รวม 8 เมนูอาหารไทย ที่ควรทำเป็น พร้อมวิธีทำง่ายๆ
เมนูอาหารไทย โดดเด่นด้วยรสชาติ หน้าตา และวัตถุดิบ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งด้วยความอุดมสมบูรณ์ ก็ยังทำให้มีเมนูที่หลากหลาย รับประทานได้ไม่มีเบื่อ เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่นักท่องเที่ยวเอง ก็ยังชื่นชอบอาหารไทยเป็นพิเศษ ซึ่งด้วยความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและวิธีทำก็ง่าย Youtuber ด้านอาหาร รวมถึงเชฟชื่อดังบางคน ยังนำสูตรอาหารไทย ไปทำในรายการของตนเองอีกด้วย
เมื่อเมนูอาหารไทยได้รับความนิยมมากขนาดนี้ เราคนไทยเอง ก็ควรจะรู้วิธีการทำอาหารบ้านเกิดของเราบ้าง เพื่อไม่ให้เสียชื่อที่ได้เกิดเป็นคนไทย SGE จึงคัด 8 เมนูยอดฮิต มาฝากทุกคน ให้มีฝีไม้ลายมือปลายจวัก ติดตัว สำหรับนำไปทำเพื่อคนในครอบครัว หรือ เพื่อคนที่คุณรัก ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยต้มยำกุ้ง
เมนูอาหารไทย ที่ไม่มีใครเหมือน แทบจะเป็นสิ่งแรก ที่ถ้าถามชาวต่างชาติว่า สิ่งทำให้นึกถึงประเทศไทย คืออะไร คำตอบจะต้องเป็น ต้มยำกุ้ง แน่นอน ซึ่งด้วยรสชาติของน้ำแกงที่เผ็ดจัดจ้าน ผสมความเปรี้ยวและเค็มอย่างลงตัว พร้อมด้วยเครื่องแกงสุดเผ็ดร้อน และกุ้งชิ้นโต เนื้อเต็มคำ จึงเป็นเมนูยอดฮิตของคนไทย รวมถึงคนทั่วโลก
ส่วนผสม
- กุ้งก้ามกราม 700 กรัม
- เห็ดฟาง 400 กรัม
- ตะไคร้ 70 กรัม
- ข่า 70 กรัม
- หอมแดง 70 กรัม
- ใบมะกรูด 3 กรัม
- รากผักชี 5 กรัม
- ผักชี 15 กรัม
- ผักชีฝรั่ง 15 กรัม
- พริกแห้ง 10 กรัม
- พริกขี้หนูสวน 15 กรัม
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
- น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืด 120 กรัม
วิธีทำ
- ล้างทำความสะอาดกุ้ง ใช้กรรไกร ตัดก้าม กระเพาะอาหาร ผ่าหลังเอาเส้นดำออก ให้เรียบร้อย
- หั่นเห็ดฟางออกเป็นชิ้นพอดีคำ
- หั่นตะไคร้ ข่า หอมแดงออกเป็นแว่น ๆ
- ฉีกใบมะกรูด โดยพับครึ่งแล้วดึงก้านใบออก
- นำรากผักชี มาทุบลงไปให้แตก ส่วนใบให้หั่นออกเป็นท่อน ๆ
- หั่นผักชีฝรั่ง ออกเป็นท่อน ๆ
- หั่นมะนาว แล้วบีบน้ำมะนาวเตรียมไว้
- นำพริกแห้งมาคั่วในกระทะ จนกว่าจะมีกลิ่นหอม
- ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ต้มน้ำให้เดือด
- ใส่รากผักชี ข่า ตะไคร้ หอมแดง ลงไป เติมเกลือลงไปเล็กน้อย แล้วใส่เห็ดฟางลงไป
- ต้มจนกว่าเห็ดจะสุก ระหว่างนั้น ให้ตำพริกขี้หนู พริกแห้งที่คั่วไว้
- เมื่อน้ำเริ่มเดือด ให้ใส่กุ้งลงไป
- ใส่น้ำปลา น้ำพริกเผา ต้มจนกว่าเดือด
- เมื่อน้ำเริ่มเดือด ให้ใส่นมข้นจืดลงไป
- ใส่พริกขี้หนู พริกแห้ง ใบมะกรูด ต้มจนเดือดอีกครั้ง
- เมื่อน้ำเริ่มเดือด ปิดเตา แล้วใส่น้ำมะนาว เพิ่มรสเปรี้ยว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับการทำต้มยำกุ้ง
* ใส่นมข้นจืด ตอนท้าย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการแตกมัน
แกงเขียวหวานไก่
อีกหนึ่ง เมนูอาหารไทย อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรสชาติที่เข้มข้นของพริกแกงและหัวกะทิ จะกินกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือว่า เส้นขนมจีนก็อร่อย สายข้าวราดแกง ไม่เคยพลาดเลยใช่มั้ยล่ะ แต่เชื่อหรือไม่ว่า หลายคนก็ยังทำผิด แม้แต่เชฟระดับโลกหลายคนเองก็ตาม แล้ววิธีทำที่ถูกต้องเป็นยังไง มาดูกันได้เลย
ส่วนผสม
- เนื้อไก่ 300 กรัม
- มะเขือเปราะ 300 กรัม
- มะเขือพวง 50 กรัม
- ใบโหระพา 1 กำมือ
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
- หัวกะทิ 200 กรัม
- หางกะทิ 400 กรัม
- พริกแกงเขียวหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ทัพพี
- น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ใส่หัวกะทิลงในหม้อ คอยคนและเคี่ยวจนกว่ากะทิจะแตกมัน
- ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป ผัดในหม้อจนกว่าจะได้กลิ่นหอม
- หากผัดแล้วจับเป็นก้อน ให้เติมหัวกะทิลงไปเพิ่มเล็กน้อย
- เมื่อหอมได้ที่ ให้ใส่เนื้อไก่ลงไป ผัดคลุกเคล้ากับพริกแกงเล็กน้อย แล้วพักไว้
- เติมหางกะทิลงไป ต้มต่อไปจนกว่าจะเดือด เมื่อเดือดแล้ว ให้คนเนื้อไก่ เพื่อไม่ให้ติดก้นหม้อ และให้เนื้อไก่สุกทั่วกัน
- เมื่อเดือดได้ที่ ใส่มะเขือเปราะลงไป ต้มให้เดือดอีกครั้ง
- ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เพิ่มรสชาติ
- เมื่อน้ำเริ่มเดือด ให้ใส่มะเขือพวง ต้มต่ออีกสักพัก แล้วค่อยใส่ใบมะกรูด
- ต้มต่ออีกสักพัก เมื่อน้ำเริ่มเดือด ใส่ใบมะกรูด ตามด้วยใบโหระพา คนกับน้ำเดือดเล็กน้อย แล้วปิดเตา ตกแต่งหน้าตาด้วยพริกชี้ฟ้าแดง เป็นอันเสร็จ
พะโล้หมูสามชั้น
ยังคงอยู่ที่สายแกงกันต่อ กับพะโล้หมูสามชั้น ที่กินกับข้าวเปล่ากี่ที ก็ไม่มีเบื่อ ด้วยความกินง่าย มีทั้งไข่ เนื้อหมูสามชั้น และเต้าหู้ทอด เสริมด้วยน้ำแกงรสเข้มข้น หวานเค็มกำลังดี จึงเป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งยังเก็บได้นาน กินได้หลายวันเลยทีเดียว ซึ่งสูตรที่มานำเสนอนี้ เป็นสูตรแบบโบราณ ไม่ใช้เครื่องตุ๋นยาจีน แต่ใช้การเคี่ยวน้ำตาลปี๊บจนกว่าจะออกสีน้ำตาลเข้ม รับรองความหวาน รสชาติอร่อยยิ่งกว่าเดิม
ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 5-10 ลูก
- หมูสามชั้น 600 กรัม
- เต้าหู้ทอด 200 กรัม
- รากผักชี 5 ต้น
- กระเทียม 20 กลีบ
- พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 6-8 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ใส่น้ำอุ่นลงในหม้อ ใส่ไข่ไก่ลงไป เติมเกลือเล็กน้อย แล้วเปิดไฟต้ม
- เมื่อน้ำเดือด ให้จับเวลาต้ม 6 นาที ระหว่างต้ม ให้ใช้ทัพพีคนไข่วนรอบ ๆ เพื่อให้ไข่แดงอยู่ตรงกลาง เมื่อน้ำเดือดได้ที่ ค่อยหยุดต้ม
- เมื่อครบเวลาแล้ว ให้ปิดเตา แล้วนำไข่ไปแช่น้ำเย็น
- ปอกไข่ โดยเพื่อให้ปอกง่าย ให้หาแก้วที่ใส่ไข่ได้ เติมน้ำลงไปเล็กน้อย นำไข่ลงไป แล้วเอาฝาปิด เขย่าให้ทั่ว ๆ แล้วปอกไข่ จะทำได้ง่ายขึ้น เนื้อก็จะเนียน สวยงาม
- นำหมูสามชั้น มาหั่นเป็นชิ้น ๆ
- นำกระเทียม เกลือ รากผักชี มาโขลกจนกว่าจะละเอียด
- ใส่น้ำมันลงในหม้อ แล้วใส่เครื่องแกงลงไป ใช้ไฟกลางในการผัด ผัดจนกว่าจะมีกลิ่นหอม แล้วเอาขึ้นมาพักไว้
- ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป เติมน้ำลงไปเล็กน้อย ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวจนกว่าน้ำตาลจะละลาย เมื่อเริ่มออกสีเข้ม ให้ปิดเตาเพื่อป้องกันการไหม้
- ใส่เครื่องแกงลงไปผัด เติมน้ำปลาลงไป คนจนกว่าส่วนผสมจะเข้ากัน
- ใส่หมูสามชั้นลงไป แล้วเปิดเตา คลุกเคล้าจนส่วนผสมเข้าเนื้อหมูจนทั่ว
- เติมน้ำลงไป ต้มอีก 10 นาที คอยตักฟองเดือดออกเป็นระยะ เมื่อเริ่มไม่มีฟองให้ใส่ไข่ต้ม เต้าหู้ทอด
- เติมซีอิ๊วขาวลงไป ให้น้ำแกงออกสีเข้มมากขึ้น (ถ้าหวานเกินไปให้ใส่น้ำปลาลงไปเพิ่ม)
- ใช้ไฟกลางต้มต่อไปอีก 1 ชั่วโมง
ลาบหมู
มาดูฝั่งอาหารอีสานกันบ้างกับ ลาบหมู ที่เชื่อว่าเป็นอาหารโปรดของใครหลายคน ด้วยเนื้อหมูสับล้วนเคี้ยวอร่อย เสริมความหนุบหนับในปากด้วยหนังหมู พร้อมรสชาติเปรี้ยวเผ็ด จากพริกและมะนาว ทำให้ไม่ว่าจะเป็นคนภาคไหน ต่างชื่นชอบและนิยมรับประทานกัน สูตรนี้มีใส่ตับลงไปด้วย แต่ถ้าใครไม่ชอบกินเครื่องในก็ไม่ต้องใส่ก็ได้นะ
ส่วนผสม
- หมูสับ 300 g
- หนังหมู 150 g
- ตับหมู 100 g
- พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
- พริกทอด 15 เม็ด
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอม ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง 1/2 ถ้วย
- ผักสด ใบสะระแหน่ โหระพา ถั่วฝักยาว
วิธีทำ
- ต้มน้ำให้เดือด นำหนังหมูมาลวกให้นิ่ม เมื่อเริ่มนิ่มแล้วให้ตักขึ้นได้เลย
- ลวกตับหมูให้สุก แล้วตักขึ้นพักไว้
- เทน้ำเดือดออก จนเหลือเล็กน้อย แล้วใส่หมูสับลงไป คั่วจนกว่าหมูสับจะสุก
- เมื่อหมูสุก ให้ใส่หนังหมู ตับ พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ใส่หอมแดง ข้าวคั่ว ปรุงรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม ได้ตามใจชอบ
- ใส่ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง ลงไปคลุกเคล้า แล้วเติมพริกขี้หนูสวนลงไป
- จัดใส่จาน เติมพริกขี้หนู พริกทอดลงไป เป็นอันเสร็จ
ส้มตำไทย
เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตสำหรับคนไทย โดยเฉพาะสาว ๆ สำหรับ ส้มตำ ซึ่งที่จริงแล้ว ก็มีหลากหลายสูตรมาก ๆ โดยเฉพาะส้มตำปลาร้า ที่คนไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือชอบกินกัน แต่ถ้าปลาร้าไม่ใช่วัตถุดิบพื้นบ้าน ก็สามารถทำสูตรแบบ ส้มตำไทย ได้ อร่อยเหมือนกัน แถมใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่าง รับรองว่าถูกปากทุกคนแน่นอน
ส่วนผสม
- มะละกอดิบ 1 ลูก
- มะเขือเทศสีดา 5 ลูก
- แครอท (ขูดเป็นเส้นยาว)
- ถั่วฝักยาว
- พริกขี้หนูแดง 5 เม็ด
- กระเทียมกลีบเล็ก 5 กลีบ
- กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
- ปอกเปลือกมะละกอแล้วจึงสับมะละกอ เสร็จแล้วฝานเป็นเส้นยาว พักไว้ก่อน
- ตำพริก กระเทียม ให้พอแหลก แล้วจึงเด็ดถั่วฝักยาวเป็นท่อนตามลงไป ตำให้เข้ากันดี
- หั่นมะเขือเทศใส่ลงไปในครก ปรุงรสด้วยน้ำปลา,น้ำตาลปี๊บ,น้ำมะนาว
- คลุกเคล้าให้ทั่วกัน จนกว่าน้ำตาลปี๊บจะละลายจนหมด
- เติมมะละกอ แครอท ตามลงไป ตำทุกอย่างให้เข้ากัน สุดท้ายเติมกุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ยำวุ้นเส้น
นำเมนูแซ่บ ๆ อีกหนึ่งอย่างมาฝากกับ ยำวุ้นเส้น ที่คนไทยนิยมชอบทานกัน ซึ่งด้วยความที่มีวุ้นเส้นเหนียวนุ่มเป็นวัตถุดิบหลัก ผสมด้วยส่วนประกอบอื่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์อย่างหมูสับ กุ้งปลาหมึก และผักชนิดต่าง ๆ ทำให้จะกินเป็นจานหลักก็ดี เป็นกับข้าวก็ได้ แถมทำง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นทำอาหารทานเองอีกด้วย
ส่วนผสม
- กุ้งขาว 5 ตัว
- วุ้นเส้น 1
- ปลาหมึก 1
- พริกจินดาแดง 8 เม็ด
- หอมใหญ่ ½ ลูก
- มะเขือเทศ 1 ลูก
- หมูบด 50 กรัม
- น้ำตาล ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
- คึ่นฉ่าย 1 ถ้วย
วิธีทำ
- ลวกกุ้ง ปลาหมึกให้สุกเรียบร้อย
- เติมน้ำลงในหม้อเล็กน้อย ใส่หมูบดลงไป ตามด้วยซีอิ๊วขาว ใช้ช้อนคนให้สุก
- นำวุ้นเส้นไปแช่น้ำ แล้วลวกพักไว้
- เตรียมชามผสมอาหาร ใส่หมูบด น้ำตาล น้ำปลา พริกจินดาแดง น้ำมะนาว หอมใหญ่ มะเขือเทศ วุ้นเส้น ปลาหมึก กุ้ง คึ่นฉ่าย คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ผัดผักบุ้งไฟแดง
ถึงจะเป็นเมนูยอดฮิต แต่วิธีทำก็ปราบเซียนเหมือนกัน สำหรับ ผัดผักบุ้งไฟแดง ที่ถ้าให้ดูโปร ต้องมีไฟลุกโชนขึ้นมา ถึงจะเรียกว่า ผักบุ้งไฟแดงของแท้ ซึ่งส่วนผสมจริง ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก อยู่ที่ว่าคุณจะตั้งกระทะให้ร้อน น้ำมันให้เดือดดีได้แค่ไหน ถึงจะทำให้มีไฟแดงลุกวาบขึ้นมา ซึ่งในครั้งแรก ๆ ถ้ายังทำไม่ได้ ก็ต้องฝึกฝนกันต่อไป นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังถ่ายวิธีทำอัปลงโซเชี่ยลเก๋ ๆ ให้ดูโปรเล่น ๆ ก็ยังได้นะ
ส่วนผสม
- ผักบุ้งไทย หั้นเป็นขนาดพอคำ 1 จาน
- น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต้ะ
- กระเทียมไทยบด 1 ช้อนโต้ะ
- ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
- เต้าเจี้ยวอย่างดี 1 ช้อนโต้ะ
- พริกสดบุบและหั่นเฉียงๆอย่างละ 1 ช้อนโต้ะ
- ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต้ะ
- น้ำซุป 2 ช้อนโต้ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เปิดไฟแรง ตั้งกระทะให้ร้อนจัด
- เตรียมส่วนผสมให้เรียบร้อย ประกอบด้วย ผักบุ้ง กระเทียม ซอสน้ำมันหอย เต้าเจี้ยว พริกสด น้ำตาลทราย ซอสถั่วเหลือง และ น้ำซุป
- จากนั้น ใส่ส่วนผสมทั้งหมด ลงไปผัด นับ 1 – 20 ก็ให้เสิร์ฟ พร้อมรับประทานได้เลย
กะเพราหมูสับ
ปิดท้ายด้วยเมนูสิ้นคิดอย่าง กะเพราหมูสับ ที่ถ้าคนไหนคิดไม่ออก ก็จะนึกถึงเมนูนี้เป็นอย่างแรกเลยใช่มั้ยล่ะ ซึ่งด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนจากใบกะเพรา ผสมกับเนื้อหมูสับ กินกับข้าวสวยร้อน มีไข่ดาวอยู่ข้าง ๆ แค่นี้ก็ฟินแล้ว
ส่วนผสม
- หมูสับ
- ใบกะเพรา
- พริกแดงจินดา 30 เม็ด
- กระเทียมจีน 1 หัวใหญ่
- น้ำมันหอย
- ซีอิ๊วขาว
- ซีอิ๊วดำ
- น้ำตาล
วิธีทำ
- ตำกระเทียมและพริกแดงจินดาให้ละเอียด
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน แล้วใส่หมูสับลงไป คั่วกับน้ำมันจนกว่าเนื้อหมูจะคายน้ำออก จนเหลือแต่น้ำมัน
- ใส่พริกกับกระเทียมลงไป ผัดจนกว่าจะมีกลิ่นหอม
- ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาล และซีอิ๊วดำ ลงไป
- ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- ใส่ใบกะเพราลงไป ผัดต่อไปอีกเล็กน้อย พอให้ใบกะเพราะสลด เสร็จแล้ว ปิดเตา แล้วจัดจาน เป็นอันเสร็จ
30 มกราคม 2024
โดย
Pres