วิธีทำ เมล็ดทานตะวันอบ ของกินเล่นเพื่อสุขภาพ ทำเองได้ ไม่ต้องซื้อ

เมล็ดทานตะวันอบ อาหารจากธัญพืชที่ทำง่ายและมีประโยชน์สูง ด้วยสารอาหารที่อยู่ภายใน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน กรดไขมันดี วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและบำรุงผิวพรรณ ทำให้เป็นหนึ่งในเมนูเฮลท์ตี้ ที่คนรักสุขภาพไม่พลาด

เมล็ดทานตะวัน มีประโยชน์อย่างไร

เมล็ดทานตะวัน เป็นธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพมาก เนื่องจากมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง โดยหากรับประทานเข้าไป จะได้รับสารอาหารและแร่ธาตุมากมายหลายชนิด เช่น โปรตีน ช่วยลดการบริโภคเนื้อสัตว์ได้ ไฟเบอร์และวิตามินบี มีประโยชน์ช่วยลดน้ำหนัก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และทองแดง ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และเนื่องจากเป็นแหล่งกรดไขมันดี ที่จะช่วยลดระดับ LDL ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี จึงมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันความเสี่ยงจะเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ ได้

นอกจากนี้ เมล็ดทานตะวัน ยังเป็นแหล่งวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ลดความสูญเสียของเซลล์ผิวที่เสียหาย จากรังสี UV ได้ และยังมี ซีลีเนียม เป็นแร่ธาตุสำคัญในการต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยชำระล้างสารพิษออกจากร่างกาย และลดระดับฮอร์โมนความเครียด ช่วยให้อารมณ์ดีได้อีกด้วย

วิธีทำ เมล็ดทานตะวันอบ แบบทั้งเปลือก

เมล็ดทานตะวัน หากนำมาอบเพื่อรับประทาน สามารถทำได้ 2 แบบ ทั้งแบบนำมาอบทั้งเปลือก หรือ แบบแกะเปลือกก็ได้ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความแตกต่างกัน โดยวิธีการอบเมล็ดทานตะวัน แบบทั้งเปลือก จะต้องนำมาแช่น้ำเกลือก่อน เสร็จแล้วค่อยนำเข้าเตาอบ ก็จะได้เมล็ดทานตะวันพร้อมทานแล้ว โดยสามารถผสมเนยหนึ่งช้อนชากับเมล็ดทานตะวันขณะมันยังร้อน ๆ แล้วค่อยทานก็ได้

วิธีทำ

1. ใส่เมล็ดทานตะวันไม่แกะเปลือก 1 ถ้วยเอาไว้ในชามเทน้ำให้พอท่วมเมล็ด ให้เมล็ดทานตะวันซึมซับน้ำเข้าไป เพื่อไม่ให้แห้งเกินไปขณะอบ
2. ใส่เกลือลงไป 1/3 ถึง ครึ่งถ้วยคนเพื่อให้เกลือละลายในน้ำ เสร็จแล้ว แช่เมล็ดทานตะวันไว้ข้ามคืน จะช่วยให้เมล็ดทานตะวันมีรสของเกลืออยู่ด้วย โดยหากไม่อยากแช่น้ำเกลือข้ามคืน ให้ใส่เมล็ดทานตะวันในหม้อ แล้วต้มในน้ำเกลือ สักชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงแทนก็ได้ หรือถ้าไม่อยากให้เมล็ดทานตะวันมีรสเค็มเลย ก็ข้ามขั้นตอนนี้
3. เทน้ำออก แล้วซับให้เมล็ดทานตะวันแห้งด้วยทิชชู่
4. วอร์มเตาอบที่ 150 องศาเซลเซียสเมื่อเมล็ดทานตะวันแห้งแล้ว ให้กระจายเมล็ดทานตะวันบนถาดอบที่ปูกระดาษไขเพียงชั้นเดียว เกลี่ยให้ทั่ว พยายามอย่าให้เมล็ดทานตะวันซ้อนทับกัน
5. นำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสอบประมาณ 30 ถึง 40 นาที จนกว่าเปลือกจะเป็นสีน้ำตาลทอง ระหว่างอบ เปลือกของเมล็ดทานตะวันจะแตกออกหน่อย ๆ ตรงกลางตอนที่อบ คอยพลิก เมล็ดบ้าง เพื่อให้สุกเท่ากันทั้งสองด้าน
6. เมื่ออบเสร็จแล้ว ให้เสิร์ฟพร้อมทาน หรือจะเก็บเอาไว้ก็ได้โดยวางทิ้งไว้ให้มันเย็นบนถาดอบ แล้วค่อยเก็บในภาชนะกันลม

วิธีทำ เมล็ดทานตะวันอบ แบบแกะเปลือก

ถ้าใครไม่ชอบทานเมล็ดทานตะวันแบบแข็ง ๆ และมีเปลือกแล้วละก็ แนะนำให้แกะเปลือกออกก่อน แล้วค่อยนำเข้าเตาอบ สำหรับการรับประทานนั้น ถ้าชอบเมล็ดทานตะวันที่มีรสเค็ม ก็โรยเกลือใส่ขณะที่ยังอยู่ในถาดอบได้เลย หรือจะผสมเมล็ดทานตะวันร้อน ๆ กับ เนยสักช้อนชาหนึ่ง เพื่อเพิ่มรสชาติ ก็อร่อยไปอีกแบบ

วิธีทำ

1. ล้างเมล็ดทานตะวัน 1 ถ้วยเสร็จแล้ว แกะเปลือกออก แล้ววางไว้ในที่กรองหรือกระชอน ล้างด้วยน้ำเย็น เพื่อล้างเอาฝุ่นออกอีกรอบ
2. ปูกระดาษไขรองถาดอบหรือจานอบและวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส
3. กระจายเมล็ดบนถาดอบ เกลี่ยให้ทั่วอย่าให้เมล็ดซ้อนทับ
4. นำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสอบประมาณ 30 ถึง 40 นาที หรือจนกว่าเมล็ดจะเป็นสีน้ำตาลและกรอบ คอยกวนเมล็ดเรื่อย ๆ เพื่อให้สุกเท่ากันทั้งสองด้าน
5. เมื่ออบเสร็จแล้ว ให้เสิร์ฟพร้อมทาน หรือจะเก็บเอาไว้ก็ได้โดยทิ้งไว้ให้เย็นก่อน แล้วค่อยเก็บไว้ในภาชนะมีฝาปิดไว้กินทีหลัง

ปรุงรส เมล็ดทานตะวันอบ อย่างไร

หากอยากเพิ่มรสชาติให้กับ เมล็ดทานตะวันอบ เพื่อให้รับประทานได้อร่อยมากขึ้น สามารถปรุงรสได้หลากหลายแบบเลย ไม่ว่าจะเป็น รสชาติแบบเผ็ดร้อน จากพริกและเครื่องเทศ รสหวานหอมมันจากกลิ่นเนย หรือ น้ำผึ้ง รสชาติเปรี้ยวจี๊ด จากมะนาว หรือจะใส่ผงปรุงรสแบบต่าง ๆ เพิ่มความแปลกใหม่ ก็แล้วแต่ชอบ โดยมีวิธีปรุงรสแบบต่าง ๆ ดังนี้

1. เมล็ดทานตะวันรสเผ็ด

วิธีทำ

• ผสมน้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ กับผงพริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา อบเชย ½ ช้อนชา ผงกระเทียมหนึ่งหยิบ พริกป่นคาแยน ½ ช้อนชา เกลือ ¾ ช้อนชา และพริกป่นแห้ง ¾ ช้อนชาเข้าด้วยกัน
• นำเมล็ดทานตะวันที่แกะเปลือกแล้ว ไปจุ่มในไข่ขาวที่ตีแล้วหนึ่งฟอง (เพื่อให้เครื่องเทศติดกับเมล็ด) แล้วนำไปคลุกกับเครื่องเทศ แล้วค่อยนำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสอบประมาณ 30 ถึง 40 นาที

2. เมล็ดทานตะวันรสน้ำสลัดแรนซ์ (ranch)

วิธีทำ

• ผสมเนยละลายแล้ว 3 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำสลัดแรนซ์แบบแห้ง 1 ช้อนโต๊ะครึ่ง
• นำเมล็ดทานตะวันที่แกะเปลือกแล้ว ไปคลุกกับส่วนผสม จากนั้น นำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสอบประมาณ 30 ถึง 40 นาที

3. เมล็ดทานตะวันอบมะนาว

วิธีทำ

• ผสมน้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนชา กับ ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนชา อากาเว่ไซรัป 1 ช้อนชา ผงพริกป่น ½ ช้อนชา ผงปาปริก้า ½ ช้อนชา และน้ำมันคาโนล่าหรือน้ำมันมะกอก ½ ช้อนชา
• แกะเปลือกเมล็ดทานตะวันออก นำไปคลุกเคล้ากับส่วนผสม แล้วนำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสอบประมาณ 30 ถึง 40 นาที

4. เมล็ดทานตะวันอบน้ำผึ้ง

วิธีทำ

• เตรียมหม้อต้มใบเล็ก ใส่น้ำผึ้งสามช้อนชา (ซึ่งจะใช้ไซรัปอินทผลัมหรืออากาเว่แทนก็ได้) เคี่ยวด้วยไฟต่ำ ใช้เวลา 1 นาทีเดียว จากนั้น ใส่น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนชาครึ่ง กับเกลือ ½ ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน
• แกะเปลือกเมล็ดทานตะวัน แล้วไปคลุกกับน้ำผึ้ง จากนั้น นำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสอบประมาณ 30 ถึง 40 นาที

5. เมล็ดทานตะวันรสเกลือและน้ำส้มสายชู

วิธีทำ

• แกะเปลือกเมล็ดทานตะวันออก
• นำไปคลุกเคล้ากับน้ำส้มสายชูแอปเปิลหมัก 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือ 1 ช้อนชา แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส อบประมาณ 30 ถึง 40 นาที

6. เมล็ดทานตะวันรสอบเชยหวาน

วิธีทำ

• แกะเปลือกเมล็ดทานตะวันออก
• คลุกเคล้าเมล็ดทานตะวันกับอบเชย ¼ ช้อนชา น้ำมันมะพร้าว ¼ ช้อนชา และสารให้ความหวานที่มีแคลอรี่ไม่เยอะมาก ¼ ช้อนชา จากนั้น นำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสอบประมาณ 30 ถึง 40 นาที

7. เมล็ดทานตะวันรสชาติอื่น ๆ

สามารถเพิ่มรสชาติให้กับเมล็ดทานตะวันได้อีกหลายหลายแนว กับเครื่องเทศ และ เครื่องปรุงรสหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเทศคาจัน ผงปรุงรสบาร์บีคิว ผงกระเทียม หรือผงหัวหอม โดยผสมในอัตราส่วน ¼ ช้อนชา โดยยังสามารถลองจุ่มเมล็ดทานตะวันลงในช็อกโกแลตละลายแล้ว เพื่อทำเป็นขนมหวานกินเล่นก็ยังได้

สำหรับใครที่อยากทำเมนูเมล็ดทานตะวันอบ แต่ว่ายังไม่มีเตาอบดี ๆ ไว้ใช้แล้วละก็ แนะนำ เตาอบไฟฟ้า ของ SGE มีหลายแบบหลายขนาดให้เลือก ทั้งแบบที่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม ด้วยการออกแบบที่ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ทำความสะอาดได้ง่าย และทำความร้อนได้สูงสุดถึง 230 °C จึงทำอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งเบเกอรี่ อาหารหวาน หรืออาหารคาว หากสนใจ เตาอบไฟฟ้า ของ SGE แล้วละก็ ลองเข้าไปคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/baking-oven/ หรือ สอบถามผ่านทางโทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• เรื่องน่ารู้ “ถั่วลิสง” มีประโยชน์และโทษที่ใครยังไม่รู้
• “ลูกเดือย” สรรพคุณ ประโยชน์มากมายที่คุณยังไม่รู้!