รู้จักกับข้อดี-ข้อเสีย “ยาฆ่าหญ้า” ใช้งานอย่างไรให้ถูกวิธี
ในปัจจุบันนั้น เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยว่า เกษตรกรบางกลุ่มก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ ยากำจัดวัชพืช หรือยาฆ่าหญ้าอยู่อย่างแน่นอน ด้วยเหตุผลอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้เกษตรกร มีความจำเป็นจะต้องใช้สารเคมีประเภทนี้อยู่ เพราะการเพาะปลูกพืชผักและผลไม้ทางการเกษตรนั้น คงจะหลีกเลี่ยงได้ยากว่าวัชพืชจะไม่ขึ้นหรือมีเลยในแปลงเกษตร การใช้ยาฆ่าหญ้า หรือยากำจัดวัชพืชก็เป็นอีกทางเลือก เพื่อให้ได้ผลเร็วและเห็นผลในทันที
บทความนี้ SGE จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ยาฆ่าหญ้า ว่ามีอะไรบ้าง? ข้อดี-ข้อเสียเป็นอย่างไร? และการใช้งานให้ถูกวิธีนั้นทำได้อย่างไร?
รู้จักกับ “ยาฆ่าหญ้า”
ยากำจัดวัชพืช สารกำจัดวัชพืช หรือ ยาฆ่าหญ้า เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ฆ่าพืชที่ไม่ต้องการ ยากำจัดวัชพืชใช้ในการจัดการพื้นที่รกร้างหรือควบคุมวัชพืชในการเกษตร ยากำจัดวัชพืชมีการใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ยาฆ่าหญ้ามีทั้งชนิดเลือกทำลายและไม่เลือกทำลาย ชนิดเลือกทำลาย มีฤทธิฆ่าพืชเฉพาะชนิด เช่น 2,4-D ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าทำลายเฉพาะพืชใบกว้าง โดยอาศัยส่วนประกอบทางเคมี ที่เป็นฮอร์โมนพืชสังเคราะห์ ซึ่งเมื่อถูกดูดซึม จะไปรบกวนเฉพาะกระบวนการเติบโตของพืชใบกว้าง ชนิดไม่เลือกทำลายมีฤทธิฆ่าพืชทุกชนิด เช่น ไกลโฟเซต และพาราคว็อท
สารกำจัดวัชพืช หมายถึง สารเคมีใด ๆ ก็ตาม ที่นำมาใช้เพื่อฆ่าทำลลาย หรือยับยั้งการเจริญเติบโตของวัชพืช ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่วัชพืชงอกขึ้นมาแล้ว หรือยังเป็นเมล็ดอยู่ ตลอดจนชิ้นส่วนต่าง ๆ ของวัชพืชที่ขยายพันธุ์ได้ที่อยู่ในดิน หรืออยู่บนดิน
ประเภทของยาฆ่าหญ้า
ชนิดของสารกำจัดวัชพืช สามารถแบ่งชนิดออกได้หลายแบบ แต่ส่วนใหญ่นิยมจำแนกตามช่วงเวลาการใช้
-
สารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนปลูก
ใช้พ่นก่อนการตรียมดิน เพื่อฆ่าวัชพืชที่ขึ้นอยู่ก่อน แล้วจึงไถเตรียมดิน หรือใช้พ่นฆ่าวัชพืชแทนการเตรียมดินแล้วปลูกพืชเลย สารกำจัดวัชพืชประเภทนี้ได้แก่ ไกลโฟเซต, พาราควอต, อาทราซีน และ อามีทรีน เป็นต้น
-
สารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนงอก หรือที่เรียกกันว่ายาคุมหญ้า
จะใช้ฉีดพ่นหลังปลูกพืชไปแล้ว แต่ก่อนที่วัชพืชจะงอก ช่วงไม่เกิน 10 วัน เป็นการฉีดพ่นที่ผิวดินโดยตรง สารกำจัดวัชพืชจะเข้าไปทำลาย เมล็ด ราก และยอดอ่อนใต้ดินของวัชพืช ควรฉีดพ่นดินที่มีความชื้นเหมาะสม สารกำจัดวัชพืชประเภทนี้ ได้แก่ บิวทาคลอร์, เพรททิลาคลอร์, อ๊อกซาไดอะซอน และอะซีโทคลอร์ (เบติส) เป็นต้น
-
สารกำจัดวัชพืชประเภทหลังงอก หรือที่เรียกกันว่ายาฆ่าหญ้า
เป็นสารเคมีที่ใช้ฉีดพ่นหลังจากวัชพืชงอกแล้วเกินกว่า 10 วัน ขณะที่ฉีดพ่น ควรให้สารกำจัดวัชพืชสัมผัมกับส่วนของวัชพืชให้มากที่สุด สารกำจัดวัชพืชประเภทนี้ ได้แก่ กลุ่มยา 2,4-ดี โซเดียมซอลท์ (เอชโซนัส 95), ฟิโนซาพรอบ-พี-เอทิล, ไตรโคลเพอร์ บิวทอกซีเอทิล เอสเทอร์ (การ์ลอน) และฮาโลซีฟอป อาร์ เมทิล (กาลแล็นท์) เป็นต้น
วิธีใช้ยาฆ่าหญ้าอย่างถูกวิธี ทำได้อย่างไร?
ยาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืช เป็นสารที่ใช้เพื่อฆ่าห รือยับยั้งการเจริญของวัชพืช มีข้อดี คือ สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพที่ดีในการควบคุมวัชพืช แต่เพื่อความปลอดภัยและความเป็นประโยชน์สูงสุด จึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสารกำจัดวัชพืช ทั้งเรื่องชนิด การเลือกใช้ และวิธีใช้ยาฆ่าหญ้าที่เหมาะสม
สิ่งที่ควรรู้เป็นอันดับแรกเกี่ยวกับสารกำจัดวัชพืช คือ
- สารออกฤทธิ์ หรือสารสำคัญ หรือ Active ingredient (a.i.) คือ ส่วนของสารเคมีหลัก ที่มีผลในการควบคุมวัชพืช โดยในสารกำจัดวัชพืชต่าง ๆ จะต้องระบุเอาไว้ชัดเจนว่ามีสารออกฤทธิ์เป็นสารใด และมีปริมาณเท่าไหร่
- สารผสม หรือ Inert ingredient หมายถึง สารอื่น ๆ ที่ใส่เข้ามาผสมด้วย เป็นสารที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ในทางอ้อม เช่น สารจับใบ สารละลาย สารลดแรงตึงผิว
- ชื่อสามัญ หรือ Common name เป็นชื่อที่ตกลงกันไว้ของสารออกฤทธิ์ ที่ไม่ใช่ชื่อทางการค้า เมื่อมีการพูดถึง จะเข้าใจตรงกันว่าเป็นยาชนิดใดในท้องตลาด
โดยทั้ง 3 ข้อนี้ จะมีระบุอยู่ที่ฉลากของสารกำจัดวัชพืช สามารถใช้เป็นข้อพิจารณา เพื่อการเลือกซื้อสารกำจัดวัชพืชได้ ดังนั้น เมื่อต้องทำการเลือกซื้อ จึงควรดูทั้ง 3 สิ่งนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อ เพื่อที่จะได้ไม่ซื้อสารกำจัดวัชพืชที่ซ้ำกัน หรือออกฤทธิ์แบบเดียวกัน
ข้อควรปฏิบัติของการใช้ยาฆ่าหญ้า
- ควรเลือกใช้ให้ถูกชนิด และถูกวิธี โดยสารกำจัดวัชพืช หรือยาฆ่าหญ้าชนิดนั้น ๆ ต้องเหมาะสม และมีฤทธิ์สารตกค้างในระยะสั้น และควรสลายตัวอย่างเร็ว ไม่ควรที่จะใช้สารเคมีที่มีความรุนแรงจนเกินไป
- ควรใช้ยาฆ่าหญ้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และควรเลือกใช้เพียงชนิดเดียวในการฉีดพ่นในแต่ละครั้ง
- ควรอ่านรายละเอียดบนตัวผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนและถี่ถ้วน และควรปฏิบัติตามขั้นตอนของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ อย่างเคร่งครัด และหมั่นหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา
- ควรสวมเสื้อผ้าป้องกันให้มิดชิด ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย ถุงมือ ชุดป้องกัน หรือเสื้อผ้าหนา ๆ ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ หรือฟรีสไตล์ ในขณะฉีดพ่น เพราะจะส่งผลกระทบต่อตัวผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย
- ทำความสะอาดร่างกายทุกครั้ง หลังจากฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าเสร็จทันที เพื่อไม่ให้มีสารตกค้างในร่างกายมากเกินไป
- ควรเทส่วนผสมที่ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะและพอควร ตามที่ฉลากบนผลิตภัณฑ์นั้น ๆ กำหนด ไม่ควรเทมากหรือน้อยเกินไป และควรเว้นระยะในการเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากการฉีดพ่นแล้วสักระยะ
ที่สำคัญเลยเมื่อเราทำการฉีดพ่นสารเคมีไปแล้ว ไม่ควรให้บุคคลอื่น หรือตัวเกษตรกรเอง เข้าไปในพื้นที่อย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ควรมีระยะเวลาให้สารเคมีสลายตัวก่อน จึงจะเข้าไปยังพื้นที่ได้ เพราะถ้าเข้าไปในทันทีนั้น สารเคมีจะสะสมในร่างกาย หรือบางรายอาจจะแพ้ จะก่อให้เกิดอันตรายอาจจะถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้
สารกำจัดศัตรูพืชที่สำคัญในการเกษตรของประเทศไทย มีอะไรบ้าง?
เป็นยากำจัดวัชพืช ที่มีการใช้มากที่สุดในประเทศไทย ทำงานโดยหยุดยั้งการเติบโตของเซลวัชพืช และทำให้เนื้อเยื่อของเซลนั้นแห้งตายลง |
เป็นยากำจัดวัชพืช โดยวิธีฉีดพ่นและดูดซึมทางใบ วิธีฉีดเข้าลำต้น หรือหยอดที่ยอด |
เป็นฮอร์โมนพืช (ออกซิน) สังเคราะห์ โดยถ้าใช้ในความเข้มข้นต่ำ จะกระตุ้นการเจริญเติบโต ถ้าใช้ในความเข้มข้นสูง จะเป็นสารกำจัดวัชพืชใบกว้าง เพราะมีฤทธิ์ของความเป็นออกซินสูงมาก โดยวัชพืชใบกว้าง ซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ จะไวต่อการตอบสนองต่อ 2,4-ดี มากกว่าพืชใบแคบ ซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว |
เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้ป้องกันวัชพืชก่อนที่วัชพืชจะงอก เพื่อป้องกันวัชพืช เช่น หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าดอกขาว กกขนาก หนวดปลาดุก กกทราย และ ขาเขียด |
เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืชพวกใบแคบ เช่น หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าดอกขาว |
เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืชประเภทหญ้า เช่น หญ้าดอกขาว หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าแดง |
เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืช เช่น หญ้าข้าวนก หญ้าดอกขาว หญ้าแดง กกขนาก กกทราย หนวดปลาดุก ขาเขียด ผักปอดนา |
เป็นยากำจัดวัชพืช ที่ใช้กำจัดวัชพืช เช่น กกขนาก หนวดปลาดุก ขาเขียด ผักปอดนา ผักแว่น |
ข้อดี-ข้อเสีย โทษของยาฆ่าหญ้า
- การใช้ยาฆ่าหญ้านั้น นอกจากจะส่งผลในระยะยาวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อตัวเกษตรกรผู้ที่ใช้อีกด้วย ทั้งนี้ยาฆ่าหญ้าสามารถเข้าสู่ร่างกายของผู้ใช้ได้ โดยการเข้าสู่ทางผิวหนังของผู้ใช้ การสูดลมหายใจเข้าไป และการกลืนกินหรือดื่มน้ำ โดยแต่ละวิธีนี้จะมีเข้าสู่ร่างกายที่แตกต่างกันไป โดยการกลืนกินนั้นจะพบมากในช่วงที่ฉีดพ่นสารเคมีและละอองของสารเคมีนั้นไปตกอยู่น้ำดื่มบ้าง หรือแม้กระทั่งอาหารที่เกษตรกรนำไปด้วยบ้างนั่นเอง
- ส่งผลให้คนรอบข้างที่เดินผ่านไปมาในบริเวณใกล้เคียงได้รับสารเคมีโดยการสูดเอาอากาศที่มีละอองสารเคมีเข้าสู่ร่างกายแบบไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทั้งในพื้นที่แปลงเกษตร และสภาพอากาศ ที่จะทำให้เกิดดินเสื่อมโทรม อากาศเป็นพิษ ภาวะโลกร้อนจากการใช้สารเคมีเป็นประจำ
- การเกิดพิษแบบเฉียบพลัน จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับสารเคมีในปริมาณที่มากแบบทันที จะก่อให้เกิดอาการปวดศรีษะ มึนงง และคลื่นไส้อาเจียน เป็นตะคริว หายใจติดขัด และอาการอาจรุนแรงขึ้นถึงขั้นเสียชีวิตได้
- นอกจากนี้ ยังมีแบบเกิดอาการรุนแรงเฉพาะจุดและแบบเรื้อรัง ซึ่งถ้าเป็นอาการเฉพาะจุดจะเกิดขึ้นในบริเวณที่โดนสารเคมีชนิดนั้นบ่อย อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง และอาการแพ้ หรือมีรอยไหม้แดง หรือในกรณีที่เป็นหนัก จะทำให้สามารถหลุดเป็นแผ่น ๆ ได้
- ส่วนในกรณีที่เป็นแบบเรื้อรัง กรณีนี้จะแสดงผลค่อนข้างช้า แต่จะมาเริ่มทราบภายหลังเมื่อได้รับพิษไปแล้ว อาจจะกินระยะเวลานานเป็นเดือน หรือเป็นปี ขึ้นอยู่กับการต้านทานในร่างกายของแต่ละคน อาจจะก่อให้เกิดอาการเป็นหมัน หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มะเร็ง หรือพาร์กินสัน ได้ ในกลุ่มของ paraquat จะมีการผสมสีฟ้าลงและสารทำให้อาเจียนลงไป เพื่อป้องกันมิให้สับสนกับเครื่องดื่ม เพราะหากรับประทานเข้าไป อาจมีผลกระทบรุนแรงต่อปอด ตับ หรือไตวายได้
อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้ว หากไม่มีอาการรุนแรงมากนัก เมื่อผู้ที่ได้รับพิษจากสารเคมีให้นำผู้ที่ได้รับพิษนั้นนอนในที่ร่มโดยให้ห่างจากแปลงที่พ่นยาฆ่าหญ้า และให้ทำความสะอาดร่างกายในส่วนที่โดนสารเคมีด้วยสบู่หรือน้ำสะอาด แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นหัวใจเต้นอ่อน ควรจะรีบนำส่งโรงพยาบาล หรือถ้าหากหัวใจหรือชีพจรเต้นช้าให้ทำการผายปอดเบื้องต้น เพื่อให้หัวใจนั้นสามารถกลับมาทำงานได้ปกติ และรีบนำส่งโรงพยาบาลในทันที ที่สำคัญเมื่อนำส่งโรงพยาบาลแล้วจะต้องบอกรายละเอียดของสารเคมีชนิดนั้นว่าชื่ออะไร ประเภทไหน ให้ได้มากที่สุด หรือถ้ามีฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นไปด้วยก็จะเป็นการดี
อย่างไรก็ตาม ถ้าเลี่ยงการใช้สารเคมีได้ก็ควรจะเลี่ยงดีกว่า เพื่อสุขภาพของเราและคนรอบข้าง หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนนำมาใช้ด้วย 👍 หรือลองมองหาตัวช่วยทุ่นแรงอย่าง เครื่องตัดหญ้า เป็นทางเลือกดีไหม? อุปกรณ์การเกษตรที่ได้มาตรฐาน แข็งแรง ทนทาน อุปกรณ์การเกษตรของเรามีให้เลือกมากมาย รับประกันคุณภาพอย่างแน่นอน
30 มกราคม 2024
โดย
ลำดวน