วิธีปลูกผักชี ง่าย ๆ ไว้กินเอง แถมสร้างรายได้เสริม
ผักชี ผักสวนครัวสารพัดประโยชน์ นิยมใช้เพิ่มความหอมเฉพาะตัวให้กับอาหารไทย โดยผักชีที่เรารู้จักมีอยู่ 3 ชนิดหลัก ๆ ด้วยกันคือ ผักชีลาว ผักชีฝรั่ง และผักชีไทย ซึ่งในบทความนี้เราจะเน้นไปที่ ผักชีไทย เนื่องจากเป็นผักชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด! แต่การปลูกผักชีไทยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่มักพบ คือ เมล็ดไม่งอก เนื่องจากเปลือกของเมล็ดมีความแข็งและหนา แต่ทั้งนี้ก็สามารถใช้เทคนิคเพื่อให้เมล็ดงอกได้ถึง 100% พร้อมกับ วิธีปลูกผักชี 3 แบบให้เลือกตามความเหมาะสม
สายพันธุ์ผักชีที่นิยมปลูก
พันธุ์ผักชีไทยที่นิยมปลูกในไทยมีทั้งหมด 2 พันธุ์ ได้แก่
- พันธุ์พื้นเมือง มีลักษณะต้นเล็ก ใบบาง เมล็ดเล็ก ออกดอกเร็ว มีกลิ่นหอมจัด
- พันธุ์แอฟริกา มีลักษณะต้นใหญ่ ใบหนาใหญ่ มีกลิ่นหอมเล็กน้อย อายุยาวนานกว่า
ในบทความนี้จะเลือกพันธุ์พื้นเมืองเพราะหาซื้อง่ายกว่าและพันธุ์นี้มีกลิ่นที่หอมกว่า แต่ถ้าหากใครชอบกลิ่นที่ไม่แรงมาก แนะนำเป็นพันธุ์แอฟริกาได้เลยนะคะ วิธีปลูกเหมือนกันเลยเเต่จะใช้เวลาปลูกนานกว่าค่ะ
สภาพเเวดล้อมที่เหมาะสม
สภาพอากาศที่เหมาะสม : ผักชีจะชอบอากาศเย็น ชอบแดดแต่ไม่จัด ฤดูที่เหมาะสมที่สุดและนิยมปลูกผักชีคือฤดูหนาว แต่ถ้าใครที่จะปลูกในกระถางไว้กินที่บ้านก็สามารถปลูกได้ตลอดปีเลย
แสงที่เหมาะสม : ควรโดนเเสงประมาณ 6 ชั่วโมง/วัน แดดต้องไม่เเรง เช่น แดดช่วงเช้า ช่วงบ่ายควรหาอะไรมาพรางเเสง เช่น เเสลน หรือวางในพื้นที่ที่ไม่โดนเเดดทั้งวัน เพราะใบผักชีอาจเหี่ยว หรือโดนเผาจากแดดจัดได้
ดินที่เหมาะสม : ดินที่ร่วนซุย ระบายน้ำดี ดินที่ทุกคนควรที่จะหลีกเลี่ยงเลยก็คือ ดินเหนียวเพราะมีโอกาสสูงมากที่รากผักของคุณจะเน่าได้ ดินที่ควรใช้คือ ดินร่วน ดินร่วนปนทราย
วิธีปลูกผักชี
การปลูกผักชีนั้นจะว่ายากก็ยาก แต่ถ้าเราได้ลองศึกษาและทำความเข้าใจ จะรู้เลยว่าผักชีนั้นปลูกง่าย เพียงเเค่เราต้องเอาใจใส่และหมั่นดูเเล การปลูกผักชีสามารถขยายพันธุ์ได้แบบเดียวคือ เมล็ด แต่มักพบปัญหาเมล็ดไม่งอก โดยเรามีเทคนิคเพาะเมล็ดอย่างไรให้งอก 100% และมาพร้อมกับ วิธีปลูกผักชี 3 วิธี เพื่อกินในบ้าน และเพื่อสร้างรายได้ ทุกคนสามารถทำตามได้ง่าย ๆ
เมล็ดพันธุ์ผักชีที่ดี ควรมีสีน้ำตาลอมเหลือง ไปจนถึงน้ำตาลเข้ม
“ลูกผักชี” หรือเมล็ดผักชี มักนำไปเป็นเครื่องเทศ ปรุงเเต่งกลิ่นเเละรสของอาหาร เนื่องจากมีกลิ่นหอมสมุนไพร ซึ่งเมล็ดผักชีมีลักษณะกลมรี สีเขียวอ่อนจะยังเป็นเมล็ดอ่อนอยู่ กลิ่นจางกว่าเมล็ดแก่ที่มีสีน้ำตาลอมเหลือง และเมล็ดระยะเมล็ดแก่นี้เหมาะกับการนำมาเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกขยายพันธุ์
วิธีเพาะเมล็ดผักชี
วิธีปลูกผักชี ทั้ง 3 วิธี เราจะเพาะเมล็ดแบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งวิธีการเพาะเมล็ดแบบที่จะทำนี้ ช่วยให้มีอัตราการงอกสูง และเร็ว ซึ่งอัตราการงอกเกือบจะ 100% เลย
อุปกรณ์เพาะเมล็ด
- เมล็ดผักชี
- แก้ว สามารถใช้แก้วอะไรก็ได้
- กล่องพลาสติก หรืออุปกรณ์อื่นที่สามารถใส่และปิดให้สนิทได้
- ทิชชู แนะนำว่าควรเป็นทิชชูที่ใช้ในครัวเพราะหนาไม่เปื่อยง่าย
วิธีเพาะเมล็ด
- นำเมล็ดมาห่อไว้ในผ้าและใช้สากหรือขวดแก้วมาบดเมล็ดผ่านผ้าเบา ๆ เพื่อให้เมล็ดเเตกเป็น 2 ส่วน *ใครไม่มีสากหรือขวดแก้วสามารถใช้อุปกรณ์อะไรก็ได้ที่มีน้ำหนัก
- แช่น้ำอุ่นและตั้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 6-8 ชั่วโมง *สามารถใช้น้ำอุณหภูมิห้องได้ แต่จะต้องใช้เวลานานกว่าเมล็ดจะอ่อนตัว แนะนำว่าควรเเช่ประมาณ 1 คืน
จำเป็นต้องเเช่น้ำเมล็ดก่อนปลูกไหม?
เเนะนำควรเเช่น้ำก่อน เพราะจะทำให้เมล็ดดูดซับน้ำเเละความชื้นเพียงพอ สำหรับใช้ในการเร่งความงอกของเมล็ด หากไม่แช่อาจจะทำให้งอกช้ากว่า
- เราจะคัดเลือกเมล็ดจากวิธีเเช่น้ำนี้เลยนะคะ โดยการนำเมล็ดเเช่น้ำเราจะคัดเลือกแต่เมล็ดที่จม บางคนอาจจะใช้หมดก็ได้นะคะเพียงเเต่เมล็ดที่ลอยจะมีอัตรางอกที่ต่ำกว่าเมล็ดที่จม
- นำเมล็ดออกมาวางบนทิชชูที่เปียก และเอาทิชชูทับซ้ำอีกด้านบน เก็บไว้ในกล่องปิดฝาและไว้ในที่มืด ประมาณ 3-5 วันเมล็ดจะงอก แต่แนะนำว่าไม่ควรวางในบริเวณที่มีแสง เพราะเมล็ดอาจถูกยับยั้งการงอกได้
1. วิธีปลูกผักชีในกระถาง
การผักชีในกระถางจะควบคุมง่าย
วิธีปลูกผักชี ที่ได้รับความนิยมสำหรับปลูกกินเองที่บ้านคือ ปลูกในกระถาง เหมาะกับคนที่ต้องการปลูกน้อย ดูเเลง่าย และสามารถปลูกในร่มได้
วัสดุปลูกและอุปกรณ์
- เมล็ดพันธุ์ผักชี
- ดินปลูก อัตราส่วนผสม ได้แก่ ดิน 2: มูลไส้เดือน 1: แกลบดิบ 1: ขุยมะพร้าว 1
- ฟางหรือเป็นเศษใบไม้แห้งก็ใช้ได้เหมือนกัน
- กากมะพร้าวสับ ใช้ในการรองก้นกระถางเพื่อช่วยระบายน้ำและเก็บความชื้น
- กระถาง แนะนำว่าต้องมีเป็นกระถางที่ระบายน้ำได้ดี เช่น กระถางผ้า หรือกระถางที่มีรูระบายน้ำ
วิธีปลูก
- รองก้นกระถางด้วยกากมะพร้าวสับประมาณ 1 นิ้วครึ่ง
- นำดินปลูกที่ผสมแล้วใส่กระถาง โดยเหลือพื้นที่ไว้ประมาณ 1 นิ้ว เพื่อป้องกันเมล็ดไหลออกตอนที่รดน้ำ
- นำเมล็ดที่เพาะไว้โรยให้ทั่วกระถาง พยายามให้กระจายอย่ากระจุกกัน
- เอาดินโรยกลบทับบาง ๆ แล้วก็เอาฟางหรือเศษใบไม้แห้งคลุมหน้าดินบาง ๆ และรดน้ำให้เบามือจนชุ่ม
- วางไว้ในที่ที่โดนแดดเเค่ตอนเช้า หรือที่ที่มีการพรางเเสง
2. วิธีปลูกผักชีในกล่องโฟม
ปลูกผักชีด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์
การปลูกในกล่องโฟมนิยมทำในการปลูกแบบไร้ดิน หรือไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ ที่ชื่นชอบผักปลอดสารพิษ วิธีนี้สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ลดการเสี่ยงโรคพืช ต้นทุนไม่สูง
วัสดุปลูกและอุปกรณ์
- กล้าผักชีที่เพาะเเล้ว
- ปุ๋ย A และ B สามารถใช้ยี่ห้อไหนก็ได้
- ถ้วยปลูกพลาสติกขนาด 5-7 เซนติเมตร
- ฟองน้ำปลูก โดยมีรอยบากเพื่อใส่กล้าที่เพาะลงไปอนุบาล
- อุปกรณ์วัดค่า EC และ ค่า pH
- ขนาด 60x40x20 ซม. หรือใกล้เคียง พร้อมฝาปิด
วิธีปลูก
- เตรียมกล่องโฟม โดยเริ่มที่เจาะรูฝากล่องขนาดรูตามขนาดถ้วยปลูกที่มี วัดระยะห่างของรู 5-7 เซนติเมตร
- เติมน้ำเปล่าเกือบเต็ม ให้เหลือพื้นที่ปากกล่อง สูงประมาณ 2-3 เซนติเมตร
- ฟองน้ำที่เตรียมไว้ ให้ชุบน้ำจนซึมเข้าไปจนชุ่ม ฉีกฟองน้ำออกมาตามรอยบากที่ทำไว้ แล้วนำไปใส่ในถ้วยปลูก
- นำถ้วยไปใส่ในรูที่เจาะไว้บนฝากล่องโฟม แล้วเอากล้าผักชีที่เพาะไว้ ใส่ตามช่องของฟองน้ำเเต่ละชิ้น
- วางกล่องโฟมในบริเวณที่โดนเเสงรำไร
- รอให้ผักชีสูงประมาณ 5-7 เซนติเมตร หรือมีใบจริงประมาณ 3-4 ใบ จึงเริ่มเติมปุ๋ย และ B ใช้เวลาประมาณ 15 วัน
- ผสมปุ๋ย A และ B ในน้ำ ตามอัตราส่วนที่ระบุข้างขวด โดยอายุ 15-30 วัน ให้มีค่า EC ประมาณ 1,600-1,800 µS/cm และ ph 6.0-6.5 ระวังอย่าให้ระดับน้ำต่ำกว่า 2 เซนติเมตร
- เมื่ออายุ 30 วันขึ้นไป ควรให้มีค่า EC ประมาณ 2,500-3,000 µS/cm และ ph 6.0-6.5
3. วิธีปลูกผักชีลงแปลง
ปลูกผักชีลงแปลงควรระวังในเรื่องน้ำขัง
วิธีปลูกผักชี ที่มักนำมาใช้ในการที่ลงปลูกจำนวนมากคือ การปลูกลงแปลง ซึ่งเหมาะกับบุคคลหรือเกษตรกรที่ต้องการปลูกเพื่อสร้างรายได้ วิธีนี้เนื่องจากเป็นการปลูกกลางแจ้ง จำเป็นที่ต้องดูเเลใส่ใจ หากอากาศร้อนควรให้น้ำบ่อย ๆ และพื้นที่ต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการขังของน้ำ
วัสดุปลูกและอุปกรณ์
- ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อบำรุงดินและต้น
- ฟางแห้งหรือวัสดุคลุมดิน
- กล้าผักชีที่เพาะเเล้ว
- จอบหรือเสียม
- คราด
วิธีปลูก
- ขุดดินลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร แล้วตากดินไว้ 5-7 วัน เพื่อลดเชื้อโรคและศัตรูพืช
- ผสมดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2-3 กิโลกรัม/ตารางเมตร
- เตรียมร่องปลูกลึก 1-2 เซนติเมตร กว้างระหว่างร่องประมาณ 15-20 เซนติเมตร
- หว่านต้นกล้าที่เพาะลงในร่อง (ประมาณ 2-3 ต้น/จุด) โดยให้มีระยะห่าง 10-15 เซนติเมตร ระหว่างจุด
- กลบดินบาง ๆ ทับเมล็ด แล้วคลุมบางด้วยฟางแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
TIPS
อยากได้ผักชีอวบ ๆ ทำยังไงดี
วิธีที่จะทำให้ต้นผักชีอวบ และใหญ่ทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ในตอนที่ผักชีโตอายุประมาณ 20 วัน จะเห็นว่าใบออกมาเยอะเเล้ว แนะนำให้บำรุงช่วงนี้ได้เลยเพราะเเข็งเเรงเพียงพอแล้ว โดยตัวที่จะใช้บำรุงเราจะใช้เป็นจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง โดยฉีดทุก ๆ 7-14 วัน จะทำให้ต้นเเข็งเเรง อวบ ใหญ่แน่นอน
วิธีการดูแลผักชี
การให้น้ำ : ควรให้น้ำเช้า-เย็น แต่อย่าให้ขังรากอาจจะเน่าได้ แต่ถ้าใครปลูกฤดูฝนแนะนำให้เอากระถางเข้าร่ม หรือเอาไปวางตรงที่หลบฝนได้เพื่อป้องกันไม่ให้ฝนซัดใส่ใบและต้นผักชีจนช้ำ แต่พื้นที่นั้นก็ยังสามารถรับแดดตอนเช้าได้ *และอย่าปล่อยให้ผักชีขาดน้ำอาจทำให้ขมได้นะคะ นอกจากนี้ยังทำให้ออกดอกเร็วอีกด้วย
การให้ปุ๋ย : การบำรุงถือว่าสำคัญถ้าจะทำให้ต้นอวบ ถึงเเม้ผักชีไม่ได้ต้องการสารอาหารอะไรเพิ่มเติม แต่ถ้าใครอยากให้ผักชีต้นใหญ่ อวบ แนะนำให้บำรุงด้วยจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง หรือสามารถใช้เป็นอะมิโนน้ำสูตรที่ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของต้นเเละใบ อ่านที่ฉลากข้างขวดได้เลย ข้อควรระวัง!! ห้ามเลือกสูตรที่เปิดตาดอกเพราะจะไปออกฤทธิ์กดยอดได้ ทำให้ผักต้นเล็กไม่โต *หากผักชีเริ่มออกดอกให้เด็ดดอกทิ้งไปเพราะจะทำให้ต้นเล็กได้
การกำจัดวัชพืช : ข้อนี้สำคัญมาก ควรที่จะกำจัดวัชพืชที่ขึ้นในกระถางสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชที่ขึ้นจะไปแย่งอาหารผักชีและส่งผลให้ต้นเล็ก กอเล็กด้วย
ตรวจสอบระดับน้ำ : วิธีการปลูกผักชี ในระบบไฮโดรโปนิกส์ ระวังอย่าให้น้ำในกล่องต่ำกว่า 2 ซม. เติมสารละลายเมื่อจำเป็น
เปลี่ยนน้ำ : ในระบบไฮโดรโปนิกส์ ควรเปลี่ยนทุก 7-10 วัน เพื่อลดความเสี่ยงของการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
เเนะนำ
สำหรับใครที่เลือกปลูกในฤดูร้อน แนะนำให้รดน้ำเยอะ ๆ ในตอนเช้าเลยนะคะ เพราะระหว่างวันผักชีจะคายน้ำเยอะมาก ถ้าน้ำไม่เพียงพอจะทำให้เหี่ยวได้ค่ะ
การเก็บเกี่ยวผักชี
วิธีการเก็บเกี่ยวผักชี
ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : ผักชีมีอายุเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 40-45 วันก็สามารถตัดไปกินได้เเล้ว *แอบกระซิบนะคะว่าผักชีที่ยังไม่ถึงเวลาเก็บก็สามารถเก็บกินได้นะ เพียงเเต่รสชาติและกลิ่นจะอ่อนกว่าต้นที่โตเต็มวัยเเล้วเท่านั้น
วิธีการเก็บเกี่ยวผักชี : ในการเก็บเกี่ยวผักชีบางคนอาจจะถอนไปทั้งราก เพราะรากผักชีสามารถนำไปประกอบอาหาร เพื่อเพิ่มความหอมได้ หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือการตัด โดยจะตัดใบที่อยู่รอบนอกเละเหลือใบใหม่ที่งอกมาตรงกลางไว้ ทำแบบนี้เราก็จะมีผักชีไว้กินในครั้งถัดไปได้ค่ะ
ป้องกันศัตรูพืชและโรคพืชในผักชี
แมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในผักชี
- เพลี้ยอ่อน อาการที่สังเกต คือ ใบหดตัว เหี่ยวเหลือง ต้นเจริญเติบโตช้า
วิธีป้องกัน: ใช้น้ำส้มควันไม้หรือน้ำหมักสะเดา - แมลงหวี่ขาว อาการที่สังเกต คือ ใบเหลือง มีราดำเกาะเนื่องจากสารหวานจากแมลง
วิธีป้องกัน: ใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลือง หรือฉีดพ่นสารชีวภาพ เช่น น้ำมันสะเดา - หนอนเจาะใบ อาการที่สังเกต คือ ใบมีรูพรุนหรือขาดแหว่ง
วิธีป้องกัน:เก็บหนอนออกด้วยมือ หรือฉีดพ่นเชื้อบีที
โรคพืชที่พบบ่อยในผักชี
- โรคใบจุด ลักษณะอาการคือ ใบมีจุดสีน้ำตาลหรือดำ ใบเหลืองและแห้งร่วง
- โรครากเน่า ลักษณะอาการคือ รากเน่า ต้นแคระแกรน และเหี่ยวตาย
- โรคโคนเน่า ลักษณะอาการคือ โคนต้นเปื่อยและเน่า มีราขาวลักษณะคล้ายใยแมงมุม
วิธีป้องกัน
- ก่อนปลูกควรไถตากดินกับแดดเพื่อฆ่าเชื้อราและไข่หนอน ประมาณ 15 วัน หากปลูกในกระถางแนะนำใช้ดินปลูกใหม่
- เลือกระยะเวลาปลูก ควรหลีกเลี่ยงการปลูกในฤดูฝน
- เลือกต้นพันธุ์ที่ปลอดเชื้อ
- รักษาความสะอาดและความชื้นในภาชนะปลูก
- ทำลายต้นที่มีเชื้อข้างนอกไกล ๆ พื้นที่ที่ปลูก
เอาล่ะค่ะอ่านมาถึงตรงนี้คิดว่าทุกคนคงสามารถปลูกผักชีกันได้แล้ว เห็นไหมล่ะคะไม่ยากเลยใช่ไหม สำหรับใครที่ไม่เคยปลูกผักชีขึ้นเลยลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะคะ ถ้างอกหรือไม่งอก ผลลัพธ์เป็นยังไงอย่าลืมมาเล่าในคอมเมนต์ ให้กันฟังด้วยนะคะ