เคล็ดลับ การเลือกซื้อเนื้อหมู ให้ถูกหลักอนามัย ทำได้อย่างไร?
เนื้อหมู 🥩เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญ และเป็นส่วนผสมยอดนิยมที่เกือบทุกบ้านมีติดตู้เย็นไว้เสมอ เพราะนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ดังนั้น การเลือกซื้อเนื้อหมู ให้เป็นและเก็บรักษาอย่างถูกวิธี จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรรู้ เพื่อจะได้รสชาติและประโยชน์จากเนื้อหมูอย่างเต็มที่
บทความนี้ SGE จะมาบอกเคล็ดลับ “การเลือกซื้อเนื้อหมู” ให้ถูกหลักอนามัย และการเก็บรักษา เนื้อหมู ให้อยู่ได้นานกัน จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกัน
รู้จักกับเนื้อหมู
เนื้อหมูจัดเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการนำมาประกอบอาหาร ซึ่งเนื้อหมูเป็นเนื้อที่มีส่วนต่าง ๆ ให้เลือกใช้ได้หลายส่วน เช่น เนื้อสันนอก เนื้อสันใน เนื้อสะโพก ฯลฯ เนื้อหมูเป็นเนื้อที่มีความอร่อย สามารถนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารได้หลากหลายประเภท
ข้อมูลทางโภชนาการของเนื้อหมู เป็นอย่างไร?
เนื้อหมู อุดมไปด้วยสารอาหารประเภทโปรตีน กรดไขมัน กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และคอเลสเตอรอล หากลองคำนวณปริมาณสารอาหารในเนื้อหมูขนาด 100 กรัม ได้ข้อมูลทางโภชนาการ ดังนี้
เนื้อหมูปริมาณ 100 กรัม
- พลังงานทั้งหมด 84 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 21 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต (ใยอาหาร, น้ำตาล) 0 กรัม
- ไขมันทั้งหมด (ไขมันอิ่มตัว, ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน, ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว, ไขมันทรานส์) 0 กรัม
- คลอเรสเตอรอล 0 มิลลิกรัม
- โซเดียม 0 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 0 มิลลิกรัม
เนื้อหมูถือเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญ ที่ได้รับความนิยมสูง ในการนำมาประกอบเป็นอาหารจานหลัก โปรตีนมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเนื้อเยื้อ อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย โดยเนื้อหมูส่วนที่มักนำมาประกอบอาหารมากที่สุด คือ เนื้อหมูส่วนสันใน เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนสูง เนื้อส่วนที่มีไขมันมากที่สุด คือ ส่วนสามชั้น ตามมาด้วยเนื้อส่วนคอ และซี่โครง ที่นิยมนำมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารเช่นกัน
การเลือกซื้อเนื้อหมูให้เหมาะกับอาหาร
-
สันในหมู 🥩
เนื้อสันใน อยู่ส่วนที่ติดกับซี่โครงด้านใน มีลักษณะเป็นเส้นยาว ๆ ไม่มีมันแทรก ความพิเศษ คือ มีความนุ่ม ละมุน เนื้อไม่หยาบกระด้าง เนื้อส่วนนี้ นำไปทำอะไรก็อร่อย ทั้งต้ม ผัด เเกง หรือทอดก็ได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ ควรหั่นเนื้อไปตามแนวเนื้อ ชิ้นไม่หนาเเละบางเกิน นอกจากนี้ เวลาปรุงเนื้อสันใน ต้องปรุงไม่นานจนเกินไป เพราะเนื้อมีความนิ่มอยู่เเล้วนั่นเอง
เมนูเเนะนำจากสันในหมู : สเต็กไก่ราดซอส, หมูสันในทอดน้ำปลา, หมูสันในอบ เป็นต้น
-
เนื้อหมูสันนอก 🥩
เนื้อหมูสันนอกนี้ จะติดมันนิด ๆ อยู่บริเวณรอบนอกโซนหัวไหล่หมู ไปจนถึงส่วนสะโพก เนื้อนุ่มปานกลาง มีความพอดี ไม่นุ่ม เเละเหนียวจนเกินไป เนื้อส่วนนี้นำไป ทอด ย่าง หรือปิ้งได้ดี เหมาะกับทำสเต็กเลยทีเดียว เคล็ดลับความอร่อย คือ การปรุงรสหมูก่อนในไปทำอาหาร จะได้รสชาติที่ดีเลยทีเดียว
เมนูเเนะนำจากเนื้อหมูสันนอก : หมูสันนอกย่างจิ้มแจ่ว, สเต็กหมูสันนอกกระเทียมพริกไทย, หมูทอดนมสด, หมูสันนอกอบน้ำผึ้ง เป็นต้น
-
เนื้อหมูสันคอ 🥩
เนื้อหมูสันคอ อยู่บริเวณด้านบนถัดจากหัวหมู ความเเตกต่างของเนื้อส่วนนี้ คือ จะมีมันเเทรกอยู่ตามเนื้อค่อนข้างเยอะ เเละมีสีเข้ม สายมันหมูเลิฟเวอร์ว่ากันว่าเนื้อส่วนนี้อร่อยที่สุด สามารถนำไปทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งทอด ผัด ย่าง อบ หรือต้ม เเละไม่จำเป็นต้องปรุงรสก็อร่อย
เมนูแนะนำจากเนื้อสันคอหมู : คอหมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว, ยำคอหมูทอด, คอหมูทอดกระเทียม เป็นต้น
-
เนื้อหมูสามชั้น 🥩
เนื้อหมูบริเวณท้อง มีทั้งชนเนื้อ และไขมัน เบคอนเลิฟเวอร์ถูกใจสิ่งนี้เลย สามารถนำทำเป็นเบคอน หรือหมูกรอบ มาทำเมนูได้หลากหลายทอด ปิ้ง ย่าง ต้ม ก็อร่อยสุด ๆ ตอนเลือกซื้อเนื้อหมูสามชั้น ควรเลือกชิ้นที่มีทั้งเนื้อ เเละมันสลับเเทรกกัน เเละเนื้อต้องมีความมันวาว ไม่มีพังผืด
เมนูแนะนำจากเนื้อหมูสามชั้น : หมูสามชั้นทอดน้ำปลา, หมูสามชั้นทอดพริกเกลือ, เบคอนผัดเนย, เบคอนพันเห็ดเข็มทองย่าง, หมูกรอบทอดน้ำจิ้มแจ่ว เป็นต้น
-
ซี่โครงหมู 🥩
หมูส่วนซี่โครง เป็นส่วนกระดูกที่มีเนื้อติดอยู่น้อย มาจากเเผงกระดูกบริเวณข้างลำตัว และซี่โครงอ่อน ส่วนใหญ่นิยมนำมาต้มซุป เพื่อเพิ่มความกลมกล่อม เเละหอมหวาน นอกจากนี้ ยังนำมาทอด อบ ได้อีกด้วย ถ้าต้มซี่โครงหมูในระยะเวลาที่นานพอ ก็จะทำเนื้อนุ่มเลยทีเดียว
เมนูเเนะนำจากซี่โครงหมู :ซี่โครงหมูอบบาร์บีคิว, ซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทย, ซี่โครงหมูผัดตะไคร้ เป็นต้น
อ่านบทความ : เมนูซี่โครงหมู อร่อยเข้าเนื้อ เคี้ยวเพลินจนหยุดไม่ได้
เคล็ดลับ การเลือกซื้อเนื้อหมู ทำได้อย่างไร?
เนื้อหมูแทบจะเป็นอาหารหลักของใครหลาย ๆ คนในทุกมื้ออาหาร เเละเนื้อหมูเเต่ละส่วน ยังทำเมนูได้อร่อยไม่เหมือนกันด้วย แต่ช่วงที่ผ่านมาหลาย ๆ คนคงได้ยินข่าวโรค หรืออาการที่เกี่ยวกับการบริโภคหมู อย่างโรคไข้หูดับ ที่เกิดจากการทานหมูไม่สุก เเละต้องสัมผัสกับเนื้อหมูป่วย ทำให้เกิดเป็นอันตราย เรียกได้ว่า เป็นภัยเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับ คนทำครัว หรือแม้กระทั่ง คนที่บริโภคเนื้อหมูก็ตาม และ การเลือกซื้อเนื้อหมู ให้ถูกหลักอนามัย เเละวิธีการเลือกเนื้อหมูแต่ละส่วนให้อร่อยถูกใจ ดังนี้
- เลือกซื้อเนื้อหมูที่มีชมพูอ่อน ๆ ไขมันสีขาว
- เนื้อหมูไม่ควรมีสีแดงสด เพราะมีสารเร่งเนื้อเเดง
- เนื้อไม่ควรมีสีเขียวคล้ำ เเสดงว่าหมูเสีย
- เลือกซื้อเนื้อหมูที่กดแล้วไม่บุ๋ม ถ้าเอานิ้วไปกดเเล้วบุ๋มเเสดงว่าหมูนั้นเป็นหมูเก่า หรือแช่แข็งมานั่นเอง
- ผิวของเนื้อหมู ควรจะมันวาว ไม่เกิดพังผืดขึ้น หนังหมูสะอาดเกลี้ยงเกลา หากเป็นมันหมู ก็ต้องขาวใส
- สังเกตว่ามีพยาธิอยู่ในเนื้อหมูหรือไม่ พยาธิในเนื้อหมู จะคล้ายกับเม็ดสาคู เเทรกอยู่ตามเนื้อหมู ถ้ามีพยาธิไม่ควรซื้อมารับประทาน
- เมื่อซื้อมาประกอบอาหารเเล้ว ควรปรุงให้สุก ให้เนื้อเป็นสีขาว ไม่หลงเหลือความเเดงของเนื้อหมูสดอยู่
- สำหรับการเลือกซื้อซี่โครงหมู เนื้อจะต้องไม่ติดกันเกินไป
- ดมกลิ่นเเล้ว กลิ่นต้องไม่แรง หรือเหม็นหืน
- เมื่อซื้อเนื้อหมูมาเเล้ว ควรเก็บลงกล่องพลาสติก เเละเเช่ช่องแข็ง เพื่อคงความสดใหม่ เเต่หากเก็บไว้นานเกิน จะทำให้รสชาติหมูเปลี่ยนไป
วิธีเก็บรักษาเนื้อหมู ทำได้อย่างไร?
- นำเนื้อหมูมาล้างด้วยน้ำสะอาด
- นั่นเป็นชิ้น หรือตามแนวขวาง โดยแบ่งสัดส่วนตามปริมาณที่จะใช้ในการประกอบอาหารแต่ละครั้ง
- เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง
- แยกเนื้อหมูแต่ละส่วนก่อนเก็บใส่กล่องพลาสติก ปิดฝาให้สนิท
- แช่ในช่องแช่แข็ง ช่วยชะลอการเติบโตของเชื้อปนเปื้อนต่าง ๆ และคงคุณค่าทางโภชนาการได้ด้วย
ทุกครั้งที่นำเนื้อหมูออกจากช่องแช่แข็ง ควรปล่อยให้น้ำแข็งละลายเองก่อน จะนำเนื้อหมูมาทำอาหาร ไม่ควรแช่เนื้อหมูในน้ำ เพราะนอกจากทำให้เสียคุณค่าทางอาหารยังทำให้เนื้อหมูกระด้าง รสชาติไม่อร่อย ที่สำคัญไม่ควรเก็บเนื้อหมูไว้ในช่องแช่แข็งนานเกิน 1 เดือน
นอกจากนี้ เราขอแนะนำตัวช่วยในการเก็บรักษาเนื้อหมู ให้เก็บได้นานยิ่งขึ้น นั้นคือ การซีลสุญญากาศนั่นเอง ถือเป็นวิธีที่จะช่วยยืดอายุของอาหารได้นานถึง 3 เท่าเลยทีเดียว โดยเราสามารถใช้ เครื่องซีลสุญญากาศ ที่ใช้ร่วมกันกับ ถุงซีลสุญญากาศ เป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เก็บอาหารได้นานยิ่งขึ้น
30 มกราคม 2024
โดย
ลำดวน