รู้จักกับ “ชีส” ทำมาจากอะไร? มีอะไรบ้าง?
ชีส 🧀 อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์นม ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก รสชาติอันนุ่มละมุน ที่สามารถกินได้ทั้งแบบสด ๆ หรือนำไปประกอบเมนูอาหารต่าง ๆ บทความนี้ SGE จะพาไปรู้จักกับ ซีส ว่าทำอย่างไร? มาจากไหน? มีกี่แบบ? กี่ชนิดให้เลือกกิน ตามไปดูกันเลยดีกว่า
ชีส (Cheese) 🧀 คืออะไร?
ชีส(Cheese) หรือเนยแข็ง คือ ผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งสามารถผลิตได้จากนมวัว หรือแพะ เป็นต้น ที่ผ่านกระบวนการคัดแยกโปรตีน แล้วนำโปรตีนของนมมาทำการผสมเชื้อรา หรือแบคทีเรีย หรือสารอื่น ๆ แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของเนยแข็ง ซึ่งแตกต่างจากเนยที่ทำมาจากไขมันของนม
หลายคนมีความเข้าใจผิดว่าซีส หรือเนยแข็ง เนยเหลว เป็นอาหารประเภทไขมันเช่นเดียวกัน อันที่จริงแล้วซีส เนยแข็ง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโปรตีนในน้ำนมวัว ในขณะที่เนยเหลว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากไขมันในน้ำนมวัว ดังนั้นซีส จึงจัดเป็นอาหารจำพวกโปรตีนเหมือนเนื้อสัตว์ และมีคุณค่าทางโภชนาการไม่แพ้น้ำนมวัว โดยซีสนั้น ให้สารอาหารจำพวก แคลเซียม, โปรตีน, ฟอสฟอรัส, วิตามินบี 12, สังกะสี และไขมัน แต่ให้น้ำตาลแล็กโทส ในปริมาณที่น้อยกว่าในน้ำนม ผู้ที่มีปัญหาในการดื่มนม จึงสามารถหันมารับประทานซีส หรือเนยแข็งแทน
ชีสทำได้อย่างไร?
- คั้นน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว แพะ หรือแกะ
- ทำการพาสเจอร์ไรส์นมดิบ เพื่อทำลายเชื้อโรคในนม
- ใส่เชื้อแบคทีเรีย สำหรับทำชีสลงไป จากนั้น เติมเอนไซม์ที่เรียกว่า เรนเนต ตามลงไป เพื่อให้โปรตีนนมจับตัวเป็นก้อน
- ตัดโปรตีนนมที่จับตัวเป็นก้อนแล้ว แยกออกจากเวย์โปรตีน
- จากนั้น กรองเวย์โปรตีนออก ให้เหลือแต่ก้อนเคิร์ด
- นำก้อนเคิร์ดที่ได้ มาอัดให้เข้ากันในถังไม้ทรงกลม หรือทรงที่ต้องการ
- แสตมป์เลขประจำตัวของผู้ทำชีส และวันที่ให้เรียบร้อย
- ใช้ถัง หรือวัตถุที่มีน้ำหนักสูง กดชีสเอาไว้ข้ามคืน เพื่อให้น้ำในชีสออกให้มากที่สุด
- จากนั้น นำชีสที่ได้ ไปเข้าห้องบ่ม ที่ควบคุมอุณหภูมิ และความชื้น แล้วทำการบ่ม (aging) เท่าที่ต้องการ
ประเภทของชีส 🧀
1. ชีสแข็ง (Hard Cheese)
- ชีสพามิจาโน เรจจาโน (Parmigiano Reggiano Cheese)
มีรสชาติเข้มข้น และเนื้อสัมผัสที่แข็ง เพราะผ่านการบ่มเป็นเวลานาน มาจากประเทศอิตาลี เหมาะสำหรับทำซอส ใช้ขูด เพื่อโรยบนพิซซ่า พาสต้า หรือสลัด
- ชีสกรูแยร์ (Gruyere Cheese)
มีรสชาติครีมเข้มข้น หอมมัน มีความหวาน และเค็มในตัว ซึ่งชื่อ Gruyere เป็นชื่อที่มีต้นกำเนิดจากเมืองกรูแยร์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เหมาะสำหรับทำแซนด์วิช กินคู่กับแครกเกอร์ หรือผลไม้แห้ง
2. ชีสกึ่งแข็ง (Semi-Hard Cheese)
- ชีสเท็ต เดอ มอน (Tete De Moine Cheese)
เป็นชีสทรงกระบอก ที่มีเนื้อแข็ง การรับประทาน จะต้องใช้อุปกรณ์ที่ชื่อว่า เครื่องจีรอล (Girolle) มาขูดชีสให้เป็นดอกไม้ (Rosette) มักอยู่บนชีสบอร์ด และนิยมรับประทานสด เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดของชีส มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เหมาะสำหรับโรยสลัด หรือทานคู่กับไวน์ขาว
- ชีสเกาด้า (Gouda Cheese)
ชีสก้อนใหญ่ ที่มีรสชาตินมเข้มข้นมาก มีเนื้อสัมผัสที่เนียน และนุ่ม ผลิตในเมืองเกาด้า ประเทศเนเธอร์แลนด์ เหมาะสำหรับนำไปทำซอส ซุป หรือเสิร์ฟคู่กับสลัดผัก
3. ชีสกึ่งนุ่ม (Semi-Soft Cheese)
- ชีสบลู หรือชีสร็อคฟอร์ท (Blue Cheese or Roquefort Cheese)
เป็นชีสที่มีลายสีเขียวแกมน้ำเงิน เกิดจากการเติมเชื้อราที่กินได้ ทำให้มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาจากประเทศฝรั่งเศส เหมาะสำหรับนำไปทำซอส หรือกินคู่กับไวน์หวาน หรือไวน์ที่มีรสชาติหวาน
4. ชีสนุ่ม (Soft Cheese)
- ชีสบรี (Brie Cheese)
ชีสนุ่มสีเหลือง คลุมด้วยเชื้อราที่กินได้สีขาว มีเนื้อสัมผัสนุ่ม และมีรสชาติครีมเข้มข้น อุดมด้วยแคลเซียม และโปรตีน มาจากประเทศฝรั่งเศส เหมาะสำหรับกินคู่กับขนมปัง ผลไม้อบแห้ง กล้วยหอม หรือถั่ว
- ชีสมอสซาเรลลา (Mozzarella Cheese)
เป็นชีสสดที่ไม่ผ่านการบ่ม กลิ่นไม่แรง รักษาความสด และชุ่มชื่น โดยการแช่ในน้ำ มาจากประเทศอิตาลี เหมาะสำหรับเสิร์ฟคู่กับสลัดมะเขือเทศ และราดด้วยน้ำมันมะกอก หรือกินสด ๆ
5. ชีสประเภทอื่น ๆ
- ชีสฟองดูว์ (Fondue Cheese)
เป็นชีสที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในสวิตเซอร์แลนด์ ทำจากชีส 2 ชนิดขึ้นไป นำมาผสมกันกับเหล้าเชอร์รี หรือไวน์ขาว มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เหมาะสำหรับกินคู่กับขนมปังฝรั่งเศส แฮม และไส้กรอก
- ชีสเชฟเร่ (Chevre Cheese)
เป็นชีสจากนมแพะ เนื้อนุ่มละมุน มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้น มาจากประเทศฝรั่งเศส เหมาะสำหรับกินคู่กับถั่ว หรือผลไม้อบแห้ง
- ชีสเฟต้า (Feta Cheese)
เป็นชีสสด ที่ได้จากนมแกะ มีเนื้อนุ่ม และรสชาติเค็มอ่อน ๆ มาจากประเทศกรีซ เหมาะสำหรับกรีกสลัด
ทำไม? ชีสต้องมีรู? รูของชีสไม่ได้เกิดจากหนูกัด แต่เกิดจากกระบวนการบ่มชีส ของส่วนผสมต่าง ๆ เช่น แบคทีเรียในถังนม นมวัวดิบ เกลือ น้ำย่อยในกระเพาะวัว จึงทำให้เกิดรูในชีส และจะขยายใหญ่ขึ้นตามระยะเวลาในการบ่มนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความรู้เรื่องชีส ที่เรานำมาฝากกัน ชีสมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย หาทานได้ง่าย ๆ และสามารถนำไปประยุกต์กับอาหารอื่น ๆ ได้มากมายแบบนี้ อย่าลืมลองไปทำทานกันดูนะจ๊ะ หรือจะไปทำเมนูชีสขาย ก็ดีไม่น้อย 🧀
อ้างอิงข้อมูลจาก wongnai.com
30 มกราคม 2024
โดย
ลำดวน