“หญ้าเนเปียร์” คืออะไร? ทำไมนิยมปลูก
“หญ้าเนเปียร์” หรือหญ้าบาน่า เป็นหญ้าที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ เมื่อสัตว์กินเข้าไปแล้วจะทำให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายและไม่เป็นพิษต่อสัตว์อีกด้วย เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนิยมนำมาปลูกเพื่อใช้เป็นอาหารหยาบเลี้ยงโคในฟาร์มของตนเองนั่นเอง
วันนี้ SGE จะพาไปดูเรื่องน่ารู้ของหญ้าเนเปียร์กัน ว่าคืออะไร? เป็นแบบไหน? มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
หญ้าเนเปียร์ (Napier Grass) คืออะไร?
หญ้าเนเปียร์หรือ หญ้าบาน่า จัดเป็นหญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมปลูกมาก เนื่องจาก ลำต้น และใบมีขนาดใหญ่ และมีคุณค่างทางอาหารสัตว์สูง รวมถึงสามารถเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นได้ตลอดทั้งปี และเก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง
หญ้าเนเปียร์หรือหญ้าบาน่า เป็นหญ้าที่เติบโตได้ดีในเขตร้อน เป็นพืชที่มีอายุหลายปี ลักษณะลำต้นเป็นกอ ตั้งตรง และขยายพันธุ์ด้วยท่อนพันธุ์เหมือนต้นอ้อย หญ้าเนเปียร์นั้นมีหลายสายพันธุ์ โดยหญ้าเนเปียร์ธรรมดาและเนเปียร์ลูกผสม เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงถึง 4 เมตร อย่างไรก็ตามหญ้าเนเปียร์จะมีการแตกกอมากกว่า มีส่วนของใบเยอะกว่าและออกดอกก่อนพันธุ์อื่น
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- ราก และลำต้น หญ้าเนเปียร์เป็นหญ้าที่มีลำต้นขนาดใหญ่ ลำต้นแตกเป็นกอ หรือแตกต้นใหม่ได้ ลำต้นมีลักษณะแข็งแรง มีลำต้นสั้น ๆ บางส่วนอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือดิน มีลักษณะทรงกลม และตั้งตรง ขนาดลำต้น 2-2.5 เซนติเมตร สูง 2-6 เมตร ลำต้นมีลักษณะเป็นข้อปล้อง ประมาณ 15-20 ข้อ ส่วนรากมีเฉพาะระบบรากฝอยที่แตกออกจากเหง้าจำนวนมาก
- ใบ ใบหญ้าเนเปียร์ออกเป็นใบเดี่ยว ประกอบด้วยกาบใบที่ห่อหุ้มลำต้น และมีขนเล็ก ๆ นุ่มมือปกคลุม โดยตรงรอยต่อระหว่างกาบใบกับแผ่นใบ มีลิ้นใบ ถัดมาเป็นแผ่นใบยาว แผ่นใบมีสีเขียวอ่อน ยาวประมาณ 70-100 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร แผ่นใบมีเส้นกลางใบขนาดใหญ่
- ดอก ดอกหญ้าเนเปียร์ออกเป็นช่อ แบบ Spike ช่อดอกมีรูปทรงกระบอก สีเหลือง ยาวประมาณ 15-22 เซนติเมตร หนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก ด้านในดอกมีเกสรตัวเมีย และตัวผู้
- ผล และเมล็ด หญ้าเนเปียร์พบติดผลได้น้อยมาก เปลือกผล และเมล็ดหุ้มติดกัน
ชนิดและพันธุ์หญ้าเนเปียร์ มีอะไรบ้าง?
- หญ้าเนเปียร์ยักษ์
ชื่อสามัญ : King grass
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum King grass
ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูง แตกกอง่าย ใบและลำต้นมีขน ให้ผลผลิตต่อไร่สูง 10-60 ตัน/ไร่/ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ
- หญ้าเนเปียร์แคระ
ชื่อสามัญ : Mott Dwarf Elephant Grass
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum cv. Mott
ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นเตี้ย แตกกอง่าย เป็นพุ่ม ใบ และลำต้นมีขน
- หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 (พันธุ์ลูกผสม)
ชื่อสามัญ : Pak Chong 1
ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum x pennisetum americanum
พันธุ์ดั้งเดิม : หญ้าเนเปียร์ยักษ์ และหญ้าไข่มุก
หน่วยงานพัฒนาสายพันธุ์ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ โคราช กรมปศุสัตว์
ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูงใหญ่ เหมือนเนเปียร์ยักษ์ ลำต้นอวบ และออกเขียวอ่อน ใบ และลำต้นไม่มีขน ลดการคันขณะเก็บเกี่ยว ให้ผลผลิตเหมือนกับหญ้าเนปียร์ยัก ผลผลิตต่อไร่สูง 10-60 ตัน/ไร่/ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ
ประโยชน์ของหญ้าเนเปียร์
- ใช้ปลูกเพื่อเป็นอาหารสัตว์ โดยเฉพาะโคเนื้อ โคนม และกระบือ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการให้กินสด และการทำหญ้าหมัก
- ใช้เป็นชีวะมวล สำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
- ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน
- ลำต้นใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ
- ลำต้นนำมาสับ และอัดเป็นแท่ง สำหรับเป็นเชื้อเพลิงหุงทำอาหาร
- หญ้าเนเปียร์มีโปรตีนสูง และให้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าหญ้าทุกสายพันธุ์ เหมาะสำหรับใช้เป็นอาหารสำหรับวัวขุน โคขุน และวัวชนทุกระยะ
คุณค่าทางโภชนาการหญ้าเนเปียร์
หญ้าเนเปียร์ อายุ 45 วัน : 100 กรัม ดังนี้
- พลังงาน : 175.40 แคลอรี่
- โปรตีน : 7.32 กรัม
- ไขมัน : 0.99 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต : 34.32 กรัม
- ความชื้น : 8.68 กรัม
- เถ้า : 11.51 กรัม
- กาก : 37.21 กรัม
- แคลเซียม : 247.5 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส : 203.9 มิลลิกรัม
- เหล็ก : 12.4 มิลลิกรัม
** ปริมาณโปรตีนที่พบ นั่นหมายถึงว่า มีโปรตีนสูงถึง 7.32%
คุณสมบัติที่ดีของหญ้าเนเปียร์
- ลำต้น และใบมีขนาดใหญ่ ลำต้นเติบโตได้เร็ว และให้ผลผลิตต่อไร่สูงมาก
- มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับเป็นอาหารหยาบเลี้ยงสัตว์
- ลำต้นแตกกอใหม่ได้เร็ว ให้ผลผลิตได้ทั้งปี และเก็บผลผลิตได้ยาวถึง 5-7 ปี
- ลำต้น และใบ มีปริมาณแป้ง และน้ำตาลสูง หากนำไปหมัก อาจไม่ต้องเติมกากน้ำตาล
- ลำต้น และใบ แก่ช้า
- ลำต้น และใบมีความอ่อนนุ่ม สัตว์เคี้ยวได้ง่าย
- ไม่พบโรค และแมลงทำลาย
- ทนต่อสภาพแห้งแล้งได้เล็กน้อย
- ทนต่อสภาพน้ำขังได้บ้าง
- เติบโตได้ดีในทุกสภาพดี
- ทนต่อดินเปรี้ยวได้ดี
- ทนต่อดินเค็มได้ดี
- เหมาะสำหรับการให้สัตว์กินสด และการทำหญ้าหมัก
ผลผลิตหญ้าเนเปียร์ เป็นอย่างไร?
- หญ้าเนเปียร์ต้นสด เป็นการเก็บหญ้าเนเปียร์แบบต้นสด และไม่มีการสับหรือบด โดยตัดเป็นต้น และนำไปให้สัตว์กินโดยตรง ทั้งนี้ นิยมตัดต้นอ่อนในระยะเติบโตที่ยังไม่มีข้อมาก
- หญ้าเนเปียร์บดสด เป็นการเก็บหญ้าเนเปียร์แบบนำมาบดสด ทั้งการบดในแปลงด้วยเครื่องจักร หรือ ตัดมือ แล้วขนมาบดด้วยเครื่องจักร ทำให้ได้หญ้าเนเปียร์แบบบดเป็นชิ้นเล็กๆ สัตว์เลี้ยงสามารถกินได้ง่าย และลดการสูญเสียได้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับแบบให้ทั้งต้นสด ปัจจุบันมีการปลูกในลักษณะฟาร์มขนาดใหญ่เพื่อจำหน่ายมากขึ้น
- หญ้าเนเปียร์หมัก เป็นผลผลิตหญ้าเนเปียร์ที่ได้จากการนำหญ้าเนเปียร์บดสดมาหมัก โดยมีส่วนผสมหลายแบบตามที่ต้องการ เช่น หมักกับยูเรีย หมักกับกากน้ำตาล หรือ ควบคู่ทั้งสองอย่าง เป็นต้น ทำให้หญ้าเนเปียร์มีความหยาบน้อยลง สัตว์เลี้ยงสามารถเคี้ยว และได้ย่อยง่าย รวมถึงนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับหญ้าสดที่ไม่ได้หมัก
- หญ้าเนเปียร์บดแห้ง เป็นผลผลิตหญ้าเนเปียร์ที่ได้จากการนำหญ้าเนเปียร์บดสดมาตากแห้ง 2-3 วัน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ทำให้ได้หญ้าเนเปียร์บดแห้ง สามารถเก็บไว้ได้นานหลายสัปดาห์ และมีกลิ่นหอม แต่หากต้องการเก็บไว้นานมากขึ้นในหลายเดือน ต้องผ่านกระบวนการตากที่ความชื้นไม่ควรเกินกว่า 15-20% แต่ทั้งนี้ การให้หญ้าเนเปียร์บดแห้งจะทำให้สัตว์ต้องการน้ำเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการให้แบบบดสดหรือแบบหมัก ดังนั้น ต้องมั้นให้น้ำทุกๆ 3-6 ชั่วโมง ในช่วงการกินอาหาร ปัจจุบันมีการปลูกในลักษณะฟาร์มขนาดใหญ่เพื่อจำหน่ายมากขึ้น ซึ่งเกิดจากฟาร์ที่ขายแบบบดสด
สำหรับหลาย ๆ คนที่ต้องการเครื่องมือช่วยทุ่นแรง เรามีสินค้า เครื่องสับหญ้าอเนกประสงค์ หลากหลายรุ่นให้เลือกสรรค์ รับรองสินค้าดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมบริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน 🥰
สามารถรับชมและสั่งซื้อสินค้า ได้ตามนี้เลย
30 มกราคม 2024
โดย
ลำดวน