วิธีปลูกกะเพรา ให้พุ่มใหญ่ ใบหนา เก็บกินได้ตลอดทั้งปี

อัปเดตเมื่อ 23 มกราคม 2025

“กะเพรา” เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และมักปลูกไว้ตามบ้านเรือนต่าง ๆ เนื่องจากกะเพราเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู อย่างไรก็ตาม การปลูกกะเพราอาจกลายเป็นปัญหาสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งมักพบปัญหาเช่น ใบเหลือง ใบน้อย หรือพุ่มเล็ก ดังนั้น ในบทความนี้เราขอนำเสนอ วิธีปลูกกะเพรา ให้พุ่มใหญ่ ใบหนา ด้วยเทคนิค “แกล้งกะเพรา” ที่สามารถทำตามได้ง่ายและได้ผลดีแน่นอนค่ะ!

สายพันธุ์กะเพราที่นิยมปลูก

สายพันธุ์ที่นิยมปลูกในไทยมีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ด้วยกัน โดยเเต่ละสายพันธู์สามารถแยกได้ตามสีก้านและใบดังต่อไปนี้เลยค่ะ

  1. กะเพราะเเดง กิ่ง ก้าน และใบมีสีแดงอมม่วง ใบเล็ก กลิ่นฉุน นิยมนำมาทำเป็นยาสมุนไพร
  2. กะเพราขาว กิ่ง ก้าน และใบมีสีเขียว ใบใหญ่ กลิ่นไม่ฉุนหาได้ง่าย นิยมนำมาทำเป็นอาหาร
  3. กะเพราผสม เป็นการผสมกันระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว เป็นไม้พุ่มเตี้ย แตกกิ่งเยอะ และใบมีสีเขียว ก้านสีแดงอมม่วง กลิ่นฉุนที่สุด

ในบทความนี้ เราขอแนะนำการเลือกใช้ กะเพราขาว ซึ่งเป็นพันธุ์ยอดนิยมสำหรับการประกอบอาหาร ด้วยกลิ่นที่ไม่ฉุนจนเกินไปและหาซื้อได้ง่าย อีกทั้งเรายังสามารถนำยอดของกะเพราขาวที่ซื้อมามาปลูกต่อได้ โดยการตัดเฉพาะส่วนยอดเพื่อใช้ขยายพันธุ์ ส่วนที่เหลือสามารถนำไปทำอาหารต่อได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกค่ะ!

กะเพราเเดง

กะเพราขาว

กะเพราผสม

สภาพเเวดล้อมที่เหมาะสม

สภาพดินที่เหมาะสม กะเพราเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิดที่มีการระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วน ดินร่วนปนทราย

สภาพอากาศที่เหมาะสม อากาศที่เหมาะสมในการปลูกคืออากาศอบอุ่นและชื้น ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 20-38 องศาเซลเซียส ในประเทศไทยสามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ แต่ภาคเหนือและภาคอีสานเหนือควรระวังในฤดูหนาวที่อุณหภูมิจะต่ำมาก อาจจะหลีกเลี่ยงการปลูกในช่วงนั้นค่ะ

พื้นที่ปลูกที่เหมาะสม ควรปลูกกลางเเจ้งที่โดนแดดทั้งวัน เพราะกะเพราชอบแดดทั้งวันและจัด หากใครปลูกในร่มแนะนำว่าควรหาพื้นที่สามารถโดนแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง/วันจะดีที่สุด

วิธีปลูกกะเพรา

กะเพราสามารถปลูกได้ 2 แบบนะคะ คือ ปลูกโดยเมล็ดและปลูกโดยการปักชำ การปลูกด้วยเมล็ดจะมีความเสี่ยงโรคน้อยกว่า แต่ใช้เวลาปลูกนาน เราจึงเลือกวิธีปักชำที่ทำง่าย และเห็นผลเร็ว สะดวกต่อคนปลูกมาก ๆ ด้วยค่ะ

การเตรียมต้นกะเพรา

เราจะเลือกใช้ต้นพันธุ์กะเพราขาว เพราะนิยมปลูกไว้ประกอบอาหาร เนื่องด้วยกลิ่นที่ฉุนน้อยที่สุดจากทั้ง 3 พันธุ์ รสชาติหวาน และปลูกได้ง่ายที่สุด

  1. การเลือกกิ่งจะเลือกกิ่งที่แก่ปานกลาง ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป ซึ่งสังเกตได้จากสีและความแข็งของกิ่ง เราจะไม่ใช้กิ่งที่เป็นสีน้ำตาล และมีดอก นอกจากนี้ไม่ควรเลือกต้นที่ใบเป็นโรค สังเกตจากสีใบที่จะเป็นสีน้ำตาล หรือใบเน่าเปื่อย
  2. เมื่อเราเลือกกิ่งได้แล้วเราจะตัดใต้ข้อที่ 3 และตัดใบตรงข้อด้านล่างออกไป เพื่อให้กะเพราออกรากบริเวณนั้น

ตัวอย่างการตัดกิ่งกะเพรา

การผสมดิน

  1. ดิน 2 ส่วน **ควรใช้ดินที่มีการระบายน้ำดี เช่น ดินร่วน ดินร่วนปนทราย หากใครไม่สะดวกสามารถใช้เป็นดินก้ามปูที่หาซื้อได้ทั่วไปได้เลยค่ะ
  2. แกลบดิบ 1 ส่วน ถ้าไม่มีสามารถตัดออกไปได้เลยค่ะ
  3. ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน **สามารถใช้เป็นปุ๋ยหมักพืชสด ปุ๋ยหมักมูลวัว หรือสามารถใช้เป็นปุ๋ยคอกได้เลยค่ะ
  4. นำทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน

เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้วเราจะไปดู วิธีปลูกกะเพรา โดยเรามีมาเเนะนำ 3 วิธีด้วยกัน คือ การปลูกในขวดพลาสติก การปลูกในกระถาง และปลูกในกระบะปลูก ทุกคนสามารถเลือกวิธีได้ตามใจชอบ และตามความเหมาะสมของพื้นที่เเต่ละคนได้เลยนะคะ

1. ปลูกกระเพราในขวดพลาสติก

วิธีปลูกกะเพรา ในขวดพลาสติกนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นที่ เพราะสามารถแขวนไว้ตามระเบียง หรือกำเเพงได้ ช่วยประหยัดพื้นที่มาก ๆ เลยล่ะค่ะ

อุปกรณ์

  1. ขวดพลาสติก แนะนำให้ใช้ขวดขนาด 1-1.5 ลิตร จะมีขนาดที่พอดีค่ะ
  2. ดินปลูก เราจะใช้ดินที่ผสมไว้ตามสูตรด้านบน สำหรับใครที่ผสมดินเองสามารถใช้ดินปลูกสำเร็จรูปได้เลยนะคะ ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มค่ะ
  3. เชือกเเขวนยาว 30 เซนติเมตร แนะนำว่าให้ใช้เป็นเชือกไนล่อน หรือเชือกอื่นที่มีความเเข็งเเรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของดินเเละน้ำ
  4. ด้ายดิบยาว 15 เซนติเมตร สำหรับใช้เป็นตัวกลางดูดน้ำจากด้านล่างขึ้นไปที่ดินด้านบน หรือด้ายอื่นที่นุ่ม สามารถซับน้ำหรือดูดน้ำได้
  5. ต้นพันธุ์กะเพราขาว ควรใช้กิ่งแก่ปานกลาง หรือใครอยากได้พันธุ์อื่นสามารถใช้ตามที่ต้องการได้เลย
  6. กากมะพร้าวสับ ใช้เพื่อช่วยระบายน้ำเละเก็บความชื้น แนะนำว่าให้เเช่น้ำก่อน 2-3 คืน แล้วตากให้แห้งก่อนใช้เพื่อลดสารเเทนนิน

วิธีปลูกกะเพราในขวดพลาสติก

วิธีปลูกกะเพราในขวดพลาสติก

  1. เราจะนำอุปกรณ์ทั้งหมดประกอบกันตามรูปภาพด้านบนเลยนะคะ
  2. แล้วเติมน้ำลงไปประมาณ ⅓ ของขวด แล้ววางด้ายดิบโดยให้ครึ่งหนึ่งอยู่ด้านบนและครึ่งนึงจุ่มน้ำไว้ เพื่อทำหน้าที่ดูดซับน้ำขึ้นไปบนดิน
  3. ใช้กากมะพร้าวสับอุดบริเวณปากขวดไว้เพื่อกันไม่ให้เชือกไหลลง
  4. ใส่ดินปลูกลงด้านบน รดน้ำเบา ๆ ให้ดินชุ่ม ลงปลูกกะเพราลึกประมาณ 3 เซนติเมตร หนึ่งต้นต่อขวด
  5. นำไปวางบริเวณที่เป็นที่ร่มประมาณ 7 วัน แล้วย้ายไปตรงที่โดนแดดมากที่สุดเพื่อให้กะเพรารับแแสงแดด

2. ปลูกกะเพราในกระถาง

วิธีปลูกกะเพรา ในกระถางเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมทำกันมาก เนื่องจากอุปกรณ์หาง่ายได้ทั่วไป แต่ข้อเสียของการปลูกในกระถางต้นที่ได้จะเล็กกว่าปลูกลงเเปลง ดังนั้นเราจึงมีวิธีที่จะทำให้กะเพราต้นเล็ก ใบหนา และพุ่มใหญ่ค่ะ

วิธีปลูกกะเพราในกระถาง

อุปกรณ์

  1. กระถาง โดยกระถางที่เหมาะควรมีขนาด 12 นิ้ว ซึ่งสามารถปลูกได้ 3 ต้น หากใช้กว้างกว่านี้สามารถปลูกจำนวนตามความเหมาะสม
  2. ดินปลูก เราจะใช้ดินที่ผสมไว้ตามสูตรด้านบนนะคะ หรือใครไม่ผสมดินเองสามารถใช้ดินปลูกสำเร็จรูปได้เลย ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มค่ะ
  3. ไม้ไผ่ค้ำ สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร **สามารถใช้เป็นไม้ที่มีที่บ้านได้ แต่ควรมีความเเข็งเเรงสามารถค้ำต้นกะเพราได้
  4. กากมะพร้าวสับ ใช้เพื่อช่วยระบายน้ำเละเก็บความชื้น แนะนำว่าให้เเช่น้ำก่อน 2-3 คืน แล้วตากให้แห้งก่อนใช้เพื่อลดสารเเทนนิน
  5. ต้นพันธุ์กะเพราขาว หรือใช้สายพันธุ์ที่ต้องการ

วิธีปลูกกระเพราในกระถาง

  1. นำกากมะพร้าวสับมารองก้นกระถางประมาณ 1 นิ้ว
  2. ใส่ดินปลูกที่ผสมไว้ลงไปในกระถาง เหลือพื้นที่ปากกระถางลึกประมาณ 1 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
  3. นำยอดที่ตัดแล้วเสียบลงบนดิน ระยะห่าง 10-15 เซนติเมตร ความลึกประมาณ 3 เซนติเมตร
  4. คลุมทับด้วยกากมะพร้าวสับบาง ๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม แล้ววางไว้ในที่ร่ม 7 วัน รากจะเริ่มออก เราก็สามารถนำออกไปวางให้โดนแดดได้เลย
  5. โดยเมื่อต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ใช้ไม้ไผ่มาค้ำไว้ต้นเพื่อกันต้นล้ม ในระยะนี้เราสามารถเด็ดยอดเพื่อเพิ่มการเเตกยอดให้ใบเยอะได้ค่ะ เพราะกระถางมีพื้นที่จำกัดต้นจะไม่สูงใหญ่ เราจึงใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มจำนวนใบแทน

3. ปลูกกะเพราในกระบะปลูก

วิธีปลูกกะเพรา ด้วยการใช้กระบะปลูกนี้ สามารถปลูกได้เยอะขึ้น หรือปลูกพืชอื่นเเซมด้วย โดยการปลูกในกระบะจะช่วยให้ได้ต้นกะเพราที่ใหญ่และสูงขึ้น โดยสามารถเลือกสไตล์กระบะให้เข้ากับสไตล์การเเต่งสวนของคุณเองเพื่อความสวยงามได้เลยนะคะ

วิธีปลูกกะเพราในกระบะปลูก

อุปกรณ์

  1. กระบะปลูก โดยควรใช้กระบะที่ลึก 20 เซนติเมตรขึ้นไป เพื่อให้รองรับการกระจายรากของกะเพรา
  2. ดินปลูก เราจะใช้ดินที่ผสมไว้ตามสูตรด้านบนนะคะ หรือสามารถใช้ดินปลูกสำเร็จรูปได้เลย และไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มค่ะ
  3. ไม้ไผ่ค้ำ สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร **สามารถใช้เป็นไม้ที่มีที่บ้านได้ แต่ควรมีความเเข็งเเรงสามารถค้ำต้นกะเพราได้
  4. กากมะพร้าวสับ ใช้เพื่อช่วยระบายน้ำเละเก็บความชื้น แนะนำว่าให้เเช่น้ำก่อน 2-3 คืน แล้วตากให้แห้งก่อนใช้เพื่อลดสารเเทนนิน
  5. ต้นพันธุ์กะเพราขาว หรือพันธุ์อื่นตามต้องการ

วิธีการปลูกกระเพราในกระบะปลูก

  1. นำกากมะพร้าวสับมารองก้นกระบะประมาณ 3 นิ้ว เพื่อกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น
  2. ใส่ดินปลูกที่ผสมไว้ลงไปในกระบะ โดยเหลือพื้นที่ปากกระบะลึกประมาณ 2 นิ้ว
  3. รดน้ำให้ชุ่มเล็กน้อย แล้วนำยอดที่ตัดแล้วปักลงบนดิน โดยระยะควรห่างกัน 10-15 เซนติเมตร ปักลึกประมาณ 3 เซนติเมตร
  4. คลุมทับด้วยกากมะพร้าวสับบาง ๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
  5. โดยเมื่อต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร เราจะเอาไม้ไผ่ค้ำมาค้ำไว้ต้นกะเพราไว้กันต้นล้ม

วิธีการดูแลกะเพรา

หลังจากที่เราอ่าน วิธีการปลูกกะเพรา เเล้วก็ต้องมาต่อที่การดูเเลกันต่อค่ะ เพราะไม่ว่าจะปลูกพืชอะไรก็เเล้วเเต่เราก็ควรที่จะดูเเลเพื่อให้พืชของเรานั้นสวยและมีผลผลิตดี ซึ่งทุกคนสามารถดูเเลกระเพราง่าย ๆ ตามด้านล่างได้เลยนะคะ

  • การพรวนดิน: หากดินแน่นควรมีการพรวนหน้าดิน เพื่อให้อากาศเข้าไปทำให้ดินโปร่ง ช่วยลดการเน่าของราก
  • การให้น้ำ: กะเพราเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูงแต่ไม่แฉะ ช่วงเเรกควรรดน้ำเช้า-เย็น และเมื่อต้นใหญ่ขึ้นแนะนำให้รดอย่างน้อย 2 คร้ง/สัปดาห์ก็เพียงพอ
  • การให้ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้นเดือนละครั้ง ประมาณ 20 กรัม/ต้น สำหรับการให้ปุ๋ยไม่ควรให้โดยตรงที่โคนต้น ให้โรยรอบ ๆ ห่างจากโคนตามความกว้างของทรงพุ่ม
  • ตัดเเต่งใบ: ควนตัดเเต่งใบเหลือง เเละใบที่เน่าออกเพื่อป้องกันการเเย่งสารอาหารและการลุกลามของโรคพืช

เทคนิคแกล้งกะเพรา

วิธีการแกล้งกะเพราทำได้ไม่ยากแต่ผลลัพธ์เกินคาดมากค่ะ โดยเมื่อต้นกะเพราของเรามีดอกออกมา เราจะเด็ดออกทันทีเพื่อเป็นการแกล้งหลอกกะเพราว่ากำลังจะสูญพันธุ์ หลังจากนั้นกะเพราจะสร้างใบและเเตกกิ่งออกมาใหม่เพื่อความอยู่รอด ทำให้ต้นกะเพราใบหนา และพุ่มใหญ่ค่ะ

การเก็บเกี่ยวกะเพรา

บางคนนิยมเก็บดอกกะเพรามาประกอบอาหารด้วยเพื่อเพิ่มความหอม

ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวได้หลังปลูก 2 เดือนขึ้นไป และจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 15 วัน ลักษณะต้นที่เก็บได้ สังเกตจากการที่เริ่มมีดอก และส่งกลิ่นหอมชัดเจน โดยวิธีการเก็บเราจะเก็บที่กิ่งแก่หรือยอดโดยการเด็ด กะเพราจะเเตกยอดออกมาใหม่สามารถเก็บกินได้ตลอดทั้งปี

ศัตรูพืชและวิธีการป้องกัน

แมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกะเพรา

  1. เพลี้ยไฟ เป็นแมลงปากดูดมักพบมากบริเวณยอดจะเห็นเป็นตัวสีเเดง ๆ ทำให้ใบหงิก ยอดเหลือง ซึ่งจะส่งผลให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต
  2. แมลงหวี่ขาว เป็นแมลงปากดูด เราจะสังเกตจากบริเวณใต้ใบเป็นตัวสีขาว ๆ เล็ก ๆ โดยอาการสังเกตที่ใบหงิก ซีดด่าง หรือใบหงิกเหลือง

โรคพืชที่พบบ่อยในกะเพรา

  1. โรคราน้ำค้าง พบได้ทุกระยะของการเจริญเติบโต อาการจะเเสดงให้ใบด้านบนเหลือง และใต้ใบมีเส้นใบราสีน้ำตาลทั่วใต้ใบ เมื่อลุกลามใบจะเเห้งเหี่ยวตายไป
  2. โรคเหี่ยว โรคนี้มักพบบ่อยในฤดูฝนที่การระบายน้ำไม่ดีและมีน้ำขัง โดยเริ่มเเรกรากจะเน่าสังเกตจากใบเป็นสีน้ำตาล ทำให้ใบเหลืองเมื่อลุกลามใบจะเหี่ยวและยืนต้นตาย

วิธีป้องกันและแก้ไข

  1. ก่อนปลูกควรไถตากดินกับแดดเพื่อฆ่าเชื้อราและไข่หนอน ประมาณ 15 วัน หากปลูกในกระถางแนะนำใช้ดินปลูกใหม่
  2. เลือกระยะเวลาปลูก ควรหลีกเลี่ยงการปลูกในฤดูฝน
  3. เลือกต้นพันธุ์ที่ปลอดเชื้อ
  4. รักษาความสะอาดและความชื้นในภาชนะปลูก
  5. ทำลายต้นที่มีเชื้อข้างนอกไกล ๆ พื้นที่ที่ปลูก
  1. ช่วยขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย มีฤทธิ์ในการลดระดับของไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันไม่ดี และในขณะที่ไขมันชนิดดีกลับเพิ่มขึ้น
  2. ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน มีฤทธิ์ในการขับไขมันและน้ำตาลที่เป็นส่วนเกินออกจากร่างกายได้จึงช่วยลดระดับของน้ำตาลในเลือดได้ดี
  3. ป้องกันโรคมะเร็ง โดยมีสารสกัดจากใบกะเพรา สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งในปาก และมีฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปอดได้
  4. รักษาสุขภาพในช่องปาก กะเพราสามารถทำให้ระดับคราบพลัคและอาการเหงือกอักเสบลดลงและที่สำคัญไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ อีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ วิธีปลูกกะเพรา ทำตามได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ วิธีที่เเนะนำไปรับรองว่ากะเพราของทุกคนจะพุ่มใหญ่ ใบหนา มีกินตลอดปี ไม่ต้องซื้อกินอีกต่อไปเลยค่ะ

FAQs

  • ใช้ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนี่ยมซัลเฟต 1- 2 ช้อนชา ต่อน้ำ10 ลิตร รดทุก 5 – 7 วัน เมื่อต้นกะเพราอายุ 25 – 30 วัน ใส่ปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนชาต่อต้น ให้ทุก 20 – 25 วัน
  • ถ้าเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแนะนำให้ใส่ทุกเดือนประมาณ 1 กำมือ

เกิดได้หลายสาเหตุแต่สาเหตุหลักอาจเกิดจากการขาดปุ๋ย สังเกตุได้จากการที่ใบล่างเหลือง แต่ถ้าเหลืองบริเวณยอดใบ อาจเกิดจากการรบกวนของเเมลงเช่น เพลี้ยไฟ หรือแมลงหวี่ขาว เป็นต้น

กะเพราเป็นพืชที่ทนอยู่แล้ว แต่ถ้าหากได้รับการดูเเลอาจจะมีอายุให้เก็บเกี่ยวไปได้ถึง 2 ปีเลยนะคะ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตร

ร่วมแบ่งปันไอเดียและข้อมูลของคุณกับเราที่นี่! เราเปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรมืออาชีพ มือใหม่ หรือเพียงแค่ผู้ที่สนใจด้านการเกษตร
ก็สามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นความรู้ในการพัฒนาการเกษตรไปด้วยกัน

0 0 โหวต
Article Rating
guest
0 Comments
โหวตสูงสุด
ใหม่สุด เก่าสุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด