“ตะไคร้” เป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย สามารถนำไปทำอาหารหลากหลาย โดยตะไคร้นิยมนำไปทำเมนูต้มยำเพื่อปรุงกลิ่นให้หอม และยังสามารถทำเครื่องดื่มสมุนไพร หรือเครื่องหอมไล่ยุงเเละเเมลง นอกจากนี้การปลูกตะไคร้นั้นก็ง่ายเเสนง่าย ทำให้หลายคนนิยมปลูกไว้ใช้เอง แต่ปัญหาที่มักจะพบบ่อย ๆ คือ ต้นโตช้า ต้นเล็ก ไม่แตกกอ และใบเหี่ยว ดังนั้นในบทความนี้จะพาทุกคนไปดู วิธีปลูกตะไคร้ ให้ได้กอใหญ่ และเเตกกอเร็วกันค่ะ
สายพันธุ์ของตะไคร้ที่นิยมในไทย
อันดับเเรกก่อนที่จะปลูกตะไคร้ เราควรเลือกสายพันธุ์ที่ตรงตามความต้องการก่อน โดยเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับพันธุ์ตะไคร้ที่นิยมปลูก สามารถติดตามด้านล่างได้เลยนะคะ
- ตะไคร้แดง มีลำต้นและกาบสีเเดง ต้นแข็ง ผอม มีกลิ่นฉุน นิยมนำไปทำน้ำมันหอมระเหย ใช้ในการระงับกลิ่นและสามารถไล่ยุงเเละไล่เเมลงได้
- ตะไคร้หยวก ลำต้นและกาบสีขาว ต้นอวบอ้วน ใบสีเขียวยาวแหลม กลิ่นหอม แต่ฉุนน้อยกว่าพันธุ์ตะไคร้แดง มักนิยมนำไปประกอบอาหาร
การเลือกพันธุ์ตะไคร้มาปลูก ควรเลือกต้นที่แก่แล้ว อายุประมาณ 8 เดือนขึ้นไป เนื่องจากจะขยายกอเร็วกว่าต้นอ่อน หรือหากใครที่ใช้ต้นพันธุ์จากตลาด แนะนำให้สังเกตกาบใบด้านนอกจะมีสีน้ำตาลซึ่งเหมาะแก่การปลูก และควรเลือกที่มีรากติดมาด้วยจะมีโอกาสปลูกติดมากกว่า
ตะไคร้แดง
ตะไคร้หยวก
สภาพเเวดล้อมที่เหมาะสม
- สภาพเเสงที่เหมาะสม ตะไคร้เป็นพืชที่ชอบเเสงจัด ฉะนั้นจะเจริญได้ดีในบริเวณกลางเเจ้ง หรือบริเวณที่โดนแดดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง/วัน
- ช่วงเวลาปลูกตะไคร้ที่เหมาะสม ฤดูที่เหมาะแก่การปลูกตะไคร้คือฤดูฝน จะทำให้เจริญเติบโตดี แต่ต้องคอยระวังน้ำไม่ให้ขังเกินไปด้วยนะคะ
- สภาพดินที่เหมาะสม ตะไคร้ชอบดินที่มีการระบายน้ำดี เช่น ดินร่วน ดินร่วนปนทราย ควรมีความชื้นตลอด ไม่ปล่อยให้แห้ง เพราะต้นอาจจะชะงักการเจริญเติบโตได้
- สภาพอากาศที่เหมาะสม ตะไคร้จะเจริญดีได้ในอากาศร้อนมากกว่าเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 20-38 องศาเซลเซียส ถ้าเย็นเกินไปจะทำให้ตะไคร้ใบเหลือง และการเจริญเติบโตชะงัก
วิธีการปลูกตะไคร้
วิธีปลูกตะไคร้ สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเรามาเสนอวิธีที่ได้รับความนิยมกันทั้งหมด 2 วิธี คือ การปลูกในกระถาง จะเหมาะกับคนที่มีพื้นที่น้อย วิธีนี้ดูเเลง่าย แต่มีข้อเสียคือ กอเล็กกว่าอีกหนึ่งวิธี คือวิธีปลูกลงดิน แต่ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากโรคพืชทางดินได้มากกว่า เพราะการปลูกลงดิน พื้นที่ที่ใช้ปลูกอาจมีการสะสมโรคทางดิน
ซึ่งในบทความนี้เราเลือกใช้ตะไคร้พันธุ์หยวก เนื่องจากต้องการปลูกไว้สำหรับใช้ประกอบอาหาร จะทำให้ได้กลิ่นที่หอมกำลังดี หากใครอยากใช้เพื่อไล่ยุงและเเมลง หรือทำน้ำมันหอมระเหยแนะนำเป็นตะไคร้แดงที่จะมีกลิ่นฉุนกว่า แต่ทั้งนี้สามารถเลือกให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละคนได้เลยค่ะ
คำเเนะนำ
ควรปลูกตะไคร้ให้มีระยะที่ห่างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ไม่ควรชิดกันเกินไป เพราะเมื่อแตกกอเพิ่ม อาจทำให้กอแน่น อากาศไม่ถ่ายเท จนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราซึ่งจะเกิดโรคตามมา
1. วิธีปลูกตะไคร้ลงดิน
ปลูกตะไคร้ลงดิน
อุปกรณ์และวัสดุปลูก
- ต้นพันธุ์ตะไคร้
- ปุ๋ยคอก สามารถใช้เป็นมูลอะไรก็ได้ตามที่มีเลยค่ะ แต่เราจะใช้มูลวัวเพราะหาง่ายที่สุดแล้ว
- ปุ๋ย EM หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เพื่อบำรุงตะไคร้ให้แตกกอเร็ว
- ฟาง ใช้คลุมดินเพื่อควบคุมความชื้น
- เสียม ใช้สำหรับขุดหลุม
ขั้นตอนการปลูก
- นำต้นพันธุ์ตะไคร้มาตัดใบออกให้หมด ลอกกาบด้านนอกที่เป็นสีน้ำตาล แล้วตัดรากเก่าออกเล็กน้อย
- ขุดหลุมกว้าง 20 เซนติเมตร ลึก 10 เซนติเมตร
- ใส่ปุ๋ยคอก 2 กำมือที่ก้นหลุม คลุกเคล้าปุ๋ยให้เข้ากับดินในหลุม
- วางตะไคร้ 2 ต้นในหลุมเดียวกัน โดยวางอยู่ตรงข้ามกัน จะช่วยให้ตะไคร้กอใหญ่ และเเข็งเเรงมากขึ้น
- กลบดินทับต้นตะไคร้ พร้อมจัดแนวต้นให้เอนทำมุมประมาณ 45 องศา วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการแตกกอได้ดี
- ใช้ฟางคลุมหน้าดินไว้เพื่อกักเก็บความชื้น
- และตบท้ายด้วยการรดน้ำที่ผสมปุ๋ย EM ให้ชุ่ม เพื่อบำรุงและกระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นตะไคร้
2. วิธีปลูกตะไคร้ในกระถาง
ปลูกตะไคร้ในกระถาง
วิธีปลูกตะไคร้ ในกระถางเหมาะสำหรับคนที่มีความจำกัดของพื้นที่ ทำให้วิธีนี้ถูกหยิบยกมาทำตามมาก ซึ่งการปลูกในกระถางควรหมั่นรดน้ำเเละใส่ปุ๋ยประจำ เพราะรากของตะไคร้ถูกจำกัดพื้นที่ในการหาอาหาร ซึ่งสามารถทำตาม วิธีปลูกตะไคร้ ด้านล่างได้เลย
อุปกรณ์และวัสดุปลูก
- ดินปลูก นี้จะใช้ดินร่วน สามารถใช้เป็นดินเก่าในสวน ดินบริเวณบ้าน หรือหากใครอยากสะดวกสามารถหาซื้อดินปลูกได้ที่ร้านขายดินทั่วไปเลยค่ะ
- ต้นพันธุ์ตะไคร้ ซึ่งเลือกใช้ต้นตะไคร้ที่ซื้อได้จากตลาดใกล้บ้าน โดยเลือกใช้ต้นที่แก่แล้ว
- ปุ๋ย EM หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เพื่อบำรุงตะไคร้ให้ขยายกอเร็ว
- กากมะพร้าวสับ เพื่อรองก้นกระถางช่วยในการระบายน้ำ
- น้ำยาเร่งราก ถ้าไม่มีหรือไม่ต้องการใส่ ก็ตัดออกไปได้เลย เพียงรากที่ได้อาจจะไม่เยอะเท่ากับใส่
- ปุ๋ยหมัก หรือสามารถใช้ปุ๋ยคอกแทนได้ค่ะ
- กระถางขนาด 17 นิ้วขึ้นไป แนะนำว่าควรมีรูระบายน้ำด้านล่าง
ขั้นตอนการปลูก
- เราจะตัดจากโคนยาวขึ้นไปประมาณ 3 นิ้ว และตัดรากเก่าออก
- เตรียมน้ำโดยผสมกับน้ำยาเร่งรากตามสัดส่วนข้างฉลาก แล้วเทในภาชนะเเช่ตะไคร้ประมาณ 1 นิ้ว
- วางทิ้งไว้ในที่ร่มประมาณ 5-7 วันให้รากงอก แล้วจึงจะเอามาลงปลูกกันต่อค่ะ
- เตรียมผสมดินปลูก โดยจะใช้ดินกับปุ๋ยหมักอัตรา 2:1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน
- หลังจากนั้นเราจะเตรียมกระถางโดยชั้นเเรกเป็นกากมะพร้าวสับ ประมาณ 1 ½ นิ้ว เพื่อทำหน้าที่ในการกักเก็บความชื้นและระบายน้ำ
- นำดินที่ผสมแล้วใส่กระถาง โดยเหลือความลึกด้านบนไว้ประมาณ 1 นิ้ว
- ต่อไปเราจะใช้ไม้ขุดหลุมลึกประมาณ 1 เซนติเมตรก่อน แล้วจึงเอาต้นตะไคร้ที่เตรียมไว้ลงปลูกและกลบดิน
- ขั้นตอนสุดท้ายเราจะใช้กากมะพร้าวสับคลุมดินไว้ เพื่อกักเก็บความชื้นที่หน้าดิน แล้วรดน้ำด้วยปุ๋ย EM เพื่อเป็นการบำรุงรากและต้นค่ะ
วิธีการดูแลตะไคร้
- การรดน้ำ การรดน้ำเราจะต้องรดน้ำเช้า-เย็น เพื่อไม่ให้ดินแห้ง หลังปลูกได้ 7 วัน ให้รดน้ำผสมกับปุ๋ย EM 5 วัน/ครั้ง เพื่อเป็นการเร่งการแตกกอ และทำให้กอของตะไคร้ใหญ่ขึ้น
คำเเนะนำ
ควรรดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้ขาดน้ำเพราะน้ำจะทำให้ต้นตะไคร้ขาว อวบ ต้นสวยค่ะ ^///^
- การใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยเราจะใส่ไปพร้อมกับการเติมดินค่ะ เมื่อดินยุบตัวลงไปเราจะเติมดินที่ผสมกับปุ๋ยหมัก อัตราส่วน 2:1 และใช้กากมะพร้าวสับคลุมทับอีกรอบ ตามด้วยรดน้ำ
- การเติมดิน ในการปลูกในกระถางเมื่อเวลาผ่านไป ดินจะยุบลง ให้เติมดินโดยใช้ดินปลูกสูตรเดียวกับดินในกระถาง
- กำจัดวัชพืช หมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบ ๆ กอตะไคร้ และที่เกิดแทรกในกอเพื่อลดการเเเย่งอาหาร นอกจากนี้ยังเป็นการทำลายแหล่งสะสมเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคพืช
- การตัดเเต่งกิ่ง ตัดแต่งต้นที่แก่ สังเกตได้จากต้นที่โน้มลงมาก ๆ กาบและใบมีสีน้ำตาล มักพบต้นที่อยู่วงนอกกอ เเนะนำให้ตัดเเต่งกอตะไคร้ให้มีความโปร่งเพื่อลดโอกาสการเกิดโรค และลดการแย่งปุ๋ยกันเอง
Tips
เมื่อกอตะไคร้ยังไม่ใหญ่สะใจ และเราสามารถขยายกอเพิ่ม โดยการตัดลำต้นและใบออก ให้เหลือความยาวของโคนต้นประมาณ 3-4 นิ้ว และปล่อยให้มีการแตกกอใหม่ แนะนำว่าให้ตัดต้นตรงกลางจะเเตกง่ายกว่าต้นด้านนอก
ศัตรูพืชของตะไคร้และวิธีการป้องกัน
แมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกระเทียม
ตะไคร้ถือเป็นพืชที่มีแมลงศัตรูพืชค่อนข้างน้อย เนื่องจากกลิ่นของตะไคร้มีฤทธิ์ในการไล่แมลงตามธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัตินี้ ตะไคร้จึงมักถูกปลูกร่วมกับพืชอื่น เพื่อช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืช อย่างไรก็ตามแมลงที่สามารถสร้างปัญหาให้กับตะไคร้ได้บ่อยที่สุดคือ “หนอนเจาะลำต้น” ซึ่งจะเจาะเข้าไปในลำต้นของตะไคร้เพื่อกัดกินด้านใน ทำให้ต้นได้รับความเสียหายและอ่อนแอลงในที่สุด
วิธีป้องกันและกำจัด: หมั่นสังเกตตะไคร้ของคุณโดยเฉพาะบริเวณโคนต้นว่ามีหนอนหรือร่องรอยการเจาะหรือเปล่า
โรคพืชที่พบบ่อยในกระเทียม
- โรคจุดสีน้ำตาล โรคนี้เกิดจากสภาพเเวดล้อมที่ร้อนชื้น พบมากในช่วงที่มีฝนตกบ่อย สังเกตจากจุดสีเหลืองที่ใบ เเละต่อมาจะกลายเป็นสีน้ำตาล ทำให้ใบค่อย ๆ เหี่ยวลง
- โรคราสนิม อาการที่สังเกตเริ่มเเรกใบจะเป็นแผลขีดสีน้ำตาลเเละเป็นจะลุกลามเป็นแถบไปตามความยาวใบทำให้ใบแห้งตาย ใต้ใบมีสปอร์ของเชื้อราสีส้มกับน้ำตาลเข้มวิธี
ป้องกันและกำจัด: เมื่อพบอาการให้ตัดใบไปทิ้งให้ห่างบริเวณปลูก แล้วฉีดยาป้องกันรา และหมั่นตัดแต่งกอให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยลดการเกิดเชื้อได้
ประโยชน์ 7 ข้อของตะไคร้
ประโยชน์เด่นของตะไคร้
ตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และมีประโยชน์หลากหลาย นอกจากจะนิยมปลูกเพื่อใช้ประกอบอาหารแล้ว การรู้ วิธีปลูกตะไคร้ ที่ถูกต้องยังช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของสมุนไพรชนิดนี้อีกด้วย วันนี้เราขอพาทุกคนมารู้จักกับ 7 ประโยชน์เด่น ๆ จากตะไคร้ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ!
- ปลูกตะไคร้ร่วมกับพืชชนิดอื่น จะสามารถช่วยไล่เเมลงได้ ทำให้ช่วยลดการเกิดโรคที่เกิดจากเเมลงศัตรูพืช
- ตะไคร้มีสารประกอบซิตรัล ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์สงบประสาท ช่วยให้นอนหลับได้ดี
- ตะไคร้มีกลิ่นหอมฉุน และมีสารประกอบหลายอย่างที่มีฤทธิ์ในการไล่เเมลงและไล่ยุง เช่น Camphor, Cineol, Eugenol เป็นต้น
- นำมาต้มดื่ม ช่วยดับร้อนแก้กระหายได้เป็นอย่างดี
- มีวิตามินเอช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา
- มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและเพิ่มสมาธิ
- ตะไคร้ช่วยในการย่อยอาหารได้ดี ขับลมในลำไส้ทำให้เจริญอาหารมากขึ้น และช่วยในการแก้ท้องเสีย
เป็นยังไงกันบ้างคะ วิธีปลูกตะไคร้นั้นไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ เพื่อน ๆ สามารถทำตามกันได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ปลูกเเค่ต้นเเดียวแต่สามารถขยายกอเพิ่มมาอีกหลายต้นเลยค่ะ แถมวิธีนี้จะช่วยการเพิ่มความเร็วในการเเตกกอ และต้นอวบ ขาว มาก ๆ อีกด้วย
FAQs
24 มกราคม 2025
โดย
Saipan