แจก วิธีทำแยม สูตรนี้ทำง่าย แถมเก็บได้นาน
ฤดูกาลแห่งผลไม้มาถึงเมื่อไร หลายคนคงชอบซื้อผลไม้มาเก็บไว้เต็มบ้าน บ่อยครั้งที่กินไม่ทัน อาจจะต้องโยนทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ จะจับมาทำเครื่องดื่มก็เบื่อแล้ว วันนี้ SGE จะมาบอก “วิธีทำแยม” โฮมเมดง่าย ๆ จับผลไม้เหลือ ๆ มาทำเป็น แยม เอาไว้ทากับขนมปัง หรือแกล้มกับเมนูเบเกอรี่ต่าง ๆ ทำเองง่าย ๆ เก็บได้นาน ไม่ต้องเสียเงินซื้อ สะอาด ปลอดภัย ไร้สารกันบูดด้วย 🤩
แยม คืออะไร?
แยมเป็นอาหารหวานประเภทหนึ่งใช้ทานกับขนมปัง มีลักษณะคล้ายเยลลี่ แต่ไม่จับตัวเป็นก้อน โดยมีวิธีการผลิต คือ การนำของที่จะทำเป็นแยมมาต้มกับน้ำและน้ำตาล ด้วยอุณหภูมิราว 104 องศาเซลเซียส เพื่อให้สารเคมีในตัวของผลไม้ทำปฏิกิริยากับน้ำตาล แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นก็จะได้แยมตามที่ต้องการนั่นเอง
5 สูตร วิธีทำแยม ได้ลองแล้วจะติดใจ!
แยมสตรอว์เบอร์รี
พลาดไม่ได้เลยสำหรับสูตรแยมสตรอว์เบอร์รี แยมสูตรเบสิกที่ใคร ๆ ก็เอามาทาขนมปังกันทั้งนั้น ถ้าได้อ่านสูตรแล้วจะรู้ว่าทำง่ายมาก ๆ ได้ดื่มด่ำกับเนื้อสตรอว์เบอร์รีเน้น ๆ ถ้าไม่ชอบหวานก็ลดปริมาณน้ำตาลทรายลงไปได้เลยจ้า
ส่วนผสม
- สตรอว์เบอร์รีสด หรือแช่แข็ง 1 กิโลกรัม
- น้ำสะอาด ½ ถ้วย
- น้ำตาลทราย 400 กรัม
- เจลาตินชนิดแผ่น แช่น้ำเย็นจนนิ่ม 3 แผ่น
วิธีทำ
- ใส่สตรอว์เบอร์รีลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ จากนั้นเติมน้ำลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ต้มให้เดือด และหมั่นคนเป็นระยะ ๆ เคี่ยวจนสตรอว์เบอร์รีเริ่มนิ่ม จากนั้นกรองเอาเนื้อสตรอว์เบอร์รีออก พักไว้
- เคี่ยวน้ำต่อจนเริ่มงวด ** วิธีสังเกต ให้ยกไม้พายขึ้น จะไม่เป็นหยดแต่จะเป็นเส้นหนืด ๆ จากนั้นปิดไฟ ยกลงจากเตา
- ใส่เจลาตินแผ่นที่แช่น้ำเย็นจนนิ่มแล้ว ลงไปคนผสมให้ละลายเข้ากันดี
- ใส่เนื้อสตรอว์เบอร์รีที่พักไว้ลงไป คนผสมให้เข้ากัน หากต้องการให้เนื้อแยมเป็นลิ่ม หรือแน่นกว่านี้ให้เพิ่มเจลาตินลงไปได้ ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะแล้วนำแช่ตู้เย็น พร้อมเสิร์ฟ
แยมแก้วมังกร
ใครจะไปรู้ว่า แก้วมังกรสีม่วง จะเอามาทำแยมโฮมเมดได้ด้วย ส่วนผสมหลัก ๆ คือ เนื้อแก้วมังกรสีม่วงหั่นเป็นชิ้น ๆ พอเหมาะ แล้วนำไปผสมกับน้ำตาลทราย น้ำมะนาว และเจลาติน พอเคี่ยวจนเหนียวข้นพักไว้ให้เย็น จัดการเก็บใส่กระปุก หรือเอาไปทาขนมปังได้เลย
ส่วนผสม
- เนื้อแก้วมังกรสีม่วง 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 250 กรัม
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- เจลาตินชนิดแผ่น แช่น้ำเย็นจัดจนนุ่ม 1 แผ่น
วิธีทำ
- นำเนื้อแก้วมังกร และน้ำตาลทรายใส่หม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อน
- ในขณะที่เคี่ยวให้ใช้ทัพพีกดให้เนื้อเละ เคี่ยวจนส่วนผสมงวด
- ใส่น้ำมะนาว และเจลาติน เคี่ยวต่อจนเหนียวข้น พักให้เย็น
- ตักใส่ขวดเก็บไว้ พร้อมเสิร์ฟ
แยมแอปเปิล
สำหรับคนที่ชอบกินแอปเปิล ถ้าหากว่าเบื่อกับการกินผลสด ลองเปลี่ยนมาทำแยมแอปเปิลกันดู จะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอมของเมล็ดกระวาน ถ้าชอบกินแยมแบบมีเนื้อก็หั่นชิ้นใหญ่ได้เลย ทำฝาก หรือทำขายก็ดีไม่เบา
ส่วนผสม
- น้ำเย็น
- เลมอน 2 ลูก
- แอปเปิล หั่นชิ้น 6 ลูก
- น้ำตาลทราย 2½ ถ้วย
- เมล็ดกระวาน 5 เม็ด
วิธีทำ
แยมสับปะรด
สูตรแยมสับปะรด แค่เอาสับปะรดไปผสมกับน้ำตาลทราย และเลมอน เคี่ยวจนเหนียวข้น แค่นี้ก็จัดการทาลงขนมปัง หรือเอาไปกินกับโยเกิร์ตก็ได้
ส่วนผสม
- สับปะรดสับ 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 2½ ถ้วย
- เลมอน หั่นบาง ½ ลูก
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
วิธีทำ
- ใส่สับปะรดลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย เลมอน และน้ำเปล่า เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย และส่วนผสมเหนียวข้น
- ทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ขวด พร้อมเสิร์ฟ
แยมมะม่วง
อีกหนึ่งเมนูยอดฮิต ที่ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนทุกเพศทุกวัย เพราะนอกจากรสชาติที่หอมหวานละมุนลิ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เช่น ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสุขภาพหัวใจ เป็นต้น
ส่วนผสม
- มะม่วงสุก
- มะนาว หรือน้ำมะนาว
- น้ำตาล พอประมาณ
วิธีทำ
- เลือกมะม่วงที่ไม่ดิบ และสุกมากจนเกินไป ปอกเปลือกมะม่วงหั่นเป็นชิ้น ๆ นำแกนกลางออก
- ใส่มะม่วงลงในหม้อกับน้ำตาล แล้วคนให้เข้ากัน อาจเพิ่มน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย
- ตั้งไฟต้มให้เดือด คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นลดไฟลง
- ทิ้งไว้ให้อยู่ในอุณหภูมิปกติ แล้วตักใส่ขวดโหล พร้อมเสิร์ฟ ** หากต้องการให้เนื้อเนียนอาจนำไปปั่นเพิ่มได้
แยม เมื่อเปิดขวดแล้ว หากทิ้งไว้นานจะเกิดราได้ง่าย ดังนั้น จึงควรใช้ช้อนสะอาดตักเสมอ และกินให้หมดภายใน 1 เดือน (เก็บได้ 1 เดือน)
จบไปแล้วสำหรับวิธีทำแยม จากผลไม้เหลือ ๆ ที่มีในบ้าน จับเอามาทำแยมได้เลย แต่ละสูตรเด็ดจริง ทำง่าย ๆ ส่วนผสมไม่เยอะ ถ้ากินไม่หมดก็แช่ตู้เย็นเอาไว้กินได้อีก เก็บได้นานเป็นเดือนเลย เป็นการถนอมอาหารที่ดี และอีกอย่างสูตรข้างต้นนี้ไม่ใช้ สารกันบูดด้วยนะจ๊ะ 😋