แจก 5 สูตร ต้มแซ่บ แซ่บซี๊ดถึงใจ ฟินยกบ้าน ใครทำก็อร่อย!
ต้มแซ่บ เมนูอาหารอีสาน สุดเผ็ดร้อน ซดแล้วคล่องคอ แซ่บซี้ดถึงใจ หากอยากรู้ว่า ต้มแซ่บ ทำแบบไหนได้บ้าง SGE มี 5 สูตร ต้มแซ่บ มาฝาก รับรองว่า อร่อยเด็ดทุกสูตร ฟินยกบ้านแน่นอน
ต้มแซ่บกระดูกหมู
มาเริ่มกันที่ ต้มแซ่บ ยอดฮิต กับเมนู ต้มแซ่บกระดูกหมู ที่ใช้กระดูกหมูมาเป็นวัตถุดิบหลัก จะทำให้ได้เนื้อหมูที่นุ่ม เคี้ยวมัน ยิ่งใครชอบกระดูกอ่อน ก็ยิ่งทานอร่อย เหมาะมากสำหรับคนทั่วไป รวมถึงคนที่ชอบทานกระดูกอ่อน หรือ ซี่โครงหมู
ส่วนผสม
- กระดูกหมูอ่อน 500 กรัม
- ข่าหั่น 5 ชิ้น
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- หอมแดง 3 หัว
- ผักชีฝรั่ง 2 ต้น
- ต้นหอม 1 ต้น
- พริกขี้หนู 20 เม็ด (คนไม่กินเผ็ด ควรใส่ 5-10 เม็ด)
- มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้งคั่ว 10 เม็ด
- ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนโตีะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนโตีะ (คนไม่กินเผ็ด ควรใส่ 2 ช้อนชา)
วิธีทำ
- ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่น้ำลงในหม้อ ต้มน้ำเดือด แล้วใส่กระดูกหมูอ่อนลงไป
- ระหว่างต้ม เมื่อน้ำเริ่มเดือด จะเกิดฟอง ให้ตักฟองที่ลอยขึ้นมา ออกให้หมด หลังจากนั้น ใส่เกลือและมะขามเปียกลงไป ต้มต่อไป จนกว่ากระดูกหมูอ่อนจะสุก ใช้เวลาประมาณ 1 ขั่วโมง
- เมื่อน้ำงวดเหลือน้อย และกระดูกหมูเริ่มนิ่มลง ให้เติมน้ำเปล่าลงไปจนท่วมกระดูกหมูอ่อน แล้วใส่ใบมะกรูด ข่า ตะไคร้ หัวหอมลงไป ต้มจนน้ำเดือดอีกรอบ หลังจากนั้น ให้ปิดเตาพักไว้
- เตรียมเครื่องปรุงรสน้ำต้มแซ่บ โดยนำชามใบใหญ่มา แล้วใส่พริกแห้งคั่ว พริกขี้หนูทุบ น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาวและข้าวคั่วลงไป คนให้เข้ากัน
- ตักกระดูกหมูอ่อนและน้ำต้มกระดูกอ่อน มาใส่ชาม
- ใส่พริกป่น ผักชีฝรั่ง ต้นหอม หั่นลงไป คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ต้มแซ่บเนื้อน่องลาย
ใครชอบเนื้อ สามารถนำมาทำ ต้มแซ่บ ได้ โดยจะใช้เศษเนื้อวัว เนื้อวัวหั่นชิ้น หรือ เนื้อน่องลาย ตามสูตร ของ Youtuber ช่อง อร่อยพุง ที่นำมาฝากกันก็ได้ รับรองว่า อร่อยไม่แพ้ ต้มแซ่บกระดูกหมูแน่นอน
ส่วนผสม
- เนื้อน่องลาย 500 กรัม
- ข่าหั่นแว่น 6 ชิ้น
- ตะไคร้หั่น 2 ต้น
- หอมแดง 2 หัว
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- พริกแห้ง 1 ถ้วย
- ผักชีฝรั่ง 3 ใบ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ½ ช้อนชา
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล ½ ช้อนชา
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ เปิดไฟแรง ต้มน้ำให้เดือด ใส่ข่าหั่นแว่นลงไป ตามด้วยตะไคร้หั่น หอมแดง และเนื้อน่องลายหั่นชิ้น ต้มต่อไปจนกว่าน้ำจะเดือดอีกรอบ หากมีฟองขึ้นมา ให้คอยช้อนฟองออกเป็นระยะ ๆ
- พอน้ำเดือดดีแล้ว ให้ลดไฟลงเป็นไฟกลาง ต้มทิ้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลาแล้ว ให้ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากัน
- เตรียมชามใส่ต้มแซ่บ ใส่น้ำปลา เกลือ น้ำมะนาว น้ำตาล ตามด้วยพริกแห้ง และ ผักชีฝรั่งเตรียมไว้
- ตักต้มแซ่บเนื้อที่ต้มไว้ลงไปในชาม เป็นอันเสร็จ
ต้มแซ่บไก่
อยากนำไก่บ้าน มาทำต้มแซ่บ ก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่เนื้อไก่ที่จะนำมาต้มนั้น หากอยากให้เนื้อนุ่ม กินอร่อย แนะนำให้ใช้เนื้อไก่อ่อน เพื่อให้เคี้ยวง่าย ไม่ติดฟัน สูตรจาก Youtuber ช่องกินได้อร่อยด้วย รับรองว่า ทานแล้ว จะติดใจแน่นอน
ส่วนผสม
- ไก่บ้าน 1,200 กรัม
- น้ำ 1,300 กรัม
- หอมแดง 100 กรัม
- กระเทียม 20 กรัม
- พริกไทย 1 ช้อนชา
- ตะไคร้ 50 กรัม
- ข่า 50 กรัม
- พริกแห้ง 20 กรัม
- มะเขือเทศ 100 กรัม
- ผักชีฝรั่ง 20 กรัม
- ใบมะกรูด 2 กรัม
- น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
- ผงชูรส 1 ½ ช้อนชา
วิธีทำ
- นำพริกแห้งมาคั่วในกระทะให้มีกลิ่นหอม จากนั้น นำมาตำในครก ให้พอบุบ
- ตำเมล็ดพริกไทยให้แหลก เสร็จแล้ว หั่นตะไคร้ หอมแดง กระเทียม ข่า มะเขือเทศ ผักชีฝรั่ง เตรียมไว้
- ตั้งหม้อ เปิดไฟแรง ต้มน้ำให้เดือด ใส่หอมแดง กระเทียม พริกไทย ตามด้วยเนื้อไก่บ้านลงไป ต้มต่อไปจนกว่าเนื้อไก่จะสุกและเปื่อยตามที่ต้องการ หากน้ำเดือดแล้วมีฟอง ให้คอยช้อนฟองออกเป็นระยะ ๆ
- พอไก่สุกและน้ำเดือดดีแล้ว ให้ลดเป็นไฟกลาง ใส่มะเขือเทศ ข่า ตะไคร้ พริกแห้ง และน้ำปลา คนให้เข้ากัน
- โรยใบมะกรูดและผงชูรส ลงไป พอคนให้เข้ากันแล้ว ให้ปิดไฟ เสร็จแล้ว บีบน้ำมะนาว ปรุงน้ำต้มแซ่บให้ได้รสชาติเปรี้ยวเค็มตามต้องการ เป็นอันเสร็จ
ต้มแซ่บเอ็นแก้ว
หากไม่ชอบทาน ต้มแซ่บกระดูกหมู เพราะขี้เกียจแทะ หรือ ไม่ชอบกัดกระดูกหมูให้ฟันเสีย แนะนำให้ใช้เอ็นหมูแทน เพราะมีเนื้อสัมผัสนุ่ม เด้งดึ๋ง ทานแล้ว เคี้ยวมันไม่แพ้กัน สูตรจาก Youtuber ช่อง กับข้าวกับปลาโอ โดยก่อนนำมาต้ม แนะนำให้คลุกกับน้ำส้มสายชูก่อน แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด จะช่วยลดกลิ่นคาวได้
ส่วนผสม
- เอ็นแก้วหมู 500 กรัม
- เห็ดฟาง ตามชอบ
- ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
- ข่าหั่นแว่น 4 แว่น
- รากผักชี 2 ราก
- หอมแดง 7 – 8 หัว
- ใบมะกรูดฉีก 3 – 4 ใบ
- ใบโหระพา ตามชอบ
- ผักชีฝรั่งหั่น 4 ต้น
- พริกแห้ง 20 กรัม
- น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ (ปรับได้ตามชอบ)
วิธีทำ
- ใส่น้ำส้มสายชู คลุกกับเอ็นแก้วหมูให้ทั่ว จากนั้น ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด 2 – 3 รอบ เสร็จแล้ว หั่นให้เป็นชิ้นเล็ก
- หั่นตะไคร้ ข่า ผักชีฝรั่ง เห็ดฟาง เตรียมไว้ แล้วนำรากผักชี หอมแดง มาทุบด้วยสันมีด เพื่อให้มีกลิ่นออกมา พร้อมกับตำพริกแห้ง บดให้พอแหลก
- ตั้งหม้อ เปิดไฟแรง ต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ ข่าหั่นแว่น รากผักชี ลงไป เสร็จแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา คนให้เข้ากัน
- พอน้ำเดือดดีแล้ว ใส่เห็ดฟางลงไป ตามด้วยเอ็นแก้วหมู ต้มให้สุก
- โรยใบมะกรูดและผักชีลงไป พอน้ำเดือดดีแล้ว ให้ปิดไฟ
- โรยพริกแห้ง ข้าวคั่ว ใบโหระพาลงไปตามชอบ เสร็จแล้ว บีบน้ำมะนาว ลงไป คนทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
ต้มแซ่บปลากระพง
ปิดท้ายกันด้วย ต้มแซ่บ ที่ใช้เนื้อปลาเป็นหลักกันบ้าง กับเมนู ต้มแซ่บปลากระพง เพราะมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ จึงเหมาะมากสำหรับคนรักสุขภาพ แต่อยากชอบทานอะไรแซ่บ ๆ ซึ่งสูตรจาก TomJoke Foodtv สูตรนี้ สามารถประยุกต์กับเนื้อปลาได้ทุกชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็นปลานิล ปลาช่อน หรือ ปลาอื่น ๆ ตามต้องการ
ส่วนผสม
- ปลากระพง 1 ตัว
- ข่าอ่อน 5 แว่น
- ตะไคร้ 3 ต้น
- ใบมะกรูด 4 ใบ
- หอมแดง 2 หัว
- มะเขือเทศหั่นซีก 1 ลูก
- ผักชีฝรั่งหั่น 1 ต้น
- น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
- พริกขี้หนูสวน 15 กรัม
- พริกแห้ง 10 กรัม
วิธีทำ
- ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ประมาณครึ่งหนึ่ง จากนั้น เปิดไฟแรง ต้มน้ำให้เดือด
- จากนั้น ใส่ข่าอ่อน ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง มะเขือเทศลงไป รอ 3-4 นาที เพื่อให้น้ำต้มยำมีกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อปลากระพงลงไป ต้มให้เนื้อปลาสุก ใช้เวลา 5-8 นาที ระหว่างต้มให้คอยช้อนฟองที่ลอยขึ้นมา เพื่อให้น้ำต้มยำมีความใส
- เมื่อเนื้อปลาสุกแล้ว ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน ใส่เกลือ พริกขี้หนูสวน คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักหนึ่ง แล้วให้ปิดไฟ
- ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาล น้ำปลา คนให้น้ำตาลละลาย แล้วใส่น้ำมะนาว ลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้น โรยผักชีฝรั่ง และพริกแห้ง ตกแต่งปิดท้าย เป็นอันเสร็จ
เป็นยังไงกันบ้างกับเมนู ต้มแซ่บ แต่ละแบบที่นำมาฝากกัน แค่เห็นก็แซ่บซี้ด น่ารับประทานมาก ๆ แล้วใช่มั้ยล่ะ หากใครชอบเมนูน้ำแกงที่ทำง่าย ซดแล้วคล่องคอ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะแล้วละก็ ลองไปทำตามสูตรต้มแซ่บแต่ละแบบ ที่เรานำมาฝากกันได้ รับรองว่าทานได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อแน่นอน
ส่วนใครที่อยากจะเก็บเครื่องต้มแซ่บ ให้เป็นระเบียบ รวมถึงเก็บรักษาได้นาน ไม่ต้องไปซื้อที่ตลาดใหม่ตลอดแล้วละก็ แนะนำให้เก็บในถุงร้อน ถุงเย็น หรือ ถุงซีลสุญญากาศ แล้วใช้ เครื่องซีลถุง ของ SGE ปิดปากให้เรียบร้อย เพราะมีแถบซีลที่หนา ช่วยให้ปิดปากถุงได้สนิท นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้การทำงานคล่องตัว ปิดปากถุงได้จำนวนมาก หากสนใจคลิกดูเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/bag-sealers/
30 มกราคม 2024
โดย
Pres