“มันเทศ” ประโยชน์สุดปัง!! รสชาติดี มีคุณค่าสูง
✦ เมื่อพูดถึง “มันเทศ” อุดมไปด้วยแหล่งอาหารสำคัญ เช่น คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร วิตามิน เอ วิตามิน ซี แคลเซียม โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระเบต้าแคโรทีน จึงทำให้หลายคนอาจจะคิดว่า มันเทศอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และอาจรักษาหรือป้องกันโรคบางชนิดได้ ✦
มันเทศ (sweet potato)
เป็นพืชล้มลุกสกุลเดียวกับผักบุ้ง ถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกา เนื่องจากเป็นพืชที่สามารถเติบโตได้ในเกือบทุกสภาพภูมิอากาศ มันเทศจึงขึ้นกระกายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก หัวมันเทศ หรือรากสะสมอาหารขนาดใหญ่ มีเปลือกสีแดงหรือน้ำตาลอ่อน เนื้อในมีทั้งสีขาวเหลือง เหลืองส้ม แดง หรือม่วงแดง
มันเทศเป็นพืชที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีรสหวาน มีเนื้อในหลากสีสันตามสายพันธุ์ ในมันเทศมีเอนไซม์ที่สามารถเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลได้ โดยมันเทศจะมีรสหวานยิ่งขึ้นเมื่อเก็บไว้เป็นเวลานาน หรือนำไปปรุงอาหาร วิธีประกอบอาหารส่วนใหญ่ที่คนนิยม คือ นำไปต้ม นึ่ง อบ หรือทอด
มันเทศเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตชั้นเยี่ยมที่ให้พลังงานสูง โดยมันเทศ 1 ขีด จะให้พลังงานถึง 90 แคลอรี และไม่ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกายเหมือนอาหารที่แปรรูปจากแป้งหรือน้ำตาลแบบอื่น ๆ มันเทศมีวิตามินบี 2 และโฟเลตสูงรองลงมาจากผักใบเขียว มีวิตามินซีบำรุงเนื้อเยื่อในร่างกายและช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคโรทีนอยด์ได้ดีขึ้น มันเทศมีเส้นใยอาหารสูง จึงกินเพื่อควบคุมน้ำหนักได้ดี ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ลดอัตราเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย มันเทศอาจมีผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน ดังนี้
👍 รักษาภาวะขาดวิตามิน เอ
วิตามิน เอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยด้วยโรคและอาการบางชนิด หากร่างกายขาดวิตามิน เอ อาจเสี่ยงเผชิญภาวะอาการป่วยที่เป็นอันตรายได้ ในมันเทศอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ โดยเฉพาะมันเทศสีเหลือง หรือสีส้ม การรับประทานมันเทศ 100 กรัม ทำให้ได้รับวิตามินเอในปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันอย่างเพียงพอแล้ว
จากผลการทดลองดังกล่าว อาจสรุปได้ว่าการบริโภคมันเทศช่วยป้องกันภาวะขาดวิตามินเอได้ดี การบริโภคมันเทศเนื้อสีส้มช่วยเพิ่มระดับวิตามินเอในร่างกายมากกว่ามันเทศเนื้อสีขาว
👍 ป้องกันอาการท้องผูก
หลายคนมีปัญหาท้องผูกจากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต รวมทั้งอาการเจ็บป่วยที่ส่งผลกระทบต่อระบบขับถ่าย มันเทศเป็นพืชที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและน้ำ จึงช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายและแก้ปัญหาท้องผูกได้
👍 รักษาโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หรือร่างกายดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลต่อกระบวนการดูดซึมน้ำตาลในเลือดมีความผิดปกติ ทำให้เกิดอาการป่วยต่าง ๆ ซึ่งมันเทศมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์หลายชนิดที่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ โดยเฉพาะมันเทศเนื้อสีขาว ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานลดลง ทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น
👍 รักษาและป้องกันโรคมะเร็ง
ในมันเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เชื่อว่าอาจช่วยชะลอหรือยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็งได้ การบริโภคมันเทศอาจช่วยให้ร่างกายปรับฮอร์โมนเพศ ระดับไขมันในเลือด และช่วยต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งได้ จึงสรุปได้ว่า มันเทศอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมกับโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนได้
👍 ป้องกันภาวะตับอักเสบ
ตับอักเสบเป็นภาวะอักเสบที่เกิดบริเวณตับ อาจทำให้เกิดอาการป่วยต่าง ๆ และหากตับอักเสบเรื้อรังก็อาจนำไปสู่ภาวะที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ มันเทศประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงมีการทดลอง ให้ดื่มน้ำมันเทศเนื้อสีม่วงแล้วทดสอบการอักเสบของตับด้วยการตรวจเลือด พบว่าการบริโภคมันเทศในรูปเครื่องดื่มอาจช่วยลดเอนไซม์ตับซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะตับอักเสบได้
เลือกมันเทศส่วนไหนเพื่อสุขภาพ?
ส่วนหัว ใบ เถา และยอดอ่อนของมันเทศยังมีประโยชน์ทั้งในแง่สุขภาพและมีสรรพคุณทางยา ดังนี้
1. ส่วนใบ นำมาใช้รักษาฝีได้ โดยนำใบมาตำแล้วพอกบริเวณที่เป็นฝี หรือจะตำผสมกับเกลือก็ได้เช่นกัน ตามตำรับยาพื้นบ้านล้านนานั้นจะมีการใช้ยอดและใบมาตำพร้อมกับยอดและใบของผักโขมใบแดงเพื่อใช้พอกฝีให้ยุบตัวลง
2. ส่วนเถา สามารถนำเอามาต้มกับน้ำ และนำมาดื่มเพื่อเป็นยาแก้ไขข้ออักเสบ
3. ส่วนหัวมันเทศ ได้มีการใช้หัวมาตำให้ละเอียดนำมาพอกรักษาบาดแผลไฟไหม้อีกทั้งยังนำมาใช้ในการรักษาโรคเริมและงูสวัดได้
บริโภคมันเทศอย่างไรให้ปลอดภัย?
แม้มันเทศจะเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ มีรสชาติอร่อย ราคาถูก รับประทานง่าย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ในมันเทศมีสารออกซาเลต (Oxalates) ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดนิ่วในไตได้ นอกจากนั้น ยังเคยมีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขไทยว่าด้วยเรื่องสารพิษตกค้างในอาหาร ซึ่งพบว่ามันเทศเป็นหนึ่งในอาหารที่มีสารพิษบางชนิดตกค้างอยู่ ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังในการบริโภคมันเทศ และทำตามคำแนะนำในการบริโภค เช่น
1. ควรเลือกมันเทศที่หัวแน่น สีเข้ม ผิวเรียบ และไม่มีรอยเหี่ยวช้ำ มีรู หรือมีรากงอกออกมา
2. การล้างมันเทศควรเพิ่มการใส่ใจในเรื่องความสะอาด เพราะเป็นหนึ่งในการกำจัดสารพิษตกค้างก่อนที่จะนำไปปรุงอาหาร
3. ไม่ควรปอกเปลือกมันเทศในขณะที่ต้องการทำให้สุก เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการทำให้สารอาหารที่อยู่ใกล้กับเปลือกต้องเสียหายไปด้วย
4. ไม่ควรนำมันเทศชนิดที่ต่างกันมาประกอบอาหารด้วยกัน เพราะแต่ละชนิดจะสุกด้วยความร้อนและเวลาที่ต่างกันออกไป
5. การเก็บรักษามันเทศดิบ ไม่ควรล้างก่อนเก็บเพราะจะทำให้เน่าเสียได้ แต่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีความเย็นประมาณ 15 องศาเซลเซียส จะช่วยให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ
6. ไม่ควรรับประทานยอดอ่อนดิบ ๆ มาก เพราะอาจเกิดการสะสมพิษของไซยาไนด์ได้ ดังนั้นหากจะรับประทานยอดอ่อนจึงควรกินยอดอ่อนมันเทศแบบสุกจะปลอดภัยกว่า
จะเห็นได้ว่า การบริโภคมันเทศ คือ การเพิ่มสารอาหารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานอย่างเพียงพอ ที่สำคัญคนที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักสามารถรับประทานเพื่อให้พลังงานแทนข้าวได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถนำมันเทศมาประกอบเป็นอาหารได้อีกหลากหลายเมนู เพียงแต่ต้องะระมัดระวังการบริโภคด้วยเพราะหากละเลยอาจทำให้ร่างกายได้รับสารพิษตกค้างได้นั่นเอง
แนะนำเมนูมันเทศเพื่อสุขภาพกันหน่อยดีกว่า !
1. ซุปมันเทศสีม่วง
ส่วนผสม |
วิธีทำ |
|
|
2. มันเทศสีม่วงอบเนย
ส่วนผสม |
วิธีทำ |
|
|
3. แกงบวชมันเทศ
ส่วนผสม |
วิธีทำ |
|
|
📣 ดังนั้น คนที่จะกินมันเทศลดน้ำหนัก ควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตจากอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งต่อมื้อ เช่น หากเลือกกินมันเทศก็ควรเลี่ยงข้าว ขนมปัง รวมไปถึงแป้งในรูปแบบต่าง ๆ ที่สำคัญควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการที่ดี ร่วมกับหมั่นออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ด้วยจ้า 💕