รีวิวชาแบบไหนเหมาะสำหรับทำ ชาเย็น ชาไทย อร่อยๆ กินเองที่บ้าน
ชาเย็น ชาไทย เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่ใครหลายๆ ต้องสั่งเมื่อไป ร้านอาหาร ร้านกาแฟรถเข็น คาเฟ่ ต้องสั่งทุกราย เนื่องมาจากรสชาติที่เข้มข้น หวานมัน กลมกล่อม มีกลิ่นหอมๆ จากชา ดื่มแล้ว ช่วยดับร้อน ดับกระหาย ได้ดีทีเดียว หลายๆ ท่านยังคงสับสนกับชื่อเรียก เวลาจะสั่งชาซักแก้ว ก็กลัวจะสั่งผิด สั่งถูก โดยชาเย็น ชาไทยนั้นที่เราจะสั่งมีหลักๆ จะ มี 3 แบบ
1. ชาดำเย็น จะมีส่วนผสมคือ ชาดำ น้ำตาล น้ำแข็ง สีที่ได้จะออกไปทางส้มเข้มๆ น้ำใส เนื่องมาจากไม่ใส่นม ส่วนรสชาติจะออกหวานนำ มีกลิ่นชาหน่อย สีจะออกส้มเข้มๆ น้ำจะออกใส เนื่องจากไม่ได้ใส่นม
2.ชานม จะเป็นชาชมที่มีสีขาวๆ ส่วนใหญ่จะนิยมกินกับไข่มุก ส่วนผสม ผงชาสีออกขาว (ส่วนใหญ่ใช้ชาไต้หวัน) น้ำเชื่อม
ส่วนใหญ่หลายร้านมักจะมีปัญหาจำสลับ กับ ชาเย็น จึงต้องเสริมคำว่า ชาไต้หวันเข้าไปด้วย ถึงจะเข้าใจตรงกัน
3.ชาเย็น / ชาไทย อันนี้คือเมนูที่เราจะสั่งกันส่วนใหญ่ จะมีส่วนผสม ใบชา / ชาผง นมข้น ราดด้วยนมจืด สีที่ได้ออกสีส้มอ่อนๆ
น้ำจะข้นเนื่องจากใส่นมสด นมข้น รสชาติ จะมีความ หอมชา หวานมัน ส่วนใหญ่ถ้ากลัวจะเรียกผิดนอกจากบอก ชาเย็นแล้วจะเสริมคำว่า ชาไทย เข้าไปด้วย
“ ชาเย็น ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ให้ปริมาณแคลอรี่ (Calorie) ถึง 300 + แคลอรี่ (Calorie) ยิ่งหากใส่ Topping เช่น วิปปิ้งครีม ไข่มุก แคลอรี่ก็ปาเข้าไปถึง 400 เลยที่เดียว ”
ชาไทย มีแบบไหนบ้าง หรือ มีกี่ประเภท?
จริงๆ ถ้าพูดถึงชานั้นมีอยู่หลากหลายชนิดมากๆ ที่เราเคยได้ยินก็จะมี ชาอู่หลง ชาเขียว ชาสมุนไพร ชาดำ ชากุหลาบ ชามะลิ ชาขาว ซึ่งคยคงไม่ทราบว่าทุกชนิดที่กล่าวมานั้นสามารถทำได้จากชาเพียงต้นเดียวกัน โดยอาจจะผ่านกรรมวิธีที่ต่างกัน โดยการเด็ดใบชานั้น จะมีการเด็ดอยู่เป็นระดับ ใบบนสุด (ยอดอ่อนใบชา) นิยมนำใช้ทำชาขาว ระดับที่ 2 จะเก็บเฉพาะใบชา 3 ใบบน ชาที่ได้จะนำมาใช้ทำ ชาเขียน ชาดำ ชาคุณภาพสูง ระดับที่ 3 ถือว่าจะเป็นใบที่ระดับต่ำลงมาประมาณใบที่ 4 ในแต่ละชานั้นยังมีตัวแปรที่จะทำให้เกิดความแตกต่างด้านรสชาติ ลักษณะใบชา สี กลิ่น คือสถานที่ปลูก ดิน น้ำ สภาพแวดล้อม และที่สำคัญเลยคือกระบวนการต่างๆในการผลิตชา ปัจจัยที่จะทำให้รสชาติของชาสามารถเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นดิน, น้ำ หรืออากาศที่ใช้ในการปลูกก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้กลิ่นและรสของชานั้นแตกต่างกัน ซึ่งชาก็สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ชาไม่หมัก, ชากึ่งหมัก และชาหมัก
เลือกชามาชงยี่ห้อไหน แบบไหนดี ?
ชาตรามือ ชาไทย ฉลากสีทอง
ชาตรามือสีทอง ชานี้จะต่างจากชาตรามือสีแดงที่เรารู้จักกันดี ด้วยการปรับปรุงทั้งรสชาติ และ กลิ่นหอม เข้มข้นมากกว่าชาสีแดง ดังนั้นถ้าหากใช้ชงกับเครื่องดื่มที่ต้องผสมนมเช่นชาเย็น ก็จะทำให้มีรสชาติที่อร่อยกว่าชาสีแดง ถุง 400 กรัม ราคาประมาณ 87 บาท
ชาซีลอนโบราณตราแพะ
ชาตราแพะเป็นใบอีกหนึ่งชาคุณภาพที่เปิดมานาน กว่า 40 ปี หลายๆ ผลิตจากใบชาคุณภาพชั้นดี คัดพิเศษ จึงทำชามีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ คือ มีกลิ่นหอมนุ่ม ชุ่มคอ ร้านกาแฟหลายๆ ร้านก็นิยมใช้ยี่ห้อนี้เรียกว่านิยมใช้รองๆ จากตรามือเลย ราคา 1 ห่อ 200 กรัม ประมาณ 35 บาท เรียกว่ามีติดบ้านไว้ไม่ผิดหวัง
ชาตรามังกรบิน
เป็นผงชาแดงโบราณ รสชาติหอมกลิ่นชาแบบโบราณแท้ๆ ผลิตด้วยชาจากยอดดอย ชาที่ชงจะมีสีเข้มสวย ถูกนำมาใช้ในร้าน ชากาแฟ อยู่ไม่น้อยโดยยี่ห้อนี่ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่อยู่มานานกว่า 60 ปี ราคา 220 กรัม ประมาณ 35 บาท
ชาตรามือ สีแดง
ชาตรามือสีแดง ที่เราคุ้นเคย ร้านชากาแฟเกือบทุกร้านต่างใช้ยี่ห้อนี้มาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า รสชาติของชาตรามือจะมีกลิ่นหอมของชาที่เป็นเอกลักษณ์ ดม หรือกลิ่นจะรู้ทันทีเลยว่าเป็นชาตรามือ ซึ่งมีราคาที่ไม่แพง ขนาด 400 กรัม ราคา 55 บาท
ชาผง ตราช้างทอง สูตรชาไทย
หลังๆ อันนี้มีคนแนะนำมาค่อนข้างเยอะมาก รสชาติค่อนจะนุ่ม แบบไทยๆเลย กลิ่นชา หอม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถนำไปผสมกับชาอื่นๆ ในเครือ หรือจะผสมกับชาตรามือรสชาติออกมาไม่เลวเลย ควรจะมีติดบ้านไว้ชงต้อนรับแขกไฟ ใครมา
สนนราคาที่ 400 กรัม 55 บาท
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับชาได้ที่
ประโยชน์ของ “ชาอู่หลง” ที่คุณอาจยังไม่รู้
Kombucha (ชาหมัก) คืออะไร มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรือ?