ชวนทำ กุ้งทอดเกลือ วัตถุดิบน้อย ทำตามง่าย อร่อยฟิน!

เมนูฮิตของช่วงนี้ ที่บอกเลยว่าเปิดไปแอพไหน ๆ ก็ต้องเห็นคนทำ คนกินเมนูนี้อยู่แทบตลอด บทความนี้เลยจะมาแจกสูตร กุ้งทอดเกลือ ฉบับทำง่าย เตรียมของน้อย ใช้เวลาทำไม่เกินสิบนาที กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ แล้วราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ด บอกเลยว่าฟิน!

แชร์วิธีดู กุ้งแต่ละชนิด ต่างกันอย่างไร?

ถ้าให้เลือกอาหารทะเลสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน “กุ้ง” คงติดโผมาเป็นอันดับหนึ่งแบบไม่ต้องสงสัย แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่ากุ้งในไทย มีหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งกุ้งแต่ละพันธุ์ก็จะมีวิธีปรุงให้ได้ความอร่อยที่สุดต่างกันอีกด้วย บทความนี้เลยจะพามาส่องกุ้งแต่ละชนิด มีความต่างกันอย่างไร? แล้วแต่ละชนิดทำเมนูไหนอร่อยบ้าง?

วิธีดูประเภทกุ้ง แถมเมนูที่แนะนำ

1.กุ้งขาว

ลักษณะ : เป็นกุ้งเกษตรเลี้ยง ตัวจะใส เปลือกบาง มีสีออกเทา ปลายหางมีสีออกแดง ขนาดไม่ใหญ่มาก หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป และมีราคาถูกที่สุด

รสชาติ : มีรสชาติหวาน เนื้อแข็งกรอบกว่ากุ้งธรรมชาติ

เหมาะกับอาหารประเภท : สามารถทำอาหารได้ทุกประเภท เช่น ผัดกับผักต่างๆ ทอดมันกุ้ง ข้าวผัดกุ้ง หรือทานดิบ เช่น กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งดองซีอิ๊ว เป็นต้น

2. กุ้งแชบ๊วย (กุ้งทะเล)

ลักษณะ : เป็นกุ้งทะเลธรรมชาติ ลักษณะคล้ายกุ้งขาว แต่จะตัวใหญ่กว่า มีเหลืองอมส้ม เนื้อสีขาวขุ่น เปลือกหนาร่อน แกะง่าย *วิธีสังเกตกุ้งแชบ๊วยธรรมชาติแท้ ๆ ที่ขาจะต้องมีสีออกเหลือง

รสชาติ : มีเนื้อหวาน เด้ง แต่นุ่ม กว่ากุ้งขาว

เหมาะกับอาหารประเภท : เมนูที่เน้นเนื้อกุ้งเป็นหลัก เช่น กุ้งอบวุ้นเส้น กุ้งทอดครีมสลัด กุ้งย่าง กุ้งอบเกลือ เป็นต้น

3. กุ้งโอคัก (กุ้งทราย)

ลักษณะ : เป็นกุ้งทะเลชนิดหนึ่ง เปลือกแข็งและหยาบ เนื้อสีขาวขุ่น ตัวเล็กกว่ากุ้งแแชบ๊วยอย่างชัดเจน ปลายขามีสีส้มแดง ค่อนข้างหาซื้อยาก เพราะเป็นกุ้งธรรมชาติ ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้

รสชาติ : เนื้อหวาน แน่น เด้ง กว่ากุ้งแชบ๊วยทะเล

เหมาะกับอาหารประเภท : นิยมนำมาทำติ่มซำ กุ้งอบเกลือ หรือต้มเค็ม

4.กุ้งลายเสือ (กุ้งกุลาดำ)

ลักษณะ : เป็นกุ้งธรรมชาติที่อยู่ในน้ำกร่อย และน้ำทะเล ลำตัวจะมีลายสีแดง-ดำ ไล่สลับกันตั้งแต่หัวจนถึงหาง เป็นที่มาของชื่อลายเสือ โดยขนาดใหญ่สุดจะยาวถึง 1 ฟุต และอาจมีน้ำหนักอยู่ที่ 400-500 กรัมต่อตัวได้เลย

รสชาติ : เนื้ออร่อย กรอบ แน่น เด้งสู้ฟัน

เหมาะกับอาหารประเภท : เมนูที่เน้นรสชาติของกุ้งเป็นหลัก เช่น กุ้งเผา กุ้งอบเกลือ กุ้งย่างเนย

5.กุ้งก้ามกราม (กุ้งแม่น้ำเลี้ยง)

ลักษณะ : เป็นกุ้งพันธุ์เดียวกับกุ้งแม่น้ำ กุ้งนาง กุ้งหลวง แต่เป็นกุ้งเลี้ยง มีสีออกเขียว-ฟ้าสด มีไขมันตรงหัวเยอะ ขนาดเล็กกว่ากุ้งแม่น้ำมาก ตัวใหญ่สุดมักจะไม่เกินฝ่ามือผู้ชายประมาณ 10 ตัว/กิโลกรัม

รสชาติ : เนื้อกุ้งหวาน เหนียวแน่น หัวมีมันเยอะ

เหมาะกับอาหารประเภท : ทำอาหารได้หลายเมนู เช่น กุ้งเผา กุ้งอบวุ้นเว้น ต้มยำกุ้ง

6. กุ้งแม่น้ำธรรมชาติ

ลักษณะ : เป็นกุ้งพันธุ์เดียวกับกุ้งก้ามกราม กุ้งนาง กุ้งหลวง แต่เป็นกุ้งที่อยู่ในแม่น้ำธรรมชาติ ตัวกุ้งจะมีสีออกเหลือง-น้ำตาล คล้ายสีแม่น้ำ ขนาดใหญ่กว่ากุ้งก้ามกรามชัดเจน โตเต็มที่อาจใหญ่เกือบ 1 กิโล

รสชาติ : เนื้อหวาน เหนียวและแน่น ที่หัวมีมันเยอะกว่ากุ้งก้ามกรามมาก

เหมาะกับอาหารประเภท : นิยมนำไปทำ กุ้งแม่น้ำเผาแบบผ่ากลาง

7. กุ้งมังกร

ลักษณะ : เป็นกุ้งทะเลขนาดใหญ่ เนื้อกุ้งเยอะ มีสีสันและลวดลายที่สวยงาม ลักษณะเด่นคือมีหนวดใหญ่ และยาวกว่าลำตัว โดยเฉพาะกุ้งมังกรภูเก็ต ที่มีกระดองบาง ทำให้มีเนื้อเยอะเป็นพิเศษ

รสชาติ : เนื้อที่แน่น หวาน ไม่ยุ่ย

เหมาะกับอาหารประเภท : ซาชิมิ อบ ย่าง เผา ผัด หรือนึ่งได้ ที่นิยมอีกอย่างคือ เลือดกุ้งมังกรผสมสไปร์ท เพราะถือว่าเป็นยาโด๊ปชั้นดี

8. กุ้งล็อบสเตอร์

ลักษณะ : เป็นกุ้งน้ำเค็มที่อยู่บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก มีลักษณะพิเศษคือ ตัวใหญ่ ก้ามใหญ่ เปลือกแข็งหนา โดยจะมีสีน้ำตาลสนิมไปจนถึงสีน้ำตาลเขียว และเมื่อนำไปทำอาหารจึงจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง หรือส้ม

รสชาติ : เนื้อจะแน่น หวาน คลายกั้งกระดาน ตัวใหญ่กินแล้วเต็มปากต็มคำ

เหมาะกับอาหารประเภท : เมนูที่ไม่ต้องปรุงเยอะ เช่น ซาชิมิ นึ่ง ต้ม หรือย่างบาร์บีคิว

วิธีทำ กุ้งทอดเกลือ สูตรง่าย มือใหม่ก็ทำได้!

ส่วนผสมกุ้งทอดเกลือ

1. กุ้งแม่น้ำตัวประมาณฝ่ามือ 6 ตัว
2. น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ถ้วย
3. เกลือสมุทร 1 1/2 ช้อนชา
4. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
5. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
6. ซอสฝาเขียว 1 ช้อนชา
7. น้ำมันหอย ½ ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
9. พริกไทยขาวป่น 1/2 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำกุ้งทอดเกลือ

1. เตรียมกุ้งโดยการล้างกุ้งให้สะอาด ตัดเอาหนวด คางกุ้ง ปลายแหลมของกรีและก้ามทั้ง 2 ออก จากนั้นให้แกะเปลือกช่วงหัวและตัวออกอย่างเบามือ ระวังอย่าให้มันบริเวณหัวแตก ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ส่วนก้ามกุ้งให้ทุบเปลือกให้แตก แล้วแกะเอาเนื้อก้านในออกมา ซับให้แห้งเตรียมไว้
2. นำกุ้งและก้ามที่เตรียมไว้มาโรยเกลือจนทั่วดี แล้วเตรียมซอสปรุงรสผสมกันแยกไว้ โดยใส่ซีอิ๊วขาว ซอสฝาเขียว น้ำมันหอย น้ำตาลและพริกไทยขาวป่นลงในถ้วย แล้วคนให้เข้ากันเป็นอันใช้ได้
3. จากนั้นนำกระทะตั้งไฟแรงจนน้ำมันร้อนจัด จากนั้นให้เอากุ้งและก้ามที่โรยเกลือไว้ลงทอดจนกุ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม แล้วให้รีบตักกุ้งขึ้นพักก่อน
4. เริ่มวิธีการผัด ด้วยการเทน้ำมันทอดกุ้งออกให้เหลือแค่ติดก้นกระทะ เปิดไฟแรงจนกระทะร้อนจัด แล้วใส่กระเทียมสับผัดให้หอม จากนั้นเทกุ้งและก้ามกลับลงไปในกระทะ ตามด้วยซอสที่ปรุงรสไว้แล้ว ผัดจนกุ้งสุกดี น้ำผัดเริ่มเข้าเนื้อ ปิดไฟแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

แจกสูตร น้ำจิ้มซีฟู๊ด รสเด็ด กินคู่ กุ้งทอดเกลือ อร่อยฟิน!

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู๊ด

1. พริก 20 เม็ด
2. กระเทียมจีน 3-4 กลีบ
3. ใบสะระแหน่ 5-8 ใบ
4. เกลือ 2 ช้อนชา
5. น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะนาวคั้นสด 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำกระเทียมดอง 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด

1. นำพริก กระเทียม และใบสะระแหน่มาตำหรือปั่นจนละเอียด
2. แล้วเติมรสด้วย เกลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาวสด และน้ำกระเทียมดอง ปั่นหรือคนให้เข้ากันจนละลายดี
3. ตักใส่ถ้วย พร้อมกินคุ่กับกุ้งทอดเกลือและข้าวสวยร้อย ๆ ฟินอย่าบอกใคร

กุ้งทอดเกลือ เมนูนี้ทั้งอร่อย และหาวัตถุดิบไม่ยาก เหมาะสำหรับเอาไว้ทำกินพร้อมหน้าช่วงสิ้นปีแบบนี้มาก ๆ เลยใช่ไหมคะ เมนูนี้ทำง่าย เพราะกุ้งสด ๆ เนื้อกุ้งจะหวาน หัวมันกุ้งแน่นเต็มคำ หวานเด้งสู้ลิ้น ปรุงไม่ต้องเยอะก็อร่อย แต่ว่าถ้าใครไม่ชอบกุ้งแม่น้ำ ก็สามารถใช้กุ้งอื่น ๆ เช่น กุ้งขาว กุ้งแชบ๊วย แทนได้เช่นกันนะคะ

บทความที่น่าสนใจ

• วิธีทำ กุ้งทอดกระเทียม สูตรกุ้งเด้ง กระเทียมกรอบ ทำง่าย ไม่ง้อร้าน!
• วิธีทำ กุ้งทอดซอสมะขาม เปรี้ยวหวาน กรอบอร่อย กินได้ทั้งตัว
• วิธีทำ กุ้งถัง เข้มข้น ถึงเครื่อง อร่อยสะใจ ทำขายรวยแน่นอน!
• แจกสูตร ยำกุ้งสด รสแซ่บ พร้อมเคล็ดลับทำให้กุ้งกรอบเด้ง!
• วิธีทำ กุ้งดองซีอิ๊ว ให้อร่อย เหมือนร้านดัง พร้อมเทคนิคทำกุ้งให้กรอบ!

ข้อมูลอ้างอิง : TrueID, Wongnai, krua.co, food-heal