10 สูตร ชีสเค้ก เนื้อนุ่มหวานอร่อย ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน
ชีสเค้กหน้าไหม้
Basque Burnt Cheesecake หรือ ชีสเค้กหน้าไหม้ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน ก่อนที่จะเป็นที่นิยมอย่างสูงในญี่ปุ่นและไทย ด้วยมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว คือ หน้าเค้กที่ไหม้ จากน้ำตาลที่ละลายจนกลายเป็นคาราเมล ทำให้กัดครั้งแรกก็จะรู้สึกถึงความกรอบ ก่อนที่จะสัมผัสกับเนื้อเค้กที่นุ่มละมุน ทำให้กินอร่อยฟินตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย
วัตถุดิบ
- ครีมชีส อุณหภูมิห้อง 430 กรัม
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- ไข่ใบใหญ่ อุณหภูมิห้อง 3 ฟอง (น้ำหนักไม่รวมเปลือก 150 กรัม)
- Heavy cream 270 กรัม (ปริมาณไขมันขั้นต่ำ 35%)
- แป้งเค้ก 20 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ปูกระดาษรองอบ 2 ชั้นลงบนพิมพ์ 6 นิ้ว ให้ปลายกระดาษเกินพิมพ์ขึ้นมาประมาณ 1.5-2 นิ้ว
- ตีน้ำตาลกับครีมชีสให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลาง จนกระทั่งเนียน ไม่รู้สึกถึงเกล็ดน้ำตาล ปาดขอบให้เรียบร้อย
- ใส่ไข่ลงไปทีละใบ ตีด้วยความเร็วปานกลางจนเนียน ปาดขอบอีกครั้ง
- ใส่กลิ่นวานิลลาและน้ำมะนาว ตีให้เข้ากัน
- สลับมาอีกชามผสม ผสมแป้งและ ¼ ของครีม ผสมให้เนียน เติมครีมเพิ่มอีก ¼ ของสูตร ผสมให้เนียน และใส่ครีมที่เหลือ ผสมให้เนียนอีกครั้ง (ค่อยๆใส่แป้งเข้าไปจะทำให้ผสมได้เนียนง่ายขึ้น ไม่เป็นก้อน)
- ค่อยๆเทส่วนผสมของครีมชีสและแป้งที่ผสมครีมแล้วเข้าด้วยกัน ตีเบาๆให้เข้ากัน จากนั้นเพิ่มความเร็วเป็นปานกลาง ตีเพิ่ม 15 วินาที เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเนื้อเดียวกัน
- วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 240C อย่างน้อย 30 นาที และนำเค้กเข้าอบที่ 240C เป็นเวลา 30-35 นาที จนกระทั่งหน้าเค้กมีสีเข้มเป็นเงาแทบจะเกรียม แต่ส่วนตรงกลางมีความหยุ่น เด้งดึ๋ง
- ทิ้งไว้ให้เซตตัวที่อุณหภูมิห้อง วางบนตะแกรงทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง
- นำเค้กออกจากพิมพ์ จะได้ชีสเค้กอุณหภูมิห้อง
- หากนำไปแช่ตู้เย็น เนื้อเค้กจะมีความแน่นขึ้น
บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก
ต่อกันด้วย ชีสเค้ก รสผลไม้ ที่ใครหลายคนรู้จักกันดีกับ บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวจี๊ดของซอสบลูเบอร์รี่ ทำให้เมื่อตักทานคู่กับเนื้อชีสเค้กแล้ว จะตัดรสหวานเข้ากันได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสมซอสบลูเบอร์รี่
- บลูเบอร์รี่แช่แข็ง 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 400 กรัม
- น้ำเปล่า 350 กรัม (1)
- แป้งกวนไส้ 75 กรัม
- น้ำเปล่า 150 กรัม (2)
- น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมชีสเค้ก (พิมพ์ 2 ปอนด์)
- แครกเกอร์ 120 กรัม
- เนยเค็มละลาย 60 กรัม
- ครีมชีส 375 กรัม
- น้ำตาลทราย 75 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์1)
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งเค้ก 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำซอสบลูเบอร์รี่
- ทำซอสบลูเบอร์รี่ โดยตั้งหม้อ ใส่น้ำตาลทราย ตามด้วยน้ำเปล่าส่วนที่ 1 แล้วเปิดไฟกลาง คนให้น้ำตาลละลายดี จนกลายเป็นน้ำเชื่อม
- พอน้ำเชื่อมเริ่มเดือดปุด ๆ ตรงขอบหม้อ ให้ปิดไฟ ยกหม้อลงจากเตา แล้วใส่บลูเบอร์รี่แช่แข็งลงไป แช่ทิ้งไว้ในน้ำเชื่อม เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ให้บลูเบอร์รี่ซึมซับน้ำเชื่อมเข้าไป
- พอครบเวลา ให้เทใส่กระชอน แยกเนื้อบลูเบอร์รี่กับน้ำบลูเบอร์รี่ออกจากกัน จากนั้น เทน้ำบลูเบอร์รี่กลับลงไปในหม้อ
- ผสมแป้งกวนไส้กับน้ำเปล่า ให้แป้งละลายดี จากนั้น เทใส่ลงไปในน้ำบลูเบอร์รี่ คนให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟ เปิดไฟกลาง คนตลอดเวลา ให้น้ำบลูเบอร์รีข้นขึ้น มีสีเข้มขึ้น และ ขึ้นเงาสวย สวยงาม
- เสร็จแล้ว ใส่บลูเบอร์รี่ลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน เพิ่มความเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว ตามชอบ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) แล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดแครกเกอร์ให้ละเอียด แล้วใส่เนยละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักแครกเกอร์ใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีด้วยสปีดกลาง ผสมให้เข้ากัน จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด
- ใส่ไข่ไก่ ลงไปทีละฟอง ตีให้เข้ากันกับครีมชีส จากนั้น ใส่นมสด น้ำมะนาว ลงไป ตีให้เข้ากัน
- ใส่แป้งเค้กลงไป ตีให้เข้ากันดี ไม่มีแป้งติดกันเป็นเม็ด พอตีเข้ากันดีแล้ว ให้ตักใส่ลงพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก
- ตักซอสบลูเบอร์รี่ลงไป ตามชอบ แล้วใช้ไม้ปลายแหลม จิ้มและวาดให้ซอสบลูเบอร์รี่กระจายทั่วหน้าเค้ก
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 45 – 50 นาที เสร็จแล้ว นำเข้าตู้เย็น 3 – 4 ชั่วโมง เป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทาน
สตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก
สตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก ชีสเค้ก ผลไม้ สุดน่ารัก ที่ทำทานเองก็ดี หรือ จะทำให้กับคนรักก็ได้ ด้วยรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม แต่งแต้มด้วยสีสันที่ดูสดใส สะดุดตา ทำให้เป็นชีสเค้กที่ได้รับความนิยมมาก ๆ สูตรหนึ่ง โดยสูตรนี้มาในแบบไม่ใช้เตาอบ มาดูกันเลยว่า มีขั้นตอนการทำ อย่างไรบ้าง
ส่วนผสมชีสเค้ก
- บิสกิตบด 100 กรัม
- เนยจืดละลาย 25 กรัม
- ครีมชีส 115 กรัม
- น้ำตาลป่น 40 กรัม
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- ครีมข้น 110 กรัม
- เจลาติน 5 กรัม
- น้ำอุ่น 10 กรัม
- แยมสตรอเบอร์รี่ 1 กระป๋อง
- วิปปิ้งครีม
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดบิสกิตให้ละเอียด แล้วใส่เนยละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักบิสกิตบดใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีด้วยสปีดกลาง ผสมให้เข้ากัน จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด
- ใส่ครีมข้นลงไป ตีให้เข้ากันกับครีมชีส จากนั้น นำเจลาตินผสมกับน้ำอุ่น คนให้เจลาตินละลาย แล้วใส่ลงไปในชามผสม ตามด้วย กลิ่นวานิลลา ตีทุกอย่างให้เข้ากันดี
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ตักใส่ลงพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก นำไปแช่ในตู้เย็น 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อให้ครีมชีสเซ็ตตัวดี
- พอครบเวลา ให้ใช้มีดแซะแป้งเค้กโดยรอบ แล้วยกตัวชีสเค้กออกจากพิมพ์เค้ก ตักแยมสตรอว์เบอร์รี่ลงไปด้านบนให้สวยงาม ตามชอบ เป็นอันเสร็จ
ราสเบอร์รี่ชีสเค้ก
ราสเบอร์รี่ สามารถนำมาราดกินคู่กับ ชีสเค้ก ได้อร่อย ไม่แพ้บลูเบอร์รี่ และ สตรอว์เบอร์รี่ โดยวิธีการทำก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่นำราสเบอร์รี่แช่แข็งผสมกับน้ำตาล แล้วตั้งไฟอ่อน เท่านี้ คุณก็จะได้ ซอสราสเบอร์รี่เข้มข้น พร้อมกินคู่กับชีสเค้กได้แล้ว
ส่วนผสมซอสราสเบอร์รี่
- ราสเบอร์รี่แช่แข็ง 220 กรัม
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
ส่วนผสมชีสเค้ก
- บิสกิตบด 210 กรัม
- เนยละลาย 110 กรัม
- ครีมชีส 600 กรัม
- น้ำตาลป่น 220 กรัม
- กลิ่นราสเบอร์รี่ 1 ช้อนชา
- ครีมเปรี้ยว 180 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เจลาติน 5 กรัม
- น้ำอุ่น 10 กรัม
วิธีทำซอสราสเบอร์รี่
- ทำซอสราสเบอร์รี่ โดยตั้งหม้อ ใส่ราสเบอร์รี่แช่แข็ง ตามด้วยน้ำตาลทราย จากนั้น นำไปตั้งไฟ ให้ราสเบอร์รี่ละลาย แล้วคนให้เข้ากับน้ำตาล จนละลายดี กลายเป็นน้ำเชื่อม
- พอละลายเข้ากันดีแล้ว ให้เทใส่กระชอน แยกเนื้อราสเบอร์รี่กับน้ำราสเบอร์รี่ออกจากกัน เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้ให้เย็น
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดบิสกิตให้ละเอียด แล้วใส่เนยละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักบิสกิตบดใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีด้วยสปีดกลาง ผสมให้เข้ากัน จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด
- ใส่ครีมเปรี้ยวลงไป ตีให้เข้ากันกับครีมชีส จากนั้น ใส่ไข่ไก่ ตามด้วย กลิ่นราสเบอร์รี่ ตีทุกอย่างให้เข้ากันดี
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ตักใส่ลงพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก
- ตักซอสราสเบอร์รี่ลงไป ตามชอบ แล้วใช้ไม้ปลายแหลม จิ้มและวาดให้ซอสราสเบอร์รี่กระจายทั่วหน้าเค้ก
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 45 – 50 นาที เสร็จแล้ว นำเข้าตู้เย็น 3 – 4 ชั่วโมง
- ราดซอสเบอร์รี่ที่เหลือ ตามด้วย ผลราสเบอร์รี่ ให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทาน
มะม่วงชีสเค้ก
ใครชอบทานมะม่วง ห้ามพลาดกับ มะม่วงชีสเค้ก ซึ่งด้านบนจะทำเป็นหน้ามะม่วงนิ่ม ได้ทั้ง ชีสเค้ก ที่มีหน้าตาสวยงาม พร้อมรสชาติของมะม่วงเข้มข้น ใครเบื่อข้าวเหนียวมะม่วง ไอศกรีมม่ะมวงแล้วละก็ สูตรนี้ต้องลอง
ส่วนผสมหน้ามะม่วงนิ่ม
- มะม่วงปั่นละเอียด 3/4 ถ้วย
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงเจลาติน 1 ½ ช้อนชา
- น้ำเย็น 4 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมชีสเค้ก (พิมพ์ 6 นิ้ว)
- แครกเกอร์ 80 กรัม
- เนยเค็มละลาย 40 กรัม
- ครีมชีส 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ (ผสมครีมชีส)
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- โยเกิร์ต 3 ½ ช้อนโต๊ะ
- เฮฟวี่ครีม 100 มิลลิลิตร
- น้ำตาล 1 ½ ช้อนโต๊ะ (ผสมเฮฟวี่ครีม)
- มะม่วงปั่นละเอียด 150 กรัม
- เจลาติน 2 ช้อนชา
- น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำหน้ามะม่วงนิ่ม
- เตรียมชามผสม ใส่ผงเจลาตินผสมกับน้ำเปล่า คนให้ละลายดี แล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟเป็นเวลา 15 วินาที
- ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลาย จากนั้น ใส่มะม่วงปั่นลงไป คนให้เข้ากัน เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดแครกเกอร์ให้ละเอียด แล้วใส่เนยเค็มละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักแครกเกอร์ใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก (ใช้พลาสติกรองด้านในพิม์เค้กด้วย เพื่อให้เนื้อเค้กไม่ติดพิม์ ยกออกได้ง่าย)
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วใส่น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา ลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ใส่โยเกิร์ต ตามด้วย มะม่วงปั่นละเอียด จากนั้น นำเจลาตินผสมกับน้ำเปล่า ไปอุ่นในไมโครเวฟให้ละลายดี ใส่ลงไปด้วย คนผสมให้เข้ากัน จนครีมชีสมีเนื้อละเอียดดี
- เตรียมชามผสมอีกใบ ใส่เฮฟวี่ครีม น้ำตาลทราย ตีให้เนื้อครีมข้นขึ้น จนมีเนื้อละเอียดดี จากนั้น ตักเฮฟวี่ครีม ผสมกับครีมชีสที่ทำไว้ คนส่วนผสมให้เข้ากัน จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว หั่นมะม่วงเป็นชิ้น ใส่ลงไปในพิมพ์เค้ก ตามชอบ จากนั้น เทครีมชีสลงไปในพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก เสร็จแล้ว ใช้พลาสติกแรปปิดเอาไว้ แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น 30 นาที
- เทหน้ามะม่วงนิ่มลงไปให้เต็มหน้าเค้ก เสร็จแล้ว ใช้พลาสติกแรปปิดเอาไว้อีกรอบ แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น เป็นเวลาอีก 3 ชั่วโมง
- พอครบเวลา ให้ยกตัวชีสเค้กออกจากพิมพ์ เป็นอันเสร็จ
นิวยอร์กชีสเค้ก
นิวยอร์กชีสเค้ก ถือเป็นชีสเค้กสูตรคลาสสิค ที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยมีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุน แถมสามารถรับประทานได้อร่อย โดยที่ไม่ต้องเสริมแต่งรสชาติ ทำให้ใคร ๆ ต่างก็ชอบ ซึ่งถ้าหากใครอยากทำชีสเค้กสูตรนี้เป็น สามารถทำตามสูตรนี้ได้เลย รับรองว่า ไม่ต้องไปถึงนิวยอร์ก ก็จะได้ทานชีสเค้กสุดแสนอร่อยที่บ้านได้อย่างแน่นอน
ส่วนผสมชีสเค้ก (พิมพ์ 7 นิ้ว)
- แครกเกอร์ 120 กรัม
- เนยเค็มละลาย 60 กรัม
- ครีมชีส 400 กรัม
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- ครีมเปรี้ยว 200 กรัม
- เฮฟวี่ครีม 150 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์1)
- น้ำมะนาว 1/4 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดแครกเกอร์ให้ละเอียด แล้วใส่เนยละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักแครกเกอร์ใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีด้วยสปีดกลาง ผสมให้เข้ากัน จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด
- ใส่ครีมเปรี้ยวลงไป ตีให้เข้ากันกับครีมชีส จากนั้น ใส่เฮฟวี่ครีม คนให้เข้ากัน
- ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง ลงไป ตีให้เข้ากัน ตามด้วย แป้งข้าวโพด กลิ่นวานิลลา น้ำมะนาว ใส่ลงไปเป็นอย่าง ๆ แล้วตีให้เข้ากัน จนได้เนื้อครีมชีสเนียนข้น
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ตักใส่ลงพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก
- นำพิมพ์เค้กวางลงบนถาดอบ แล้วเอาเข้าเตาอบ โดยก่อนเริ่มอบ ให้เทน้ำร้อนทั่วถาดอบเล็กน้อย เพื่อกันหน้าเค้กไหม้
- เปิดเตาอบ อบชีสเค้กที่ อุณหภูมิ 180 เป็นเวลา 30 นาที จากนั้น ลดอุณหภูมิเป็น 150 องศาเซลเซียส แล้วอบต่อไปอีก 40 – 45 นาที พอครบเวลา ให้ปิดเตา แล้วพักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
- พอครบเวลา ให้ใช้มีดแซะแป้งเค้กโดยรอบ แล้วยกตัวชีสเค้กออกจากพิมพ์ เป็นอันเสร็จ
โอรีโอ้ชีสเค้ก
โอรีโอ้คุกกี้ ไม่ได้เอามาทำในรูปแบบของไอศกรีมแท่ง หรือ ไอศกรีมซันเดย์ ได้เพียงอย่างเดียว แต่เอามาทำเป็น ชีสเค้ก ได้อีกด้วย รับรองว่า รสชาติเข้มข้น หวานอร่อย ไม่ต้องบิดแล้วชิมครีม แต่ตักเข้าปากกินอย่างเอร็ดอร่อยได้เลย
ส่วนผสม
- โอรีโอคุกกี้(บด) 30 ชิ้น
- เนยจืดละลาย 5 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ เล็กน้อย
- ครีมชีส 200 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 4 ช้อนโต๊ะ
- วิปครีม 300 กรัม
- โอรีโอ 6 ชิ้น (ตกแต่งหน้าชีสเค้ก)
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดโอรีโอ้คุกกี้ให้ละเอียด แล้วผสมเกลือกับเนยละลาย ใส่ลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักโอรีโอ้บดใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก (ใช้พลาสติกรองด้านในพิม์เค้กด้วย เพื่อให้เนื้อเค้กไม่ติดพิม์ ยกออกได้ง่าย)
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน
- เตรียมชามผสมอีกใบ ใส่วิปปิ้งครีม ตีให้ขึ้นฟู แล้วใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีให้วิปปิ้งขึ้นฟูดี จนตั้งยอดอ่อน ติดตะกร้อมือ
- ตักครีมชีสที่ทำไว้ลงไปผสมกับวิปปิ้งครีม แล้วใช้เครื่องตี ตีส่วนผสมให้เข้ากัน จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด จากนั้น บิดโอรีโอ้คุกกี้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ตักใส่ลงพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก
- ตกแต่งหน้าเค้ก ด้วยโอรีโอ้คุกกี้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามชอบ ให้สวยงาม แล้วนำไปแช่ตู้เย็น เป็นเวลา 30 นาที
- พอครบเวลา ให้ยกตัวชีสเค้กออกจากพิมพ์ เป็นอันเสร็จ
ชีสเค้กช็อกโกแลตอัลมอนด์
ชีสเค้ก อีกหนึ่งสูตรที่ทำออกมาแล้ว น่ารับประทาน แถมยังดูแพง พรีเมี่ยมมาก ๆ หากใครชอบรสชาติหวานเข้มจากช็อกโกแลต รวมถึงความกรุบกรอบของอัลมอนด์แล้วละก็ เมนูนี้ต้องลอง
ส่วนผสมหน้าช็อกโกแลตอัลมอนด์
- ช็อกโกแลตชิพ 1 ½ ถ้วย
- เฮฟวี่ครีม 3/4 ถ้วย
- ถั่วอัลมอนด์ ตามชอบ
ส่วนผสมชีสเค้ก
- โอรีโอคุกกี้(บด) 24 ชิ้น
- เนยจืดละลาย 6 ช้อนโต๊ะ
- ครีมชีส 1,000 กรัม
- น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- ครีมเปรี้ยว 1/4 ถ้วย
- แป้งเค้ก 2 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
วิธีทำหน้าช็อกโกแลตอัลมอนด์
- ตั้งหม้อ ใส่เฮฟวี่ครีมลงไป อุ่นให้เฮฟวี่ครีมร้อน
- เตรียมชามผสม ใส่ช็อกโกแลตชิพ ตามด้วย เฮฟวี่ครีมร้อน คนผสมให้ช็อกโกแลตชิพละลายดี จนได้ช็อกโกแลตเข้มข้น
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดโอรีโอ้คุกกี้ให้ละเอียด แล้วใส่เนยเค็มละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักโอรีโอ้บดใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก (ใช้พลาสติกรองด้านในพิม์เค้กด้วย เพื่อให้เนื้อเค้กไม่ติดพิม์ ยกออกได้ง่าย)
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วใส่น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา ลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ใส่ครีมเปรี้ยว แป้งเค้ก ไข่ไก่ ลงไปด้วย ใช้เครื่องตี ตีผสมให้เข้ากัน จนครีมชีสมีเนื้อละเอียดดี
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว เทครีมชีสใส่ลงไปในพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก เสร็จแล้ว นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- พอครบเวลา นำชีสเค้กออกมา โรยถั่วอัลมอนด์ แล้วใช้ช้อนตักซอสช็อกโกแลต ราดลงไปให้สวยงาม เสร็จแล้ว แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น เป็นเวลา 30 นาที เป็นอันเสร็จ
พีนัทบัตเตอร์ชีสเค้ก
ปิดท้ายกันด้วย พีนัทบัตเตอร์ชีสเค้ก ชีสเค้กรสเนยถั่วที่จะให้รสชาติของเนื้อครีมชีสหวานมันเข้มข้น ผสมกับท็อปปิ้งรสช็อกโกแลตด้านบน จะทำให้คุณได้ ชีสเค้ก อีกหนึ่งรสชาติที่มีความอร่อย ไม่มีใครเหมือน
ส่วนผสมหน้าช็อกโกแลต
- วิปปิ้งครีม 125 มิลลิลิตร
- ดาร์กช็อกโกแลต 200 กรัม
- ถั่วอัลมอนด์ ตกแต่งตามชอบ
ส่วนผสมชีสเค้ก
- โอรีโอคุกกี้(บด) 25 ชิ้น
- เนยละลาย 60 กรัม
- ครีมชีส 250 กรัม
- น้ำตาล 125 กรัม
- วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร
- เนยพีนัทบัตเตอร์ 125 กรัม
วิธีทำหน้าช็อกโกแลต
- ตั้งหม้อ ใส่วิปปิ้งครีมลงไป อุ่นให้วิปปิ้งครีมร้อน
- เตรียมชามผสม ใส่ดาร์กช็อกโกแลต ตามด้วย วิปปิ้งครีมร้อน คนให้ดาร์ช็อกโกแลตละลายดี จนกลายเป็นเนื้อครีมข้น เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้ให้เย็น
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดโอรีโอ้คุกกี้ให้ละเอียด แล้วใส่เนยละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักโอรีโอ้บดใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก (ใช้พลาสติกรองด้านในพิม์เค้กด้วย เพื่อให้เนื้อเค้กไม่ติดพิม์ ยกออกได้ง่าย)
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีส ตามด้วยน้ำตาล ลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสให้กระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วตีต่อไป จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด
- ตักเนยพีนัทบัตเตอร์ลงไป ตีให้เข้ากันกับครีมชีส จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- เตรียมชามผสมอีกใบ ใส่วิปปิ้งครีม ตีให้ขึ้นฟู จนตั้งยอดอ่อน ติดตะกร้อมือ เสร็จแล้ว เทใส่รวมกับครีมชีส ตะล่อมให้เข้ากันดี
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว เทครีมชีสใส่ลงไปในพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก เสร็จแล้ว นำไปแช่ในตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมง หรือ ข้ามคืน
- พอครบเวลา นำชีสเค้กออกมา แล้วใช้ช้อนตักซอสช็อกโกแลต ราดลงไป แล้วท็อปปิ้งด้วยถั่วอัลมอนด์ด้านบนให้สวยงาม เสร็จแล้ว แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น เป็นเวลา 2 ชั่วโมง เป็นอันเสร็จ
ชีสเค้กซูเฟล่
ชีสเค้ก ก้อนโต ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มฟูสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะสำหรับทำทานหลายคน หรือ เป็น เค้กวันเกิด ก็ได้ รสออกเปรี้ยวนิด ๆ มีกลิ่นครีมชีสหน่อย ๆ รับรองว่า อร่อย ละลายในปาก ถูกใจทุกคนแน่นอน หากใครอยากเพิ่มความสดชื่น สามารถกินคู่กับผลไม้ต่าง ๆ ได้ เช่น สตรอว์เบอรี่ บลูเบอร์รี่ ฯลฯ
ส่วนผสม (สูตรสำหรับเค้ก 2 ปอนด์)
- แป้งเค้ก 50 กรัม
- แป้งข้าวโพด 15 กรัม
- นมสด 80 กรัม
- ครีมชีส 140 กรัม
- เนยสด 40 กรัม
- ไข่แดง 75 กรัม
- ไข่ขาว 180 กรัม
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- เนยขาวสำหรับทาพิมพ์
วิธีทำ
- เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่างอย่างเดียว เตรียมไว้ และทาไขมันที่พิมพ์ รองกระดาษไขที่ก้นพิมพ์ และรอบ ๆ พิมพ์
- ร่อนแป้งเค้ก และแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน 1 ครั้ง เตรียมไว้
- นำนมสดใส่ถ้วย นำเข้าไมโครเวฟ 1.30 นาที (หรือนำไปต้มจนเดือด) จากนั้นใส่ครีมชีส และเนยสดลงไป คนผสมแรง ๆ จนส่วนผสมเข้ากัน
- ใส่ไข่แดง และน้ำมะนาวลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันแล้วนำไปกรองผ่านกระชอน 2 รอบ เพื่อให้ได้ส่วนผสมเนื้อเนียน
- ใส่ส่วนผสมแป้งลงไป ใช้ตะกร้อมือตะล่อม หรือคนจนส่วนผสมเข้ากัน พักไว้
- ตีไข่ขาวจนฟองอากาศเนียนละเอียด ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน แบ่งส่วนผสมไข่ขาวลงไปผสมกับส่วนผสมไข่แดง 3 ส่วน แต่ละครั้งตะล่อมให้เข้ากัน กระแทกอ่างผสมเบา ๆ 2-3 ครั้งให้ฟองอากาศลอยขึ้นมา
- ค่อย ๆ เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบแบบเทน้ำร้อนใส่ลงในถาด (Water Bath) อบนานประมาณ 1-1.15 ชั่วโมง ถ้าอบปอนด์เดียวประมาณ 45-50 นาทีก็สุกแล้ว ก่อนครบเวลาประมาณ 5 นาที เปิดไฟบนด้วยถ้าชอบให้หน้าด้านบนมีสีเข้มหน่อย
- นำขนมออกจากเตาแล้วนำออกจากพิมพ์ทันที พร้อมเสิร์ฟ
ด้วยเนื้อเค้กที่มีความนุ่มละมุน หวานมัน แถมยังประยุกต์และดัดแปลงเป็นรสชาติต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ทำให้ ชีสเค้ก ยังคงเป็นเค้กที่ได้รับความนิยมมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้น หากใครอยากทำชีสเค้ก ไม่ว่าจะทำไว้ทานเอง มอบให้คนพิเศษ หรือ ทำขายแล้วละก็ ลองทำตาม 10 สูตรชีสเค้กที่ SGE นำมาฝากกันได้ รับรองว่า อร่อย ทำได้ง่ายทุกสูตรแน่นอน
สำหรับใครที่อยากตีครีมชีสและวิปปิ้งครีมให้เนียนข้นได้อย่างง่าย ๆ เพื่อให้สามารถนำมาตะล่อมให้เข้ากัน ทำเป็นชีสเค้กได้อย่างรวดเร็ว แนะนำ เครื่องตีแป้ง ของ SGE มีหัวตี 3 แบบ ช่วยให้คุณสามารถตีครีมชีสให้เนียนข้นได้อย่างง่ายดาย รวมถึงตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู เหมาะสำหรับทำ ชีสเค้ก รวมถึงเค้กและเบเกอรี่อื่น ๆ แบบสุด ๆ ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น หากสนใจคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/stand-mixer/
22 เมษายน 2024
โดย
Pres