วิธีทำ ขนมปุยฝ้าย เนื้อฟูนุ่ม หน้าแตกสวย ทำง่ายมาก!
ขนมปุยฝ้าย หนึ่งในขนมมงคล ตัวแทนแห่งความรุ่งเรืองเฟื่องฟู ทำอย่างไรให้เนื้อนุ่ม ไม่ฝืดคอ หอมละมุนดอกไม้ พร้อมเคล็ดลับสร้างลวดลาย “ส้มมงคล” ให้โดดเด่น น่าทานทุกมุม! 🍊💕
สูตรขนมปุยฝ้าย
วัตถุดิบขนมปุยฝ้าย
แป้งเค้ก
225 กรัม
ผงฟู
1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
200 กรัม
สาร SP
8 กรัม
ไข่ไก่ (เบอร์ 2)
1 ฟอง
กลิ่นมะลิ
1 ช้อนชา
น้ำมะนาว
1 ช้อนชา
สีผสมอาหาร สีส้ม สีเขียว
สีละ 1 ซอง
น้ำมะนาว (สำหรับกรีดหน้า)
1 ช้อนชา
วิธีทำขนมปุยฝ้าย
1.
ใช้กระชอนร่อนแป้งเค้กและผงฟู เพื่อให้แป้งมีความโปร่งเบาและละเอียดขึ้น
3.
เทแป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีด้วยสปีดต่ำให้ผงแป้งไม่ฟุ้ง จากนั้นใช้สปีดสูงตีให้เนียน
4.
เติมกลิ่นมะลิและน้ำมะนาวลงไป แล้วตีสปีดต่ำอีกครั้ง เพื่อไล่ฟองอากาศออก
5.
แบ่งแป้ง ผสมสี ได้แก่ สีขาว (ทำหน้าขนม) สีส้มเข้ม (ทำผลส้ม) และสีส้มอ่อน (ทำเนื้อขนม)
5.
หยอดสีส้มอ่อน 3/4 ถ้วย ตามด้วยสีขาว เกลี่ยให้เรียบ ใช้ไม้จุ่มน้ำมะนาว กรีดเป็นเครื่องหมาย +
7.
ทำผลส้ม โดยการใช้สีส้มเข้ม บีบจุดลงบนหน้าขนม แล้วเกลี่ยให้เรียบลงเล็กน้อย
8.
ทำใบไม้ โดยใช้ไม้จุ่มสีเขียวเข้ม กรีดเป็นรูป V จากนั้นนึ่ง ขนมปุยฝ้าย ด้วยไฟอ่อน ประมาณ 15 นาที
9.
แกะขนมปุยฝ้ายออกจากฟอยล์ ยกผึ่งบนตะแกรง เพื่อไม่ให้ขนมแฉะ เป็นอันเสร็จ
เรื่องน่ารู้
สารเอสพี (SP) สารเสริมคุณภาพชนิดหนึ่งที่ใช้ในงานเบเกอรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขนมที่มีเนื้อสัมผัสเบาฟู เช่น เค้ก สปันจ์เค้ก ขนมปุยฝ้าย ฯลฯ สารเอสพีมีลักษณะเป็นครีมใส สีน้ำตาลอ่อนเกือบขาว และมีกลิ่นหอม ประโยชน์ของสารนี้ นอกจากจะทำให้ขนมฟูดีแล้ว ยังช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันดี ตีไข่ฟูไวขึ้น และยังช่วยให้ขนมคงสภาพนาน ไม่ยุบตัวง่ายอีกด้วย
ขนมปุยฝ้ายหน้าจะแตกได้ ต้องกรีดก่อน เพื่อให้ขนมแตกตามรอยที่เรากรีด ให้เราใช้ไม้ปลายแหลมจุ่ม น้ำมะนาว หรือ น้ำส้มสายชู ก่อนกรีด เพราะทั้งคู่มีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้โครงสร้างของแป้งบริเวณที่กรีดอ่อนตัวลง และแตกออกได้ง่ายขึ้นเมื่อนึ่งสุก
ขนมปุยฝ้าย นิยมใส่ กลิ่นมะลิ มากที่สุด เพราะกลิ่นมะลิจะช่วยให้ขนมปุยฝ้ายมีกลิ่นหอมละมุน ชวนให้นึกถึงความเป็นไทย ส่วนกลิ่นที่นิยมรองลงมา จะเป็น กลิ่นวานิลลา กลิ่นใบเตย กลิ่นส้ม และกลิ่นอื่นตามลำดับ
ขนมถ้วยฟู ปุยฝ้าย และสาลี่ หากมองเผิน ๆ จะมีลักษณะคล้ายกันมาก ทำให้หลายคนสงสัยว่าต่างกันยังไง วันนี้เราจะมาบอกวิธีสังเกตกัน
- ขนมถ้วยฟู จะใช้แป้งข้าวเจ้าผสมกับยีสต์ ทำให้มีเนื้อเหนียวนุ่มคล้ายขนมตาล มีการแต่งกลิ่นเพื่อดับกลิ่นหมัก หน้าขนมจะแตกออกเป็นแฉกเล็กน้อย แต่ละชิ้นมีขนาดเล็กพอดีคำ เนื้อเบาฟู แต่มีความหนึบเล็กน้อย
- ขนมปุยฝ้าย นิยมใช้แป้งสาลีหรือแป้งเค้กในการทำ เนื้อสัมผัสเบา เนียนละเอียด และมีความฟู ทานแล้วรู้สึกฝืดคอเล็กน้อย หน้าขนมแตกบานเป็นแฉกลึก นิยมนึ่งใส่ถ้วยกระดาษ เนื้อเบาฟู เนียนละเอียด มีความแห้งเล็กน้อย
- ขนมสาลี่ ใช้แป้งสาลี เนื้อสัมผัสจะแน่น ส่วนมากนิยมอบใส่ถาดแล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก แต่งกลิ่นหลากหลาย นุ่มฟูแต่แน่น นิยมตัดแบ่งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก
หากใครกำลังมองหา ขนมมงคล ไว้ไหว้ในวันตรุษจีน หรือ ใช้ในงานมงคลต่าง ๆ แล้วละก็ ลองทำ ขนมปุยฝ้าย สูตรนี้ได้เลย รับรองว่า เนื้อนุ่มไม่ฝืดคอ สีสันสวยงาม น่ารับประทานแน่นอน และสำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสูตรขนมปุยฝ้ายหรือสูตรอาหารอื่น ๆ สามารถสอบถามหรือแชร์ไอเดียเจ๋ง ๆ ได้ที่ กลุ่มคนรักการทำอาหาร ได้เลย
เมนูที่คล้ายกัน
เผยแพร่ 4 มีนาคม 2025
