เห็ดชิเมจิ

5,063 Views

คัดลอกลิงก์

เห็ดชิเมจิ ประโยชน์ กินแล้วดีต่อผิวพรรณอย่างไร

เห็ดชิเมจิ เห็ดอีกหนึ่งชนิดที่อร่อยและมีประโยชน์ นอกจากทานเพื่อสุขภาพที่ดีแล้ว รู้หรือไม่ว่า มันยังช่วยให้ผิวพรรณของเรา แลดูอ่อนเยาว์ลงอีกด้วย หากอยากรู้ว่า เป็นเพราะอะไร SGE มีคำตอบ พร้อมพาทุกคนไปรู้จักกับประโยชน์ที่คุณอาจคาดไม่ถึง เมื่อได้รับประทานเห็ดชนิดนี้

ทำความรู้จัก เห็ดชิเมจิ

เห็ดชิเมจิ

เห็ดชิเมจิ เป็นเห็ดที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ลักษณะเป็นดอกเล็ก ๆ เติบโตเป็นพุ่ม โคนเห็ดมีสีขาว ส่วนหมวกเห็ดเป็นดอกหัวกลมเล็ก ๆ  คล้ายเข็มมุด มี 2 สี คือ สีขาว และ สีน้ำตาล โดยบริเวณหมวกเห็ดนั้น หากอยู่ในอากาศที่มีความชื้นปกติ จะมีลายคล้ายหินอ่อน หรือ รอยจุดน้ำอยู่ด้วย แต่หากอยู่ในภาวะที่อุณหภูมิมีความชื้นสูงตลอดเวลา ก็จะไม่ปรากฏรอยเหล่านี้ขึ้น

ด้วยความที่มีสารอาหารสำคัญมากมาย และ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เห็ดชิเมจิจึงถูกนำมาทำอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะผัด ย่าง ต้มทานกับสุกี้ชาบู ตลอดจนเป็นส่วนประกอบในอาหารและเมนูต่าง ๆ เพื่อคนรักสุขภาพ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ตู้อบลมร้อน ตู้อบเบเกอรี่

เห็ดชิเมจิ มีสารอาหารสำคัญอะไรบ้าง

ชิเมจิ

ใน เห็ดชิเมจิ  พบว่ามีสารอาหารสำคัญต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และยังมี Pro-Vitamin D-2 ซึ่งเป็นวิตามิน D ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีอีกด้วย นอกจากนี้ จุดเด่นของมัน คือ มีโซเดียมต่ำและไขมัน 0% จึงทำให้เหมาะกับการทานเพื่อลดน้ำหนัก โดยในเห็ดชิเมจิ 100 กรัม พบว่ามีสารดังต่อไปนี้

สารอาหาร ปริมาณ/100 กรัม
คาร์โบไฮเดรต

โปรตีน

ไฟเบอร์

โพแทสเซียม

ฟอสฟอรัส

แคลเซียม

ธาตุเหล็ก

 50.10 กรัม

33.89 กรัม

13.20 กรัม

1575 มิลลิกรัม

568 มิลลิกรัม

98 มิลลิกรัม

18 มิลลิกรัม

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

เครื่องซีลสูญญากาศ จาก SGE การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

ประโยชน์ของเห็ดชิเมจิ

ชิเมจิ

1. มีพลังงานและสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย

การทานเห็ดชิเมจิ จะทำให้เราได้รับพลังงานและสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต รวมถึงแร่ธาตุสำคัญอย่าง โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี

2. ลดความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ

เนื่องจากมีไฟเบอร์ หรือ ใยอาหารสูง ซึ่งเป็นชนิดที่ละลายน้ำได้ ทำให้เมื่อทานเห็ดชิเมจิเข้าไปแล้ว ใยอาหารจะเข้าไปช่วยย่อยไขมัน ที่อยู่ในรูปของกรดน้ำดี ให้ถูกขับออกจากร่างกาย ในรูปอุจจาระ อีกทางหนึ่งก็ช่วยให้ตับ ดึงคอเลสเตอรอล กลับมาใช้ใหม่เพื่อสร้างกรดน้ำดีเพิ่ม จึงทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดลดลง ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน รวมถึงโรคหัวใจได้

3. ช่วยในการต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ดี

จากงานวิจัยพบว่า เห็ดชิเมจิ ประกอบด้วยสารที่ช่วยในการต่อต้านเซลล์มะเร็งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) มาร์โมริน (Marmorin) เบต้ากลูแคน (Beta-Glucan) ฮิปซิน (Hypsin) ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ชื่อ แมคโครเฟจ (Macrophage) ซึ่งเป็น NK Cells หรือ เซลล์เพชฌฆาต ให้ออกมาทำงาน กำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รวมถึงเซลล์มะเร็งให้หมดไปได้ดีขึ้น จึงเหมาะกับการรับประทาน เพื่อป้องกันตนเองจากโรคมะเร็ง

4. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก

เพราะมีสารอาหารสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แต่ให้ไขมัน 0% และยังมีโซเดียมต่ำ จึงทำให้เหมาะกับการทานเพื่อควบคุมน้ำหนัก สำหรับคนที่มีโรคอ้วน หรือ ผู้ที่อยากลดน้ำหนัก

ทาน เห็ดชิเมจิ ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ลงได้อย่างไร

เห็ดชิเมจิ

วิตามิน D ถือเป็นวิตามินที่สำคัญต่อการบำรุงผิวหนังของเรา เพราะจะช่วยเปลี่ยนรังสี UVB จากแสงแดด และ คอเลสเตอรอลดีในร่างกาย ที่มีชื่อว่า 7-Dehydrocholesterol (7-DHC) ให้กลายเป็นวิตามิน D ซึ่งจะช่วยในการแบ่งเซลล์ (Cell Proliferation) และพัฒนาเซลล์ผิว เพื่อไปทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนสึกหรอต่าง ๆ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว (Delay Skin Aging) ลดการเกิดรอยเหี่ยวย่น หน้าดูสดใส เต่งตึง แลดูอ่อนกว่าวัย รวมถึงยังช่วยลดการอักเสบ หรือ แผลบนผิวหนัง เช่น สิว หรือ โรคสะเก็ดเงิน ได้อีกด้วย ดังนั้น หากได้รับวิตามิน D ไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้ผิวเสื่อมสภาพลง เกิดรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยได้เร็วกว่าปกติ

นอกจากการตากแสงแดดยามเช้าธรรมชาติ เพื่อให้ได้รับวิตามิน D การทานเห็ดชิเมจิ ก็สามารถทำให้คุณได้รับวิตามิน D ได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากพืชและเห็ดชนิดต่าง ๆ เมื่อได้รับแสงแดด ก็จะเกิดการสังเคราะห์ตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการสะสมวิตามิน D ขึ้น เหมือนกันกับมนุษย์ เพียงแต่เป็นคนละชนิดกันคือ ในกรณีของเห็ดชิเมจิ จะเป็นวิตามิน D ที่จัดอยู่ในกลุ่มของ Pro-Vitamin D2 ขณะที่ผิวของมนุษย์จะเกิดการสังเคราะห์เปลี่ยนเป็น วิตามิน D3

โดยถึงแม้จะเป็นวิตามิน D คนละแบบ อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่มีต่อผิวของมนุษย์ ก็ยังคงเหมือนกันนั่นคือ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว (Delay Skin Aging) ลดการเกิดรอยเหี่ยวย่น และลดการอักเสบ ดังนั้น หากใครต้องการหน้าเด็ก แลดูอ่อนเยาว์กว่าวัย นอกจากการทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอแล้ว การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่าง เห็ดชิเมจิ ก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพที่ดีมากขึ้น

เห็ดชิเมจิ นอกจากรสชาติอร่อย สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ และยังสามารถช่วยทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย โดยอาจไม่ต้องทาครีมราคาแพง เพื่อช่วยบำรุงผิว ดังนั้น หากใครรู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่ารอช้า ไปหาซื้อเห็ดชิเมจิมาทานกันได้เลย รับรองว่า สุขภาพทั้งภายในและภายนอกของคุณจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

30 มกราคม 2024

โดย

Pres

ความคิดเห็น (Comments)

guest
0 Comments
โหวตสูงสุด
ใหม่สุด เก่าสุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด