“จิงจูฉ่าย” สมุนไพรดี ประโยชน์เยอะ ปลูกเองได้ที่บ้าน
“จิงจูฉ่าย” ผักใบเขียว ลักษณะคล้ายต้นขึ้นฉ่าย เมนูยอดฮิตของคนชอบกินเกาเหลาเลือดหมู สมุนไพรดี มีกลิ่นหอม จึงมักใช้ดับกลิ่นคาวของเครื่องในได้ดี แต่รู้มั้ยว่าสมุนไพรเชื้อสายจีนชนิดนี้ มีประโยชน์มากมาย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ บทความนี้ SGE จะพาไปรู้จักกับ จิงจูฉ่าย วิธีปลูกจิงจูฉ่าย สามารถทำได้อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย 🙂
จิงจูฉ่าย คือ?
จิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) นิยมมากของชาวจีน มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่มณฑลกุ้ยโจว ลักษณะต้นจิงจูฉ่าย จะเป็นกอ คล้ายใบบัวบก ใบเป็นรูปรี ขอบเป็นแฉกสีเขียว 5 แฉก เนื้อใบหนา เหง้า มีขนาดใหญ่ ขยายพันธ์ง่าย ๆ ด้วยเมล็ด เจริญงอกงามได้ดีในที่ที่มีแสงแดดรำไร ชื้น ดินโปร่งแต่ไม่แฉะ ชอบอากาศเย็นมากกว่าอากาศร้อน เกษตรกร นิยมปลูกจิงจูฉ่าย เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้กำไรได้ดีเลยทีเดียว
ต่างประเทศจะเรียกผักชนิดนี้ว่า White mugwort หรือ Celery เพราะลักษณะจิงจูฉ่าย จะคล้าย ๆ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง แต่ต้นเล็กกว่า ใบจะสีเข้มกว่ามาก และจิงจูฉ่ายมีกลิ่นหอมคล้าย ๆ ตั้งโอ๋ จากน้ำมันหอมระเหย ที่มีอยู่ในลำต้นนั่นเอง
คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการของจิงจูฉ่าย มีไม่น้อยทีเดียว ในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 392 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยสารอาหารนานาชนิด ได้แก่ โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, เส้นใย, แคลเซียม, เหล็ก, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, วิตามินบี6, วิตามินซี และวิตามินอี
จิงจูฉ่ายเป็นยาเย็น (หยิน) ยิ่งต้มร้อน ๆ หรือ กินสด ๆ จะมีสารไลโมนีน ซิลนีน และสารกลัยโคไซด์ ที่มีชื่อว่า อะปิอิน ซึ่งสารเหล่านี้มีสรรพคุณ ช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน อีกทั้งช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร และลำไส้ได้ดีด้วย ส่วนลำต้นสด และเมล็ดของต้น จิงจูฉ่าย มีโซเดียมต่ำ จึงดีต่อผู้ป่วยโรคไต
ประโยชน์และสรรพคุณของจิงจูฉ่าย
- ปรับสมดุลในร่างกาย จิงจูฉ่ายเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น หากกินจิงจูฉ่ายในช่วงหน้าหนาว จะช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย แก้พิษไข้ ลดอาการร้อนใน อีกทั้ง ยังช่วยบำรุงปอด และฟอกเลือดด้วย
- ช่วยเรื่องความดัน น้ำมันหอมระเหยในลำต้น และใบของจิงจูฉ่าย มีสารไลโมนีน ซิลนีน และสารไกลโคไซด์ มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลความดันเลือด ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเลือดไหลเวียนได้สะดวก ใครที่มีปัญหาเรื่องความดัน หรือสตรีที่เลือดลมไม่ปกติ จะช่วยปรับความดันเลือดให้คงที่ได้
- ตัวช่วยสำหรับคนกินเยอะ เพราะจิงจูฉ่ายมีสรรพคุณ ช่วยในเรื่องของการขับลมในลำไส้ และกระเพาะอาหาร จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดอาการจุกเสียด แน่นเฟ้อ เพราะอาหารไม่ย่อยจากมื้ออาหารแบบจัดหนักได้
- ช่วยต้านมะเร็ง ขอย้ำว่าไม่ใช่การรักษาโรคมะเร็ง เพียงแต่มีการวิจัย ที่นำใบจิงจูฉ่ายประมาณ 1 กำมือ มาปั่น หรือตำคั้นน้ำ เพื่อรับประทานเช้า-เย็น ก่อนมื้ออาหารสัก 1 ชั่วโมง ติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 เดือน ว่ากันว่า จะสามารถช่วยต้านทานต่อเซลล์มะเร็งได้ แต่ยังไงก็ต้องดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย และเลือกกินอาหารที่ดีด้วย
สรรพคุณทางยาอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ทำอาหารคาว-หวาน ใช้ทำอาหารได้สารพัด ตั้งแต่ต้มจืด ผัดผัก แกงเผ็ด ทอดกรอบ หรือใส่ในยำแซ่บ ๆ แต่ที่เจ๋งกว่านั้น ยังสามารถพลิกแพลงใส่ในขนมอบ เช่น คุกกี้ หรือขนมปัง ช่วยเพิ่มความหอม และคุณค่าทางอาหาร รวมถึงทำเป็นเครื่องดื่มร้อน ๆ อย่างใบชาจิงจูฉ่ายก็ดีไม่น้อย
- กินสด ๆ ช่วยลดโรค จิงจูฉ่ายในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานถึง 392 กิโลแคลอรี่ มีเส้นใย และคุณค่าสารอาหารสูง โดยเฉพาะแคลเซียม และวิตามินซี แต่จะให้ได้คุณค่าสูงสุดก็ต้องกินสด ๆ ไม่ว่าจะกินเป็นผักเคียงกับเมนูลาบ สาคูไส้หมู จิ้มน้ำพริก หรือจะกินแบบน้ำผักคั้นสด ๆ ผสมน้ำผึ้งนิด น้ำมะนาวหน่อยก็ได้
- ตกแต่งบ้านให้สวย ปลูกขายก็รวย จิงจูฉ่ายเป็นไม้ล้มลุก ที่เลี้ยงง่าย ทรงพุ่มสวย ใบหยักสีเขียวเข้ม สามารถปลูกเป็นไม้คลุมดิน เพื่อตกแต่งบ้านก็ได้ ปลูกไว้กิน เป็นสมุนไพรก็ดี แถมยังเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่ปลูกขายได้กำไรงาม นับเป็นพืชสารพัดประโยชน์ล้นเหลือจริง ๆ
แนะนำ เมนูจิงจูฉ่ายเพื่อสุขภาพ
จิงจูฉ่ายเป็นพืชสมุนไพร ที่สามารถนำมาประกอบเมนูอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะนำมาทำอาหาร หรือทำเป็นเครื่องดื่ม โดยเมนูที่จะแนะนำ มีดังต่อไปนี้
- จิงจูฉ่ายผัดไฟแดง
เป็นเมนูที่ถูกดัดแปลงมาจากเมนูผัดผักบุ้งไฟแดงนั่นเอง กรรมวิธีก็ไม่อยาก นำจิงจูฉ่ายมาล้างน้ำให้สะอาด และหั่นให้ได้ความยาวพอประมาณ ใส่น้ำมันหอย พริก กระเทียมสับ น้ำตาล ซีอิ้วขาว และเต้าเจี้ยวเล็กน้อย โดยราดไว้บนจิงจูฉ่ายที่หั่นไว้ จากนั้น ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันลงไป เทส่วนผสมทุกอย่างลงไปในกระทะพร้อมกัน ๆ ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
- แกงจืดจิงจูฉ่าย
นอกจากเมนูผัดแล้ว เมนูต้มจิงจูฉ่ายก็นำมาทำได้เช่นกัน ทำง่าย ๆ ไม่ต่างจากแกงจืดทั่วไป เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม เช่น หมูสับ แครอท เต้าหู้ไข่ วุ้นเส้น ซุปก้อน และซีอิ๊วขาว จากนั้น ตั้งน้ำให้ร้อน แล้วใส่ซุปก้อนลงไป เมื่อน้ำเดือด จึงค่อยใส่หมูสับ ตามด้วยเต้าหู้ไข่ แครอท และวุ้นเส้น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย ต้มจนเดือดได้ที่ ตักใส่จาน รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยฟินแน่นอน
- น้ำจิงจูฉ่ายคั้นสด
น้ำจิงจูฉ่าย เป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ไม่ต่างกันอะไรกับน้ำคลอโรฟิลด์ที่หลาย ๆ คนดื่มกัน ต่างกันแค่ส่วนประกอบที่นำมาทำเท่านั้น การทำน้ำจิงจูฉ่ายคั้นสดก็มีขั้นตอนไม่มาก เพียงนำใบของจิงจูฉ่าย 1 กำมือ มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น ให้นำไปคั้น หรือใช้เครื่องสกัด เพื่อนำเอาน้ำมาดื่ม แต่ด้วยกลิ่นที่ค่อนข้างฉุน และรสชาติฝืดคอ อาจจะทำให้ทานลำบากนิดหน่อย ทั้งนี้อาจเติมน้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มรสหวานอีกสักเล็กน้อยก็ได้ พร้อมดื่ม
- น้ำจิงจูงฉ่าย เพื่อสุขภาพ
การทานเมนูจิงจูฉ่ายคั้นสด อาจจะยากไปสำหรับคนที่สู้เรื่องกลิ่นไม่ไหว ลองเปลี่ยนมาทำเมนูนี้แทน วิธีทำก็แสนง่าย นำใบของจิงจูฉ่าย 1 กำมือ ไปใส่เครื่องปั่น ผสมผลไม้เพิ่ม เช่น มะนาว ส้ม หรือผลไม้ที่ชอบ 2-3 อย่าง ผสมลงไปในเครื่องปั่น จากนั้น ปั่นให้ละเอียด พร้อมดื่ม แต่หากไม่อยากทานกากใยที่ถูกปั่นจนละเอียด ให้ใช้วิธีกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม แต่วิธีนี้อาจทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดลงไปจากเดิมได้
ข้อควรระวัง
- สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน เพราะเสี่ยงต่อการแท้ง หรืออาจมีอันตรายกับทารก
- คนเป็นความดันต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการกินจิงจูฉ่าย ที่อาจทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง จนถึงขีดอันตราย
แม้จะขึ้นชื่อว่าสมุนไพร แต่ก็มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอยู่ด้วย ดังนั้น ก่อนจะกินจิงจูฉ่าย หรือสมุนไพรชนิดใดก็ตามเป็นเวลานาน ๆ หรือในปริมาณมาก ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่เราอาจคาดไม่ถึง
วิธีปลูกจิงจูฉ่าย
ผักสมุนไพรที่หาซื้อได้ยาก และมีราคาสูง ทั้ง ๆ ที่วิธีการปลูกก็ง่ายแสนง่าย ไม่ต้องดูแลมาก ไปดูวิธีปลูกจิงจูฉ่ายกัน
- พื้นที่สำหรับปลูกจิงจูฉ่าย
ควรตั้งอยู่ในทำเลที่ร่ม ใช้ดินร่วนในการปลูก โดยพรวนดินที่ผสมปุ๋ยคอกขี้หมู ขี้วัว ในปริมาณมาก เพื่อเพิ่มสารอาหารให้อุดมสมบูรณ์ จะทำให้ต้นอวบอ้วน และงอกงาม โดยจะเพาะในแปลงดิน หรือกระถางก็ได้ แต่ขอให้ตั้งในที่ร่ม มีแดดรำไร ควรปลูกแบบปลอดสารพิษ ไม่ควรใส่ปุ๋ยเคมี หรือฮอร์โมนเคมี ถ้าเป็นไปได้ ควรหาปุ๋ยจุลินทรีย์ ชนิดออกฤทธิ์เย็น จะดีที่สุด
- การขยายพันธุ์
จิงจูฉ่ายเป็นพืชล้มลุก ขยายพันธุ์โดยการปักชำ เพาะเมล็ด หรือแยกต้นมาปลูก นำรากของต้นไปปักเพาะในแปลงปลูก ที่คลุมด้วยสแลนกันแดด ชอบแดดรำไร รดน้ำวันละครั้ง ก็งอกงามได้ ไม่ต้องรดน้ำจนเเฉะ แต่ชอบดินชื้น ๆ ขอเพียงแค่อย่าให้ขาดน้ำ และอย่าปล่อยให้น้ำขัง นอกจากนี้ ควรหมั่นตัด เพื่อให้แตกยอดอ่อนออกมาอยู่เสมอ จะทำให้มีจิงจูฉ่ายกินตลอดทั้งปี
อ่านบทความ: รู้จัก การปักชำ ขยายพันธุ์พืชง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
จิงจูฉ่ายเป็นพืชผักสวนครัวที่ดูแลง่าย ไม่มีแมลงศัตรูพืช เนื่องจากใบมีน้ำมันหอมระเหย ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงใด ๆ การดูแลรักษาก็ไม่ยาก ขอแค่อย่าขาดน้ำ และต้องการแสงแดดอ่อน ๆ เท่านั้น ลองปลูกแล้วงอกงาม เก็บกินทำเมนูต่าง ๆ หรือเพาะส่งขายมีกิจการก็กำไรงาม
เป็นอย่างไรกันบ้าง ได้รู้จักประโยชน์ดี ๆ จากจิงจูฉ่ายกันไปแล้ว ก็ลองไปหาทานกันดูนะจ๊ะ จะเลือกแบบซื้อจากตลาดมาทำอาหารทานเอง หรือหาทานตามร้านต่าง ๆ ที่ใช้จิงจูฉ่ายมาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร หรืออยากสร้างรายได้ ก็ลองปลูกเองดูก็ไม่เสียหาย ^^
● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ●
เพื่อการเพาะปลูกที่ไร้กังวล ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับต่าง ๆ เราขอแนะนำ กระถางผ้า กระถางปลูกต้นไม้ สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เหมาะสำหรับปลูกพื้นทุกรูปแบบ ผลิตจากวัสดุพิเศษ ทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย ไม่เกิดเชื้อรา เป็นมิตร และทนต่อสภาวะแวดล้อมได้ดี
30 มกราคม 2024
โดย
ลำดวน