รู้จัก ดินเปรี้ยว ดินเค็ม คืออะไร? และวิธีการแก้ปัญหา
ความเป็นกรด เป็นด่างของดิน
ค่า pH พีเอชของดิน (ความเป็นกรด-ด่าง) เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการปลูกพืชให้มีคุณภาพ พืชส่วนใหญ่ไม่สามารถอยู่รอดได้ในดินที่เป็นกรดหรือด่างมากเกินไป ดังนั้นการวัดค่า pH ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ค่า pH มี ระดับ 1ถึง14 โดยมีค่ากลางคือ ระดับ 7 เป็นจุดตัดสิน ถ้าเอาดินไปตรวจ ได้ค่าpH “มากกว่า 7” จัดเป็นดินด่าง ถ้าได้ค่า pH “น้อยกว่า 7” จัดเป็นดินเปรี้ยว ยิ่งค่า pH ยิ่งน้อยดินก็ยิ่งเปรี้ยวมาก
ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับระดับ pH ของดินที่เหมาะสมสำหรับพืช
1) ต้นแอปเปิ้ลค่า ph ที่เหมาะสม 5.0-6.5
2) ต้นชวนชมค่า ph ที่เหมาะสม 4.5-6.0
3) ต้นมะนาวค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.5
4) ต้นม่วงค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.5
5) ไม้สนแดงค่า ph ที่เหมาะสม 5.0-6.0
6) หน่อไม้ฝรั่งค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-8.0
7) ถั่วเสาค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.5
8) กะหล่ำปลีค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.0
9) แครอทค่า ph ที่เหมาะสม 5.5-7.0
10) กะหล่ำดอกค่า ph ที่เหมาะสม 5.5-7.5
11) คื่นฉ่ายค่า ph ที่เหมาะสม 5.8-7.0
12) กุ้ยช่ายค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.0
13) แตงกวาค่า ph ที่เหมาะสม 5.5-7.0
14) กระเทียมค่า ph ที่เหมาะสม 5.5-8.0
15) คะน้าค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.5
16) ผักกาดหอมค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.0
17) ถั่วหวานค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.5
18) พริกหวานค่า ph ที่เหมาะสม 5.5-7.0
19) มันฝรั่งค่า ph ที่เหมาะสม 4.8-6.5
20) ฟักทองค่า ph ที่เหมาะสม 5.5-7.5
21) หัวไชเท้าค่า ph ที่เหมาะสม 6.0-7.0
22) มะเขือเทศค่า ph ที่เหมาะสม 5.5-7.5
ดินเปรี้ยว คือ อะไร
ดินเปรี้ยว หรือที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า acid soil หมายถึงดินที่มีสภาพความเป็นกรดสูง ค่าความเป็นกรดด่าง หรือค่า pH จะไล่ตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 14 ค่าที่เป็นกลางคือ 7 ถ้าค่า pH ต่ำกว่า 7 ถือว่าดินมีสภาพเป็นกรด และถ้าค่า pH ต่ำกว่า 4 แปลว่าดินมีสภาพเป็นกรดจัด หรือเปรี้ยวจัด ซึ่งหนังสือคำบัญญัติศัพท์ภูมิศาสตร์ฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายดินเปรี้ยวจัด ดินกรดจัด หรือดินกรดกำมะถันไว้ว่า acid sulfate soil ที่เรียกว่าดินเปรี้ยวนั้นเพราะว่าดินมีกรด sulfuric ปะปนอยู่ ซึ่งกรดที่ว่านี้มีรสเปรี้ยว แล้วสาเหตุที่ดินเปรี้ยวแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า acid soil ก็เพราะ acid นั้นแปลว่ากรด และ soil แปลว่าดิน ซึ่งเป็นดินชั้นบนสุดของพื้นผิวโลกที่พืชสามารถเจริญเติบโตได้นั่นเอง
วิธีแก้ ดินเปรี้ยว
- การใช้วัสดุปูนทางการเกษตร ลดความรุนแรงของกรดในดิน วัสดุปูนที่นิยม ได้แก่ ปูนขาว ปูนโดโลไมท์ ซึ่งมีทั้งแคลเซียมและแมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบ อัตราปูนที่ใช้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกรดในดิน โดยทั่วไปใช้ปูนโดโลไมท์อัตรา 300-500 กิโลกรัมต่อไร่
วิธีแก้ดินเปรี้ยว ในที่ดอนที่ระดับลึกมากกว่า 15 เซนติเมตร ซึ่งดินเป็นกรดจัดจนรากไม่สามารถแผ่ขยายลงไปได้ การใช้วัสดุปูนไม่ได้ผล เนื่องจากวัสดุปูนมีการละลายและเคลื่อนลงไปในดินด้านล่างได้น้อย จึงต้องใช้วัสดุอื่น ๆ เช่น ยิปซัม หรือฟอสโฟยิปซัมที่มีคุณสมบัติในการละลายและสามารถแทรกซึมลงไปในดินล่าง อัตรายิปซัมที่ใช้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกรดในดิน
- การใส่อินทรีย์วัตถุ ได้แก่ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด ช่วยเพิ่มการดูดซับธาตุอาหารพืชในดิน ลดการสูญเสียธาตุอาหารจากการถูกชะล้าง และอินทรีย์วัตถุยังช่วยลดความเป็นพิษของเหล็ก และอลูมิเนียมในดินด้วย
- เพิ่มธาตุอาหาร การใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด ร่วมกับปุ๋ยเคมี ทั้งปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ตามชนิดและปริมาณที่เหมาะสมกับพืชที่ปลูก และฉีดพ่นด้วยฮอร์โมน หรือน้ำหมักชีวภาพ (จากสารเร่งซุปเปอร์ พด. 2)
- การคลุมดิน ใช้วัสดุคลุมดิน เศษพืชหรือปลูกพืชตระกูลถั่วคลุมดิน เป็นการรักษาหน้าดิน ป้องกันการชะละลายหน้าดิน รักษาความชื้นในดิน และเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดิน
- เลือกชนิดพืชและพันธุ์พืชที่ชอบดินกรดมาปลูก ดินกรดที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขแล้วสามารถปลูกพืชได้เกือบทุกชนิด แต่ต้องการมีการจัดการน้ำและธาตุอาหารพืชให้เหมาะสม เกษตรกรความรู้ช่วงเป็นกรดเป็นด่างของดินที่เหมาะสมสำหรับพืแต่ละชนิดเพื่อจะได้แก้ไขความเป็นกรดของดินให้อยู่ในช่วงพอดีกับความต้องการของพืชชนิดนั้น ๆ
พืชหลายชนิดสามารถทนทานและเจริญเติบโตได้ดีในดินกรด เช่น ข้าว แตงโม ข้าวโพด ข้าวฟ่าง อ้อย เป็นต้น - เลือกใช้ระบบการปลูกพืชที่เหมาะสม เลือกระบบการปลูกพืชที่มีระบบรากลึกสลับกับรากตื้นเพื่อเป็นการนำเอาอาหารที่ถูกชะละลายลงในดินล่างมาใช้ปลูกพืชหมุนเวียนชนิดต่าง ๆ สลับกับพืชตระกูลถั่ว และการปลูกหญ้าแฝกล้อมรอบไม้ผล เพื่อดักเก็บตะกอนและรักษาความชื้นในดินบริเวณรอบ ๆ ต้นไม้
ดินเค็ม คือ อะไร
ดินเค็ม (saline soil) หมายถึงดินที่มีปริมาณเกลือที่ละลายอยู่ในสารละลายดินมากเกินไปจนมีผล กระทบต่อการเจริญเติบโตและผลิตผลของพืช เนื่องจากทำให้พืชเกิดอาการขาดน้ำ และมีการสะสมไอออนที่เป็นพิษในพืชมากเกินไปนอกจากนี้ยังทำให้เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหารพืชด้วย
ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดินเค็มก็คือ ทำให้ไม่สามารถปลูกพืชได้หรือได้ผลผลิตต่ำ พืชบางชนิดที่ไปได้ก็จะมีลักษณะบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป เช่น ใบสีเข้มขึ้น มีสารพวกไขเคลือบหนาขึ้น พืชบางชนิดใบไหม้ ต้นข้าวในแปลงดินเค็มจะมีการเจริญเติบโตไม่สม่ำเสมอ ต้นแคระแกร็นไม่แตกกอ ใบแสดงอาการเป็นขีดขาว แล้วไหม้ตายในที่สุด อันตรายของความเค็มที่มีต่อพืชโดยตรง คือลดการดูดน้ำของพืช เพราะมีการเพิ่ม Osmotic pressure ของสารละลายในดินทำให้พืชแสดงอาการขาดน้ำ ทำให้เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหาร เนื่องจากมีโซเดียม โบรอนคลอไรด์มากเกินไป ทำให้ธาตุบางชนิดเป็นพิษแก่พืช
วิธีแก้ดินเค็ม
- หาวัสดุปรับปรุงดินบางชนิดมาใช้ เช่น ปูนขาว ยิปซัม แกลบ
- ใช้วัสดุคลุมดิน หรือพืชคลุมดิน ไม่ปล่อยให้หน้าดินว่าง
- จัดระบบการปลูกพืชให้เหมาะสม ควรปลูกพืชมากกว่า 1 ชนิด โดยปลูกให้เหมาะสมกับช่วงฝน
การแก้ไขดินเปรี้ยวด้วยปูนขาว
ปูนขาว ที่เราใช้กันอยู่โดยทั่วไปคือปูนผง เพื่อนเกษตรกรส่วนใหญ่นำมาใช้ในการปรับปรุง ดินเปรี้ยว ให้ปรับค่าสถานะเป็นด่างมากขึ้น เรียกว่าปรับสภาพกรดนั่นเองครับ ยิ่งแปลงเกษตรที่ใช้สารเคมีมานานและปลูกพืชตัวเดียวซ้ำๆ ไม่มีการหมุนเวียนปลูกพืชอื่น จะทำให้ดินในบริเวณนั้นมีเป็นกรดสูง ทำให้มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช เพราะขาดธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสในดิน ทำให้พืชที่เราปลูกแคระแกรน เราจึงต้องนำปูนขาวมาคลุกเคล้ากับดิน เพื่อให้ค่า pH ของดินให้เป็นกลาง มีความเหมาะสมต่อการปลูกพืชได้มากขึ้น
นอกจากใส่ปูนขาวแล้ว การปรับปรุงดินควรต้องเพิ่มธาตุอาหารด้วยการเติมปุ๋ยอินทรีย์ไปในช่วงเตรียมดิน เพื่อให้ดินมีธาตุอาหารที่ดี ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ซึ่งเกษตรกร ต่างนำปูนขาวและปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักมาปรับปรุงดินสำหรับการปลูกพืชแทบจะทุกชนิดอยู่แล้ว เรียกได้ว่า บ้านเกษตรกรส่วนใหญ่ ต้องมีปูนขาวติดบ้านกันเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่ปรับปรุงดินในแปลง การทำบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆ ก็ต้องนำปูนขาวมาโรยที่ก้นบ่อเพื่อปรับสภาพดินของบ่อ เพราะสถานะความเป็นกรดมากไปหรือด่างมากไป จะทำให้การมีชีวิตรอดของ กุ้งปลา น้อยลงได้ คือปรับทั้งดินปรับทั้งน้ำกันเลย ปูนขาวที่ใช้กัน จะเป็นปูนขาวมาตรฐาน มอก.223-2520 ที่ใช้เพื่อการเกษตร ปรับเรื่องน้ำกระด้างได้อีกด้วย
นอกจากปรับสภาพดิน ปรับสภาพน้ำแล้ว เรายังนำปูนขาวมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ด้วยการนำผงปูนขาวไปโรยบนแปลงพืชผัก ภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ โรยในบ่อปลาและบ่อกุ้ง เพื่อกำจัดและยับยั้งเชื้อโรค ทั้งใช้ผสมน้ำฉีดพ่นลงบนลำต้นหรือใบ หรือราดรดลงบนโคนเพื่อให้ซึมสู่รากไม้ และยังนำปูนขาวมาเพิ่มความร่วนซุยและเพิ่มความโปร่งของดิน ทำให้รากของพืชสามารถดูดซับน้ำและปุ๋ยได้ดีขึ้น พืชก็เจริญเติบโตได้ดีขึ้น
หลักการปรับปรุงดินโดยการใช้ปูนขาวนั้น เราต้องคลุกปูนขาวในดินให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก โดยใช้การไถดะและโรยผงปูนลงไปในทุกพื้นที่ ประมาณไร่ละ 1-2 ตัน ขึ้นอยู่กับค่ากรดว่าสูงมากขนาดไหน แล้วรดน้ำให้ชุ่มเพื่อหมักปูนไว้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดค่าความกรดลงได้ นอกจากปูนขาวแล้ว ในปัจจุบัน ยังมีปูนชนิดต่างๆ ที่นำมาใช้ในวัตถุประสงค์เดียวกัน ได้แก่ ปูนโดโลไมต์ ปูนหรือดินมาร์ล และหินปูนบด
ปูนมาร์ล เหมาะสำหรับใช้ในแปลงนาและแปลงผัก ในพื้นที่ลุ่มภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศ
ไม้ผลในภาคใต้ ควรใช้หินปูนบดและปาล์ม
ควรใส่ปูนโดโลไมต์เพื่อเพิ่มแมกนีเซียมแก่ต้นปาล์ม
แต่หากต้องการให้เห็นผลไวสุด ต้องใช้ปูนขาว
เลือกชมและเลือกซื้อ “สินค้าการเกษตร” ได้ที่นี่
25 ตุลาคม 2023
โดย
Gab