วิธีปลูก โรสแมรี่ ในกระถาง ให้ใบเขียวสวยงาม นำมาทำอาหารได้
โรสแมรี่ ปลูกยังไง ให้สวย เติบโตได้ดีในเมืองไทย โดยเฉพาะมือใหม่ ที่อยากปลูกขาย เพื่อสร้างรายได้ ตกแต่งบ้าน
หรือ นำไปประกอบอาหารที่ชื่นชอบ SGE มีเคล็ดลับมาฝาก รับรองว่า จะปลูกลงดิน หรือ ในกระถาง ก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ แน่นอน
ทำความรู้จัก โรสแมรี่
โรสแมรี่ (Rosemary) เป็นพืชจัดอยู่ในวงศ์กะเพรา มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน ลักษณะเด่น คือ ใบ จะมีรูปร่างคล้ายเข็ม ยาว 2-4 เซนติเมตร กว้าง 2-5 มิลลิเมตร มีกลิ่นหอม และเขียวอยู่ตลอดปี ด้านบนของใบมีสีเขียว ด้านท้องใบเป็นสีขาว และมีขนปกคลุม ดอกมีหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู สีม่วง หรือสีฟ้า
ประโยชน์ของต้นโรสแมรี่นั้น สามารถนำมาใช้ปรุงอาหาร เพื่อทำให้มีกลิ่นหอม รวมถึงลดกลิ่นคาว นิยมใช้ในการทำสเต็ก และอาหารอิตาเลียน เช่น พิซซ่า ขนมปังอิตาลี ที่เรียกว่า ฟอคคาเซีย ฯลฯ ไปจนถึงใช้ตกแต่งจานอาหารให้มีความสวยงาม อีกด้านหนึ่งคือ สามารถใช้เป็นพืชสมุนไพร นำมาสูดดมกลิ่น เพื่อช่วยรักษาไข้หวัด แก้ไอ รับประทานเพื่อทำให้ชุ่มคอได้อีกด้วย
ด้วยรูปทรงที่สวยงาม ประโยชน์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านการทำอาหาร ทำให้โรสแมรี่ เป็นพืชที่ปลูกแล้ว สามารถสร้างรายได้ให้เกษตกรได้จำนวนมาก ปัจจุบัน ราคาขายโรสแมรี่ต่อต้น เริ่มต้นที่ 60 บาท ไปจนถึงราคาต้นละ 2,500 บาท ตามขนาดและอายุของแต่ละต้น หากนับเป็นรายเดือน จะสามารถสร้างรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 80,000 – 90,000 บาท เลยทีเดียว
ปลูก โรสแมรี่ ยังไงให้รอดในเมืองไทย
โรสแมรี่ จริง ๆ แล้วเป็นพืชที่ปลูกง่าย และไม่ต้องการการดูแลอะไรมากมาย อย่างไรก็ตาม ก็มักมีคนที่ปลูกไม่รอดเสมอ เนื่องจากไม่เข้าใจถึงธรรมชาติของมัน ดังนั้น ก่อนปลูก คุณจึงควรรู้จักก่อนโรสแมรี่ให้ดีก่อน ว่าต้องการการดูแลอย่างไร ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โรสแมรี่เติบโตได้ดี มีหลัก ๆ อยู่ 6 ปัจจัยด้วยกันคือ
1. ดินต้องระบายน้ำได้ดี
โรสแมรี่ไม่ชอบน้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่า คุณจึงต้องมั่นใจว่า ดินนั้นมีความร่วนซุยมากพอ ที่จะทำให้น้ำสามารถไหลผ่านได้ง่าย ซึ่งถ้าหากไม่มั่นใจ ควรใช้กาบมะพร้าวผสม หรือ ใช้ดินก้ามปู ที่ระบายน้ำได้ดีมาใช้ในการปลูก
2. ปลูกในพื้นที่กลางแจ้ง หรือ แสงแดดมากพอ
เนื่องจากมีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีสภาพอากาศอบอุ่น โรสแมรี่จึงชอบแสงแดดจัด ซึ่งก็เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรามาก ๆ ดังนั้น หากมีพื้นที่กลางแจ้ง ก็สามารถปลูกโรสแมรี่ไว้ได้เลย หรือ ถ้าใครปลูกในกระถาง ก็ให้วางไว้ในที่โดนแสงแดดเพียงพอ
3. รดน้ำ ไม่น้อยไป ไม่มากไป
เมื่อปลูกโรสแมรี่ คุณไม่จำเป็นต้องรดน้ำมันเช้า – เย็น เหมือนกับพืชอื่น ๆ เพราะนั่นอาจทำให้โคนต้นเน่าและไม่ติดรากได้ การรดน้ำ จึงควรพอดี ไม่น้อยไป ไม่มากไป โดยแนะนำให้รดน้ำตอนเช้า 1 ครั้งเท่านั้น แค่ให้พอดินชุ่ม หรือ มีน้ำไหลออกจากดินในกระถาง ไม่จำเป็นต้องรดทุกวัน หากอยากรู้ว่าเวลาไหนควรรดน้ำ ให้สังเกตสภาพอากาศและสภาพดินเป็นหลัก หากอากาศร้อน หรือ ดินแห้ง ให้รดน้ำได้ แต่ถ้าวันไหนฝนตก อากาศชื้น ก็ไม่ต้องรดน้ำ
4. ต้องมีระยะห่างระหว่างต้น
การปลูกโรสแมรี่ ไม่ควรปลูกชิดติดกัน ดังนั้น หากจะปลูกในแปลง หรือ แม้แต่ในกระถาง ก็ควรเว้นระยะห่างให้เพียงพอ เพื่อให้ต้นโรสแมรี่มีอากาศถ่ายเท และได้รับแสงแดดเต็มที่ สำหรับระยะห่างของการปลูกในแปลง ควรอยู่ที่ 50 เซนติเมตร ส่วนในกระถาง แล้วแต่ความเหมาะสม หรือ ปลูกแยกกระถางได้ยิ่งดี
5. ห้ามโดนฝนเด็ดขาด
ดังที่บอกไปแล้วว่า โรสแมรี่ไม่ชอบน้ำเยอะ ดังนั้น ในฤดูฝน หากปลูกในกระถาง ต้องยกหลบฝน อย่าให้โดนน้ำฝนเด็ดขาด ส่วนใครที่ปลูกกลางแจ้ง แนะนำให้ทำเต็นท์คลุม หรือ ย้ายไปไว้ในโรงเรือน ก็จะลดโอกาสรากเน่า หรือ ต้นโรสแมรี่ตายได้
6. เจอราให้เด็ด เจอแมลงให้ฉีด
เมื่อมีความชื้นมาก เชื้อราก็อาจขึ้นใบโรสแมรี่ได้ง่าย หากเจอก็ให้เด็ดเฉพาะส่วนใบออกทันที ในกรณีที่เจอแมลง เช่น เพลี้ยไฟ ซึ่งชอบกัดกินโรสแมรี่ จนทำให้ใบเป็นสีน้ำตาล ให้ฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้ หรือ น้ำยาชีวภาพทั้งหลาย เพื่อป้องกันและทำให้ใบต้นโรสแมรี่มีความสวยงาม
วิธีการปลูกต้นโรสแมรี่ให้เติบโตได้ดี
การปลูกต้นโรสแมรี่ แนะนำให้ซื้อต้นโรสแมรี่ที่ติดรากแล้ว ซึ่งมีอายุ 1 เดือนขึ้นไปมาใช้ในการปลูก เพราะจะมีโอกาสรอดสูงที่สุด หลังจากนั้น 4 เดือน ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้แล้ว ส่วนวิธีการปลูกต้นโรสแมรี่ยังไง ให้เติบโตได้ดีนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีด้วยกันก็คือ การปลูกลงดิน และ ปลูกในกระถาง ซึ่งก็ต้องการเทคนิคและวิธีการที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- ปลูกลงดิน
ให้ทำการปลูกโดยการขุดยกร่อง เสร็จแล้ว ไถเปิดหน้าดิน แล้วตากแดดไว้ก่อน 7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้น ปรุงดินโดยใส่ปูนขาว 30 กรัม/ตารางเมตร ร่วมกับ ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 – 2 กิโลกรัมต่อตารางเมตร คลุกให้เข้ากัน แล้วขุดหลุมเว้นระยะห่าง 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ย 15-15-15 ปริมาณ 20 กรัม/หลุม เสร็จแล้ว จึงค่อยนำต้นกล้าโรสแมรี่ลงปลูก ผ่านไป 15 – 20 วัน จึงใส่ปุ๋ย 46-0-0 + 15-0-0 สัดส่วน 1:1 ปริมาณ 20 กรัม/ต้น เพื่อเร่งให้โต
- ปลูกในกระถาง
ให้ผสมดินสำหรับปลูกในกระถาง ประกอบด้วย กาบมะพร้าวสับ 3 ส่วน ดินร่วนหรือดินใบก้ามปู 1 ส่วน แกลบดิบ 1 ส่วน แกลบเผา (แกลบดำ) 1 ส่วน และปุ๋ยคอก 1 ส่วน จากนั้น จึงนำต้นกล้าโรสแมรี่มาลงปลูก
ตัดใบโรสแมรี่อย่างไร ให้ยังคงความสวยงาม
เมื่อใบของต้นโรสแมรี่ เริ่มโตเต็มที่ จนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว เราก็สามารถใช้กรรไกรตัด เพื่อนำมาใช้งานได้ แต่ถ้าอยากให้ต้นโรสแมรี่ยังคงมีพุ่มสูง สวยงาม เราจะต้องรู้วิธีการตัดที่ถูกด้วย เพราะถ้าตัดไม่ถูกวิธี อาจทำให้พุ่มเตี้ย ไม่สวยงามได้
ซึ่งเทคนิคในการตัดนั้น ให้ตัดกิ่งด้านข้าง ๆ ไปใช้งานก่อน ไม่ตัดกิ่งด้านบนหรือตรงกลางออก เพราะจะทำให้ต้นเป็นทรงพุ่มเตี้ย ไม่สวยงาม ทั้งนี้ ควรตัดแต่งกิ่งโรสแมรี่ ในช่วงหน้าฝนเป็นพิเศษ เพราะจะช่วยให้ทำให้ต้นโรสแมรี่มีพุ่มที่บาง อากาศถ่ายเท ทำให้ใบไม่เก็บความชื้น จนเกิดเชื้อราขึ้นได้
โรสแมรี่ เป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่ปลูกแล้ว สามารถสร้างรายได้ดี เพราะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย โดยเฉพาะในด้านการทำอาหาร จึงทำให้มีมูลค่าค่อนข้างสูง ยิ่งพุ่มสูง สวยงาม ก็ยิ่งมีราคา ดังนั้น หากใครสนใจอยากปลูกโรสแมรี่แล้วละก็ สามารถลองนำเคล็ดลับและวิธีการที่เรานำมาฝาก ไปทำตามกันได้ ไม่แน่ว่า อาจสร้างรายได้จำนวนมากให้กับคุณ ได้อย่างคาดไม่ถึง
สำหรับใครที่อยากตัดกิ่งหรือใบยอดโรสแมรี่มาใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องออกแรง พร้อมป้องกันใบโรสแมรี่ให้ห่างไกลจากเชื้อราในช่วงหน้าฝน แนะนำให้ใช้ กรรไกรตัดกิ่งไฟฟ้า ของ SGE เพียงแค่กดปุ่ม ใบมีดก็จะทำงานอัตโนมัติ ช่วยให้ตัดกิ่งน้อยใหญ่ได้ง่าย โดยไม่ต้องออกแรง พร้อมใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม ที่อึด ถึก ทน ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึง 2 ชั่วโมง/วัน หากสนใจ สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/product/electric-pruning-shears/ หรือสอบถามผ่านทาง โทรศัพท์ Line ของเราได้เลย
30 มกราคม 2024
โดย
Pres