“ข้าวแช่” ประวัติ พร้อมวิธีทำให้อร่อยสดชื่น คลายร้อนสไตล์ชาววัง
ทำความรู้จักประวัติ “ข้าวแช่” สักนิด
ข้าวแช่ เป็นกับข้าวของชาวมอญ ใช้ประกอบในเทศกาลสงกรานต์ของชาวมอญ จะต้องทำข้าวแช่ถวายพระเพื่อความเป็นสิริมงคล จนถือเป็นประเพณีสืบต่อกันมา ซึ่งข้าวแช่จะมีอยู่แค่ในวังเท่านั้น และต่อมาได้แพร่หลายไปทั่วในหลายจังหวัดของภาคกลาง
ย้อนรอยข้าวแช่:
- ช่วงรัชกาลที่ 3 มีจารึกในแผ่นศิลารวมระบุว่า เมนู “ข้าวแช่” ของไทยได้รับอิทธิพลสืบเนื่องมาจากตำนานสงกรานต์มอญถูกเรียกว่า “เปิงด้าจก์” เป็นเมนูที่ไม่ได้ทำกินกันทั่ว ๆ ไป เพราะถูกปรุงขึ้นเพื่อใช้เซ่นไหว้ประกอบพิธีบูชาเทวดาในการขอพรให้ได้ลูก หรือมีทายาทสืบสกุลใน “วันมหาสงกรานต์” ของมอญเท่านั้น
- ช่วงรัชกาลที่ 4 ข้าวแช่เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นเพราะ “เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น” เจ้าจอมเชื้อสายมอญทางเจ้าพระยามหาโยธา (เจ่ง คชเสนี) พระสนมเอกในรัชกาลที่ 4 ได้นำข้าวแช่ขึ้นถวายเป็นเครื่องต้น ไปถวายงานพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 นิยมเสวยกันในวัง และได้ถ่ายทอดการทำข้าวแช่ ไปยังห้องเครื่อง จนแพร่หลายไปยังเมืองเพชรบุรี
- ช่วงรัชกาลที่ 5 “หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์” ข้าหลวงประจำห้องเครื่อง ได้เป็นผู้แพร่ ข้าวแช่ชาววัง สู่สาธารณชน และได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
คนไทยพอได้ลองชิม ข้าวแช่มอญ ก็ถูกปาก จึงถูกแปลงเป็นข้าวแช่ไทยตั้งแต่นั้นมา แต่ด้วย วิธีทำข้าวแช่ ต้องใช้เวลาเตรียมล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน และความสวยงามต่าง ๆ ของสำรับ เครื่องเคียง ข้าวแช่ไทยชั้นดี จึงมีอยู่แต่ในวังเท่านั้น คนธรรมดาในสมัยก่อน จะทำทานเองได้ยาก
“เครื่องเคียงข้าวแช่” มีอะไรบ้าง?
ข้าวแช่และเครื่องเคียงในหนึ่งสำรับ ประกอบไปด้วย
- ข้าวหุง – นิยมใช้ข้าวหอมมะลิเก่า เพราะเม็ดข้าวไม่แข็งกระด้าง และไม่นุ่มจนเกินไป
- น้ำลอยดอกมะลิ – ต้มน้ำเดือดทิ้งไว้จนเย็น นำไปอบควันเทียน ใส่ดอกมะลิ เพิ่มกลิ่นหอม
- ลูกกะปิ – ทำจากปลาย่าง (ปลาช่อน หรือปลาดุก), ตะไคร้, กระชาย, หัวหอม, กะปิ และหัวกะทิ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดพอดีคำ นำไปชุบไข่ผสมแป้งสาลี และทอดให้สุกกรอบ
- หอมแดงยัดไส้ – ทำจากเนื้อปลาย่าง(ปลาช่อน หรือปลาดุก) โขลกกับเครื่องสมุนไพร นำไปปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ ยัดใส่ในหัวหอมแดงที่คว้านเนื้อตรงกลางออก นำไปชุบไข่ผสมแป้งสาลี และทอดให้สุกกรอบ
- ลูกไข่เค็ม – ลูกไข่แดงเค็ม ที่นำมาปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ นำไปชุบไข่ผสมแป้งสาลี และทอดให้สุกกรอบ
- หมูฝอย หรือเนื้อฝอย – เป็นเนื้อที่ผ่านการปรุงรส ปรุงสุก ฉีกเป็นฝอย เอาไปทอดกับน้ำตาล จนได้รสชาติหวาน
- ไชโป๊ผัดหวาน – ไชโป๊เส้นเล็กผัดกับน้ำตาลโตนด ให้รสชาติหวาน-เค็ม
- แตงโมปลาแห้ง – นิยมใช้แตงโมเนื้อทราย เนื้อแน่น หวาน กรอบ และฉ่ำน้ำ โรยหน้าด้วยปลาแห้ง
- พริกหยวกสอดไส้ (หรุ่ม) – เนื้อกุ้ง หรือเนื้อหมูติดมันสับละเอียด ปรุงรส และนึ่งจนสุก นำไปห่อด้วยพริกหยวก และไข่ที่ทำเป็นตาข่ายแพ
- เครื่องแนม – ผัก และผลไม้ต่าง ๆ เช่น กระชาย, แตงกวา, มะม่วงเปรี้ยว, ต้นหอม ที่แกะสลักไว้
วิธีทำข้าวแช่ สูตรต้นตำรับชาววัง
(แยกตามส่วนประกอบเครื่องเคียง)
ข้าวแช่นั้น จะมีข้าวสุกแช่น้ำเย็นกับน้ำดอกไม้ ทานคู่กับเครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น ลูกกะปิทอด, พริกหยวกสอดไส้, หมู-เนื้อฝอย, ลูกไข่เค็ม, หอมแดงสอดไส้, ไชโป๊ผัดหวาน, แตงโมปลาแห้ง และเครื่องแนมผักสดต่าง ๆ จะนิยมทานในหน้าร้อน ปัจจุบันอาจใส่น้ำแข็งในข้าวแช่ด้วย ดับร้อนได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ตามไปดูวิธีทำแต่ละส่วนประกอบกันเลย
1. วิธีทำข้าวแช่
ส่วนผสม
-
ข้าวเจ้าหอมมะลิเก่า 2 ถ้วยตวง
-
น้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียน 8 ถ้วยตวง
-
เทียนอบ 1 แท่ง
ขั้นตอนการทำ
- นำข้าวเจ้าหอมมะลิเก่ามาตั้งน้ำให้พอเดือด หมั่นคนให้ข้าวครึ่งสุกครึ่งดิบ จากนั้นเทใส่กระชอน ผ่านน้ำเย็น ใช้มือขัดข้าวเบา ๆ อย่าให้เม็ดข้าวหัก ขัดข้าวไปเรื่อย ๆ จนข้าวเป็นเม็ดใส
- จากนั้น นำข้าวห่อในผ้าขาวบาง นำไปนึ่งสุกพอดี ไม่สุกมาก พักไว้ให้เย็น และนำไปอบกับควันเทียน ปิดฝาทิ้งไว้ นำข้าวไปใส่ในตู้เย็น
- เตรียมน้ำลอยดอกมะลิ นำน้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียนให้หอม นำข้าวแช่ที่ในตู้เย็น ออกมาตักใส่ถ้วย พร้อมน้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียน เตรียมเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงข้าวแช่
2. วิธีทำลูกกะปิทอด
ส่วนผสม
- ปลาดุกย่างแกะเนื้อ 1 ตัว
-
กะปิ 40 กรัม
-
กะทิ 40 กรัม
-
น้ำตาลมะพร้าว 150 กรัม
-
ตะไคร้ซอย 20 กรัม
-
กระชายซอย 30 กรัม
-
หอมแดงซอย 100 กรัม
-
แป้งข้าวเจ้า 5 ช้อนโต๊ะ
-
ไข่เป็ด 1 ฟอง
-
น้ำปูนใส 40 กรัม
- น้ำมันพืช สำหรับทอด
ขั้นตอนการทำ
- โขลกตะไคร้ซอย กระชายลซอย หอมแดงซอย ให้ละเอียด ใส่กะปิ เนื้อปลาดุกย่าง โขลกต่อจนเนียนเข้ากันดี พักไว้
- ตั้งกระทะ ใส่กะทิ ต้มให้พอเดือด นำเอาเครื่องปลาดุกย่างที่โขลกไว้แล้วลงผัดให้กลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ผงปรุงรส ผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างพอแห้ง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น และปั้นเป็นก้อนกลม ๆ พอดีคำ เตรียมไว้
- จากนั้น เตรียมชามผสม นำแป้งข้าวเจ้า ไข่เป็ด และน้ำปูนใส มาคนให้เข้ากันจนเป็นแป้งเปียก นำลูกกะปิที่ปั้นไว้ มาชุบให้ติดแป้ง
- เตรียมทอด ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟปานกลาง นำลูกกะปิลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เตรียมเสิร์ฟพร้อมกับข้าวแช่ และเครื่องเคียงอื่น ๆ
3. วิธีทำหอมแดงยัดไส้
ส่วนผสม
- หอมแดง คว้านเอาไส้ในออก 3-5 ลูก
- ปลาช่อนย่าง แกะเนื้อ 1 ตัว
-
กะปิ 40 กรัม
-
น้ำตาลมะพร้าว 170 กรัม
-
ตะไคร้ซอย 20 กรัม
-
กระชายซอย 30 กรัม
-
กระเทียม 50 กรัม
-
หอมแดงซอย 100 กรัม
-
รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
-
แป้งข้าวเจ้า 5 ช้อนโต๊ะ
-
ไข่เป็ด 1 ฟอง
-
น้ำปูนใส 40 กรัม
-
น้ำมันพืช สำหรับทอด
ขั้นตอนการทำ
- นำตะไคร้ซอย กระชายซอย กระเทียม หอมแดงซอย รากผักชี โขลกรวมกันให้ละเอียด ตามด้วย กะปิ เนื้อปลาช่อนย่าง โขลกต่อจนเนียนเข้ากันดี พักไว้
- ตั้งกะทะให้ร้อน ใส่เครื่องปลาช่อนย่างที่โขลกไว้แล้วลงผัด ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ ผงปรุงรส ผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างพอแห้ง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น และปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ ยัดเข้าไปในลูกหอมแดงที่คว้านไว้ให้เต็ม จนหมด
- เตรียมทอด นำแป้งข้าวเจ้า ไข่เป็ดและน้ำปูนใส คนให้เข้ากันจนเป็นแป้งเปียก นำลูกหอมแดงลงไปชุบให้ติดแป้ง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใช้ไฟปานกลาง รอให้ร้อน ใส่ลูกหอมแดงลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เตรียมเสิร์ฟพร้อมกับข้าวแช่ และเครื่องเคียงอื่น ๆ
4. วิธีทำลูกไข่เค็ม
ส่วนผสม
- ไข่เค็ม ใช้เฉพาะไข่แดง 5 ลูก
- แป้งหมี่
- ไข่ไก่
- น้ำมันพืช
- น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย
ขั้นตอนการทำ
- คลุกเคล้าไข่เค็มแดง กับแป้งหมี่ เตรียมไว้ จากนั้น เตรียมกระทะ ตั้งไฟ ใส่น้ำมัน รอให้น้ำมันร้อน
- เตรียมชามผสม นำไข่ไก่ และแป้งหมี่ ตีผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เตรียมไว้
- นำไข่เค็มที่คลุกแป้งหมี่ไว้ในขั้นตอนแรก ลงไปชุบไข่ และนำลงกระทะทอดในสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เตรียมเสิร์ฟพร้อมกับข้าวแช่ และเครื่องเคียงอื่น ๆ
5. วิธีทำไชโป๊ผัดหวาน
ส่วนผสม
- หัวไชโป๊ซอยเส้นเล็ก 200 กรัม
-
น้ำตาลมะพร้าว 60 กรัม
-
น้ำตาลทราย 20 กรัม
- หอมแดงสับ 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 30 กรัม
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ
- ล้างหัวไชโป๊วให้สะอาด เตรียมไว้ จากนั้น ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้พอร้อน ใส่หอมแดงลงผัดให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยหัวไชโป๊ว
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย ผงปรุงรส และน้ำเปล่า ผัดต่อให้แห้ง เป็นเงา ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับข้าวแช่ และเครื่องเคียงอื่น ๆ
6. วิธีทำหมูฝอย
ส่วนผสม
- เนื้อหมูส่วนสะโพก 500 กรัม
- หอมแดง 150 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 300 กรัม
- เกลือ 2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมัน สำหรับทอด
ขั้นตอนการทำ
- ล้างเนื้อหมูให้สะอาด จากนั้น นำไปนึ่งใน ประมาณ 30-40 นาที เมื่อครบเวลา นำเนื้อหมูที่นึ่ง มาทุบเบา ๆ ให้เนื้อพอแตก และฉีกเนื้อหมูออกเป็นเส้นฝอย ๆ จากนั้น เตรียมชามผสม นำหมูใส่ชาม ใส่น้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว เกลือ คลุกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลาง รอน้ำมันร้อน ใส่หมูที่ฉีกทั้งหมดลงไป ทอดไปเรื่อย ๆ จนหมูเปลี่ยนสีเป็นสีทอง จากนั้น ใส่หอมแดงซอยลงไป ทอดไปเรื่อย ๆ จนหมูเปลี่ยนสีเข้มขึ้นสีเหลืองสุก ตักขึ้นใส่กระช้อน เพื่อพักกรองเอาน้ำมันออก
- นำเทหมูใส่ลงในถาด รองด้วยกระดาษซับน้ำมัน ใช้ส้อมค่อย ๆ เกลี่ยหมูให้กระจายออกเป็นเส้น พักให้เย็น ตักหมูฝอยใส่จาน เตรียมเสิร์ฟพร้อมข้าวแช่
7. วิธีทำพริกหยวกสอดไส้ (หรุ่ม)
ส่วนผสม
- พริกหยวก คว้านไส้แล้ว (ไม่ทิ้งก้านพริก) 10 เม็ด
-
กระเทียม 20 กรัม
-
พริกไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ
-
รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
-
กุ้งแช่บ๊วยสับ 250 กรัม
-
มันหมูสามชั้นบด 150 กรัม
-
น้ำปลา 1 ช้อนชา
-
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
-
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
-
ไข่ไก่ 4 ฟอง
ขั้นตอนการทำ
- นำกระเทียม พริกไทย รากผักชี โขลกให้ละเอียด จากนั้น นำกุ้งสับ มันหมูสามชั้นบด คลุกเคล้ากับสามเกลอที่โขลกไว้ นวดให้ทุกอย่างเหนียวเข้ากันดี และปรุงรสด้วย น้ำปลา ผงปรุงรส และน้ำตาลปี๊บ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- นำพริกหยวกคว้านไส้แล้ว (ไม่ทิ้งก้านพริก) นำกุ้งสับปรุงรสยัดไส้ในพริกหยวกให้เต็มปิดด้วยก้านพริก นำไปนึ่งให้สุก
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช เล็กน้อย จากนั้น ตอกไข่ใส่ชามผสม ตไข่ให้เข้ากัน ใช้นิ้วมือทั้ง 4 นิ้ว จุ่มในไข่ และสะบัดไปมาในกระทะ สลับไขว้กันให้เป็นตะข่าย รอจนไข่สุกล่อน ลดไฟลง นำพริกหยวกยัดไส้ที่นึ่งสุก วางบนตะข่ายไข่ ม้วนตะข่ายไข่ให้ห่อพริกหยวกจนหมด ทำจนหมด จัดใส่จาน เตรียมเสิร์ฟพร้อมกับข้าวแช่ และเครื่องเคียงอื่น ๆ
8. แตงโมปลาแห้ง
ส่วนผสม
- แตงโม 1/2 ลูก
- ปลาช่อนแดดเดียวย่าง แกะเนื้อ 200 กรัม
- หอมเจียว 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
- กลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช เล็กน้อย
ขั้นตอนการทำ
- นำแตงโม ไปหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ ใส่จาน นำไปแช่เย็น เตรียมไว้ จากนั้นนำปลาช่อนแดดเดียวแกะเนื้อ นำไปโขลก หรือปั่นให้ละเอียด เตรียมไว้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช รอจนน้ำมันเริ่มร้อน นำเนื้อปลาแห้งลงไปคั่วให้กรอบ ตามด้วย ใส่หอมแดงเจียว น้ำตาลทราย เกลือป่น คั่วให้เข้ากัน ปิดเตา ตักใส่ถ้วย
- นำแตงโมที่แช่เย็น มาจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยปลาแห้ง หรือเสิร์ฟแบบแยกก็ได้ เตรียมเสิร์ฟพร้อมกับข้าวแช่ และเครื่องเคียงอื่น ๆ
9. เครื่องแนม
ส่วนผสม
- กระชาย
- แตงกวา
- มะม่วงเขียวเสวย
- ต้นหอม
- พริกชี้ฟ้าแดง
ขั้นตอนการทำ
- นำมาแกะสลักเป็นดอกไม้ เป็นใบไม้ ตามชอบ สื่อถึงความประณีต ใส่ใจรายละเอียดในการทำ เตรียมเสิร์ฟพร้อมกับข้าวแช่ และเครื่องเคียงอื่น ๆ
วิธีทานข้าวแช่ให้อร่อย
การทานข้าวแช่ที่ถูกต้อง เพื่อเข้าถึงรสชาติ และรสสัมผัสของข้าวแช่ที่แท้จริง ทำได้ดังนี้
- ทานเครื่องคาวที่สุดก่อน เช่น ลูกกะปิ, หอมแดงยัดไส้, ลูกไข่เค็ม และพริกหยวกสอดไส้
- ทานข้าวแช่เย็น ๆ ตาม เพื่อให้เติมความสดชื่น **ไม่ควรตักเครื่องเคียงผสมลงในข้าวแช่ อาจทำเสียรสชาติได้
- ทานเครื่องหวานตาม เช่น หมูฝอย – เนื้อฝอย, ไชโป๊ผัดหวาน **ทานเหมือนเครื่องคาว
- ทานเครื่องแนม ผัก และผลไม้ เช่น กระชาย, แตงกวา, มะม่วงเปรี้ยว และต้นหอม
- ล้างปากด้วยผลไม้หวาน เช่น แตงโมปลาแห้ง ปิดท้าย
ประโยชน์ของข้าวแช่
- น้ำเย็น ๆ ในข้าวแช่หอม ๆ ช่วยคลายร้อน ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียดได้ดี
- กระชาย ข่า ตะไคร้ หัวหอม และไชโป๊ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ปรับสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติ ลดอาการปากลอก ปากแห้ง ปากแตกแก้ร้อนในได้อีกด้วย
- พริกหยวกสอดไส้ ไข่ที่ทำเป็นตาข่ายแพ มีโปรตีนสูง บำรุงร่างกาย ช่วยเลือดลมไหลเวียนสะดวก
- หมูฝอย หรือ เนื้อฝอย มีโปรตีนสูง ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- มะม่วง สรรพคุณช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ
- ปลาแห้งแตงโม อาหารว่างที่นิยมในช่วงฤดูร้อน ช่วยดับร้อน ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย
จบไปแล้ว สำหรับเมนู ข้าวแช่ วิธีทำข้าวแช่ แบบชาววัง ที่เรานำมาฝากกัน ทำได้ไม่ยากเกินไปใช่ไหม เครื่องเคียงอาจจะเยอะสักนิด แต่บอกเลยว่า คุ้มเวลาอย่างแน่นอน เป็นอีกหนึ่งเมนูคลายร้อน ที่ไม่ควรพลาด ทานแล้วชื่นใจ คลายร้อนสุด ๆ ลองไปทำแล้วมาอวดกันด้วยนะจ๊ะ
บทความแนะนำ
- ชวนมาทำ แตงโมปลาแห้ง อาหารว่างชาววัง อร่อยสดชื่น ทำได้ไม่ยาก
- วิธีทำ ม้าฮ่อ อาหารว่างไทย อร่อยชื่นใจ คลายร้อน ทำได้ไม่ยาก
- ชวนมาทำ ถุงทอง เมนูของว่างไทย วิธีทำง่ายๆ อร่อยถูกปาก ทานได้ทุกวัย
- ชวนมาทำ กระยาสารท ขนมไทยแสนอร่อย อัดแน่นธัญพืช ทำได้ไม่ยาก
- ชวนมาทำ อาหารว่างไทย สูตรโบราณ หลากหลายเมนู อร่อยชัว!
- 9 ขนมมงคล เหมาะสำหรับวันสำคัญ พิธีมงคลต่าง ๆ
23 เมษายน 2024
โดย
ลำดวน
คุณแม่ที่บ้านชอบทานมากเลยค่ะ แก้ร้อนดีมากๆ
อร่อยสดชื่นนนน
So yummy 😍
top 10 best food in thailand
น่าทานมากกกกเลยค่ะ
ร้อนๆแบบนี้ได้ทานสักมื้อ ฟินน่าดู