แจกทริค วิธีต้มข้าวโพด ยังไงให้หวานอร่อยเหมือนซื้อจากร้าน
บทความนี้มาแชร์ทริค วิธีต้มข้าวโพด ยังไงให้หวานอร่อย ไม่แพ้ที่ซื้อจากร้าน ที่สำคัญใช้วัตถุดิบไม่เยอะก็สามารถต้มข้ามโพดหวาน ๆ หม้อใหญ่ไว้กินเองได้แล้ว อย่ารอช้ารีบหยิบตะหลิวแล้ววิ่งเข้าครัวกันเลย!
วิธีต้มข้าวโพด ให้อร่อย ต้องเลือกข้าวโพดแบบไหน?
สำหรับ วิธีต้มข้าวต้ม ให้ได้รสหวานอร่อย ต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบ โดยข้าวโพดที่กินอร่อยที่สุด จะต้องเป็นข้าวโพดดิบที่พึ่งเก็บมาสด ๆ บทความนี้ SGE จะแอบบอกทริค วิธีเลือกซื้อข้าวโพดดิบให้ได้ของใหม่ไม่ค้างเก่าเก็บ
วิธีเลือกข้าวโพดดิบ
- เลือกข้าวโพดฝักที่มีเปลือกสีเขียวอ่อน
- เลือกข้าวโพดที่ใยข้าวโพดยังมีความสด ไม่แห้งกรัง
- เลือกข้าวโพดที่เมล็ดเต่งตึงเรียงเป็นแถว ไม่มีช่องโหว่
- สำหรับข้าวโพดที่ยังไม่ปอกเปลือก ให้ลองใช้เล็บจิกเมล็ดข้าวโพดที่ปลายฝัก หากข้าวโพดยังใหม่ จะมีน้ำแป้งไหลออกมา
- ส่วนข้าวโพดที่ปอกเปลือกแล้ว ให้เลือกข้าวโพดฝักที่มีเมล็ดเต่งตึงไม่ลีบแบน เมล็ดมีสีเหลืองนวล ไม่แก่เกินไป และฝักต้องไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว
แจกทริค วิธีต้มข้าวโพด ยังไงให้หวานอร่อย
ส่วนผสมในการต้มข้าวโพดหวาน
- ข้าวโพดหวาน 2 กิโลกรัม
- น้ำ 4 ลิตร
- ใบเตย 5 ใบ
- น้ำตาล 4 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีต้มข้าวโพด
- นำข้าวโพดดิบที่ได้มา ปอกเปลือกและแกะใยข้าวโพดออก จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาด เตรียมไว้
- ตั้งหม้อโดยยังไม่ต้องเปิดไฟ แล้วใส่น้ำลงไปในหม้อกะให้พอท่วมข้าวโพด
- จากนั้นใส่น้ำตาลและเกลือเล็กน้อยลงในน้ำ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มรสชาติของข้าวโพดให้มีความหวานยิ่งขึ้น
- ยกหม้อขึ้นวางบนเตา ใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรงและต้มน้ำให้เดือด
- รอจนน้ำเดือด ให้ใส่ข้าวโพดตามลงไปในหม้อ แล้วลดความร้อนลงเหลือปานกลางและปล่อยให้ข้าวโพดเคี่ยวประมาณ 7-10 นาที
- เมื่อข้าวโพดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดและนุ่มขึ้นเป็นอันใช้ได้ ให้นำข้าวโพดออกจากหม้อ แล้วนำไปแช่ในน้ำเย็นสักครู่ พร้อมเสิร์ฟฃ
ประโยชน์ของข้าวโพด
- คาร์โบไฮเดรต เป็นส่วนประกอบหลักของข้าวโพดเช่นเดียวกันกับธัญพืชชนิดอื่น โดยข้าวโพดฝัก 100 กรัม จะมีแป้ง 21 กรัม และน้ำตาล 4.5 กรัม ซึ่งข้าวโพดครึ่งฝักให้คาร์โบไฮเดรตเทียบเท่าข้าวสวย 1 ทัพพี จึงไม่แนะนำให้ทานสองอย่างนี้ร่วมกัน เนื่องจากจะได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น
- เส้นใยอาหาร ข้าวโพดเป็นธัญพืชที่มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้การทำงานของระบบขับถ่ายและบรรเทาอาการผิดปกติทางลำไส้ได้อีกด้วย
- สารต้านอนุมูลอิสระ ข้าวโพดมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยยับยั้งความเสียหายของเซลล์ที่เกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระ อันเป็นปัจจัยก่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือด เป็นต้น โดยประกอบด้วยกรดเฟอรูลิก (Ferulic Acid) และสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งเป็นสารสีที่ให้สีเหลือง สีส้ม และสีแดง
- วิตามิน ข้าวโพดสดอุดมไปด้วยวิตามินบี ที่ช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารประเภทไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตาและเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น
- แร่ธาตุ ข้าวโพดคั่วอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี และทองแดง แต่ข้าวโพดคั่วที่ขายตามท้องตลอด มักมีน้ำมัน มาการีน เนย เกลือ และน้ำตาลจำนวนมากเป้นส่วนผสม ควรรับประทานแต่พอดี
ของว่างของโปรดของหลาย ๆ คน ที่มักไปซื้อกินตลอด แต่ใครจะรู้ว่า วิธีต้มข้าวโพด ให้หวานอร่อยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ทำง่าย อร่อย แถมได้หม้อใหญ่ ๆ ไว้กินแบบจุกๆ
บทความที่น่าสนใจ
30 มกราคม 2024
โดย
จันทร์เจ้า