กระจับ ประโยชน์ พร้อม วิธีปลูก ให้เขาควายโค้งงอสวย ไม่ซ้ำใคร
กระจับ ปลูกอย่างไร ให้เขาควายโค้งงอสวย ไม่ซ้ำใคร SGE มีวิธีปลูกมาฝาก พร้อมพาไปดูประโยชน์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้
หากใครอยากปลูกพืชเศรษฐกิจที่ปลูกง่าย สร้างรายได้ไม่ธรรมดา ชนิดนี้เป็นแล้วละก็ ตามมาดูกันเลย
ทำความรู้จัก กระจับ
ลักษณะทั่วไปของกระจับ
กระจับ หรือ กระจับเขาควาย เป็นพืชน้ำล้มลุก ชอบน้ำนิ่ง ทำให้มักขึ้นในพื้นที่น้ำขัง ลักษณะภายนอกเป็นกอลอยน้ำ มีรากหยั่งดินลึกและมีไหล ใบเดี่ยวมี 2 แบบ ใบที่ลอยน้ำมีก้านยาว อวบน้ำ และ พองเป็นกระเปาะตรงกลาง ทำให้ลอยน้ำได้ดี มีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หรือ รูปพัด ขอบใบแหลม เรียงรอบลำต้นเวียนเป็นเกลียวถี่ ๆ ใบอีกแบบหนึ่งอยู่ในน้ำ เป็นเส้นฝอย ๆ คล้ายราก
ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีขาว ออกที่โคนก้านใบ บานอยู่เหนือน้ำ มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ เมื่อติดผลแล้ว ก้านดอกจะงอกลับลงน้ำ มีผลหรือฝักเจริญอยู่ใต้น้ำ ฝักอ่อนสีม่วงอมแดง ฝักแก่มีสีดำ ส่วนที่เป็นเขาโค้ง 2 ข้าง เจริญมาจากกลีบเลี้ยง เปลือกหนาแข็งงอโค้งคล้ายเขาควาย มีสีดำขนาดใหญ่ เมื่อกะเทาะเปลือกนอกที่แข็งออก จะได้เนื้อในสีขาว มีแป้งมาก ข้างในมีเมล็ดกระจับสีขาวอยู่ 1 เมล็ด
สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการปลูก
เนื่องจากเป็นพืชน้ำล้มลุก กระจับจึงเจริญเติบโตได้ดีตาม ห้วย หนอง คลอง บึง ต่าง ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำนิ่ง หรือ พื้นที่น้ำขัง แค่มีระดับน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 60 เซนติเมตร ก็สามารถเติบโตได้ตามธรรมชาติ ปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย โดยจังหวัดที่นิยมปลูกกระจับเขาควาย ได้แก่ สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรณบุรี
กระจับ ปลูกกี่ปี
กระจับเขาควาย เป็นพืชโตเร็ว ทนแล้ง ทนน้ำท่วมขังได้ดี จึงปลูกได้ไม่ยาก ปลูกอย่างน้อย 4 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตเพื่อนำมากิน หรือ ขายสร้างรายได้ได้แล้ว นิยมปลูกในช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม ของทุกปี
กระจับ ราคา
ราคาของกระจับ หากใครปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หรือ มิถุนายน จะได้ราคาดีกว่าปกติ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18 บาท หากปลูก 1 ไร่ แล้วได้ผลผลิต 1 กิโลกรัม จะสามารถสร้างรายได้ถึง 18,000 – 20,000 บาท แต่หากปลูกช้ากว่านั้น ก็อาจมีรายได้น้อยลง ราคาตกลงมาที่กิโลกรัมละ 11 บาท
กระจับ ประโยชน์
กระจับ เดิมเป็นวัชพืช ที่ถ้าหากขึ้นคลุมผิวน้ำเป็นจำนวนมาก จะปิดบังแสงลงสู่ท้องน้ำ ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ และ เป็นอุปสรรคในการทำประมงของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ด้วยผลหรือฝักกระจับ มีเขาโค้งงอทั้ง 2 ด้าน คล้ายกับเขาควาย ซึ่งมีรูปร่างแปลกตา และ สวยงามไม่เหมือนใคร ปัจจุบัน คนจึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เหมือนบัวในกระถาง ทั้งในไทยและต่างประเทศ จนกลายเป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ชาวบ้านตามจังหวัดต่าง ๆ นิยมปลูกเพื่อสร้างรายได้กันมากขึ้น
นอกจากนี้ ฝักกระจับเอง ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะนำมากะเทาะเปลือกออก เอาเปลือกมาใช้ทำเชื้อเพลิง ส่วนเนื้อใน ก็นำมาทำอาหารคาวหวาน ตัวต้นกระจับตั้งแต่หัว ใบ ฝัก ก็มีสรรพคุณทางยา สามารถนำมาต้มกิน เป็นยาบำรุงครรภ์ แก้ไอ กัดเสมหะ เป็นยาชูกำลัง แก้อ่อนเพลีย อีกทั้งยังสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยหมัก สำหรับใช้บำรุงดิน ให้พืชเจริญเติบโตได้อีกด้วย
วิธีปลูกกระจับ แบบง่าย ๆ
วิธีปลูกกระจับ หากเป็นวิถีชาวบ้าน จะนิยมปลูกในทุ่งนา หรือ พื้นที่น้ำขัง แต่ถ้าใครไม่มีพื้นที่ จะปลูกในกะละมัง หรือ กระถาง ใส่ดิน แล้วเติมน้ำให้ท่วมแทนก็ได้ สามารถขยายพันธุ์ได้ ด้วยการเพาะเมล็ด หรือ ปลูกด้วยเถาลงในดิน โดยวิธีนี้ จะมาแนะนำวิธีปลูกแบบเพาะเมล็ด รับรองว่า ทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ยากแน่นอน
อุปกรณ์และวัสดุ
- เมล็ดกระจับ (เมล็ดจากฝักแก่)
- ดินร่วน/ดินเหนียว
- แกลบดำ
- กะละมัง หรือ กระถาง มีความสูงอย่างน้อย 80 เซนติเมตร
วิธีปลูก
- ใส่ดินร่วน/ดินเหนียว ลงในกะละมัง หรือ กระถาง
- เจาะรูดินตื้น ๆ นำเมล็ดกระจับใส่ลงไป กลบให้มิด ถ้าปลูกหลายต้น ให้เว้นระยะห่างระหว่างต้นเล็กน้อย (หากใครปลูกในไร่นา ให้มีระยะห่างระหว่างต้น 1.1 x 1 เมตร สำหรับพื้นที่ 1 ไร่ จะได้ทั้งหมด 1,000 กอ)
- เติมน้ำลงไป จนกว่าจะมีระดับน้ำอย่างน้อย 60 เซนติเมตร (ระหว่างปลูก คอยดูระดับน้ำ ให้ท่วมหน้าดินอยู่ตลอดเวลา)
- หลังจากปลูกได้ 4 เดือน ต้นกระจับก็จะออกฝัก พร้อมให้เก็บเกี่ยวได้แล้ว
การดูแลและการเก็บผลผลิต
การดูแลรักษากระจับ ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่หมั่นเติมน้ำให้ท่วม แล้วใส่ปุ๋ยเคมี พร้อมกับใช้สารสมุนไพรฉีดพ่นทางใบ เพียงแค่นี้ ก็จะช่วยให้ กระจับ เจริญเติบโตได้ดีแล้ว สำหรับการเก็บผลผลิต เราจะเก็บผลหรือฝักกระจับ เมื่อฝักแก่ เปลือกแข็งและมีสีดำเท่านั้น
การให้แสง
ควรวางกระถางไว้ในพื้นที่กลางแจ้งตลอดเวลา เพื่อให้ต้นกระจับได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่
การให้ปุ๋ย
หลังจากปลูกได้ 1 สัปดาห์ ให้ใส่ปุ๋ยเคมี 24-8-8 บำรุงต้น และ เมื่อต้นเริ่มแข็งแรง ลำต้นแตกกอแล้ว ให้ใส่ปุ๋ยเคมี 24-8-8 อีก 1 รอบ
การให้น้ำ
คอยดูระดับน้ำให้ท่วมขังหน้าดินอยู่ตลอดเวลา โดยมีความสูงของระดับน้ำอย่างน้อย 60 เซนติเมตร ทั้งนี้ ควรเปลี่ยนน้ำสะอาด 1 ครั้ง ทุก ๆ 1 – 2 เดือน ด้วย
การบำรุงใบ
ใช้สารสมุนไพรฉีดพ่นทางใบ ทุก ๆ 15 – 20 วัน เพื่อบำรุงใบ ดอก ให้เจริญงอกงาม
การเก็บผลผลิต
เราจะเก็บผลผลิต เมื่อกระจับออกผลเท่านั้น โดยผลที่เก็บนั้น จะต้องแก่ได้ที่ วิธีสังเกต ให้ดูที่สีของเปลือกฝักจะมีสีม่วงแดงจนถึงดำ และ เปลือกมีลักษณะแข็ง สามารถทยอยเก็บเป็นระยะ ทุก ๆ 8 – 10 วัน/ครั้ง โดยกระจับ 1 กอ จะเก็บฝักได้ประมาณ 5 – 6 ครั้งเลยทีเดียว
รู้ถึงประโยชน์และวิธีปลูก กระจับ กันไปแล้ว หากใครอยากปลูกกระจับ เพื่อสร้างรายได้กันบ้างแล้วละก็ ลองทำตามวิธีที่นำมาฝากกันได้เลย รับรองว่า นอกจากจะปลูกง่าย โตเร็ว ให้กำไรงามแล้ว ยังได้พืชรูปร่างแปลกตาไว้ปลูกในกระถาง ประดับบ้าน ไม่ซ้ำใครได้อีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ
12 มีนาคม 2024
โดย
Pres