เคล็ดลับดี ๆ วิธีผสม ดินปลูกผัก ปรุงดินให้ถูกใจพืช ทำได้ไม่ยาก

ปัจจุบัน เทรนด์รักสุขภาพ ก็ยังคงนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะทำอาหารทานเองกันที่บ้านแล้ว หลาย ๆ คนก็ยังสนใจมา ปลูกผักกินเอง กันอีกด้วย และการเลือก “ดินปลูกผัก” ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึง เพื่อให้การปลูกผัก ออกดอก ออกผลสวยงาม และมีประสิทธิภาพที่สุด แล้วจะปรุงดิน สำหรับปลูกผัก อย่างไรบ้างนั้น ตาม SGE ไปดูกันเลยดีกว่า ทำได้ไม่ยากอย่างแน่นอน

ดินปลูกผัก เป็นปัจจัยสำคัญของรากพืช และแหล่งธาตุอาหาร ที่พืชใช้ในการเจริญเติบโต ดินปลูกที่ดี จะต้องมีความโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำดี มีธาตุอาหาร และอินทรียวัตถุ ที่เพียงพอ ไม่มีเชื้อโรค แมลง ที่เป็นอันตรายกับพืชด้วย

ชนิดของดิน มีอะไรบ้าง?

ดิน แบ่งเป็น 3 ชนิด ตามลักษณะของเนื้อดิน ได้แก่

• ดินเหนียว เนื้อดินมีอนุภาคค่อนข้างละเอียด ดูดซับน้ำได้ดี เกาะตัวกันแน่น ทำให้การระบายน้ำไม่ดี ส่งผลเสียต่อรากพืชในอนาคตได้
• ดินร่วน เหมาะกับการปลูกพืชผัก เพราะมีส่วนผสมของดินทราย และดินเหนียว ในปริมาณที่เหมาะสม ดูดซับน้ำได้ปานกลาง เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์
• ดินทราย มีอนุภาคของเนื้อดินหยาบ มีทรายผสมมาก จึงไม่เกาะตัว ไม่สามารถอุ้มน้ำได้ และมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ

สีของดิน บอกอะไรได้บ้าง?

เรียกได้ว่า ดินแต่ละชนิดนั้น มีความแข็ง และการอุ้มน้ำ ที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะแยกไม่ออกว่าดินนั้น เป็นดินอะไร สังเกตุเบื้องต้นคร่าว ๆ ได้จาก สีของดิน จะช่วยประเมินความอุดมสมบูรณ์ การระบายน้ำ และปริมาณอินทรียวัตถุของดินได้ เช่น

• ดินสีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำ มักจะเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เพราะมีการคลุกเคล้าด้วยอินทรียวัตถุมาก โดยเฉพาะดินชั้นบน
• ดินสีเหลือง หรือดินสีแดง เป็นสีออกไซด์ของเหล็ก และอลูมิเนียม เป็นที่ดินมีพัฒนาการสูง ผ่านกระบวนการผุพังสลายตัวมานาน ดินมีการระบายน้ำดี แต่มักจะมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ
• ดินสีเทา หรือสีน้ำเงิน บอกถึงสภาพขังน้ำ และแห้งเป็นบางช่วง ทำให้แร่เหล็กในดินเปลี่ยนสภาพ เกิดเป็นสีประ เช่น ดินนาในพื้นที่ลุ่ม หรือดินในพื้นที่ป่าชายเลนที่มีน้ำทะเลท่วมถึงอยู่เสมอ เป็นต้น

วิธีปรุง ดินปลูกผัก ทำได้อย่างไรบ้าง?

เรียกได้ว่า หัวใจสำคัญของการปลูกผักให้งาม คือ การปรุงดินให้ดี และดินในเมือง ส่วนใหญ่เป็น ดินถม ที่มีลักษณะเนื้อดินเป็นดินเหนียว ดินเป็นกรดจัดถึงเปรี้ยว ระยะเวลาที่ใช้ในการปรับปรุงดินจนเหมาะสมต่อการปลูกพืชผัก ขึ้นอยู่กับความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของดินด้วย

ก่อนจะไปปรุงดินนั้น มาทำหัวเชื้อหมักจุลินทรีย์กันก่อน

วิธีทำน้ำหมักจุลินทรีย์ เก็บกิ่งไม้ ใบไม้ที่มาราขาวมา เตรียมไว้ จากนั้น เตรียมน้ำ ผสมน้ำตาล โดยอัตราส่วนประมาณ 20 ลิตร ต่อน้ำตาล 1 กิโลกรัม นำกิ่งไม้ ใบไม้ที่มีราขาวแช่ลงไป ใช้กระดาษปิด เพื่อให้มีอากาศลงไปบ้าง หมักทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน สามารถนำน้ำนั้นมาใช้เป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์ได้

การปรุงดินปลูกผัก สำหรับดิน ที่มีค่า pH 3-4

หากดิน มีค่า pH 3-4 จะใช้เวลาปรุงดิน ประมาณ 2-3 เดือน ทำได้ดังนี้

• เติมวัสดุปูน เช่น ปูนขาว ปูนมาร์ล โดโลไมท์ อัตรา 1-1.5 กิโลกรัมต่อตารางเมตร (2,000 กิโลกรัมต่อไร่) เติมแกลบดิบ 2 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และปุ๋ยคอก 2-3 กิโลกรัมต่อตารางเมตร คลุกเคล้าให้เข้ากัน
• รดด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 4 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10 ลิตร หรือรดด้วยปุ๋ยอินทรีย์เข้มข้นที่มีฮิวมิค 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10 ลิตรร่วมด้วย
• หมักดินทิ้งไว้ 2-3 เดือน ระหว่างหมักให้คลุมดินด้วยฟาง หรือสแลน รดน้ำ 2 วันครั้ง รดน้ำหมักทุก 7 วัน และพรวนดินทุก 15 วัน ใช้เวลาประมาณ 30-90 วัน ดินจะเริ่มฟู และมีสีคล้ำออกดำขึ้น สามารถเพาะปลูกพืชได้

การปรุงดินปลูกผัก สำหรับดิน ที่มีค่า pH 4-5

หากดิน มีค่า pH 4-5 จะใช้เวลาในกาปรุงดิน ประมาณ 1 เดือน ทำได้ดังนี้

• ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เม็ด 1 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และแกลบดิบ 1 กิโลกรัมต่อตารางเมตร คลุกเคล้าให้เข้ากัน
• รดด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 4 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10 ลิตร ระหว่างหมักให้คลุมดินด้วยฟาง หรือสแลน รดน้ำ 2 วันครั้ง รดน้ำหมักทุก 7 วัน ใช้เวลาประมาณ 30 วัน ดินจะฟูขึ้น สามารถเพาะปลูกพืชได้

การปรุงดินปลูกผัก สำหรับดินถุง

สำหรับบ้านที่ไม่มีพื้นที่ดิน ไว้ปลูกผัก สามารถใช้ดินถุงได้เช่นกัน แต่ควรนำดินมาปรุงใหม่ ให้มีอัตราส่วนที่ดีขึ้น ดังนี้

• ผสมดินถุง กับปุ๋ยคอก และกาบมะพร้าวสับ อย่างละ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
• รดด้วยน้ำ หรือน้ำหมักชีวภาพให้พอชุ่ม
• จากนั้น ตักดินใส่ถุง หรือกระสอบที่มีรูระบายอากาศ ตั้งทิ้งไว้ในที่ร่มประมาณ 15 วัน สามารถนำมาปลูกผักได้

นอกจากนี้ สามารถใช้วิธีนำดินถุง มาผสมกับปุ๋ยคอก เศษใบไม้แห้ง หรือเศษอาหาร ที่เหลือทิ้งในครัวเรือน คลุกเคล้ากับน้ำหมักจุลินทรีย์ ในปริมาณที่เหมาะสม เมื่อผสมดินเรียบร้อย รดน้ำให้พอชุ่ม ทดลองกำดินผสมว่า จับเป็นก้อนไม่แตก บีบแล้วไม่มีน้ำไหล ถือใช้ได้ จากนั้น ตักดินใส่ถุง หรือกระสอบที่มีรูระบายอากาศ ตั้งทิ้งไว้ในที่ร่ม ประมาณ 15 วัน สามารถนำมาปลูกผักได้เช่นกัน

การปรุงดินปลูกผัก สำหรับดินเหนียว และดินทราย

• ดินเหนียวที่มีความแน่น ควรปรับสภาพดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก แกลบดิบ ใบไม้แห้ง ขี้เถ้า เป็นต้น เพื่อให้ดินมีความร่วนซุย ระบายน้ำ และอากาศได้ดีขึ้น เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ รากพืชชอนไชลงไปในดินได้ง่ายขึ้น
• ดินทราย ควรปรับสภาพดินด้วยอินทรียวัตถุที่อุ้มน้ำได้ดี เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือดินปลูก อัตรา 1-2 กิโลกรัม และขุยมะพร้าว 1 กิโลกรัมต่อตารางเมตร หรือจะใช้ทรายหยาบ ขี้เถ้าแกลบ แกลบดิบ ขี้เลื่อย กาบมะพร้าวสับ และเศษใบไม้แห้งแทนขุยมะพร้าวก็ได้ ผสมลงแปลงให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 15 วัน จะทำให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น

จบไปแล้ว วิธีผสมดินปลูกผัก ปรุงดินปลูกผัก ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหม เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยให้พืช มีผลผลิตดี และมีคุณภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ไม่ยากเลยสักนิด ใครที่กำลังจะปลูกผักไว้ทานเองที่บ้าน อย่าลืมนำเอาวิธีปรุงดิน ที่เรามาแชร์นี้ ไปลองทำกันดูนะจ๊ะ

บทความดี ๆ น่าอ่าน:

• ปลูกผักกินเอง ปลูกง่าย โตไว ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน
• How to เตรียม ดินปลูกต้นไม้ ได้ดินคุณภาพ พืชโตไว
• “ธาตุอาหารพืช” ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต มีอะไรบ้าง?
• การเลือกซื้อผัก ให้สด สะอาด ปลอดภัย ทำได้อย่างไร?
• รู้จัก ขยะอินทรีย์ คืออะไร นำมาทำอะไรได้บ้าง?
• วิธีทำปุ๋ยหมัก แบบง่ายๆ เปลี่ยนขยะให้มีประโยชน์!

นอกจากนี้ SGE ของเรายังมี อุปกรณ์การเกษตร ให้เลือกสรรอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สแลนกันแดด กระถางผ้าปลูกต้นไม้ ผ้าคลุมดิน และอีกมากมายให้เลือกชมกัน พร้อมบริการดี ๆ หลังการขาย ที่แสนประทับใจอย่างแน่นอน สามารถเลือกชมสินค้าได้ www.sgethai.com

อ้างอิงข้อมูลจาก: www.baanlaesuan.com, thaicityfarm.com