ตกลงแล้ว กรดไขมัน คืออะไร มีกี่ชนิดกันนะ!
กรดไขมัน คืออะไร?
กรดไขมัน (Fatty Acids) คือ โครงสร้างของ ไขมัน ที่พบได้ในร่างกาย และอาหารที่รับประทาน โดยร่างกายจะสลายไขมันให้กลายเป็นกรดไขมันระหว่างที่ย่อยอาหาร เพื่อดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด กรดไขมันส่งผลต่อการทำงานและเป็นแหล่งเก็บสำรองพลังงานของร่างกาย โดยร่างกายจะดึงกรดไขมันมาใช้ในกรณีที่เผาผลาญกลูโคสมาเป็นพลังงานได้ไม่เพียงพอ จึงควรบริโภคกรดไขมันจากสัตว์ พืช และน้ำมันอย่างเหมาะสม
กรดไขมัน คือ ส่วนประกอบของกรดคาร์บอกซิลิก ที่มีการเรียงตัวของหางเป็นโซ่แบบ อะลิฟาติก แบบยาวที่มีทั้งกรดไขมันอิ่มตัว (Saturated) และกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated) กรดไขมันจะมีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 8 อะตอม และส่วนใหญ่จะเป็นจำนวนเลขคู่ เพราะกระบวนการชีวสังเคราะห์ของกรดไขมันนั้น จะเป็นการเพิ่มโมเลกุลของอะซิเตต ซึ่งมีคาร์บอนอยู่เพียง 2 อะตอม
ประเภทของกรดไขมัน มีอะไรบ้าง?
โดยทั่วไปแล้ว กรดไขมันแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ อีก 4 ประเภท ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว, ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว, ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และไขมันทรานส์ โดยกรดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ โดยกรดไขมันแต่ละประเภทมีลักษณะ และแหล่งอาหารที่พบแตกต่างกัน ดังนี้
-
กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
เป็นกรดไขมัน (Fatty Acids) ประเภทหนึ่งที่มีอะตอมของธาตุไฮโดรเจนเกาะเต็มตำแหน่ง และมีอะตอมของคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เกาะเรียงกัน แต่ไม่มีพันธะคู่ระหว่างอะตอม ของคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และธาตุไฮโดรเจนเกิดขึ้น ตัวอย่างของกรดไขมันประเภทนี้ คือ กรดสเตียริก
กรดไขมันอิ่มตัว มักจะมีอยู่ตามน้ำมันหลากหลายชนิด เช่น น้ำมันปาล์มโอเลอีน 50%, ในน้ำมันมะพร้าวสูงถึง 92%, น้ำมันปาล์มเคอเนลมี 86%, น้ำมันเนื้อมี 52% และในน้ำมันหมูมี 40%
ไขมันประเภทนี้มีลักษณะเป็นของแข็งเมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง มักพบในแหล่งอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์เนยนม เช่น เนื้อหมู, เนื้อวัว, เนื้อไก่ติดหนัง, ไขสัตว์, เนย, ชีส หรือขนมอบ และของทอดต่าง ๆ นอกจากนี้ น้ำมันพืชบางอย่างก็มีกรดไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากอาจเสี่ยงระดับคอเลสเตอรอลสูงหรือเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง จึงควรรับพลังงานจากไขมันอิ่มตัวไม่เกินร้อยละ 5-6 เช่น ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวไม่เกินวันละ 13 กรัม สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานทั้งหมดวันละ 2,000 แคลอรี่
-
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
ไขมัน ประเภทนี้ จะมีลักษณะเป็นของเหลวเมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง และกลายเป็นของแข็งเมื่ออุณหภูมิต่ำลง มักพบในน้ำมันพืชอย่างน้ำมันมะกอก, น้ำมันงา หรือน้ำมันดอกคำฝอย, อะโวคาโด, ปลาที่มีกรดไขมันอย่างปลาทูน่า, แมคเคอเรล, แซลมอน, ถั่ว, เมล็ดธัญพืชต่าง ๆ
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง รวมทั้งทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นที่สร้างเองไม่ได้ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมีพลังงาน 9 แคลอรี่ต่อกรัม เหมือนกรดไขมันประเภทอื่น แต่ให้คุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า
-
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
ไขมันประเภทนี้ มีสถานะเหมือนไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว โดยเป็นของเหลวในอุณหภูมิห้อง และกลายเป็นของแข็งเมื่ออุณหภูมิต่ำลง มักพบในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันทานตะวัน, ถั่ว, เมล็ดพืชต่าง ๆ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ไขมันประเภทนี้ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง ให้สารอาหารที่เสริมสร้างเซลล์ในร่างกาย และทำให้ได้รับกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ เช่น โอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 การบริโภคกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และเชิงซ้อน จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากกว่าบริโภคไขมันอิ่มตัว หรือไขมันทรานส์
-
ไขมันทรานส์
ไขมันประเภทนี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือไขมันทรานส์ชนิดธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในเครื่องในสัตว์ หรืออาหารที่ทำมาจากสัตว์บางอย่าง เช่น นม หรือเนื้อวัว และไขมันทรานส์ชนิดสังเคราะห์ ซึ่งผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม ผู้คนนิยมใช้ไขมันทรานส์เก็บรักษาอาหารให้อยู่ได้นาน และปรุงแต่งรสชาติ และเนื้อสัมผัสของอาหาร ไขมันประเภทนี้พบได้ในอาหารหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมาการีน ของทอด ผลิตภัณฑ์ขนมอบ เช่น ขนมเค้ก, พาย, คุ้กกี้, พิซซ่าแช่แข็ง หรือผลิตภัณฑ์เนยนม และเนื้อสัตว์บางอย่าง เช่น เนื้อวัว, เนื้อแกะ หรือไขมันเนย
การบริโภคไขมันทรานส์จะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีเพิ่มขึ้น ลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี รวมทั้งทำให้เสี่ยงเกิดโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง และเบาหวานชนิดที่ 2 จึงควรเลี่ยงอาหารที่มีไขมันประเภทนี้ รับประทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมันหรือไม่มีหนัง รวมทั้งบริโภคกรดไขมันจำเป็นจากแหล่งอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวแทน
กรดไขมันจำเป็นต่อร่างกายอย่างไร?
ไขมันจัดเป็นสารอาหารที่มีพลังงานหนาแน่นกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน โดยไขมันปริมาณ 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่ ต่างจากคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนในปริมาณเท่ากันที่ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ อย่างไรก็ดี ไขมันนับเป็นสารอาหารอย่างหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงาน เสริมสร้างเซลล์ในร่างกายให้เจริญเติบโต ปกป้องอวัยวะส่วนต่าง ๆ ให้อบอุ่น รวมทั้งช่วยให้ดูดซึมสารอาหาร และผลิตฮอร์โมนต่าง ๆ จึงควรบริโภคไขมันอย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ โดยเลือกรับประทานไขมันดีอย่างไขมันไม่อิ่มตัวและบริโภคอาหารในปริมาณเหมาะสมกับพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน เช่น เลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เนยนมแบบไขมันต่ำ เนื้อ,ไก่ ปลา, ถั่ว เมล็ดธัญพืชต่าง ๆ น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว และผักผลไม้ รวมทั้งจำกัดปริมาณโซเดียม ของหวาน อาหารหรือเครื่องดื่มที่ปรุงแต่งน้ำตาล และเนื้อแดง 👌
วิธีรับประทานกรดไขมันที่ดี ทำได้อย่างไร?
ไขมันเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย การเลือกรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันดี จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ช่วยเสริมสร้างสุขภาพด้านต่าง ๆ ซึ่งทำได้ ดังนี้ สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ ไขมันดี ว่ามีอะไรบ้าง? ได้ที่นี่!
|
|
|
|
▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾
วิธีเลี่ยงกรดไขมันไม่ดี
ไขมันทรานส์มักพบในน้ำมันพืชที่เกาะตัวเป็นไขมัน นิยมนำมาปรุงขนมต่าง ๆ เช่น คุกกี้, มันฝรั่งทอดกรอบ, แครกเกอร์ หรือผลิตภัณฑ์ขนมอบ เนื่องจากช่วยยืดอายุอาหารได้ การบริโภคไขมันทรานส์จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี และอาจทำให้เสี่ยงป่วยเป็นโรคหัวใจ ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันดีไม่ได้ การเลี่ยงไขมันทรานส์เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ซึ่งทำได้ ดังนี้
- ดูฉลากก่อนซื้อ ควรดูฉลากก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทุกครั้งว่ามีไขมันทรานส์ หรือระบุว่ามีส่วนผสมของน้ำมันพืชที่เติมไฮโดรเจน (Hydrogenated Vegetable Oils/ Partially Hydrogenated Vegetable Oils) หรือไม่ รวมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันพืชที่เติมไฮโดรเจน
- งดน้ำมันไม่ดี ควรเลี่ยงบริโภคน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว รวมทั้งเลือกบริโภคน้ำมันที่มีกรดไขมันจำเป็นอย่างกรดโอเมก้า 3 และกรดโอเมก้า 6 ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะน้ำมันที่มีกรดไขมันโอเมก้า 6 เนื่องจากการได้รับกรดไขมันโอเมก้า 6 มากเกินไป จะทำให้ความดันโลหิตสูง รวมทั้งเกิดลิ่มเลือดอันก่อให้เกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง
จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วกรดไขมัน (Fatty Acids) คือโครงสร้างไขมันที่พบได้ในร่างกาย หรือในอาหารที่รับประทาน ร่างกายจะทำการสลายไขมันให้กลายเป็นกรดไขมันระหว่างที่ย่อยอาหารเพื่อดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งกรดไขมันจะส่งผลต่อการทำงานและเป็นแหล่งเก็บสำรองพลังงานของร่างกายและร่างกายจะดึงกรดไขมันมาใช้ในกรณีที่เผาผลาญกลูโคสมาเป็นพลังงานได้ไม่เพียงพอนั่นเอง ดังนั้นควรบริโภคกรดไขมันจากสัตว์ พืช และน้ำมันในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายกันด้วยนะจ๊ะ 👉 สามารถติดตาม บทความอื่นๆ ได้ที่นี่