วิธีทำ ขนมครก สูตรโบราณ หอมมันกะทิ กรอบนอกนุ่มใน (Video)

“ขนมครก” ขนมไทยแสนอร่อย ติดอันดับ 4 แพนเค้กที่ดีที่สุดในโลก ปี 2024 ด้วยเรตติ้ง 4.5 ดาว ของเว็บไซต์ TasteAtlas ด้วยรสชาติหวานมัน กลมกล่อม ใส่ท็อปปิ้งได้หลายอย่าง วันนี้เจินเลยไม่พลาดที่จะมาบอก วิธีทำขนมครก สูตรโบราณ กรอบนอกนุ่มใน มีกลิ่นหอมกะทิ เพราะใช้กะทิคั้นสด ที่มาพร้อมท็อปปิ้ง 4 ไส้จุก ๆ และเคล็ดลับการแคะขนมครก ไม่ให้ติดกะทะ ทำได้ไม่ยาก พร้อมแล้วไปทำกันเลยค่ะ

เวลาเตรียม ≈ 10 นาที  |  เวลาปรุง ≈ 10 นาที  |  สำหรับ 2 เสิร์ฟ

• แป้งขนมครกสำเร็จรูป 250 กรัม
• หางกะทิ 300 กรัม
• น้ำเปล่า 450 กรัม

• แป้งขนมครกสำเร็จรูป 80 กรัม
• หัวกะทิ 400 กรัม
• น้ำตาลทราย 160 กรัม
• เกลือ 4 กรัม
• ข้าวโพดแกะเม็ด 1 ถ้วย
• เผือกหั่นเต๋าชิ้นเล็ก 1 ถ้วย
• มันม่วงหั่นเส้น 1 ถ้วย
• ต้นหอมซอย 1 ถ้วย

ผสมแป้งขนมครก น้ำเปล่า และหางกะทิ

ตีทุกอย่างให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน

• ทำแป้งส่วนฐานขนมครก โดยนำแป้งขนมครกสำเร็จรูป ผสมกับ น้ำเปล่า และหางกะทิ คนให้เข้ากันจนกว่าเม็ดแป้งละลายเข้ากันหมด

แนะนำ: สำหรับใครที่ไม่อยากใช้แป้งขนมครกสำเร็จรูป สามารถทำแป้งเองได้ค่ะ โดยใช้แป้งข้าวเจ้า ผสมกับข้าวหอมมะลิหุงสุก นวดเข้าด้วยกัน หรือบางสูตรอาจจะเติมแป้งข้าวเหนียว หรือแป้งสาลีลงไปด้วยค่ะ ปรับสูตรตาม texture ที่ชอบได้เลย

• จากนั้น นำไปกรองกับกระชอน เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่เนียน จะได้แป้งขนมครกส่วนฐาน เตรียมไว้

ผสมแป้งขนมครก หัวกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ ให้เข้ากัน

ตีทุกอย่างให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน

• ทำหน้าขนมครก นำแป้งขนมครก ผสมกับ น้ำตาลทราย เกลือ และหัวกะทิ คนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน

• เมื่อคนส่วนผสมจนเข้ากันแล้ว นำไปกรองด้วยกระชอน เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่เนียน จะได้แป้งหน้าขนมครก เตรียมไว้

รู้ไหม? รสชาติของขนมครก อยู่ที่แป้งทั้ง 2 ส่วน

รสชาติของขนมครก เช่น ความกรอบ ความหวานมัน จะอยู่ที่ตัวแป้งขนมครก ทั้ง 2 ส่วนนะคะ สำหรับแป้งขนมครกนั้นในส่วนฐาน จะให้ texture ของความกรอบ และส่วนผสมแป้งหน้าขนมครก จะให้รสชาติหวานมันหอมกะทินั่นเองค่ะ

แยกแป้งที่ทำไว้ เทใส่เหยือก เป็น 2 ส่วน

วอร์มเตาขนมครกให้ร้อน ใช้ตุ้มชุบน้ำมันทาให้ทั่วทุกหลุมบนเตา

• แยกแป้งขนมครก เตรียมไว้ โดยตักแป้งที่ทำไว้แล้ว เทแยกใส่เหยือก หรือกาน้ำชา เป็น 2 ส่วน คือ แป้งส่วนฐาน และ แป้งหน้าขนมครก เตรียมไว้

• เตรียมเตาขนมครก วอร์มเตาให้ร้อน ใช้ตุ้มชุบน้ำมันทาให้ทั่วทุกหลุมบนเตาขนมครก (ตุ้มชุบน้ำมัน จะใช้ผ้าจะอาดมาม้วนให้เหมือนตุ๊กตาไล่ฝนค่ะ)

ซื้อเตาขนมครกมาใหม่ อย่าลืมเผาเตาก่อน!

การเผาเตา คือ การเผาด้วยไฟแรง หรือความร้อนสูง ๆ เพื่อให้สารเคมีที่เคลือบบนเตาขนมครก ระเหยออกจนหมด จากนั้น นำไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน และนำไปเผาอีกรอบก่อนนำมาใช้งาน การเผาเตานอกจากจะช่วยล้างสารเคมีที่เคลือบมากับเตาแล้ว ยังช่วยให้ขนมครกไม่ติดกระทะ แคะออกได้ง่ายค่ะ ดังนั้น ซื้อเตาขนมครกมาครั้งแรก จะต้องเผาเตาก่อนทุกครั้งก่อนนำไปใช้งาน

หยอดแป้งส่วนฐานขนมครกลงไป 3 ส่วน 4 ของหลุม

หยอดแป้งส่วนหน้ากะทิตามลงไป

• การหยอดขนมครก ให้เริ่มหยอดแป้งส่วนฐานขนมครกลงไป 3 ส่วน 4 ของหลุมนั้น ๆ ให้ครบทุกหลุม

หมายเหตุ: อย่าลืมคนแป้งขนมครก ก่อนหยอดทุกครั้งด้วย เพื่อไม่ให้แป้งตกตะกอน

• จากนั้น หยอดแป้งส่วนหน้าขนมครก ตามลงไปให้ครบทุกหลุมเช่นกัน

ใส่ท็อปปิ้งตามชอบ ปิดฝาอบ 5 นาที จนแป้งสุก

เมื่อแป้งสุกดี ค่อย ๆ แคะขนมครกออกจากเบ้า

• เมื่อเทแป้งทั้ง 2 ลงบนเตาแล้ว ใส่เครื่องท็อปปิ้ง ตามชอบลงไปได้เลย  และปิดฝาอบ ประมาณ 5 นาที รอจนแป้งขนมครกมีสีสวย และแป้งกรอบดี

• เมื่อแป้งขนมครกกรอบดีแล้ว ค่อย ๆ แคะออกจากหลุม จนครบทุกหลุม

เทคนิคการแคะขนมครก ให้สวยน่าทาน ไม่ติดเตา

การแคะขนมครกให้สวย ควรวางช้อนในมุมองศาที่ถูกต้อง ไม่กดน้ำหนักมือ ไม่งัดข้อมือ ช้อนที่ใช้ต้องมีความบางเหมาะสม ไม่หนาจนเกินไป และหมุนมือเล็กน้อยเวลาช้อนตัวขนมขึ้นมาค่ะ

จัดใส่จาน เตรียมเสิร์ฟ

ขนมครกไทย พร้อมทาน

• นำขนมครกมาจัดใส่จาน เตรียมไว้

• จัดเสิร์ฟ ขนมครก จะทานคู่กับน้ำชาร้อน ๆ ก็อร่อยดี

เนื้อหาในวิดีโอ

• 0:00 เกริ่นนำ
• 0:38 เตรียมแป้งขนมครก
• 2:35 เตรียมแป้งกะทิ
• 4:41 เตรียมกะทะขนมครก

• 6:17 การยอดขนมครก
• 7:30 ดูผลลัพธ์
• 8:29 คำนวณทำขาย

ตัวช่วยทำขนมครกฉบับมือโปร

อยากทำขนมครกขาย เจินมีตัวช่วยดี ๆ เตาขนมครก ของ SGE ทำจากวัสดุอย่างดี ผลิตในประเทศไทย โดยช่างฝีมือคนไทย มี 28 หลุม เป็น ระบบแก๊ส ช่วยประหยัดต้นทุน หน้าเตาขนาดใหญ่ บอกเลยว่า ตอบโจทย์สำหรับเริ่มต้นธุรกิจมาก ๆ ค่ะ

อยากทำขนมครกให้อร่อย หอมมันกะทิ เคล็ดลับอยู่ที่การผสมแป้งกับกะทิ และน้ำตาล ผสมให้ได้สัดส่วนที่พอเหมาะพอดี เมื่อหยอดลงไปในเตาขนมครกแล้ว จะได้ขนมครกที่เนื้อแน่นไม่เละ นอกจากนี้ยังสามารถปรับสูตรได้ตามความเหมาะสมเพิ่มเติม เช่น

• ใส่น้ำปูนใส จะทำให้ขนมครกกรอบนอกนุ่มในขึ้น หากไม่มีน้ำปูนใส ใช้น้ำเปล่าแทนได้ค่ะ
• ควรใช้กะทิคั้นสด จะทำให้ขนมครก หอมมันกว่าใช้กะทิกล่อง
• ใช้ไฟอ่อนในการทำขนมครก และต้องวอร์มเตาขนมครกให้ร้อนก่อน แล้วค่อยหยอดแป้งลงไป

ขนมครก ต้นกำเนิดมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จากหลักฐานจดหมายเหตุของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด) ได้กล่าวว่า “บ้านหม้อปั้นหม้อข้าวหม้อแกงใหญ่ และกระทะเตาขนมครกขนมเบื้อง” จึงเดาได้ว่ากำเนิดขึ้นในยุคสมัยนั้น และยังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะหาวัตถุดิบได้ง่าย ทำได้ไว และอร่อย มีส่วนผสมคือ แป้ง กะทิ และน้ำตาล นำไปเทใส่เตาหลุมรอจนสุก พร้อมทาน

นอกจากนี้ ขนมครกไทย ของเรา ยังติดอันดับ 4 ของโลก ในหมวดแพนเค้กที่ดีที่สุดในโลก ปี 2024 ด้วยเรตติ้ง 4.5 ดาว ของเว็บไซต์ TasteAtlas อีกด้วยนะ!!

อ้างอิงข้อมูลจาก วิกิพีเดีย ภาพจากเฟสบุ๊ค TasteAtlas

ขนมครกไทย ปัจจุบันนั้น จะมี 2 ประเภท คือ

1. ขนมครกมอญ เป็นขนมเก่าแก่ของชาวมอญ วิธีทำขนมครก คือ ใช้ข้าวเหนียวดิบแช่น้ำจนชุ่มมาละเลงในเบ้าขนมครก ส่วนไส้เป็นมะพร้าวขูด คลุกกับ น้ำตาลทราย และงาคั่ว ปัจจุบันจะหาทานได้ที่ชุมชนมอญ ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
2. ขนมครกชาววัง เป็นขนมครกที่เราทานกันกันทั่ว ๆ ไปในปัจจุบันนั่นเอง จะเทแป้งขนมครกลงในเตาขนมครก มีหน้าหลากหลายแบบ เช่น เผือก มัน ฝอยทอง ข้าวโพด เป็นต้น เทแป้งขนมครกลงบนเตา เวลาขนมครกสุก ก็จะแคะขนมครกออกจากเบ้า พร้อมทาน

ไม่แปลกใจเลยทำไม ขนมครก ของเรานั้นจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกขนาดนี้ ด้วยรสชาติที่อร่อย มีทั้งความกรอบ หวาน เข้ากันเป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นอาหารสตรีทฟู้ดของไทยยอดนิยม แถมหาทานง่าย มีราคาถูก และ วิธีทำขนมครก ก็ทำไม่ยากอีกด้วย ใครที่มองหาอาชีพเสริมก็ลองเลือกขนมครกไปทำขายกันได้ ขายดีแน่นอน อย่าลืมกดไลค์ กดติดตาม ในช่องทางต่าง ๆ ของเรา เพื่ออัปเดตสูตรอาหารและสาระดี ๆ แบบนี้ทุกวันด้วยนะคะ

• “เครปญี่ปุ่น” สูตรแป้งกรอบเน้น ๆ ทำง่าย ทำขายก็ดี!
• วิธีทำ ตะโก้ ขนมไทยแสนอร่อย หวานมันกะทิแบบจัดเต็ม
• วิธีทำขนมเบื้อง แป้งกรอบ ๆ ไส้หวาน อร่อยฟิน!
• คัดมาให้ 12 สูตร ขนมหวานไทย ยอดฮิต สายหวานพลาดไม่ได้