มัดรวม อาหารที่มีกากใยสูง ขับถายคล่อง ผิวพรรณผ่องใส

ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาท้องผูก แน่นท้อง อึดอัดท้อง ถึงแม้ว่าปัญหาเหล่านี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่บอกเลยว่าไม่เล็กอย่างที่คิด เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ และลำไส้ได้ 😥 จึงทำหลายคนคงกำลังมองหา วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยการทาน กากใยอาหาร “อาหารที่มีกากใยสูง” กันมากขึ้น

วันนี้ SGE จะพาไปดูกันว่าจะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

ร่างกายคนเราต้องการใยอาหารวันละ 25 กรัม จึงควรรับประทานผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงกระตุ้นระบบขับถ่าย แก้อาการท้องผูกได้ อีกทั้งยังช่วยดักจับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้อีกด้วย

5 อาหารที่มีกากใยสูง มีอะไรบ้าง?

• ข้าวกล้อง มีเส้นใยสูงมากกว่าข้าวขาวถึง 3-7 เท่า ซึ่งเส้นใยนี้จะช่วยซับเอาน้ำมันและน้ำตาลที่กินเข้าไปเป็นส่วนเกินทิ้งเป็นกากอุจจาระ ช่วยลดอาการท้องผูกได้อีกด้วย
• ผักใบเขียว เช่น คะน้า เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีและเกลือแร่จำนวนมาก ในใบคะน้าดิบ 2 ถ้วย มีปริมาณไฟเบอร์ถึง 4-8 กรัมเลย
• ถั่ว เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงมีไขมันไม่อิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณที่สูง ซึ่งไขมันในถั่วเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย และเป็นประโยชน์ต่อระบบการเจริญเติบโตและผิวหนัง
• แอปเปิ้ลเขียว อุดมไปด้วยไฟเบอร์ถึง 4 กรัม ต่อ 1 ผล ซึ่งดีต่อระบบขับถ่ายและลำไส้แบบสุดๆ
• อะโวคาโด เนื้อครีมของอะโวคาโดเป็นแหล่งของใยอาหาร เนื้ออะโวคาโดเพียง 2 ช้อนโต๊ะ สามารถให้ไฟเบอร์มากถึง 2 กรัม และในอะโวคาโดหนึ่งผลอาจให้ไฟเบอร์ถึง 10 กรัม เลยทีเดียว 👉🏻 สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ อะโวคาโด ได้ตามนี้

เพราะในแต่ละวันร่างกายจำเป็นต้องรับกากใยประมาณวันละ 25-30 กรัม หรือมากกว่านั้น จึงจะทำให้ระบบขับถ่าย และระบบลำไส้ทำงานได้ปกติ เปลี่ยนจากอาหารไขมันสูงมากินอาหารที่มีกากใยสูงกันเถอะ!

ผักที่มีกากใยสูง มีอะไรบ้าง?

1. ดอกสะเดา
ดอกสะเดา 100 กรัม มีไฟเบอร์ถึง 11.6 กรัม ใบสะเดาเป็น ผักที่มีกากใยสูง อีกทั้งยังมีรสขมฝาด จึงช่วยขับน้ำย่อยอาหารทำให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงน้ำดี ซึ่งมีฤทธิ์ในการย่อยอาหารประเภทไขมันได้ดี ทำให้อาหารพวกไขมันถูกย่อยมากขึ้น

2. ใบเหลียง
ใบเหลียง หรือ ผักเหมียง รสชาติหวานมัน เป็นผักที่นิยมรับประทานกันทางภาคใต้ ใบเหลียง 100 กรัม มีปริมาณไฟเบอร์ 8.8 เป็นผักที่มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในการทำงานของระบบลำไส้ ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายของเสียได้ดี ลดอาการท้องผูก โรคริดสีดวงทวาร

3. ดอกแค
ดอกแคมีสีขาว หรือสีแดง มีกากใยอาหารสูงมาก ดอกแค 100 กรัม มีไฟเบอร์ถึง 7.2 กรัม จึงช่วยเพิ่มกากใยให้ขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น ป้องกันอาการท้องผูกได้ดี

4. ขนุนอ่อน
ผลขนุนอ่อน มีกากใยสูง จึงเป็นยาระบายอ่อน ๆ ขนุนอ่อน 100 กรัม มีปริมาณไฟเบอร์ถึง 6.7 กรัม คนไทยนิยมทำมาปรุงอาหาร แกง ซุป ตำ หรือทานคู่กับน้ำพริก จึงช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

5. ขี้เหล็ก
ขี้เหล็ก 100 กรัม มีไฟเบอร์ถึง 5.6 กรัม จึงเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยแก้อาการท้องผูก ถ่ายเป็นเลือด รักษาโรคริดสีดวงทวารได้อีกด้วย

6. กระเฉด
กระเฉดเป็นผักที่มีความเหนียวและมีกากใยอาหารสูง กระเฉด 100 กรัม มีไฟเบอร์ 5.3 กรัม ใยอาหารจึงช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้อุจจาระนิ่ม ใยอาหารจะช่วยป้องกันอาการท้องผูก

7. โหระพา
ใบโหระพา 100 กรัม มีปริมาณไฟเบอร์ 3.9 กรัม โหระพายังเป็นยาช่วยขับลมในลําไส้ บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหารโดยเฉพาะเนื้อสัตว์

👉🏻 สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ โหระพา ได้ตามนี้

8. กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียว 100 กรัม มีปริมาณไฟเบอร์ 3.2 กรัม เป็นยาระบายอ่อนๆ ทำให้ถ่ายอุจจาระได้คล่อง ช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยแก้โรคบิดได้อีกด้วย โดยการนำกระเจี๊ยบเขียวไปตากแห้งแล้วมาบดเป็นผง จากนั้นผสมกับน้ำร้อนชงดื่มจะช่วยแก้อาการได้ดี

9. ผักกาดขาว
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะมีไฟเบอร์สูงมาก จึงทำให้รับประทานแล้ว อิ่มนานอยู่ท้อง แล้วยังแคลอรี่ต่ำ ในผักกาดยังมีน้ำอุ้มอยู่เป็นจำนวนมาก จึงช่วยกระตุ้นลำไส้ทำให้กากอาหารนุ่มลง จึงขับถ่ายสะดวก แก้อาการท้องผูกได้

10. ตำลึง
มีกากใยอาหารสูงมาก จึงช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้อุจจาระนิ่ม ป้องกันอาการท้องผูก จึงช่วยป้องกันมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร ป้องกันมะเร็งลำไส้ มะเร็งในกระเพาะอาหาร

รู้หรือไม่? 🤔

พฤติกรรมการกิน ส่งผลต่อลำไส้โดยตรง พฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการกินนั้นส่งผลให้ระบบขับถ่ายของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป จากที่จะต้องถ่ายทุกวัน ก็เป็น 3 วันครั้ง บางคนหนักเข้า 7 วันก็ยังไม่ถ่ายเลย เรียกว่ายิ่งเราหมักหมมของเสียไว้นานเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพเท่านั้น สำหรับใครที่มีปัญหาท้องผูก ควรเลือกกินอาหารที่มีกากใยสูงด้วย

ทำไมกากใยถึงดีต่อลำไส้ ถึงแม้ว่ากากใยจะไม่ใช่สารอาหาร แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบขับถ่าย ที่ช่วยทำให้การทำงานของลำไส้ และการขับถ่ายเป็นปกติ โดยกากใยจะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มปริมาณของเสีย และเมื่อกากใยรวมกับอาหารอื่นที่ถูกย่อย และดูดซึมจะทำให้ของเสียเหล่านั้น สามารถเคลื่อนตัวไปตามลำไส้ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้กากใยยังช่วยอุ้มน้ำทำให้ง่ายต่อการขับถ่ายนั่นเอง

รู้อย่างนี้แล้ว ไม่ว่าจะทานอาหารแบบไหนประเภทไหน ก็ให้ประโยชน์กับร่างกายเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน บทความนี้คงให้ความรู้แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย 🥰

สามารถติดตาม บทความอื่นๆ ได้ที่นี่