รวม 20 เมนู ข้าวต้มกุ๊ย ทำง่าย ๆ อร่อยได้เองที่บ้าน
ข้าวต้มกุ๊ย พร้อมกับข้าวอร่อย ๆ คงเป็นอาหารโปรดของใครหลายคน ใครอยากทำทานเองที่บ้าน พร้อมตั้งวงกับเพื่อนฝูง โดยไม่ต้องไปที่ร้านให้เสียเวลา และประหยัดเงินมากขึ้น SGE มีสูตรกับข้าวยอดฮิตร้านข้าวต้มกุ๊ย รวม 20 เมนูมาฝาก รับรองว่า แต่ละสูตรทำง่าย อร่อยเหาะ พร้อมโต้รุ่งได้ทุกวันแน่นอน
ไข่เจียวหมูสับ
กับข้าวแบบง่าย ๆ เข้ากันได้ทั้งข้าวสวยและข้าวต้ม ทำให้เป็นที่ถูกใจใครหลาย ๆ คน แถมยังราคาถูก ทำให้เป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย ใครอยากทำกับข้าวร้าน ข้าวต้มกุ๊ย ง่าย ๆ แล้วละก็ เริ่มที่เมนูนี้ได้เลย
ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- หมูสับ 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา
- ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 1 – 2 ต้น
- น้ำมันสำหรับทอด 1 ถ้วย
- ซอสพริก 1 ถ้วยเล็กๆ
- ผักชีสำหรับแต่งจานตามชอบ
วิธีทำ
- ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา แล้วใช้ส้อมตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- ใส่หมูสับลงไป ใช้ส้อมตีเนื้อหมูสับให้กระจายให้ทั่ว
- ใส่ต้นหอมซอยลงไป ตีไข่ให้เข้ากันแรง ๆ เพื่อให้ทอดไข่แล้วฟูกรอบดี
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปให้ท่วมก้นกระทะ รอจนน้ำมันเดือดดีแล้ว ให้ใส่ไข่เจียวลงไป
- ระหว่างทอด ให้ใช้ตะหลิวยกไข่ตรงกลางขึ้น เพื่อให้ไข่ตรงกลางขยายตัวออกมาทางด้านข้าง จะได้สุกทั่วถึงกัน เมื่อขอบรอบ ๆ เริ่มมีสีเหลืองและกรอบดีแล้ว ให้พลิกไข่อีกด้านหนึ่งขึ้นทอด รอจนสุกดี จึงตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมซอสพริก เป็นอันเสร็จ
ไชโป้วผัดไข่
ไชโป้วกรอบ ๆ มีรสทั้งหวานและเค็ม กินกับข้าวต้มอร่อยนักแล ทำให้ใครต่อใครก็ชอบที่จะสั่ง เวลาไปกิน ข้าวต้มกุ๊ย ใครไม่รู้จะกินอะไร หรือ ทำอะไรทานแล้วละก็ ลองทำเมนูนี้เลย ทั้งทำง่ายและก็อร่อย รับรองว่า ไม่ผิดหวัง
ส่วนผสม
- ไข่ 2 ฟอง
- ไชโป้ว 150 กรัม
- กระเทียมไทยสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1.5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ใช้มีดหั่นไชโป้วให้เป็นลูกเต๋า หรือ แบบเส้นก็ได้ ตามชอบ
- จากนั้น ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ใส่ไชโป้วลงไป ลวกในน้ำร้อนสักพัก เพื่อลดความเค็มและความหวานของไชโป้ว เสร็จแล้ว ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน ใส่กระเทียมไทยสับลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม
- ใส่ไชโป้วลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน
- แบ่งพื้นที่ว่างในกระทะครึ่งหนึ่ง ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป 3 ฟอง คนให้ไข่สุก แล้วผัดให้เข้ากันกับไชโป้ว
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ตักเสิร์ฟใส่จาน เป็นอันเสร็จ
หมูสับผัดหนำเลี๊ยบ
กิน ข้าวต้มกุ๊ย ต้องกินกับ หมูสับผัดหนำเลี๊ยบ ถึงจะอร่อย เพราะรสเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ ผสมกับความกรุบกรอบของกระเทียมเจียว ทำให้เวลาตักกินแล้วเข้ากันสุด ๆ ถือเป็นเมนูที่ขาประจำร้านข้าวต้มกุ๊ยทุกคนต้องสั่ง ไม่งั้นถือว่าผิด !
ส่วนผสม
- หมูสับติดมัน 1 กิโลกรัม
- หนำเลี๊ยบ 1 ขีด
- กระเทียมไทย 1 ขีด
- พริกไทย 1 ขีด
- น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 1 ขีด
- กระเทียมเจียว ตามชอบ
วิธีทำ
- เตรียมชามผสม ใส่หมูสับติดมัน หนำเลี๊ยบ กระเทียม พริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ เปิดไฟอ่อน ใส่น้ำมัน ตามด้วย กระเทียม เจียวให้เหลืองหอม
- จากนั้น ใส่หมูสับลงไป ผัดด้วยไฟอ่อน จนกว่าจะสุก ระหว่างนี้ ให้ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย เป็นระยะ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- พอหมูสับสุกดีแล้ว ตักเสิร์ฟใส่จาน โรยหน้าด้วย กระเทียมเจียว เป็นอันเสร็จ
ผัดผักบุ้งไฟแดง
กินข้าวต้มทั้งที จะพลาดเมนู ผัดผักบุ้งไฟแดง ได้ยังไง เพราะเป็นเมนูผัดผัก ที่พอทานคู่กับข้าวต้มทีไร เป็นต้องอร่อยทุกที แถมยังเป็นเมนูอันดับ 1 ในใจของใครหลายคนด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ตั้งกระทะให้ร้อนจัด แล้วใส่ผักบุ้ง ให้ไฟพวยพุ่งได้เลย
ส่วนผสม
- ผักบุ้งไทย หั้นเป็นขนาดพอคำ 1 จาน
- น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต้ะ
- กระเทียมไทยบด 1 ช้อนโต้ะ
- ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
- เต้าเจี้ยวอย่างดี 1 ช้อนโต้ะ
- พริกสดบุบและหั่นเฉียงๆอย่างละ 1 ช้อนโต้ะ
- ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต้ะ
- น้ำซุป 2 ช้อนโต้ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เปิดไฟแรง ตั้งกระทะให้ร้อนจัด
- เตรียมส่วนผสมให้เรียบร้อย ประกอบด้วย ผักบุ้ง กระเทียม ซอสน้ำมันหอย เต้าเจี้ยว พริกสด น้ำตาลทราย ซอสถั่วเหลือง และ น้ำซุป
- จากนั้น ใส่ส่วนผสมทั้งหมด ลงไปผัด นับ 1 – 20 ก็ให้เสิร์ฟ พร้อมรับประทานได้เลย
ผัดกะเฉดหมูกรอบ
ผัดกะเฉด ถือเป็นเมนูผัดผักยอดฮิตของร้าน ข้าวต้มกุ๊ย ยิ่งผัดด้วยไฟแรงจนผักสลดดี ใส่กระเทียม พริกไทย เพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อน และ หมูกรอบ แสนอร่อย แล้วละก็ เวลากินกับข้าวต้มร้อน ๆ อร่อยไม่แพ้ ผักบุ้งไฟแดง เลยเชียวล่ะ
ส่วนผสม
- ผักกระเฉด
- หมูกรอบ 150 กรัม
- กระเทียม 1 หัวใหญ่
- พริกแดงจินดา 2 เม็ด
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำผักกระเฉดมา เด็ดเฉพาะส่วนยอดอ่อนออก เมื่อเด็ดเสร็จแล้ว นำไปล้างทำความสะอาด 1 รอบ จัดใส่จานเตรียมไว้
- ทุบพริกแดงจินดา กระเทียม ด้วยมีดให้แตก ใส่รวมกับผักกระเฉด และ หมูกรอบ เตรียมไว้
- ใส่น้ำตาล 1 ช้อนชา ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วย น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ ลงไป
- ตั้งกระทะ เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป เคลือบให้ทั่วกระทะ รอจนกว่าน้ำมันจะร้อน จนมีไอขึ้นมา
- ใส่ผักกระเฉดลงไป ผัดต่อเล็กน้อย แล้วปิดแก็ส เพื่อไม่ให้ผักกระเฉดสุกจนเหนียว
- จากนั้น จึงผัดในกระทะต่อ ให้ส่วนผสมเข้ากัน เสร็จแล้ว จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
แขนงหมูกรอบ
นอกจากผักคะน้าแล้ว ก็มีผักแขนงนี่และ ที่เป็นผัดผักยอดนิยมในร้าน ข้าวต้มกุ๊ย ซึ่งด้วยความที่อร่อยและกรุบกรอบ ไม่แพ้ผักคะน้า ทำให้มักนำมาทำเป็นเมนู ผักแขนงหมูกรอบ จนกลายเป็นหนึ่งในเมนูร้าน ข้าวต้มกุ๊ย ที่ไหน ๆ ก็ต้องมี
ส่วนผสม
- ผักแขนง 1 ถ้วย
- หมูกรอบ ตามชอบ
- พริกขี้หนูแดงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่าเล็กน้อย
- น้ำมันสำหรับผัด
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับผัด ใส่กระเทียม และพริกขี้หนูแดง ผัดให้มีกลิ่นหอม
- ใส่ผักแขนงลงไป ผัดให้ผักเริ่มสลด
- ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย
- ใส่หมูกรอบลงไป ผัดทุกอย่างคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน
- ตักใส่จาน เสิร์ฟได้ทันที
กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา
อยากทานผัดผัก แต่ไม่รู้จะทำอะไรกินดี ให้ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคุณ เพราะด้วยกะหล่ำปลีที่ทอดจนกรุบกรอบ และมีรสเค็มจากน้ำปลา ที่เคลือบเอาไว้ จะทำให้ได้ทั้งรสชาติเค็มและหวาน กินคู่กับข้าวต้มก็ยิ่งอร่อย
ส่วนผสม
- กะหล่ำปลี (น้ำหนักเบา) 500 กรัม
- กระเทียม 20 กรัม
- กุ้งแห้ง 20 กรัม
- น้ำปลา 1 1/3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1/4 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- แกะกะหล่ำปลีออกมาเป็นใบ ๆ แล้วฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ให้พอดีคำ นำไปล้างน้ำ ทำความสะอาด 1 รอบ
- ใส่น้ำมันลงในกระทะ ให้เยอะประมาณหนึ่ง เปิดแก็ส รอจนน้ำมันเริ่มมีไอความร้อนขึ้นมา จึงใส่กะหล่ำปลีลงไป
- คลุกเคล้าให้กะหล่ำปลี โดนน้ำมันจนทั่ว ผัดเล็กน้อย ให้กะหล่ำปลีสลด สุกทั่วกัน เสร็จแล้ว ตักกะหล่ำปลีขึ้นมา พักให้สะเด็ดน้ำมัน แยกใส่ชามรอไว้
- เทน้ำมันในกระทะออก จนเหลือเล็กน้อย ใส่กระเทียมลงไปผัด จนมีสีเหลืองหอมดี ให้ตักขึ้น พักสะเด็ดน้ำมัน
- ใส่กุ้งแห้งลงไปผัดต่อ ผัดจนกว่าจะสุกดี เสร็จแล้วตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
- เทน้ำมันในกระทะออกจนหมด เสร็จแล้ว เปิดไฟกลาง รอจนกระทะร้อนดี ให้ใส่น้ำปลาลงไป 3 ช้อนโต๊ะ โดยให้เทให้ทั่วกระทะ แล้วใส่น้ำตาลทราย ลงไป 1/4 ช้อนชา คนให้เคลือบทั่วกระทะ
- จากนั้น ใส่กะหล่ำปลีลงไปผัด ระหว่างนี้ให้น้ำเปล่าลงไป 3 ช้อนโต๊ะ
- ใส่กระเทียมและกุ้งแห้งลงไป ผัดต่ออีกเล็กน้อย ให้กะหล่ำปลีซึมซับจากน้ำปลาให้ทั่วกระทะ เสร็จแล้ว ใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
กุยช่ายขาวผัดหมูกรอบ
อีกหนึ่งเมนูผัดผักยอดฮิต ที่ร้านข้าวต้มกุ๊ยไหน ๆ ก็ต้องมี หากใครเบื่อผักคะน้า ผักกะเฉด หรือแขนงแล้วละก็ ลองทำ กุยช่ายขาวผัดหมูกรอบ ทานเองที่บ้านดู รับรองว่า คุณจะเปิดโลกและหลงรักเมนูนี้อย่างแน่นอน
ส่วนผสม
- กุยช่ายขาว 200 กรัม
- หมูกรอบ 1 ถ้วย
- กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยกระเทียม ผัดให้มีกลิ่นหอม
- ใส่กุยช่ายขาวลงไป เติมน้ำซุปลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ไม่แห้งและมีน้ำขลุกขลิก เสร็จแล้ว ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน
- ใส่หมูกรอบลงไป คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
หมูสามชั้นทอดน้ำปลา
กับแกล้มชั้นเลิศที่ใคร ๆ ก็นึกถึง เวลาไปร้าน ข้าวต้มกุ๊ย โดยถ้าไปสั่งที่ร้านละก็ อย่างน้อยต้องมีหลักร้อย แต่ถ้าทำทานเองละก็ ใช้งบไม่ถึงแน่นอน เหมาะกับการทำทานกับเพื่อนฝูงในวันหยุดสุดสัปดาห์มาก ๆ ใครชอบทาน เมนูหมูสามชั้น นี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด
ส่วนผสม
- หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
- น้ำปลาอย่างดี 7-8 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาวป่น
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ผงปรุงรส
- แป้งชุบทอด 10-15 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็น
- น้ำมันปาล์ม (สำหรับทอด)
- น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
- ใช้มีดแกะสลักจิ้มให้ทั่วชิ้นหมู รวมทั้งจิ้มหนังด้วย เพื่อให้หมูนิ่ม และน้ำหมักจะเข้าเนื้อหมู เวลาทอดจะสุกเร็ว
- หมักหมูโดยใส่น้ำปลา พริกไทยป่น ไข่ไก่ ผงปรุงรสเล็กน้อย และแป้งชุบทอด จากนั้นพรมน้ำเย็นบาง ๆ ลงไป แล้วค่อย ๆ นวดจนเข้ากันประมาณ 5 นาที จากนั้นหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- ใส่น้ำมันปาล์มลงในกระทะให้ท่วม ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำมัน (เพื่อหมูจะไม่อมน้ำมัน) และเกลือเล็กน้อย (กันหมูติดกระทะ) ใช้ไฟค่อนข้างแรง จากนั้นนำหมูลงทอด โดยทอดทีละข้างให้เกรียมจนเนื้อหมูเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ
แหนมซี่โครงหมูทอด
เพราะร้าน ข้าวต้มกุ๊ย ไม่ได้กินเอาแค่อิ่ม แต่ยังเป็นที่เอาไว้เฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงด้วย ทำให้ต้องมีเมนูกับแกล้ม เป็นตัวชูโรง ซึ่ง แหนมซี่โครงหมูทอด ถือเป็นเมนูยอดฮิต ที่ใคร ๆ ก็ชอบรับประทาน เนื่องจากมีรสเปรี้ยว และ รสสัมผัสที่กรุบกรอบ เวลากินกับเครื่องดื่มเย็น จึงเข้ากันดีแบบสุด ๆ ไปเลย
ส่วนผสม
- ซี่โครงหมูอ่อน 500 กรัม
- เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม โขลกหยาบ 1/4 ถ้วย
- ข้าวเหนียวนึ่งสุก 30 กรัม
- ขิงอ่อนซอยบาง พริก และผักสด ตามชอบ
- น้ำมันพืช สำหรับทอด
วิธีทำ
- ผสมซี่โครงหมู กับเกลือป่น นวดพอเข้ากัน
- จากนั้น ใส่กระเทียม และข้าวเหนียวนึ่งลงไป นวดต่อจนเข้ากันดี
- ใส่ซี่โครงหมูลงในถุงพลาสติก ไล่อากาศออกให้หมด มัดปากถุงให้แน่น พักไว้ในอุณหภูมิห้อง 2 คืน หรือจนเปรี้ยว
- เมื่อหมักหมูได้ตามต้องการแล้ว ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่แหนมซี่โครงหมู ลงทอดจนสุกเหลือง
- ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ไส้หมูอ่อนทอดกระเทียม
ใครชอบทานของทอด นอกจากหมูทอด เนื้อปลาทอด ก็มีไส้หมูอ่อนทอดกระเทียมนี่และ ที่ถือเป็นเมนูขวัญใจวัยรุ่นร้านข้าวตุ้มกุ๊ย เพราะมีทั้งความกรุบกรอบและเหนียวนุ่มในคำเดียว จิ้มกินกับซีอิ๊วดำรสหวานก็ยิ่งอร่อย หากใครชอบทานแล้วละก็ ทำตามสูตรที่นำมาฝากกันได้เลย
ส่วนผสม
- ไส้อ่อน 1/2 กิโลกรัม
- ตะไคร้หั่น 2 – 3 ต้น
- ใบมะกรูด 5 – 6 ใบ
- กระเทียม 100 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด เกลือ และไส้หมูลงไป ต้มให้ไส้หมูสุก ไม่มีกลิ่นคาว พอสุกดีแล้ว ให้นำมาตัดเป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ
- ใส่ผงปรุงรสลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยระเทียม เจียวให้ระเทียมเหลืองหอม เสร็จแล้ว ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
- ใส่ไส้หมูลงไป ทอดให้กรอบ จนกว่าจะมีสีเหลืองทอง เสร็จแล้ว ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
- จัดจาน ตักไส้หมูลงไป โรยหน้าด้วยกระเทียมที่เจียวไว้ เป็นอันเสร็จ
เกี๊ยมบ๊วยหมูสับ
เมนูน้ำแกงที่ ต้มยำกุ้ง ยังต้องหลบทางให้ เพราะด้วยความเปรี้ยวจากบ๊วย ทำให้รสชาติของน้ำแกงเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ เป็นเมนูอันดับแรก ๆ ที่ใคร ๆ ก็นึกถึง เมื่อไปถึงร้านข้าวต้มกุ๊ย หากใครเป็นแฟนตัวยงของเมนูนี้ อย่าลืมไปลองทำทานเองกันที่บ้านดู รับรองว่า อร่อย ไม่แพ้ร้านที่กินประจำแน่นอน
ส่วนผสม
- หมูสับ
- บ๊วยดองเค็ม 5 ลูก
- กระเทียม
- ผักชี
- รากผักชี
- พริกไทย
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- เตรียมชามผสม ใส่หมูสับลงไป เหยาะซีอิ๊วขาวลงไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติ
- จากนั้น สับรากผักชี กระเทียมให้ละเอียด แล้วใส่ในครก ตำให้ละเอียดอีก 1 รอบ แล้วใส่ลงในชามผสม โรยพริกไทยตามลงไป คลุกเคล้ากับหมูสับให้เข้ากัน
- นำบ๊วยดองเค็มมา 1 ลูก บี้ให้ละเอียด จากนั้น คลุกเคล้ากับหมูสับ ให้เนื้อหมูสับมีกลิ่นหอมของบ๊วย
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่า จากนั้น หยิบหมูสับ บี้ลงไปในหม้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ จนกว่าจะหมด พอใส่หมดแล้ว ให้เปิดไฟกลาง ใส่รากผักชีเพิ่มลงไป แล้วโรยเกลือลงไปเล็กน้อย แล้วต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะเดือด
- พอน้ำเดือดดีแล้ว ให้ลดไฟลง แล้วตักฟองที่ลอยปุดขึ้นมาออก
- นำบ๊วยดองเค็ม 4 ลูกมาสับให้ละเอียด แล้วใส่ลงในหม้อ ตามด้วยกระเทียม พริกไทย
- พอได้รสเปรี้ยวเค็มตามที่ต้องการแล้ว ให้ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชีสับ เป็นอันเสร็จ
ต้มจับฉ่าย
เมนูต้มผักแบบคนจีนแท้ ๆ ที่พอกินกับ ข้าวต้ม ร้อน ๆ แล้วอร่อยสุด ๆ ได้ทั้งรสเปรี้ยว เค็ม หวาน จากผักทั้ง 10 ชนิดที่ใส่ลงไป ใครอยากกินกับข้าวที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และ รสชาติแบบคนไทยเชื้อสายจีนสมัยก่อน แล้วละก็ ห้ามพลาดทำเมนูนี้เด็ดขาด
วัตถุดิบ
- กระดูกหมู 1.5 กิโลกรัม
- ผักโขม 500 กรัม
- กะหล่ำปลี ½ หัวเล็ก
- ขึ้นฉ่าย 300 กรัม
- หัวไชเท้า 1 หัวใหญ่
- เห็ดหอม 150 กรัม
- รากผักชี 10 ราก
- พริกไทย 40 เม็ด
- กระเทียมไทย 2 หัว
- ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 6 – 8 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทํา
- เทน้ำเปล่าลงในหม้อ ตามด้วย กระดูกหมู ต้มไปเรื่อย ๆ ให้กระดูกหมูสุกและเปื่อยนุ่ม ระหว่างนี้ ให้คอยช้อนฟองออก เพื่อให้น้ำซุปใส
- จากนั้น ใส่หัวไชเท้า และ เกลือ เตามลงไป ต้มด้วยไฟอ่อน ทิ้งไว้
- นำ รากผักชี กระเทียม พริกไทยไปโขลกให้ละเอียด จากนั้น ตั้งกระทะ นำสามเกลอที่โขลกละเอียดแล้วลงไปผัดในน้ำมันให้หอม
- ใส่เห็ดหอมตามลงไป ตักน้ำซุปใส่ลงไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ติดกระทะ จากนั้น เร่งไฟแรง ใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไป
- ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำมันหอย ผัดให้ผักสลด
- จากนั้น เอาผักไปเทใส่หม้อน้ำซุปที่ตั้งทิ้งไว้ ใช้ไฟกลางแล้วเคี่ยวไปเรื่อย ๆ โดยใช้เวลา 20 – 30 นาที จนผักเปื่อย และนิ่ม
- ตักต้มจับฉ่าย ใส่ชาม จัดแต่งให้สวยงาม ตักข้าวร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟ
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
เป็นกับข้าวยอดฮิต ที่มี ไข่เค็ม และ ปลาหมึก เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งวิธีการทำก็ไม่ยากเพียงแค่ทำซอสไข่เค็ม โดยการใส่ไข่เค็ม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำพริกเผา ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน จากนั้น นำมาผัดคลุกเคล้ากับปลาหมึก ก็เป็นอันเสร็จ
ส่วนผสม
- หมึกกล้วย 250 กรัม
- ไข่แดงเค็ม 3 ฟอง
- พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
- หอมใหญ่ 1/2 ลูก
- ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
- ต้นหอม 4 ต้น
- กระเทียมจีน 5-6 กลีบ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 3/4 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 3/4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ล้างทำความสะอาดหมึกกล้วย โดยการดึงส่วนหัวและตัวออกจากกัน ส่วนหัว ให้นำมีดเฉือนเอาส่วนตา ฟัน ออก แล้ว ตัดส่วนหนวดให้เป็นชิ้นพอดีคำ ส่วนตัว ให้ดึงกระดองหมึกออก แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ
- นำพริกชี้ฟ้าแดงมาหั่นซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามด้วยกระเทียมจีน สับให้ละเอียด
- หั่นหอมใหญ่ ขึ้นฉ่าย และต้นหอม หั่นให้เป็นชิ้นอย่างหยาบ ๆ
- ใช้ช้อนหั่นไข่แดงเค็มเป็นชิ้นเล็ก ๆ เติมน้ำลงไป 3 ช้อน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 3/4 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำพริกเผา 3/4 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้วคนให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมสับลงไป ผัดจนมีกลิ่นหอม ตามด้วยหอมใหญ่
- ใส่ปลาหมึกลงไป ตามด้วยซอสไข่เค็ม ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ใส่พริกชี้ฟ้าแดงซอย ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ
ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา
หลายคนคงคุ้นเคยกับเมนู ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา เป็นอย่างดี เพราะเป็นกับข้าวยอดฮิตในร้าน ข้าวต้มกุ๊ย รวมถึงโต๊ะกับข้าวของครอบครัว ดังนั้น หากใครชอบทาน ปลาอินทรีย์ แล้วละก็ ห้ามพลาดเลย สำหรับเมนูนี้
ส่วนผสม
- ปลาอินทรีย์ 2 ชิ้น
- เกลือ (ล้างกลิ่นคาว)
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ½ ช้อนโต๊ะ
- มะม่วง 1 ลูก
- น้ำตาลเคี่ยว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ½ ช้อนโต๊ะ
- มะนาวหั่น 1 ซีก
- พริกขี้หนูสับ ตามชอบ
- หอมแดงสับ ตามชอบ
วิธีทำ
- นำปลาอินทรีย์มาคลุกกับเกลือ เสร็จแล้ว ล้างน้ำให้สะอาด แล้วใช้กระดาษทิชชู่ซับให้แห้ง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน วอร์มให้น้ำมันร้อนได้ที่แล้ว นำเนื้อปลาอินทรีย์ลงไป ทอดให้มีสีเหลืองทองทั้ง 2 ด้าน
- เทน้ำมันออกจากกระทะ ให้เหลือแค่เล็กน้อย เสร็จแล้ว ราดน้ำปลาประมาณ 3 ช้อนโต๊ะลงไปตรงขอบกระทะ แล้วเปิดแก็ส ให้น้ำปลาร้อน จากนั้น ใส่น้ำตาลปี๊บ แล้วเติมน้ำเปล่าลงไป คนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน
- พอเคี่ยวให้น้ำงวดลงเล็กน้อยแล้ว ให้ปิดแก็ส นำปลาอินทรีย์ทอด มาชุบกับน้ำปลาทั้งสองด้าน
- ทำน้ำยำมะม่วง โดยใช้มีดสับมะม่วงให้เป็นเส้นเล็ก ๆ จากนั้น ผสมน้ำตาลเคี่ยว น้ำปลา และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ใส่พริกขี้หนูสับหอมแดงสับ เสร็จแล้ว นำมะม่วงสับมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ปลากระพงผัดขึ้นฉ่าย
อยากกินเมนูปลา แบบร้าน ข้าวต้มกุ๊ย ต้องห้ามพลาดทำ ปลากระพงผัดขึ้นช่าย เด็ดขาด เพราะจะได้เนื้อปลาชิ้นโต ๆ ไว้รับประทาน พร้อมกลิ่นหอมจากขึ้นช่าย ที่ช่วยให้ทานได้อร่อยมากขึ้น รับรองว่า ถ้าทำเองเป็น จะประหยัดเงินได้ร้อยกว่าบาทเลยทีเดียว
ส่วนผสม
- เนื้อปลากระพง
- หอมใหญ่ / ขึ้นฉ่าย / ต้นหอม (ตามชอบ)
- กระเทียม / พริก (ตามชอบ)
- แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว นิดหน่อย
- เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำเนื้อปลามาคลุกกับแป้งมันให้ทั่ว ๆ จากนั้น ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่แล้ว ให้ใส่เนื้อปลาลงไป ทอดจนเนื้อปลาสุกกรอบ มีสีเหลืองทองแล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
- หั่นขึ้นฉ่าย หอมใหญ่ ต้นหอม เตรียมไว้
- ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียม เต้าเจี้ยว ผัดให้มีกลิ่นหอม
- ใส่พริกขี้หนู หอมใหญ่ แครอท ลงไป ผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำตาล แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน
- ใส่เนื้อปลาทอดลงไป ตามด้วยขึ้นฉ่าย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
หอยลายผัดพริกเผา
อยากทานอะไรเผ็ด ๆ แต่ไม่รู้ทำอะไรทานดี ลองทำหอยลายผัดพริกเผาดู รับรองไม่ผิดหวัง โดยถึงแม้จะเป็นเมนูอาหารสไตล์ไทยหน่อย ๆ แต่ถ้ากินข้าวต้มกับเมนูอื่น ๆ แล้วจืดเกินไป ลองทำเมนูนี้มาทานดู เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มรสชาติ ให้คุณได้ทานอร่อยมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
ส่วนผสม
- หอยลายสด 500 กรัม
- ใบโหระพา 30 กรัม
- กระเทียม 1 หัว
- พริกแดงจินดา 7 เม็ด
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำหอยลายสดมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น ใส่หอยลายในตะกร้ามีรู ซ้อนบนกะละมังใส่น้ำอีกทีหนึ่ง แช่น้ำไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้หอยลายคายขี้ดินออกมา เสร็จแล้ว ล้างน้ำอีก 2-3 รอบ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
- เตรียมครกกับสาก ใส่กระเทียม พริกแดงจินดา ตำให้แหลกพอหยาบ ๆ พร้อมกับเด็ดใบโหระพาออกมาเตรียมไว้ให้เรียบร้อย
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ใช้ไฟกลาง ใส่พริกและกระเทียมที่ตำไว้ลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม
- ใส่หอยลายลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้น ใช้ฝาปิดไว้ แล้วเปิดไฟแรง อบเพื่อให้หอยลายสุกเร็วขึ้น และปากหอยอ้าทั้งหมด วิธีสังเกต ให้สังเกตว่าปากหอยอ้าทั้งหมดหรือยัง ถ้าปากหอยอ้าหมดแล้ว แสดงว่าสุกได้ที่แล้ว ให้เปิดฝาขึ้น
- ใส่น้ำพริกเผาลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม น้ำปลา ผัดทั้งหมดให้เข้ากัน ถ้ากลัวว่าแห้งเกินไป ให้เติมน้ำเปล่าลงไปได้ เพื่อให้มีน้ำพอขลุกขลิก
- ใส่ใบโหระพาปิดท้าย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ยำไข่เค็ม
ถือเป็นกับข้าวยอดฮิต ในร้านข้าวต้มกุ๊ย เลยก็ว่าได้ แถมยังเหมาะกับการทานเป็นกับแกล้มอีกด้วย ใครอยากได้เมนูที่ทั้งเผ็ดและเค็ม แนะนำให้ลองทำ ยำไข่เค็ม ไว้ทานเลย รับรองว่าทานกับข้าวต้มก็อร่อย ทานคู่กับเครื่องดื่ม ก็ช่วยให้โต้รุ่งยันเช้าได้แน่นอน
ส่วนผสม
- ไข่เค็ม 3 ฟอง
- กุ้งแห้ง ตามชอบ
- พริกขี้หนู 10-12 เม็ด
- พริกจินดาแดง 2 เม็ด
- มะนาว 3 ลูก
- หอมแดง 4 หัว
- ผักชี
- น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ผ่าไข่เค็มแต่ละใบ ออกเป็น 2 ส่วน
- ปรุงน้ำยำ โดยใส่น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ คนให้น้ำตาลละลาย
- หั่นพริกขี้หนู พริกจินดาแดงเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามด้วยหอมแดง ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน แล้วใส่กุ้งแห้ง คลุกเคล้าให้ทั่ว
- จัดจาน ใส่ไข่เค็มลงไป ราดน้ำยำ แล้วตกแต่งด้านบนด้วยผักชี เป็นอันเสร็จ
ยำปลาสลิดทอด
อยากทานยำอร่อย ๆ แบบร้านข้าวต้มกุ๊ย ห้ามพลาดเด็ดขาดกับเมนู ยำปลาสลิดทอด เพราะจะได้รสชาติทั้งเผ็ด เค็ม เปรี้ยว หวาน ในจานเดียว แถมยังได้ทานเนื้อปลาสลิดแน่น ๆ เต็ม ๆ คำ ไว้ทานคู่กับข้าวต้มด้วย รับรองว่า ลองได้ทานคู่กันแล้ว จะตาสว่างขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนผสม
- เนื้อปลาสลิด ตามชอบ
- มะม่วงซอย 1/2 ลูก
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ใบผักชี ตามชอบ
- ใบสะระแหน่ ตามชอบ
- กระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต้ะ
วิธีทำ
- นำปลาสลิดมาล้างน้ำให้สะอาด 2 – 3 รอบ จากนั้น แล่เป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปทอดให้มีสีเหลืองกรอบ
- ทำน้ำยำ โดยเตรียมถ้วยผสม ใส่น้ำมะนาว น้ำตาล น้ำปลา น้ำพริกเผา คนให้ละลายเข้ากัน
- หั่น หอมแดง ตะไคร้ ใบผักชี ใบสะระแหร่ อย่างหยาบ ๆ
- เตรียมชามผสมใบใหญ่ ใส่ตะไคร้ มะม่วงซอย กระเทียมดอง และน้ำยำที่ผสมไว้ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- ใส่ใบผักชี ใบสะระแหน่ และเนื้อปลาสลิดทอด คลุกเคล้าทั้งหมดให้เข้ากันอีกรอบ เป็นอันเสร็จ
ยำกุนเชียง
อีกหนึ่งเมนูยำ ประจำร้านข้าวต้มกุ๊ย ที่ใคร ๆ ก็ชอบสั่งมารับประทาน ยิ่งตักกินคู่กับน้ำยำ พริกแดง หอมแดง ก็ยิ่งเปรี้ยวปาก แซ่บซี้ดยิ่งกว่าใคร ใครอยากกินกุนเชียงในแบบเผ็ด ๆ แล้วละก็ ต้องลอง !!!
ส่วนผสม
- กุนเชียง 2 เส้น
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- แตงกวาหั่น
- หอมแดง 4-5 หัว
- พริกแดงซอย
- ขึ้นฉ่าย
- ผักชี
- น้ำมัน สำหรับทอด
วิธีทำ ยำกุนเชียง
- นำกุนเชียงมาหั่นเฉียง เตรียมไว้
- ตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันลงไป เมื่อน้ำมันเริ่มร้อน นำกุนเชียงไปทอดจนสุก แล้วนำขึ้นจากกระทะ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
- เตรียมทำน้ำยำ โดยใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และพริกแดงซอย คลุกเคล้าจนน้ำตาลละลาย
- จากนั้น ใส่กุนเชียงที่ทอดแล้วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยใส่หอมแดง แตงกวาขึ้นฉ่าย แล้วคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง
- ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยผักชี ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
สำหรับใครที่อยากเก็บวัตถุดิบ เพื่อนำมาทำกับข้าวร้าน ข้าวต้มกุ๊ย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือ เครื่องเทศต่าง ๆ ให้เก็บได้นาน ไม่เน่าเสีย พร้อมนำมาทำเมนูอาหารอื่น ๆ ได้ในวันถัด ๆ ไป แนะนำให้ใช้ ถุงซีลสูญญากาศ ของ SGE ช่วยป้องกันอากาศและความชื้นได้เป็นอย่างดี รักษาวัตถุดิบให้สดใหม่ ยืดอายุให้เก็บได้นานขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งช่วยประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และ สามารถแช่แข็ง นำมาละลายในไมโครเวฟ หรือ ทำอาหารในเครื่องซูวีก็ได้อีกด้วย หากสนใจ คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/vacuum-bags/ หรือ สอบถามผ่านทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย
30 มกราคม 2024
โดย
Pres