็นกระถางพลาสติก หรืออุปกรณ์อื่น ๆ แต่แนะนำว่าให้รองก้นกระถางด้วยกากมะพร้าวสับจะช่วยระบายน้ำได้ดีขึ้น
- หัวกระเทียมจีน พันธุ์นี้หาง่ายได้ตามตลาด นิยมนำมารับประทาน ดูเเลง่าย หรืออาจใช้พันธุ์อื่นตามต้องการ
- แกลลอนรดน้ำ
TIPS
แช่ขุยมะพร้าวก่อนใช้งาน
- ควรเเช่ขุยมะพร้าว 1-2 วัน เพื่อให้ขุยมะพร้าวคายสารเเทนนินที่อาจทำให้ดินเป็นกรดออกมา
- ตากขุยมะพร้าวกับแดดให้เเห้งเพื่อกำจัดไข่แมลง เพลี้ยหรือเชื้อราที่อาจปะปนอยู่
วิธีปลูกกระเทียมในกระถาง
ขั้นตอนที่ 1 การผสมดิน
กระเทียมเป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี
หลายคนอาจจะมองข้ามเรื่องดินไป แต่เชื่อไหมคะว่าดินถือเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการปลูกกระเทียม เพื่อไม่ให้ขัดขวางการเเทงราก เพราะมีระบบรากฝอยซึ่งดูดซึมน้ำได้มากเมื่อลงดินลึก ดังนั้นเราจะมาแนะนำการผสมดินที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของกระเทียมกันค่ะ
- ผสมวัสดุปลูกให้เข้ากันในกระบะผสมดิน ยกเว้นไตรโคเดอร์มา
- ละลายไตรโคเดอร์มา 2.5 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร คนให้เข้ากัน
- รดน้ำที่ละลายกับหัวเชื้อไตรโคเดอร์มาลงดินให้เปียกเล็กน้อย และคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน
ขั้นตอนที่ 2 การตัดเเต่งกลีบกระเทียม
การตัดแต่งกลีบเป็นการช่วยให้ต้นอ่อนแทงง่ายขึ้น
นำหัวกระเทียมแกะกลีบ และเลือกกลีบรอบนอกเพราะจะใหญ่กว่ากลีบด้านใน หลังจากนั้นตัดปลายกลีบประมาณ 5 มิลลิเมตร เพื่อให้ต้นอ่อนจะเเทงง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 การลงปลูกกระเทียม
การปลูกกระเทียมสำคัญที่สุดคือความชื้นที่ต้องพอดี และการเลือกวัสดุที่ระบายน้ำได้ดี
- นำดินที่ผสมไว้มาใส่กระถาง ทำหลุมลึกประมาณ 3-4 เซนติเมตร
- นำกลีบกระเทียมลงปลูกโดยหันด้านที่ตัดเเต่งกลีบขึ้นด้านบน แล้วกลบดินบาง ๆ
TIPS
เทคนิคการทำให้กระเทียมหัวใหญ่
เมื่อกระเทียมอายุประมาณ 60 วัน ซึ่งจะอยู่ในระยะเวลาการสร้างหัว ให้ตัดใบที่แห้งและเหลืองเพื่อให้กระเทียมย้ายพลังงานลงไปใช้ที่หัว ทำให้หัวใหญ่ขึ้นและเสริมด้วยปุ๋ยที่เป็นสูตรหนักหลัง เช่น 13-13-21 จะช่วยส่งเสริมการขยายหัวเพิ่มขึ้น
ขั้นตอนที่ 4 คลุมหน้าดินด้วยแกลบดิบ
คลุมดินรักษาความชื้นช่วยประหยัดเเรงงานไม่ต้องรดน้ำบ่อย
ควรโรยแกลบดิบบาง ๆ ให้ทั่วหน้าดินเพื่อช่วยรักษาความชื้น และป้องกันการเกิดวัชพืช บทความนี้เลือกใช้แกลบดิบคลุมดินเนื่องจากมีราคาถูกและหาได้ง่าย นอกจากนี้ยังย่อยสลายกลายเป็นอินทรีย์วัตถุให้กับพืชได้อีกด้วย หากใครไม่มีสามารถใช้ฟางแห้งหรือเศษใบไม้แห้งคลุมแทนได้ หลังจากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม
วิธีการดูแลกระเทียม
กระเทียมไม่ต้องการน้ำเยอะเเต่ควรไม่ปล่อยให้ดินแห้ง อาจทำให้กลีบฝ่อได้
วิธีการปลูกกระเทียมในกระถาง ว่าทำไม่ยากแล้ว การดูเเลนั้นก็ง่ายมาก ๆ เหมือนกันค่ะ เพียงเเค่คอยควบคุมความชื้นให้ดีและใส่ปุ๋ยเพื่อให้กระเทียมได้รับธาตุอาหารที่ครบถ้วนตามต้องการ เท่านี้ก็จะได้กระเทียมหัวใหญ่ ๆ มาไว้กินเองที่บ้านแล้วค่ะ
การรดน้ำ
ให้น้ำครั้งเเรกหลังปลูก หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ต้นกระเทียมจะโตขึ้น ควรให้อย่างน้อย 7 วันต่อครั้ง หรือเมื่อเห็นว่าใบเหี่ยวและดินแห้งสามารถรดน้ำได้ทันที
การใส่ปุ๋ย
ครั้งที่ 1 เมื่อกระเทียมอายุประมาณ 30 วัน สามารถโรยปุ๋ย 15-15-15 ประมาณ 10 กรัม เพื่อบำรุงต้นเเละใบ
ครั้งที่ 2 อายุประมาณ 60 วัน กระเทียมจะเริ่มสร้างหัว โรยปุ๋ย 13-13-21 ประมาณ 10 กรัมเพื่อขยายหัว
ครั้งที่ 3 อายุประมาณ 90 วัน กระเทียมจะเริ่มสร้างหัว โรยปุ๋ย 13-13-21 ประมาณ 10 กรัม
ดูแลดิน
การพรวนดินเป็นการช่วยให้ดินร่วนซุย ไม่แพ็กตัว อากาศถ่ายเทได้สะดวก และช่วยให้รากหาอาหารง่ายขึ้น นอกจากนี้การพรวนดินยังช่วยกำจัดวัชพืช แต่ระวังอย่างให้โดนรากขาดนะคะ
การกำจัดวัชพืช
หมั่นกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งสารอาหารของกระเทียม และการสะสมของแมลงศัตรูพืช
การเก็บเกี่ยวกระเทียม
หลังจากเก็บเกี่ยวต้องตากหัวกระเทียมให้แห้งก่อนเพื่อลดการเกิดเชื้อรา
หลังจากที่เราทำตาม วิธีปลูกกระเทียมในกระถาง ในด้านบนแล้ว อาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือนแล้วเเต่สายพันธุ์ ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวโดยจะเก็บเลยก็ไม่ได้นะคะจะต้องมีเทคนิคเพื่อที่จะให้ได้หัวกระเทียมมีคุณภาพซึ่งสามารถอ่านด้านล่างเพื่อทำตามได้เลยค่ะ
ระยะเวลาเก็บเกี่ยว
- พันธุ์เบา เก็บเกี่ยวได้ตั้งเเต่ 70 – 90 วัน เช่น พันธุ์ตาแดง พันธุ์หยวก พันธุ์พื้นเมืองศรีษะเกษ
- พันธุ์กลาง เก็บเกี่ยวได้ตั้งเเต่ 100 – 120 วัน เช่น พันธุ์น้ำปาด พันธุ์บ้านโฮ่ง พันธุ์ปาย พันธุ์พื้นเมืองเชียงใหม่
- พันธุ์หนัก เก็บเกี่ยวหลัง 150 วัน เช่น พันธุ์ไต้หวัน พันธุ์จีน
วิธีเก็บเกี่ยว
เมื่อกระเทียมแก่จัด ลักษณะใบจะเหี่ยวจากปลายลงมาประมาณ 30% ต้นเอนล้มประมาณ 25% ขึ้นไป จะทำให้ได้กระเทียมที่หัวแกร่ง ก่อนการเก็บเกี่ยวกระเทียมควรงดให้น้ำเเละปุ๋ย 14 วัน เพื่อให้หัวกระเทียมแห้ง หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วจะต้องนำไปบ่ม วิธีการคือตากแดด 2-3 วัน และผึ่งลมในร่ม 3-4 สัปดาห์ให้แห้งสนิท ให้เปลือกด้านนอกแห้งและกรอบ คอหด และส่วนกลางของก้านที่ตัดแข็ง เพื่อป้องกันการเกิดรา
การเก็บรักษากระเทียม
ควรเก็บกระเทียมไว้ในที่แห้งมีความชื้นต่ำ อากาศถ่ายเทดีเพื่อไม่ให้ความชื้นเข้าหัวกระเทียม อาจเกิดการสร้างสปอร์ของเชื้อราได้ ซึ่งเราสามารถเก็บรักษากระเทียมได้ประมาณ 6-8 เดือนเลยค่ะ
ป้องกันศัตรูพืชและโรคพืชในกระเทียม
แมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกระเทียม
- ไรขาว สังเกตุที่ยอดอ่อนกระเทียม อาการใบจะหงิก ม้วนงอ แรกเริ่มใบจะเป็นสีเขียวแซมขาว เมื่ออาการรุนแรงใบจะเหลืองแห้งเหี่ยว
- เพลี้ยไฟ สังเกตุที่ยอดอ่อนกระเทียม อาการใบจะเป็นจุดสีขาวซีด เมื่อรุนแรงใบจะแห้งเหี่ยว
โรคพืชที่พบบ่อยในกระเทียม
- โรคใบเน่าหรือแอนแทรกโนส ลักษณะอาการใบจะเป็นจุดแผลวงกลม ตรงกลางจะมีน้ำข้น ๆ เมื่อแผลแห้งจะค่อย ๆ ขยายลักษณะเป็นวงกลมซ้อนกันจนชนกันเป็นแผลใหญ่ จนใบหักและแห้งตายไป
- โรคใบจุดสีม่วง ลักษณะอาการใบจะเป็นจุดฉ่ำน้ำเล็ก ๆ เมื่อแห้งจะเป็นรูปร่างกลมหรือวงรีสีขาว มักเกิดเมื่ออุณหภูมิเย็น และจะขยายไปตามความยาวของใบ แผลจะยุบตัวและแห้งเป็นสีม่วงเข้มหรือน้ำตาลอมม่วง
- โรคหัวและรากเน่า ลักษณะอาการจะแห้งจากปลายใบและลามเข้ามายังต้น มีเส้นใยของเชื้อรา และเม็ดราสีขาว ไปจนถึงสีดำปะปนด้วย มักเกิดขึ้นเมื่อฝนตกชุก จะทำให้รากและหัวเน่า
สายเกษตรอินทรีย์ฟังทางนี้
ป้องกันเเมลงศัตรูพืช: แนะนำให้ใช้น้ำสมควันไม้ ฉีดทุก 7-10 วัน กำจัดกำจัดวัชพืชรอบกระถางหรือบริเวณใกล้เคียง เพื่อทำลายที่อยู่อาศัยของเเมลง และเมื่อพบใบที่เเสดงอาการให้ตัดเเต่งนำไปทิ้งให้ไกลได้เลยค่ะ
ป้องกันโรคพืช: แนะนำให้ใช้จุลินทรีย์ไตรโคเดอร์มาฉีดทุก 7-10 วันเพื่อป้องกันการเกิดโรค และกำจัดใบที่เกิดโรคเพื่อป้องกันการลุกลามของโรค
FAQs
วิธีปลูกกระเทียมในกระถาง ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ปลูกในกระถางง่ายและประหยัดพื้นที่กว่าปลูกลงแปลงเยอะเลย และสิ่งที่สำคัญในการปลูกก็คือดินที่ร่วนซุย ระบายน้ำดี และตัวแปรสำคัญในการปลูกกระเทียมให้ได้หัวใหญ่คือปุ๋ยต้องมีธาตุอาหารที่เพียงพอนะคะ