วิธีปลูกโหระพา ให้ใบงาม แตกยอดดี พร้อมวิธีดูแลรักษา

อัปเดตเมื่อ 24 มกราคม 2025

โหระพา เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมและรสชาติโดดเด่น นอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารแล้ว ยังสามารถใช้เป็นพืชประดับที่ช่วยสร้างบรรยากาศสดชื่นให้กับบ้านหรือสวนได้อีกด้วย จึงทำให้คนนิยมปลูกโหระพาเป็นผักคู่สวนเสมอ สำหรับสายพันธุ์ที่มักปลูกในไทยคือ พันธุ์พื้นเมือง ซึ่งสายพันธุ์ของโหระพาในประเทศไทย ยังไม่ได้รับการแบ่งแยกที่ชัดเจน เนื่องจากยังมีความจำกัดด้านการปลูกโหระพาเชิงพานิชย์ยังไม่แพร่หลาย ซึ่ง วิธีปลูกโหระพา สามารถทำได้ง่าย โดยวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดคือการชำกิ่ง ซึ่งจะช่วยให้โหระพาเจริญเติบโตเร็ว และในบทความนี้ยังมีวิธีการดูเเลโหระพาง่าย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มการเเตกยอด และใบโหระพาใบดกอีกด้วย

สภาพเเวดล้อมที่เหมาะสม

สภาพอากาศที่เหมาะสม : อากาศที่เหมาะสมในการปลูกคืออากาศอบอุ่นและชื้น ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 20-38 องศาเซลเซียส ในประเทศไทยสามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่
แสงที่เหมาะสม : โหระพาชอบแสง แต่ไม่ชอบแดดจัด ควรถูกแดดอย่างต่ำประมาณ 6 ชั่วโมง/วัน
ดินที่เหมาะสม : ดินที่เหมาะสม คือ ดินร่วนปนทราย เพราะโหระพาเป็นพืชที่มีรากยาว จึงชอบดินที่มีความโปร่ง หากใครผสมดินเองแนะนำว่าให้หาทรายหยาบใส่ด้วย เพื่อเพิ่มความโปร่งของดิน

วิธีปลูกโหระพา

วิธีปลูกโหระพา ในปัจจุบันมีอยู่ 2 วิธี หลักๆ คือ ปลูกจากเมล็ด และการชำกิ่ง ซึ่งการชำกิ่งก็จะมี 2 แบบ คือชำน้ำ และชำดิน ซึ่งแต่ละเเบบมีข้อดี ข้อเสีย และความยากง่ายต่างกัน โดยสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมและสะดวกได้เลย

ปลูกโหระพาในกระถาง 

ขั้นตอนการผสมดิน

  • เตรียมวัสดุผสมดิน ได้แก่ ดินร่วน: ทรายหยาบ: ขุยมะพร้าว: ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก โดยใช้อัตราส่วน 2: 1: 1: 1
  • ล้างสารเเทนนินของขุยมะพร้าว โดยเเช่น้ำไว้ 2-3 คืน และต้องเปลี่ยนน้ำทุกวัน จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งก่อนใช้งาน
  • ผสมทุกอย่างให้เข้ากันแล้วสามารถใช้ได้เลย เหมาะสำหรับปลูกเเละเพาะเมล็ด

1. การปลูกโหระพาโดยเมล็ด

ในการปลูกเมล็ดข้อดีของวิธีนี้เลยคือ ระบบรากจะเเข็งเเรง ดูเเลง่าย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย เช่น เมล็ด อุณหภูมิ ความชื้น เเละอากาศ เป็นต้น

อุปกรณ์เเละวัสดุปลูก

  • กระถางขนาด 11 นิ้ว หรือใหญ่กว่านี้ และกระถางควรระบายน้ำได้ดี
  • ดินปลูก ใช้ดินที่ผสมเอง หรือดินปลูกอื่น ๆ ที่หาได้
  • แก้ว สำหรับเเช่เมล็ดก่อนปลูก
  • เมล็ดพันธุ์โหระพา
  • ฟางแห้ง หรือใบไม้แห้ง หรือแกลบดิบที่สามารถหาได้

ขั้นตอนการปลูก

  • ก่อนปลูกต้องทำการเเช่เมล็ดในน้ำอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสเพื่อทำความสะอาดเมล็ดก่อน ประมาณ 30 นาที
  • นำดินใส่กระถางเหลือความลึกจากปากกระถางประมาณ 1 นิ้ว
  • หยอดเมล็ดที่ฆ่าเชื้อแล้วลงในกระถาง โดยกระจายเมล็ด อย่าให้รวมกันเป็นกระจุก
  • โรยดินบาง ๆ ครอบเมล็ด กลับด้วยฟางแห้งบาง ๆ
  • รดน้ำเบา ๆ ให้ดินชื้นอยู่เสมอ
  • วางในที่มีแสงแดดรำไร หมั่นรดน้ำอย่าปล่อยดินให้แห้ง

 2. การปลูกโหระพาโดยปักชำกิ่ง

วิธีปลูกโหระพา ที่ได้รับความนิยมากที่สุดคือปักชำกิ่ง เนื่องจากขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว และสะดวกที่สุด โดยในปัจจุบัน วิธีปลูกโหระพา ด้วยการปักชำกิ่งพี่พบบ่อยมี 2 แบบ คือ การชำดิน และชำน้ำ ซึ่งสามารถทำได้ดังวิธีการด้านล่าง

  TIPS  

การเลือกกิ่งโหระพา

ควรเลือกกิ่งที่มีอายุประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งเป็นกิ่งที่มีความแข็งแรงและไม่อ่อนเกินไป ไม่มีดอกติด จะช่วยให้การเจริญเติบโตดีขึ้น กิ่งที่เลือกควรมีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร และมีใบไม่น้อยกว่าครึ่งของกิ่ง เพื่อให้มีสารอาหารในการเจริญเติบโต

2.1 การชำน้ำ

รากที่ได้จะมีความเเข็งเเรงเพราะไม่ได้รับความเสี่ยงโรค จะดูเเลง่ายในช่วงแรก แต่ต้องระวังเรื่องของน้ำ ถ้าไม่หมั่นเปลี่ยนน้ำอาจมีแบคทีเรียเข้าทำลายได้ ควรเปลี่ยนทุก 2-3 วัน และการชำน้ำนี้มีความเสี่ยงรากอ่อนแอ เมื่อย้ายลงดิน

อุปกรณ์เเละวัสดุปลูก

  • กระถางขนาด 11 นิ้ว หรือใหญ่กว่านี้ และกระถางควรระบายน้ำดี
  • แก้วพลาสติก หรือภาชนะชนิดอื่นเพื่อใส่กิ่งโหระพา
  • กรรไกรตัดกิ่ง หรือใช้มีดก็ได้
  • กิ่งพันธุ์โหระพา แนะนำให้เป็นกิ่งแก่ขนาดกลาง ไม่อ่อนและแก่เกินไป สังเกตจากกิ่งไม่เป็นสีน้ำตาล
  • ดินปลูก ใช้ดินที่ผสมเอง หรือดินปลูกอื่น ๆ ที่หาได้

ขั้นตอนการชำน้ำ

  • ตัดกิ่งโหระพายาวประมาณ 5-6 นิ้ว
  • นำกิ่งไปแช่ในน้ำจนรากเริ่มงอก
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำทุก 2-3 วัน
  • รอจนรากเริ่มยาวประมาณ 5 เซนติเมตร และแข็งแรงค่อยย้ายปลูกลงดินที่ผสมไว้
  • วางกระถางไว้ในที่ร่มประมาณ 5-7 วันก่อนน้ำออกบริเวณแสงแดดรำไร
  • รดน้ำ 2 วันครั้ง อย่าปล่อยให้ดินแห้ง

2.2 การชำดิน

วิธีนี้ทำง่ายที่สุด อุปกรณ์ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องดูเเลเยอะ รากที่ได้เเข็งเเรงกว่าการชำน้ำ แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของดินที่ใช้ชำ ถ้าดินไม่เหมาะสมเราอาจจะไม่ออกรากเลยก็ได้

อุปกรณ์เเละวัสดุปลูก

  • กระถางขนาด 11 นิ้ว หรือใหญ่กว่านี้ และกระถางควรระบายน้ำดี
  • แก้วพลาสติก หรือภาชนะชนิดอื่นเพื่อใส่ฮอร์โมนเร่งราก
  • กรรไกรตัดกิ่ง หรือใช้มีดก็ได้
  • ฮอร์โมนเร่งราก เเนะนำใช้เป็นฮอร์โมนกลุ่ม NAA (Naphthyl acetic avid)
  • กิ่งพันธุ์โหระพา แนะนำให้เป็นกิ่งแก่ขนาดกลาง ไม่อ่อนและแก่เกินไป สังเกตจากกิ่งไม่เป็นสีน้ำตาล
  • ดินปลูก ใช้ดินที่ผสมเอง หรือดินปลูกอื่น ๆ ที่หาได้

ขั้นตอนการชำดิน

  • เลือกต้นที่แข็งแรงและตัดกิ่งยาวประมาณ 5-6 นิ้ว
  • จุ่มส่วนปลายกิ่งลงในฮอร์โมนเร่งราก
  • ฝังกิ่งในดินปลูกที่ผสมใน ขั้นตอนการผสมดิน และรดน้ำให้มีความชื้นเล็กน้อย
  • วางกระถางไว้ในที่ร่มประมาณ 5-7 วันก่อนน้ำออกบริเวณแสงแดดรำไร
  • รดน้ำ 2 วันครั้ง อย่าปล่อยให้ดินแห้ง

วิธีดูแลโหระพา

หลังจากที่เราอ่าน วิธีปลูกโหระพา สิ่งสำคัญที่ต้องทำต่อคือการดูแล เพราะไม่ว่าจะปลูกพืชชนิดใด การดูแลที่ดีช่วยให้พืชสวยงามและมีผลผลิตที่ดีได้ทุกครั้ง สำหรับการดูแลโหระพา สามารถทำได้ง่าย ๆ

การพรวนดิน: หากดินแน่นควรมีการพรวนหน้าดิน เพื่อให้อากาศเข้าไปทำให้ดินโปร่ง ช่วยลดการเน่าของราก

การให้น้ำ: กะเพราเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูง ควรรดน้ำทุกวัน แต่อย่าให้ถึงแฉะ

การให้ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้นเดือนละครั้ง ประมาณ 20 กรัม/ต้น สำหรับการให้ปุ๋ยไม่ควรให้โดยตรงที่โคนต้น ให้โรยรอบ ๆ ห่างจากโคนตามความกว้างของทรงพุ่ม

ตัดเเต่งใบ: ควรตัดเเต่งใบเหลือง เเละใบที่เน่าออกเพื่อป้องกันการเเย่งสารอาหารและการลุกลามของโรคพืช และเด็ดยอดเพิ่มกระตุ้นการแตกยอดใหม่

การตัดดอก: เมื่อช่อดอกแทงยอดขึ้นมาให้ตัดทิ้ง จะช่วยให้ใบโหระพาจะเขียวสด ดก มีกลิ่นหอมมากกว่าเดิม และยังช่วยยืดระยะเวลาให้สามารถเก็บเกี่ยวโหระพาได้ทั้งปี

การเก็บเกี่ยวโหระพา

อายุการเก็บเกี่ยวคือ 30-35 วัน และจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 15 วัน ลักษณะต้นที่เก็บได้ สังเกตจากการที่เริ่มมีดอก และส่งกลิ่นหอมชัดเจน โดยวิธีการเก็บเราจะเก็บที่กิ่งแก่หรือยอดโดยการเด็ด

โหระพาสามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี

ป้องกันศัตรูพืชและโรคพืชในโหระพา

แมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกะเพรา

  • เพลี้ยไฟ สังเกตบริเวณยอด ใบหงิก ยอดเหลือง ซึ่งจะส่งผลให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต
  • แมลงหวี่ขาว สังเกตบริเวณใต้ใบเป็นตัวสีขาว ๆ เล็ก ๆ โดยอาการสังเกตที่ใบหงิก ซีดด่าง หรือใบหงิกเหลือง
  • หนอนชอนใบ สังเกตบริเวณใบจะมีรอยเส้นสีขาวคดเคี้ยวไปมา หากระบาดรุนแรงจะทําให้ใบเสียหายร่วงหล่น

โรคพืชที่พบบ่อยในโหระพา

  • โรคใบจุด อาการที่สังเกตคือ ใบมีจุดสีเหลืองหรือน้ำตาล เมื่อระบาดหนักใบอาจหลุดร่วง
  • โรคแอนแทรคโนส อาการที่สังเกตคือ บนใบมีจุดสีน้ำตาลเข้มหรือดำ โดยจุดเหล่านี้จะเชื่อมกันจนทำให้ใบแห้ง
  • โรคไวรัสใบด่าง โรคนี้มีเพลี้ยไฟเป็นพาหะ อาการที่สังเกตคือ ใบด่าง สีไม่สม่ำเสมอ ต่อมาใบหยิกหรืององุ้มผิดรูป

วิธีป้องกันและแก้ไข

  • หมั่นตัดแต่งใบหรือส่วนที่มีโรคออกทันที
  • รักษาความสะอาดในแปลงปลูก
  • ใช้เมล็ดพันธุ์และดินปลูกที่ปราศจากเชื้อ
  • ฉีดพ่นสารชีวภาพหรือสารเคมีตามคำแนะนำเพื่อป้องกันโรค

จบไปแล้วสำหรับ วิธีปลูกโหระพา โดยโหระพาเป็นพืชที่นอกจากใช้ทำอาหารแล้ว โหระพายังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ยังมีอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่ครบเครื่องเลยจริง ๆ

FAQs

การขาดธาตุอาหารไนโตรเจน จะทำให้ใบเหลืองโดยเริ่มเหลืองจากใบแก่ด้านล่าง วิธีแก้ให้ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ประมาณ 10 กรัม/ต้น

ปลูกระบบอินทรีย์ : แนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยอินทรีย์อื่น ๆ เดือนละครั้ง ปริมาณ 20 กรัม/ต้น

ปลูกระบบเคมี : ใช้สูตร 15-15-15  หรือ 16-8-8 เดือนละครั้ง ปริมาณ 10 กรัม/ต้น

ไม่แนะนำให้ปลูกใกล้ต้นแมงลัก เพราะจะทำให้กลิ่นของโหระพาเเละเเมงลักเพี้ยนได้

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตร

ร่วมแบ่งปันไอเดียและข้อมูลของคุณกับเราที่นี่! เราเปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรมืออาชีพ มือใหม่ หรือเพียงแค่ผู้ที่สนใจด้านการเกษตร
ก็สามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นความรู้ในการพัฒนาการเกษตรไปด้วยกัน

0 0 โหวต
Article Rating
guest
0 Comments
โหวตสูงสุด
ใหม่สุด เก่าสุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด