6 สูตร แกงฟักทอง เข้มข้นกลมกล่อม อร่อยดีต่อสุขภาพ
แกงฟักทอง ทำยังไงให้เข้มข้นกลมกล่อม อร่อยดีต่อสุขภาพ SGE รวมมาให้แล้ว 5 สูตรด้วยกัน ทั้งแกงเผ็ด แกงเลียง แกงบวด ฯลฯ รับรองว่า ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยาก อร่อยทุกสูตรแน่นอน
1. แกงฟักทอง ไก่
หากใครไม่ชอบแกงเผ็ดหน่อไม้ไก่ สามารถใส่ฟักทอง ทำเป็น แกงฟักทองไก่ แทนได้ หวานอร่อย ได้รสชาติไปอีกแบบ แถมยังได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย
ส่วนผสม
- ฟักทอง 1/2 ลูก
- ไก่ 500 กรัม
- พริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- กะทิกล่อง 500 กรัม
- ใบโหระพา / พริกชี้ฟ้า ตามชอบ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 แก้ว
วิธีทำ
- ใช้มีดหั่นฟักทองเป็นชิ้น ๆ แล้วคว้านเอาเมล็ดออกให้เรียบร้อย พร้อมกับหั่นเนื้อไก่เป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้
- ตั้งหม้อ เปิดไฟกลาง ใส่กะทิผสมกับน้ำเปล่า ทำเป็นหางกะทิ เสร็จแล้ว ใส่พริกแกงเผ็ด กะปิ ลงไป คนให้ละลายเข้ากัน แล้วผัดต่อไป จนมีกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อไก่ลงไป แล้วเปิดไฟแรง ผัดให้เนื้อไก่เริ่มสุก จากนั้น ใส่ฟักทอง ผัดให้เข้ากัน
- เติมกะทิผสมกับน้ำเปล่าลงไปให้หม้อ (เหลือกะทิไว้ครึ่งหนึ่ง สำรับทำเป็นหัวกะทิ) ต้มต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะเดือด
- ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว คนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน ต้มต่อไปเรื่อย ๆ รอจนกว่าฟักทองจะสุกและนิ่มลง
- เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป แล้วใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ตามชอบ คนทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
2. แกงฟักทองใส่หมูสามชั้น
แกงเผ็ดฟักทอง สามารถประยุกต์ใส่เนื้อสัตว์ได้หลายชนิด ซึ่งถ้าหากใครชอบทานหมูสามชั้นแล้วละก็ สามารถใส่ได้เลย หรือ จะใส่ส่วนอื่น ๆ ของหมูก็ได้ ไม่ว่าจะเนื้อสันคอ ซี่โครงหมู กระดูกหรืออ่อนหมู ก็ได้เหมือนกัน
ส่วนผสม
- หมูสามชั้น 250 กรัม
- ฟักทอง 500 กรัม
- กะทิ 750 มิลลิลิตร
- พริกแกงเผ็ด 100 กรัม
- ใบโหระพา 1 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
- พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ใช้มีดหั่นฟักทองเป็นชิ้น ๆ แล้วคว้านเอาเมล็ดออกให้เรียบร้อย พร้อมกับหั่นเนื้อหมูสามชั้นเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้
- ตั้งหม้อ เปิดไฟกลาง ใส่กะทิผสมกับน้ำเปล่า ทำเป็นหางกะทิ เสร็จแล้ว ใส่พริกแกงเผ็ดลงไป คนให้ละลายเข้ากัน แล้วผัดต่อไป จนมีกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อหมูสามชั้นลงไป แล้วเปิดไฟแรง ผัดให้เนื้อหมูเริ่มสุก จากนั้น ใส่ฟักทอง ผัดให้เข้ากัน
- เติมกะทิผสมกับน้ำเปล่าลงไปให้หม้อ (เหลือกะทิไว้ครึ่งหนึ่ง สำรับทำเป็นหัวกะทิ) ต้มต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะเดือด
- ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน จากนั้น ต้มต่อไปเรื่อย ๆ รอจนกว่าฟักทองจะสุกและนิ่มลง
- เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป แล้วใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูด ตามชอบ คนทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
3. แกงเลียงใส่ฟักทอง
แกงเลียง เป็นแกงพื้นบ้านของไทย นิยมใส่ผักทุกชนิดลงไปเป็นส่วนผสม สำหรับสูตรนี้ นอกจากจะใส่ฟักทองแล้ว ยังใส่บวบเหลี่ยม เห็ดออรินจิ เห็ดหลินขาว เห็ดฟาง ใบแมงลัก ข้าวโพดหวาน และ กุ้งสด เป็นส่วนผสมหลักอีกด้วย รับรองว่า นอกจากน้ำแกงจะเข้มข้นแล้ว ยังได้ไฟเบอร์และสารอาหารต่าง ๆ อย่างเต็มที่อีกด้วย
ส่วนผสมพริกแกง
- กุ้ง 150 กรัม
- หอมแดง 50 กรัม
- กระชาย 50 กรัม
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมหลัก
- กุ้ง 400 กรัม
- ฟักทอง 150 กรัม
- บวบเหลี่ยม 150 กรัม
- ใบตำลึง 50 กรัม
- เห็ดออรินจิ 100 กรัม
- เห็ดฟาง 100 กรัม
- เห็ดหลินขาว 100 กรัม
- ข้าวโพดหวาน 50 กรัม
- ใบแมงลัก 50 กรัม
- น้ำปลาแท้ 3 ทัพพี (8 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 1 ลิตร
วิธีทำ
- แกะเปลือกกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำออก เสร็จแล้ว ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ลวกกุ้งให้สุก แล้วน็อคใส่ในน้ำแข็ง พอเย็นได้ที่ ให้แบ่งกุ้งส่วนหนึ่งออกมาสำหรับทำพริกแกง สำหรับน้ำลวกกุ้ง เตรียมใช้เป็นน้ำสต็อค
- นำกระชาย หอมแดง มาสับให้ละเอียด
- เริ่มโขลกพริกแกง โดยเตรียมครกกับสาก ใส่พริกไทยเม็ดลงไป โขลกให้ละเอียด ตามด้วยกระชาย หอมแดงที่สับไว้ โขลกให้แหลกพอหยาบ เพื่อให้มีเนื้อสัมผัส จากนั้น ใส่กุ้งที่ลวกจนสุกตามลงไป และ กะปิ โขลกให้เข้ากัน
- ต้มน้ำสต็อคให้เดือด ใส่ฟักทอง เห็ดฟาง เห็ดหลินขาว เห็ดออรินจิ ต้มจนสุก
- พอน้ำเดือดดีแล้ว ใส่ข้าวโพด บวบเหลี่ยม ต้มจนบวบนิ่ม
- ใส่ใบตำลึง พริกแกงที่ตำไว้ คนให้พริกแกงละลายเข้ากัน
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลโตนด
- ใส่กุ้งสุก และใบแมงลัก คนให้เข้ากัน พอเดือดกำลังดีแล้ว ให้ปิดไฟ จัดเสิร์ฟได้เลย
4. แกงเปรอะใส่ฟักทอง
แกงพื้นบ้านสไตล์อีสาน ที่นอกจากใส่หน่อไม้เป็นส่วนผสมหลัก ยังใส่ฟักทองลงไป ทานคู่กับเห็ดฟาง ชะอม และใบแมงลักอีกด้วย เป็น แกงฟักทอง อีกหนึ่งสูตรที่น่าลิ้มลอง ใครชอบรสชาตินัว ๆ ห้ามพลาด
ส่วนผสม
- หน่อไม้สด 1 หัว
- ฟักทองหั่นชิ้น ตามชอบ
- น้ำย่านาง 500 มิลลิลิตร
- เห็ดฟาง 100 กรัม
- ตะไคร้หั่น 2 ต้นเล็ก
- หอมแดง 7 หัว
- พริกสด 15-20 เม็ด
- ข้าวเบื่อ (ข้าวสารแช่น้ำ)1 ช้อน
- ชะอม 1 ถ้วย
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- ใบแมงลัก (ผักอีตู่) 1 ถ้วย
- น้ำปลาร้าต้มสุก 5 ช้อนโต๊ะ
- ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- โขลกเครื่องแกง เตรียมครกกับสากมา แล้วตำส่วนผสมทีละอย่าง เริ่มจากตะไคร้หั่น พริกสด หอมแดง ข้าวเบื่อ โดยตำทุกอย่างให้พอแหลก เป็นชิ้น ๆ และตำให้เข้ากัน
- นำหน่อไม้สดมาแกะเปลือกออก หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วนำมาต้มเป็นเวลา 10 นาที
- ใส่น้ำย่านางลงในหม้อ เคี่ยวให้เดือด จากนั้น นำหน่อไม้สด ฟักทองหั่นชิ้น มาใส่ ต้มต่ออีก 5-8 นาที จนกว่าจะเดือด
- ใส่น้ำปลาร้าต้มสุก 5 ช้อนโต๊ะ ต้มต่ออีก 5 นาที
- ใส่เครื่องแกงลงไป ต้มต่ออีก 1-2 นาที แล้วใส่เห็ดฟางลงไป
- ชิมรสชาติ ใส่น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยผงปรุงรสอีก 1 ช้อนชา ต้มต่อจนเดือด
- ใส่ใบมะกรูด ชะอม คนให้เข้ากัน ต้มต่อ 10-15 วินาที แล้วใส่ใบแมงลัก (ผักอีตู่) ปิดท้าย ต้มต่ออีกสักพัก ปิดเตาเป็นอันเสร็จ
5. ซุปฟักทอง
ถึงแม้จะไม่ใช่ แกงฟักทอง สไตล์คนไทย แต่ก็เป็นเมนูที่คนชอบทานฟักทองไม่ควรพลาด เพราะจะได้ซุปฟักทอง รสหวานเข้มข้น ซดทานอย่างเดียวก็อร่อย หรือ ถ้าไม่ใส่ครีมและเนย ก็จะกลายเป็นเมนูวีแกน ที่เหมาะกับคนรักสุขภาพมาก ๆ
ส่วนผสม
- ฟักทองญี่ปุ่น 700 กรัม
- หอมหัวใหญ่ 120 กรัม
- กระเทียม 15 กรัม
- น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสต๊อกผัก หรือน้ำเปล่า 700 มิลลิลิตร
- เกลือ 1 – 2 ช้อนชา
- ใบไทม์ 1 ช้อนชา
- พริกไทยบดละเอียด ตามชอบ
- เมล็ดฟักทอง ตกแต่ง
วิธีทำ
- หั่นหอมหัวใหญ่ กระเทียม และฟักทองให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ โดยในส่วนเมล็ดฟักทอง ให้คว้านออกมา แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด สำหรับตกแต่งซุปในภายหลัง
- ตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยหอมหัวใหญ่ และ กระเทียม ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ผัดให้หอมหัวใหญ่สุกใสและนิ่มลง
- ใส่ฟักทองลงไป เติมน้ำเปล่า ลงไปเล็กน้อย ผัดให้เข้ากันจนมีกลิ่นหอม
- จากนั้น เติมน้ำสต็อกผักลงไป ต้มให้ฟักทองนิ่มลง จนกว่าเนื้อฟักทองจะนิ่ม เข้ากันกับน้ำสต็อก
- ตักซุปฟักทอง ใส่เครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด เสร็จแล้ว ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยพริกไทยบดละเอียด ตกแต่งด้วยเมล็ดฟักทองให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ
สำหรับใครที่ต้องการบดฟักทองให้ละเอียด เพื่อให้ทำซุปฟักทองได้ง่ายขึ้น แนะนำ เครื่องบดสับอาหาร ของ SGE มีใบมีด 4 ใบ สามารถปั่นด้วยความเร็ว 8,000 รอบ/นาที ทำให้ฟักทองบดละเอียดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้คุณทำแกงฟักทองได้ง่ายขึ้น หากสนใจคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sgethai.com/product/food-chopper/ หรือ สอบถามผ่านทาง โทรศัพท์ และ Line ของเราได้เลย
6. ฟักทองแกงบวด
มาทำ แกงฟักทอง แบบของหวานไทย ๆ กันบ้าง กับ ฟักทองแกงบวด ซึ่งวิธีการทำก็ง่าย ๆ เพียงแค่ต้มฟักทองกับหางกะทิ เสร็จแล้ว ค่อยเติมหัวกะทิลงไป เพื่อให้น้ำกะทิรสชาติเข้มข้นมากขึ้น เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ โดยเคล็ดลับอยู่ที่การใส่ใบเตยลงไประหว่างต้มน้ำกะทิ จะช่วยให้น้ำกะทิมีความหอม ทานได้อร่อยมากขึ้น
ส่วนผสม
- ฟักทอง 1,000 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
- เกลือ 2/3 ช้อนชา
- กะทิถุงพาสเจอร์ไรส์ 800 กรัม
- น้ำเปล่า 400 กรัม
- ใบเตย 3 ใบ (มัดเข้าด้วยกัน)
- น้ำปูนใส (สำหรับแช่ฟักทอง)
วิธีทำ
- นำฟักทองไปล้างน้ำให้สะอาด พักให้แห้ง จากนั้น นำมาปอกเปลือก แล้วหั่นให้เป็นชิ้น ๆ เสร็จแล้ว ล้างน้ำสะอาดอีก 1 รอบ
- นำฟักทองใส่ชามผสม เติมน้ำปูนใสลงไป แช่ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง พอครบเวลา ให้นำไปล้างน้ำสะอาด เตรียมนำมาต้ม
- ตั้งหม้อ ใช้ไฟอ่อน ใส่กะทิลงไป 1 ส่วน แล้วเติมน้ำเปล่าลงไป เพื่อทำเป็นหางกะทิ ใส่น้ำตาลมะพร้าว เกลือ และใบเตยมัดลงไป คนให้น้ำตาลมะพร้าวละลายเข้ากัน
- ใส่ฟักทองลงไป กดให้จมลงในน้ำหางกะทิ ต้มให้เนื้อฟักทองนิ่มลงและน้ำกะทิเริ่มร้อนขึ้นมา
- พอน้ำหางกะทิเริ่มร้อนขึ้นและฟักทองเริ่มสุกและนิ่มลงดีแล้ว ให้เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป ต้มให้ร้อนจัดอีกรอบ (ไม่ต้องเดือด) เป็นอันเสร็จ
เป็นยังไงกันบ้างกับ แกงฟักทอง แต่ละสูตรที่นำมาฝากกัน น่ารับประทานมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ หากใครชอบทานฟักทอง แล้วอยากนำมาทำอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติแล้วละก็ ลองทำตาม 5 สูตรที่ SGE นำมาฝากกันได้ รับรองว่า อร่อยทุกสูตร ทำได้ง่าย ๆ แน่นอน
19 เมษายน 2024
โดย
Pres