10 เมนู สาคู ทำง่ายทั้ง คาว-หวาน กินได้ไม่มีเบื่อ
สาคู เป็นขนมไทย ที่สามารถทานได้ทั้งแบบคาวหวาน จะปั้นเป็นลูกกลมสอดไส้หมู หรือ จะราดกินกับน้ำกะทิ ทำเป็นพุดดิ้งกินกับผลไม้ก็ได้ หากใครอยากรู้ว่า แต่ละเมนู มีวิธีการทำอย่างไร SGE รวมมาให้แล้ว 10 เมนูสาคู ด้วยกัน รับรองว่า ทำง่ายทุกเมนู ทานได้ไม่มีเบื่อ
สาคูไส้หมู
สาคูไส้หมู เป็นอาหารคาว และ ของทานเล่น ที่อร่อยมาก ๆ เหมาะกับการทำขาย เพื่อสร้างรายได้สุด ๆ ซึ่งด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนุบหนับจากแป้งสาคู สอดไส้ด้วยไส้หมูที่ผัดกับไชโป๊และถั่วลิสง จนมีรสเค็มอร่อย ทำให้ใครต่อใครเมื่อได้ทาน ต่างก็ต้องหลงรักเมนูนี้แทบทุกคน
ส่วนผสม
- สาคูเม็ดเล็ก 200 กรัม
- หมูบด 150 กรัม
- ไชโป๊หวาน 150 กรัม
- ถั่วลิสงคั่ว 100 กรัม
- หอมแดง 80 กรัม
- กระเทียม 30 กรัม
- พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี 15 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เตรียมครกกับสาก ใส่พริกไทยเม็ดลงไป บดให้ละเอียด ตามด้วยกระเทียม รากผักชี โขลกให้ละเอียดเข้ากัน
- นำหอมแดงและกระเทียมอีกส่วนหนึ่งมาสับให้ละเอียด ใช้มีดหรือเครื่องปั่นก็ได้ จากนั้น ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ใส่กระเทียมลงไป เจียวให้มีสีเหลืองทอง เสร็จแล้ว ตักขึ้นพักไว้
- เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน ใส่พริกไทย กระเทียม รากผักชี ที่โขลกไว้ลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้น ใส่เนื้อหมูลงไป รวนให้เนื้อหมูสุก เสร็จแล้ว ใส่หอมแดง ไชโป๊หวาน ลงไป ผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ผัดให้น้ำตาลละลายเข้ากัน พอได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ให้ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ตักขึ้นพักไว้
- ใส่สาคูเม็ดเล็กลงในกระชอน ร่อนเอาผงแป้งที่ยังคงติดอยู่กับเม็ดสาคูออกให้หมด จากนั้น เตรียมชามผสมใส่น้ำสะอาด เทเม็ดสาคูลงไป แช่น้ำทิ้งไว้ 15 นาที ระหว่างรอเม็ดสาคูอิ่มน้ำ ให้นำไส้สาคู มาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ เตรียมไว้
- พอครบเวลา ให้เทกรองเอาน้ำแช่เม็ดสาคูออก เตรียมซึ้งนึ่งรองด้วยใบตองทาน้ำมัน กันแป้งเม็ดสาคูติดให้เรียบร้อย จากนั้น ใช้มือหยิบเอาแป้งเม็ดสาคูขึ้นมา ปั้นให้เป็นแผ่น เสร็จแล้ว นำเอาไส้สาคูมาวางไว้ตรงกลาง ห่อแป้งเม็ดสาคูให้เป็นทรงกลมให้เรียบร้อย วางลงในซึ้งนึ่ง ทำอย่างนี้จนกว่าจะได้ปริมาณสาคูตามที่ต้องการ
- ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด จากนั้น นำเอาสาคูไปนึ่ง ด้วยไฟแรง 3 – 4 นาที พอครบเวลา ให้ยกออกมา ใช้แปรงจุ่มน้ำมันทาลงบนสาคู เพื่อกันแป้งสาคูแต่ละลูกติดกัน
- จัดจาน เสิร์ฟพร้อมผักกาดหอม พริกขี้หนูสวน โรยด้วยกระเทียมเจียว เป็นอันเสร็จ
สาคูต้นน้ำกะทิ
หากอยากกิน สาคู น้ำกะทิแบบแท้ ๆ ต้องเมนูนี้เลยกับ สาคูต้นน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้ สาคูต้น หรือ เม็ดสาคูสีขาว เป็นวัตถุดิบหลัก ไม่แต่งสี กินคู่กับข้าวโพดหวาน ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อย
ส่วนผสม
- สาคูต้น (สาคูแท้) 200 กรัม
- น้ำมะพร้าว 700 กรัม
- น้ำ 800 กรัม
- ใบเตย 40 กรัม
- ข้าวโพด 100 กรัม
- น้ำตาล 200 กรัม
- หัวกะทิ 300 กรัม
- เกลือ 2/3 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำมะพร้าว และ น้ำเปล่าลงไป จากนั้น ผูกใบเตย บิดให้ใบแตก เพื่อให้มีกลิ่นหอม ใส่ลงไปด้วย แล้วนำไปตั้งไฟ ใช้ไฟกลางค่อนไฟแรง ต้มให้น้ำเดือด
- ใช้มีดฝานเอาเนื้อข้าวโพดออกมา
- พอน้ำในหม้อเดือดดีแล้ว ให้เทสาคูต้น พร้อมกับคนน้ำในหม้อไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ติดกัน คนไปเรื่อยจนกว่าจะกระจายทั่วหม้อดี
- พอน้ำเดือดแล้ว ให้ลดเป็นไฟกลาง เคี่ยวไปเรื่อย ๆ เมื่อน้ำเริ่มกลับมาเดือด ให้ใส่ข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากันดี
- ใส่น้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลทรายละลายดี ชิมรสชาติให้มีรสหวานตามที่ต้องการ พอเม็ดสาคูสุกได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ พักทิ้งไว้
- ทำน้ำกะทิ โดยตั้งหม้อ ใส่หัวกะทิลงไป ตามด้วยเกลือ คนให้เข้ากัน จากนั้น ต้มให้หัวกะทิแค่พอร้อนได้ที่ พอน้ำกะทิร้อนได้ที่ จนมีฟองปุดขึ้นตรงขอบหม้อแล้ว ให้ปิดไฟ
- ตักสาคูใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิด้านบน ตามใจชอบ เป็นอันเสร็จ
สาคูเขียวเปียกน้ำกะทิ
หลายคนคงชอบทานสาคูเปียกน้ำกะทิ เพราะทานแล้ว มีรสสัมผัสที่หนุบหนับ เคี้ยวมัน ซึ่งถ้าเกิดใครอยากเพิ่มวัตถุดิบบางอย่างเช่น ขนุน ก็สามารถประยุกต์ ใส่ลงไปได้เลย กินคู่กับ น้ำกะทิ ก็ยิ่งเพิ่มความหวานอร่อย ให้ขนมไทยเมนูนี้มากยิ่งขึ้น
ส่วนผสม
- สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
- กะทิ 250 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างเม็ดสาคูในน้ำสะอาด เพื่อล้างแป้งส่วนเกินออก
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่าลงไปรอให้น้ำเดือด จากนั้น ใส่เม็ดสาคู ลงไป คนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเม็ดสาคูจะสุก มีลักษณะใสเหมือนตากบ
- ใส่น้ำตาลลงไป คนจนน้ำตาลละลาย พักไว้
- ทำน้ำกะทิ โดยใส่น้ำกะทิลงในหม้อ ตามด้วยเกลือ แป้งสาลี คนให้แป้งสาลีละลาย นำขึ้นตั้งไฟ คนจนทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ
- จัดเสิร์ฟ ตักเม็ดสาคูใส่ชาม ราดน้ำกะทิลงไป เป็นอันเสร็จ
ตะโก้สาคูห่อใบเตย
ตะโก้ ปกติอาจจะท็อปปิ้งด้วยเนื้อมะพร้าว หรือว่า เผือก แต่หากท็อปปิ้งด้วย สาคู จะช่วยเพิ่มรสสัมผัสที่หนุบหนับเคี้ยวมัน ทำให้การกินตะโก้อร่อยมากขึ้น
ส่วนผสมสาคู
- สาคูเม็ดเล็ก 170 กรัม
- น้ำ 750 กรัม
- น้ำตาลทราย 250 กรัม
- ข้าวโพด 100 กรัม (ปรับได้ตามชอบ)
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ใบเตยหั่นท่อน 10 – 15 ใบ + น้ำเปล่าเล็กน้อย (ทำน้ำใบเตย)
- สีผสมอาหารสีเขียว
ส่วนผสมกะทิ
- แป้งถั่วเขียว 35 กรัม
- แป้งมัน 15 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 35 กรัม
- แป้งท้าว 25 กรัม
- หัวกะทิ 1000 กรัม
- น้ำตาลทราย 85 กรัม
- เกลือ 10 กรัม
วิธีทำสาคู
- นำใบเตยมาหั่นท่อน ใส่เครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่าเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด จากนั้น นำไปกรองผ่านกระชอน ให้ได้น้ำใบเตยเข้มข้นออกมา หากอยากได้สีเขียวเข้าม ให้ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไป
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าลงไป ต้มน้ำให้เดือด พอน้ำเดือดได้ที่แล้ว ใส่สาคูลงไป ต้มให้สุกจนกว่าเม็ดสาคูจะใส เหมือนตากบ
- ใส่น้ำใบเตยลงไป คนให้เข้ากัน ให้สาคูมีสีเขียว
- พอเม็ดสาคูเริ่มสุกได้ที่แล้ว ให้ใส่น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากัน ให้น้ำตาลทรายละลายดี เสร็จแล้ว ปิดไฟ พักทิ้งไว้ให้เย็น
- ใช้มีดฝานเนื้อข้าวโพดออกมา ใส่รวมกับสาคู
วิธีทำกะทิ
- เตรียมหม้อต้ม ใส่แป้งถั่วเขียว แป้งมัน แป้งข้าวเจ้า แป้งท้าว น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากัน
- ค่อย ๆ เทหัวกะทิลงไป พร้อมกับให้แป้งละลายเข้ากันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมด พอทุกอย่างละลายดีแล้ว ให้นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน กวนไปเรื่อย ๆ ในทางเดียว จนกว่ากะทิจะเริ่มข้นขึ้น
- พอกะทิเริ่มข้นขึ้น จนเห็นรอยตะกร้อ และ ข้นจนหยดลงเป็นสายแล้ว ให้ปิดไฟ
- ห่อใบเตยเป็นกระทงให้เรียบร้อย ตักกะทิไว้ด้านล่าง จากนั้น ตักสาคูข้าวโพดไว้ด้านบน เป็นอันเสร็จ
สาคูแคนตาลูปนมสด
เมนู สาคูแคนตาลูปนมสด นอกจากจะได้ซดนมสดหวานอร่อยแล้ว ยังได้กิน สาคู และ แคนตาลูป คู่กัน ทำให้เป็นของหวานที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสม
- สาคูต้น (สาคูแท้) 1 ถ้วย
- แคนตาลูป 1/2 ลูก
- นมสด 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืด 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใส่นมสดลงไป ตามด้วย นมข้นจืด น้ำตาลทราย เกลือ คนให้ละลายเข้ากัน แล้วต้มด้วยไฟอ่อน พอร้อนได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำไปแช่ตู้เย็น เตรียมไว้
- ใช้มีดหั่นครึ่งแคนตาลูป จากนั้น ใช้ที่คว้านผลไม้ ตักเอาแคนตาลูปเป็นลูกกลม ๆ ออกมา
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าลงไป ต้มน้ำเดือด พอน้ำในหม้อเดือดดีแล้ว ให้เทสาคูต้นลงไป พร้อมกับคนน้ำในหม้อไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ติดกัน ต้มจนกว่าสาคูจะสุก มีลักษณะใสเหมือนตากบ
- พอสาคูสุกแล้ว ให้ตักขึ้นแล้วน็อคในน้ำเย็น
- ตักนมสดใส่ถ้วย ตามด้วยสาคู และ แคนตาลูป ตามชอบ เป็นอันเสร็จ
สาคูบัวลอย
เม็ดสาคู สามารถประยุกต์ทำเป็น สาคูบัวลอย ได้ โดยการแต่งสีเม็ดสาคู ให้เป็นสีสันต่าง ๆ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ให้เหมือนกับแป้งบัวลอย ซึ่งถ้าหากใครไม่อยากปั้นแป้งบัวลอยให้ยุ่งยาก ก็สามารถใช้เม็ดสาคู ทำแทนได้เลย
ส่วนผสม
- เม็ดสาคู 200 กรัม
- สีผสมอาหาร สีม่วง
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
- กะทิ 500 กรัม
- ใบเตยมัด 3 ใบ
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างเม็ดสาคูให้สะอาด จากนั้น หยดสีผสมอาหารสีม่วงใส่น้ำเปล่า 3 หยด คนให้เข้ากัน เสร็จแล้ว นำเม็ดสาคูใส่ชาม เทน้ำสีม่วงลงไป คนให้เข้ากัน จนเม็ดสาคูกลายเป็นสีม่วง หากสียังไม่เข้าพอ ให้หยดสีผสมอาหารลงไปเพิ่ม
- ปั้นเม็ดสาคูให้เป็นก้อนกลม พอปั้นเรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่สาคูลงไป ต้มจนกว่าสาคูจะสุกดี จนลอยขึ้นมาด้านบน เสร็จแล้ว ตักขึ้น น็อคในน้ำเย็น
- ตั้งหม้อใหม่ ใส่กะทิลงไป ตามด้วยใบเตยมัด น้ำตาลทราย เกลือ ต้มด้วยไฟอ่อน คนให้น้ำตาลทรายและเกลือละลายดี
- พอกะทิร้อน จนเริ่มมีฟองปุดขึ้นตรงขอบหม้อ ให้ปิดไฟ
- ตักสาคูบัวลอยใสถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ เป็นอันเสร็จ
พุดดิ้งมะม่วงกะทิสาคู
เมนูของหวานสุดสร้างสรรค์ ที่นอกจากจะเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม เหมาะกับการทำขายเพื่อสร้างรายได้อีกด้วย โดยคุณสามารถประยุต์ใช้ผลไม้อื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น สตรอว์เบอร์รี่ หรือ บลูเบอร์รี่
ส่วนผสมพุดดิ้งมะม่วง
- เนื้อมะม่วงสุกบดละเอียด 250 กรัม
- น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
- ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- วิปปิ้งครีม 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- เนื้อมะม่วงสุกบด สำหรับตกแต่ง
- เนื้อมะม่วงสุกหั่นชิ้น สำหรับตกแต่ง
- ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
ส่วนผสมกะทิสาคู
- หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
- สาคูสีเขียวต้มสุก 250 กรัม
- เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำพุดดิ้งมะม่วง
- เตรียมแก้วเปล่า ใส่น้ำเปล่า และ ผงวุ้นเจลาติน คนให้ละลายเข้ากัน จากนั้น พักทิ้งไว้
- เตรียมหม้อต้ม ใส่เนื้อมะม่วงบดลงไป ตามด้วย น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม น้ำมะนาว คนทุกอย่างให้เข้ากัน
- นำขึ้นตั้งไฟ เปิดไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเดือด จากนั้น ใส่เจลาตินที่ผสมไว้ลงไป คนให้ละลายเข้ากันดี เสร็จแล้ว ปิดไฟ พักทิ้งไว้ให้เย็น
- ตักพุดดิ้งใส่แก้ว แล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้พุดดิ้งเซ็ตตัว ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
วิธีทำกะทิสาคู
- ล้างเม็ดสาคูในน้ำสะอาด เพื่อล้างแป้งส่วนเกินออก
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่าลงไปรอให้น้ำเดือด จากนั้น ใส่เม็ดสาคู ลงไป คนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเม็ดสาคูจะสุก มีลักษณะใสเหมือนตากบ
- ตั้งหม้อใหม่ ใส่กะทิลงไป คนเรื่อย ๆ ไม่ให้กะทิร้อนจนแตกมัน แล้วใส่เกลือ คนให้ละลายเข้ากัน
- ใส่สาคูลงไป คนให้เข้ากันดี ไม่ให้จับกันเป็นก้อน พอกะทิร้อนได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ
- นำแก้วใส่พุดดิ้งมะม่วงออกมา ราดด้วยกะทิสาคูไว้ด้านบน เป็นอันเสร็จ
สาคูเปียกถั่วดำ
นอกจากเผือก ข้าวโพดหวาน แล้ว หากใครชอบทานถั่วดำ ก็สามารถนำมาต้มทานคู่กับ สาคู ได้ เพิ่มรสหวานและเนื้อสัมผัส ทำให้การทานสาคูเปียกน้ำกะทิอร่อยมากกว่าเดิม
ส่วนผสมสาคู
- สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
ส่วนผสมถั่วดำ
- ถั่วดำต้มสุก 1 ถ้วยตวง
- กะทิ 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมหน้ากะทิ
- หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำสาคู
- ล้างเม็ดสาคูในน้ำสะอาด เพื่อล้างแป้งส่วนเกินออก
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่าลงไปรอให้น้ำเดือด จากนั้น ใส่เม็ดสาคู ลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าเม็ดสาคูจะสุก และ มีลักษณะใสเหมือนตากบ
- ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากัน เสร็จแล้ว ปิดไฟ พักไว้
วิธีทำถั่วดำ
- ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ใส่ถั่วดำลงไป พอต้มจนน้ำเดือดอีกรอบแล้ว ให้ปิดแก็ส และปิดฝาหม้อ อบทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง หรือ แช่ข้ามคืน
- พอครบเวลา ให้ต้มต่อด้วยไฟกลาง ให้พอน้ำเดือด ประมาณ 30 นาที ถ้าถั่วนิ่มตามความต้องการแล้ว ให้ปิดแก็ส แล้วไปกรองน้ำออกผ่านกระชอน ล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้ถั่วดำเย็นลง และล้างเอาคราบดำออก ถ้าล้างจนน้ำสะอาดแล้ว ให้ยกขึ้นพักไว้ได้เลย
- ตั้งหม้อ เปิดไฟอ่อน ใส่น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น คนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน
- ใส่ถั่วดำลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำกะทิจะเดือดตรงขอบหม้อ เสร็จแล้ว ปิดไฟ พักทิ้งไว้
วิธีทำหน้ากะทิ
- ตั้งหม้อ ใส่หัวกะทิ เกลือป่น และ แป้งข้าวเจ้า คนให้ละลายเข้ากัน ไม่มีแป้งติดกันเป็นเม็ด
- เสร็จแล้ว เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน ต้มและคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำกะทิจะเริ่มร้อนและมีลักษณะข้นขึ้น พอได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ พักทิ้งไว้
- ตักสาคูใส่ถ้วย ตามด้วยถั่วดำ และหน้ากะทิให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ
สาคูเปียกอัญชันข้าวโพดหวาน
หากอยากให้ สาคู มีสีม่วงจากดอกอัญชัน ก็เพียงแค่นำดอกอัญชันไปต้มในน้ำร้อน แล้วกรองผ่านกระชอน นำเอาน้ำอัญชันมาผสมกับสาคู เพียงเท่านี้ก็จะได้สาคูสีม่วงจากธรรมชาติ พร้อมทำสาคูน้ำกะทิสำหรับรับประทานแล้ว
ส่วนผสมสาคู
- สาคูเม็ดเล็กสีขาว 1 ถ้วย
- ข้าวโพดหวาน 200 กรัม
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
- น้ำดอกอัญชัญ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
ส่วนผสมหน้ากะทิ
- กะทิ 250 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำสาคูเปียกอัญชันข้าวโพดหวาน
- ล้างเม็ดสาคูในน้ำสะอาด เพื่อล้างแป้งส่วนเกินออก
- ทำน้ำอัญชัน โดยนำดอกอัญชันไปต้มในน้ำร้อน พอเดือดได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำไปกรองผ่านกระชอน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยน้ำอัญชันที่ทำไว้ จากนั้น ต้มให้น้ำเดือด
- ใส่เม็ดสาคูลงไป แล้วใช้ตะหลิวคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเม็ดสาคูจะสุก และ มีลักษณะใสเหมือนตากบ
- ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากัน เสร็จแล้ว ปิดไฟ ใส่ข้าวโพดหวานลงไป คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้
วิธีทำหน้ากะทิ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำกะทิลงไป ตามด้วยแป้งข้าวเจ้า เกลือ คนให้ละลายเข้ากัน
- จากนั้น เปิดไฟอ่อน ต้มให้น้ำกะทิร้อนได้ที่ พอมีฟองเดือดปุด ๆ ตรงขอบหม้อแล้ว ให้ปิดไฟ
- ตักสาคูอัญชันและข้าวโพดหวานใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิที่ต้มไว้ เป็นอันเสร็จ
สาคูสตรอว์เบอร์รี่กะทิสด
ปิดท้ายกันด้วยเมนู สาคู สูตรเฮลท์ตี้กันอีกเมนู กับ สาคูสตรอว์เบอร์รี่กะทิสด ซึ่งจะใช้สาคูต้น ต้มจนสุก ราดด้วยน้ำกะทิ แล้วท็อปปิ้งด้วยสตรอว์เบอร์รี่ ไว้ด้านบน แม้ดูเรียบง่าย แต่ก็น่ารับประทาน ไม่แพ้เมนูอื่น ๆ
ส่วนผสมสาคู
- สาคูเม็ดเล็กสีขาว 1 ถ้วย
- สตรอว์เบอร์รี่ 2 ลูก
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
ส่วนผสมหน้ากะทิ
- กะทิ 250 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำสาคู
- ล้างเม็ดสาคูในน้ำสะอาด เพื่อล้างแป้งส่วนเกินออก
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่าลงไป ต้มให้น้ำเดือด
- ใส่เม็ดสาคูลงไป แล้วใช้ตะหลิวคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเม็ดสาคูจะสุก และ มีลักษณะใสเหมือนตากบ
- ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากัน เสร็จแล้ว ปิดไฟ แล้วพักไว้
วิธีทำหน้ากะทิ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำกะทิลงไป ตามด้วยแป้งข้าวเจ้า เกลือ คนให้ละลายเข้ากัน
- จากนั้น เปิดไฟอ่อน ต้มให้น้ำกะทิร้อนได้ที่ พอมีฟองเดือดปุด ๆ ตรงขอบหม้อแล้ว ให้ปิดไฟ
- ตักสาคูอัญชันใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิที่ต้มไว้ หั่นสตอรว์เบอร์รี่ เป็นชิ้นบาง ๆ ตามที่ต้องการ เป็นอันเสร็จ
ส่วนใครที่ซื้อเม็ดสาคู มาแล้วใช้ไม่หมด อยากจะเก็บเม็ดสาคูไว้ได้นาน ๆ และทำให้การปิดปากถุงเป็นเรื่องง่าย แนะนำให้ใช้ เครื่องซีลถุง ของ SGE ด้วยแถบซีลที่หนา 3 มิลลิเมตร และ สามารถปรับความร้อนได้ 8 ระดับ จะช่วยให้คุณปิดปากถุงได้อย่างง่ายดาย ช่วยยืดอายุในการเก็บรักษาให้ยาวนาน อีกทั้งตัวเครื่องยังทำจากเหล็ก ทำให้การใช้งานทนทาน ไม่เสื่อมง่าย ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น หากสนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/bag-sealers/ หรือ สอบถามทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย
30 มกราคม 2024
โดย
Pres