สูตรวิธีทำ ครัวซองต์ หอมกรุ่น เนื้อฟู กรอบอร่อย ทำเองได้ที่บ้าน

ครัวซองต์ (Croissant) ขนมที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ มักจะทานคู่กับกาแฟในตอนเช้า หรือทานเป็นมื้อเช้าไปเลย บางครั้งจะหา ครัวซอง อร่อย ๆ ก็ยาก แถมร้านอร่อย ๆ ก็มีราคาแพงอีกด้วย  บทความนี้ SGE จะมาแจกสูตร วิธีทำครัวซองต์ ทานเองง่าย ๆ ที่บ้าน บอกเลยว่า อร่อย หอมแบบฟิน ๆ แน่นอน ไปจดสูตรกันเลยจ้า

ทำความรู้จักขนมปัง ครัวซองต์

คำว่า “ครัวซอง” “ครัวซองต์” “ครัวซ็อง” หรือ “Croissant” มาจากภาษาฝรั่งเศส หลาย ๆ คนจึงเข้าใจได้ว่า ขนมอบชิ้นนี้ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส แต่จริง ๆ แล้ว ครัวซองถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกที่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในช่วงปี ค.ศ. 1683 เริ่มแรกตอนนั้นใช้ชื่อว่า ขนมคิปเฟล (Kipferl) เป็นภาษาเยอรมัน ที่มีความหมายว่า พระจันทร์เสี้ยว นั่นเอง

สำหรับชื่อ ครัวซ็อง นั้น มีจุดเปลี่ยนในช่วงราว ๆ ปี 1770 หลังจากที่พระนางมารี อ็องตัวแน็ต เจ้าหญิงแห่งกรุงเวียนนา เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และทรงย้ายไปประทับที่ฝรั่งเศส และได้สั่งให้พ่อครัวของฝรั่งเศสทำขนมคิปเฟลขึ้นมา พ่อครัวได้มีการประยุกต์กรรมวิธีการทำ จนทำให้ได้รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่ต่างไปจากเดิม จนมีการตั้งชื่อขนมชิ้นนี้ว่า ครัวซ็อง (Croissant) มาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

สำหรับประเทศไทย ครัวซองต์ได้กลายมาเป็นอาหารตามร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟต่าง ๆ และปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบโรงงานการผลิตครัวซองต์แบบสำเร็จรูปขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และมือใหม่ก็สามารถทำทานเองที่บ้านได้ ถือเป็นอีกหนึ่งขนมปังที่นิยมทานเป็นอาหารเช้าคู่กับกาแฟ และเครื่องดื่มไปแล้วในปัจจุบัน

ประเภทครัวซอง มีแบบไหนบ้าง?

หลาย ๆคน คงเคยสงสัยว่า ครัวซองตามร้านเบเกอรี่ หรือคาเฟ่ หน้าตาต่างกัน แต่ดันเรียกว่า ครัวซอง ไปหมด จริง ๆ แล้วครัวซองต์นั้น มี 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

1. Straight Croissant หรือนิยมเรียกกันว่า Plain Croissant ครัวซองแบบเบสิก จะมีจุดเด่นอยู่ที่เท็กซ์เจอร์แบบกรอบนอก นุ่มใน นิยมทานกันแบบไม่มีไส้ และนิยมทานเป็นมื้อเช้าคู่กับชา หรือกาแฟร้อน ๆ นั่นเอง
2. Crescent Croissant หาทานง่าย และเป็นที่นิยม ครัวซองรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยว หรือครัวซองแบบดั้งเดิมนั่นเอง
3. Diamond Croissant รูปทรงยอดฮิตในไทย ครัวซองทรงนี้ จะค่อนข้างพอง ๆ มีเท็กซ์เจอร์กรอบ และสามารถนำไปใส่ไส้ได้อย่างหลากหลาย

ความแตกต่างของครัวซองต์ทั้ง 3 แบบ คือ วัตถุดิบที่ใช้ เช่น

• Crescent Croissant จะเน้นการใช้มาร์การีน เนย หรือไขมันเทียม
• Straight Croissant และ Diamond Croissant จะใช้แต่เนยแท้เท่านั้น เพราะว่าเนยแท้ จะให้เนื้อสัมผัสที่ดีนั่นเอง

รวม 5 สูตรวิธีทำขนมครัวซองต์

วิธีทำครัวซองต์ หลากหลายแบบ ทำได้ง่าย ๆ แบบไม่ยุ่งยาก รสชาติอร่อย เหมือนร้านคาเฟ่ดัง ๆ แน่นอน

1. ครัวซองต์เนยสด

ส่วนผสม

2. ครัวซองต์อัลมอนด์

ส่วนผสม

• แป้งครัวซองต์สำเร็จรูป 3 แผ่น
• น้ำตาลทรายป่น 1/4 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• เนยละลาย 3 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• แป้งอัลมอนด์ 1/2 ถ้วยตวง
• กลิ่นอัลมอนด์ 1/2 ช้อนชา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลไอชิ่ง
• อัลมอนด์สไลด์

วิธีทำครัวซองต์อัลมอนด์

1. นำแป้งครัวซองต์ มาตัดเป็นแนวยาว ประมาณ 5 แผ่น จากนั้น ตัดแต่ละแผ่นเป็นรูปแนวสามเหลี่ยม เสร็จแล้วนำออกมาเรียงให้สวยงาม และกรีดเส้นตรงกลางเล็กน้อย ประมาฯ ½ นิ้ว หลังจากนั้นทาครีมอัลมอนด์ลงไปบนแป้งด้านบน แล้วม้วนครัวซองต์ให้แน่น นำไปวางบนถาดอบที่เตรียมไว้
2. นำไข่ไก่มาตอกใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นไข่ให้แตกเป็นเนื้อดียวกัน นำแป้งครัวซองต์ที่เตรียมไว้ มาทาด้วยไข่ไก่ จากนั้นเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที หลังจากที่ครบกำหนดแล้วให้ทาด้วยครีมคัสตาร์ดบางๆ เสร็จแล้วโรยด้วยอัลมอนด์สไลด์ และนำมาไปอบต่อเป็นเวลา 5-6 นาที จนครัวซองต์สีเหลืองสวยงาม
3. นำขนมออกจากตู้อบพักไว้ให้คลายร้อนประมาณ 10 นาที และโรยด้วยไอซิ่ง เสิร์ฟพร้อมกาแฟ เครื่องดื่ม พร้อมทาน

3. ครัวซองต์วาฟเฟิล หรือ ครอฟเฟิล

ส่วนผสม

• ครัวซองต์สำเร็จรูป 5 ชิ้น
• เนยสด
• เตาวาฟเฟิล

วิธีทำครัวซองต์วาฟเฟิล

1. เตรียมเตาวาฟเฟิล อุ่นไว้ที่ระดับ 2-3 ประมาณ 10-15 นาที
2. นำครัวซองต์ใส่ลงในเตาทำวาฟเฟิล กดให้แน่น รอประมาณ 3-5 นาที จนกว่าจะสุกกรอบ นำออกจากเตา
3. จัดเสิร์ฟพร้อม ไอศกรีม ผลไม้สด วิปครีม หรือไซรัป ตามชอบ พร้อมทาน

4. ครัวซองต์ช็อกโกแลต

ส่วนผสม

• แป้งครัวซองต์สำเร็จรูป 1 แผ่น
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
• ช็อกโกแลตชิพ 2 ถ้วย
• ซอสช็อกโกแลต 1 ถ้วย

วิธีทำครัวซองต์ช็อกโกแลต

1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 177 องศาเซลเซียส ปูกระดาษรองอบที่ถาดอบ เตรียมไว้
2. ทำส่วนผสมทาหน้า เตรียมชามผสม ไข่ น้ำเปล่า ผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
3. นำแป้งครัวซองต์ มาคลึงเป็นแผ่นบาง ขนาด 16×16 ซม. ตัดแบ่งเป็น 8 แผ่น แล้วตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมขนาดเท่ากัน
4. นำช็อกโกแลตชิพใส่ลงไปตรงกลางแป้ง จากนั้น ม้วนให้ชิด ไม่ต้องม้วนแน่นมาก ทาหน้าด้วยไข่ นำไปอบประมาณ 20-25 นาที จนสีเหลืองกรอบ ปิดเตา
5. จัดใส่จาน ตกแต่งหน้าด้วยซอสช็อกโกแลต ตามชอบ เสิร์ฟคู่กับกาแฟ เครื่องดื่ม พร้อมทาน