7 สูตร บิงซู ยอดนิยม ทำกินง่าย ๆ หวานเย็นชื่นใจ ไม่แพ้ร้านดัง
บิงซู น้ำแข็งไสสไตล์เกาหลี เมนูยอดฮิตที่ทุกร้านคาเฟ่ต้องมี ด้วยเกล็ดน้ำแข็งเนื้อเนียนนุ่ม ที่ถูกบดจนละเอียด พอได้สัมผัสก็แทบจะละลายในปากทันที ทำให้เป็นของหวานแบบน้ำแข็งไสที่ทุกคนชื่นชอบ โดยเฉพาะคนไทยที่เผชิญอากาศร้อนแทบจะทั้งปี
หากใครรู้สึกร้อน อยากหาของหวานเย็น ๆ กระแทกปาก ให้คลายร้อนลง แม้แต่ในช่วงหน้าหนาว ที่ไม่รู้สึกหนาวสักที SGE ขอแนะนำสูตรทำ บิงซู ที่นอกจากจะทำให้คุณหนาวเย็นยะเยือกแล้ว ยังมาพร้อมกับความอร่อยที่แทบจะทำให้ลิ้นของคุณละลาย ส่วนจะมีสูตรอะไรและวิธีการทำอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยบิงซูเมล่อน
เมล่อน เป็นผลไม้ที่มีความหวานอยู่ในตัว ทำให้ทานเดี่ยว ๆ ก็ได้ หรือ นำมาทานคู่กับบิงซูก็ยิ่งเข้าคู่กัน ซึ่งด้วยสีสันเขียวสดใสจะช่วยเพิ่มความน่ารับประทานให้กับบิงซูมากขึ้น เหมาะกับการทานในหน้าร้อน และสำหรับใครที่ชอบผลไม้รสหวาน
ส่วนผสม
- เมล่อน 1 ลูก
- นมสด 250 มิลลิลิตร
- นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงทำสมูทตี้ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เทนมสดลงในถุงซิปล็อก ไล่ลมออกจนหมดแล้วปิดปากถุงให้แน่น นำไปแช่ในตู้เย็น จนกว่าจะเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
- ตัดเมล่อนออกเป็น 2 ส่วน ตัดส่วนก้นให้แบนเรียบ เพื่อให้ตั้งกับพื้นโต๊ะได้แน่น ใช้ช้อนคว้านเอาส่วนที่เป็นเม็ด ๆ และเนื้อเหลว ๆ ตรงกลางออกให้หมด เสร็จแล้ว ใช้ที่คว้านผลไม้ ค่อย ๆ คว้านเนื้อเมล่อนออกมาให้เป็นทรงกลมเล็ก ๆ จนกว่าจะได้จำนวนที่ต้องการ ส่วนที่เป็นเนื้อเหลือ ๆ ให้ใส่ไว้อยู่ด้านล่าง
- นำนมสดที่แช่แข็งไว้ออกมา ทุบออกให้เป็นชิ้น ๆ แยกกัน จากนั้น นำใส่เครื่องปั่น แล้วใส่ผงสมูทตี้ 2 ช้อนโต๊ะ นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ ลงไป ปิดฝาให้แน่น แล้วเริ่มปั่น
- ระหว่างปั่น ให้ใช้ไม้พายซิลิโคน คอยกดให้ส่วนที่ยังเป็นน้ำแข็งลงไปอยู่ด้านล่าง เพื่อให้โดนเครื่องปั่น ปั่นให้เนื้อละเอียดเท่ากัน
- เลือกผลครึ่งซีกด้านหนึ่งของเมล่อน เป็นจาน ใส่เกล็ดน้ำแข็งนมสดที่เป็นเนื้อละเอียดไว้ด้านบน ตกแต่งด้วยการวางเมล่อนผลกลมที่คว้านไว้ จนเต็ม ราดด้วยน้ำผึ้งและนมข้นหวาน เป็นอันเสร็จ
บิงซูสตรอว์เบอร์รี่
บิงซูสตรอว์เบอร์รี่ อีกหนึ่งรสชาติยอดฮิต ที่คนไทยชอบทาน เพราะมีสีแดงจัดจ้านน่ารับประทาน และยังมีรสหวานอมเปรี้ยว ทำให้เป็นหนึ่งในผลไม้ที่นิยมนำมาเข้าคู่กัน ในการทำบิงซู โดยหากใครชอบรสหวานมาก ๆ สามารถเติมน้ำตาลลงไปในซอสสตรอว์เบอร์รี่เพิ่มได้ จะช่วยให้บิงซูถ้วยนี้หวานขึ้นทันตาเห็น
ส่วนผสม
- นมสดรสจืด 800 มิลลิลิตร
- นมข้นหวาน 180 มิลลิลิตร
- สตรอว์เบอร์รี่สด 150 กรัม (ทำซอสสตรอว์เบอร์รี่)
- น้ำตาล 50 กรัม (ทำซอสสตรอว์เบอร์รี่)
- สีผสมอาหารสีแดง (ทำซอสสตรอว์เบอร์รี่)
- วิปปิ้งครีมปริมาณตามชอบเลย
- สตรอว์เบอร์รี่ สำหรับตกแต่ง
- บราวนี่
- นมข้นสำหรับราด
วิธีทำ
- เทนมสดลงในถุงซิปล็อก ไล่ลมออกแล้วปิดปากถุงให้แน่น นำไปแช่ในช่องฟรีซ จนกว่าจะกลายเป็นน้ำแข็ง ระหว่างนี้ ให้คอยบีบ ๆ นวด ๆ ถุง จะทำให้น้ำแข็งไม่เกาะกันเป็นก้อน และเป็นเกล็ดน้ำแข็งง่ายขึ้น
- นำสตรอว์เบอร์รี่ใส่ชาม แล้วใส่น้ำตาล 50 กรัมลงไป เอาเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 3 นาที ให้น้ำตาลละลายเข้ากันกับสตรอว์เบอร์รี่ จากนั้น นำใส่เครื่องปั่น เติมสีผสมอาหารสีแดงลงไปเล็กน้อย เพื่อให้สีแดงสวยมากขึ้น เสร็จแล้ว ปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น
- เทวิปปิ้งครีม ปริมาณตามชอบ แล้วใช้เครื่องตี ตีให้วิปปิ้งครีมข้นขึ้น จนมีลักษณะตั้งยอดอ่อน
- ใส่สตรอว์เบอร์รี่และบราวนี่ไว้ในชาม นำน้ำแข็งนมสดออกมา โปะไว้ด้านบน สำหรับใครที่อยากทำให้น้ำแข็งพูนสูง สวยงาม ให้นำน้ำแข็งนมสดใส่ชามที่มีความกว้างของปากชามเท่ากัน แต่ก้นลึก ใส่ลงไปจนเต็ม เสร็จแล้ว นำมาประกบให้พอดีกัน ก็จะได้น้ำแข็งที่โปะไว้ด้านบนอย่างสวยงาม
- นำวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ มาเคลือบน้ำแข็งให้ทั่ว
- วางสตรอว์เบอร์รี่ ตกแต่งไว้ตรงขอบชามทุกด้าน แล้วโรยนมผงไว้ด้านบนสุด
- นำซอสตรอว์เบอร์รี่ออกมาใส่ถ้วยเล็ก สำหรับราด พร้อมกับนมข้นหวาน และวิปปิ้งครีม ที่เตรียมไว้ เป็นอันเสร็จ
บิงซูมะม่วง
ถ้าเบื่อกับการกินแต่ข้าวเหนียวมะม่วงในแต่ละปี ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทาน บิงซูมะม่วง บ้าง รับรองว่า หวานอร่อยคู่กันแน่นอน และเป็นการดับร้อนได้เป็นอย่างดี โดยแนะนำให้ใช้แต่มะม่วงสุกเท่านั้นนะ อย่าลืมไปลองทำทานกันดูล่ะ
ส่วนผสม
- มะม่วงสุก 4-5 ลูก ตามที่เราต้องการ
- นมสด 800 มิลลิลิตร
- นมข้นหวาน 3-4 ช้อนโต๊ะ
- วิปปิ้งครีม
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์
วิธีทำ
- เทนมสด 800 มิลลิลิตร ลงในถุงซิปล็อก ใส่นมข้นหวานลงไป ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ จากนั้น ไล่อากาศออก ปิดปากถุงให้แน่น นำไปแช่ในช่องฟรีซ อย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน จนกว่าจะกลายเป็นน้ำแข็ง
- นำมะม่วงสุก 4-5 ลูก มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือตามขนาดที่ต้องการ และบีบนมข้นหวานใส่ถ้วยเล็กเตรียมไว้
- นำน้ำแข็งนมสดออกมา ใส่ชามสแตนเลสเอาไว้ เพื่อให้ยังคงความเย็น ถ้าน้ำแข็งยังแข็งตัวแน่น ให้ใช้ส้อมค่อย ๆ จิ้มให้น้ำแข็งแตกตัว จนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็ก ๆ
- ตักมะม่วงส่วนหนึ่งใส่ชาม ราดด้วยวิปปิ้งครีม เสร็จแล้วทุบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ โรยลงไป
- นำเกล็ดน้ำแข็งนมสด วางโปะไว้ด้านบน ค่อย ๆ ใช้มือพูนให้สูงเป็นยอด เสร็จแล้ว นำมะม่วงที่หั่นไว้ มาวางตกแต่งไว้ตรงขอบชาม ตกแต่งส่วนยอดด้วยการบีบวิปปิ้งครีมลงไป เป็นอันเสร็จ
บิงซูไมโลโอรีโอ้
ของหวานไม่ว่าจะเป็น คุกกี้หรือไอศกรีม ต่างก็มีรสชาติโอรีโอ้ ดังนั้น พอเอามากินคู่กับบิงซู ก็อร่อยไปอีกแบบ โดยเพื่อให้เข้มข้นขึ้น ให้โรยผงไมโลตามลงไปด้วย จะช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยให้มากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนผสม
- นมสดรสจืด (แบบไม่มีไขมัน) 1 กล่อง
- นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
- ผงไมโล
- โอรีโอ้
- เกล็ดน้ำตาล
- คุกกี้อื่น ๆ ตามชอบ
วิธีทำ
- เตรียมชามผสมอาหาร เทนมสดลงไป 1 กล่อง ตามด้วยนมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน จากนั้น เทลงในถุงซิปล็อก ไล่ลมออกแล้วปิดปากถุงให้แน่น นำไปแช่ในช่องฟรีซ จนกว่าจะกลายเป็นน้ำแข็ง แช่อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- นำโอรีโอ้มาหั่นครึ่ง ตามที่ต้องการ
- พอครบ 4 ชั่วโมง แล้ว ให้นำน้ำแข็งนมสดออกมา เอาสากทุบ หรือ ของแข็งอื่น ๆ ทุบให้น้ำแข็งแตกตัว จากนั้น จัดใส่ชาม พูนให้สูงเป็นยอด
- วางโอรีโอ้ไว้รอบ ๆ โรยผงไมโลให้ทั่ว ตามด้วยเกล็ดน้ำตาล และทอปปิ้งอื่น ๆ
บิงซูโมจิเกาหลี
สำหรับใครที่อยากทาน บิงซูแบบเกาหลีแท้ ๆ ต้องสูตรนี้เลยกับ บิงซูโมจิเกาหลี หรือที่เรียกว่า อินจอลมี บิงซู ซึ่งนอกจากแม่บ้านเกาหลีจะนิยมทำกันแล้ว พอมีวางขายที่ไทยก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ใครอยากทำบิงซูรสชาติต้นตำรับไว้ทานเองที่บ้าน ทำตามสูตรนี้ได้เลย รับรองว่าอร่อย ไม่แพ้ร้านดังแน่นอน
ส่วนผสม
- นมสด 400 กรัม
- นมข้นหวาน 60 กรัม
- น้ำเปล่า 50 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม
- น้ำตาล 8 กรัม
- เกลือ 1 กรัม
- น้ำร้อน 120 กรัม
วิธีทำ
- เตรียมถุงพลาสติกมีซิป 1 ใบ ใส่น้ำเปล่า นมสด และนมข้นหวาน ลงไป ผสมให้เข้ากัน จากนั้น นำไปแช่ในช่องแช่แข็ง เป็นเวลา 5 ชั่วโมง
- ทำโมจิเกาหลี โดยเตรียมชามผสมอาหาร ใส่แป้งข้าวเหนียว น้ำตาล เกลือ คนให้เข้ากัน
- จากนั้น ค่อย ๆ เทน้ำร้อนลงไป แล้วใช้ช้อนคน จนกว่าแป้งจะเนื้อเนียนข้น เป็นเนื้อเดียวกัน เอาพลาสติกแรปปิดไว้ ใช้ส้อมเจาะ เป็นรูระบายอากาศไว้ด้านบน แล้วนำไปอบในไมโครเวฟเป็นเวลา 3 นาที
- ใช้ไม้พายซิลิโคน ตบแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปคลุกกับผงถั่วเหลืองเกาหลีให้ทั่ว เสร็จแล้ว หั่นออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ ก็จะได้โมจิเกาหลี
- นำถุงพลาสติกที่แช่แข็งออกมา ใช้ไม้นวดแป้ง นวดให้น้ำแข็งแตกตัว
- นำถ้วยออกมา ตักน้ำแข็งใสลงไป ตามด้วยผงถั่วเหลืองเกาหลี ทำเป็นเลเยอร์ 2 ชั้น จากนั้น ใส่โมจิเกาหลี ตามด้วยถั่วแดงกวน เป็นท็อปปิ้งด้านบน เป็นอันเสร็จ
บิงซูชาเขียว
บิงซูชาเขียว เป็นอีกรสชาติยอดนิยม เพียงแต่สูตรนี้ จะทำแบบต้นตำรับญี่ปุ่น ซึ่งเรียกกันว่า อูจิคินโตกิ กากิโกริ (Ujikintoki Kakigori) โดยจะต้องมีโมจิและถั่วกวนเป็นทอปปิ้งอยู่ด้านบนถึงจะครบสูตร ซึ่งวิธีการทำและส่วนประกอบ ละม้ายคล้ายคลึงกับสูตรอินจอลมี บิงซูอยู่เหมือนกัน ดังนั้น หากใครชอบรสชาเขียว ก็ลองทำดู รับรองว่าอร่อยเหมือนกันแน่นอน
ส่วนผสมน้ำเชื่อมชาเขียว
- ผงชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 100 กรัม
- น้ำร้อน 120 มิลลิลิตร
ส่วนผสมถั่วแดงกวน
- ถั่วแดง 150 กรัม
- น้ำตาล 120 กรัม
- เกลือ 1/3 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 600 มิลลิลิตร (ต้มถั่วแดง)
ส่วนผสมโมจิ
- แป้งข้าวเหนียว 85 กรัม
- น้ำเปล่า 70 กรัม
ส่วนผสมอื่น ๆ
- นมข้นหวาน
- น้ำแข็งมือ
วิธีทำ
- ทำถั่วแดงกวน โดยการนำถั่วแดงมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเปล่าจนท่วม แล้วนำไปต้ม เมื่อน้ำที่ต้มถั่วแดงเริ่มเข้มและเดือดดีแล้ว ให้นำไปกรองออก ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ จากนั้น ใส่น้ำเปล่า 600 มิลลิลิตร แล้วนำไปต้มใหม่
- เมื่อถั่วแดงเริ่มนุ่มลง ให้ใส่น้ำตาล 120 กรัม เกลือ 1/3 ช้อนชา แล้วกวนให้ถั่วแดงเนื้อข้นขึ้น และจับตัวกัน เมื่อเริ่มแห้งและจับตัวดีกันแล้ว ให้ตักขึ้นมาพักไว้ในถาด เกลี่ยให้เรียบ เพื่อให้คลายความร้อนได้เร็ว
- ทำน้ำเชื่อมชาเขียว โดยการใส่ผงชาเขียวและน้ำตาล ลงในหม้อ คนให้เข้ากัน จากนั้น ใส่น้ำร้อนลงไป ต้มด้วยไฟอ่อน จนเดือดเล็กน้อย พอเดือดดีแล้ว ให้ปิดเตาพักไว้
- ทำโมจิ โดยเตรียมชามผสมอาหาร ใส่แป้งข้าวเหนียว น้ำตาล คนให้เข้ากัน จากนั้น เทน้ำเปล่า 70 กรัมลงไป ใช้มือนวด จนกว่าแป้งจะเนื้อเนียน และจับตัวเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้ว ให้ปั้นเป็นแท่งยาว แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วกดให้แบนเล็กน้อย นำไปต้มในน้ำเดือด เมื่อแป้งเริ่มลอยขึ้นมา ต้มต่ออีกเล็กน้อย แล้วนำไปลวกน้ำเย็น แล้วพักเตรียมไว้
- นำน้ำแข็งมือ ใส่เครื่องทำน้ำแข็ง บดจนละเอียด
- ตักน้ำแข็งใสใส่ชาม นำโมจิมาวางไว้รอบ ๆ ชาม ราดด้านบนด้วยน้ำเชื่อมชาเขียว นมข้นหวาน และตักถั่วแดงกวน ไว้ด้านบน เป็นอันเสร็จ
บิงซูทับทิมกรอบ
(เครดิต: MakroHoReCaAcademy)
ปิดท้ายกันด้วย บิงซูทับทิมกรอบ บิงซูแบบไทย ที่นำเอาผลไม้กรอบหวานมัน อย่างทับทิมกรอบมาเป็นส่วนผสม ซึ่งจะทำให้บิงซูเพิ่มรสชาติและรสสัมผัสที่กรุบกรอบมากขึ้น โดยสูตรนี้จาก MakroHoReCaAcademy ยังได้เพิ่มรสชาติให้กับเกล็ดน้ำแข็ง ด้วยการใส่น้ำใบเตยและน้ำกะทิลงไปด้วย ลองไปทำกันดู รับรองว่า อร่อยไม่แพ้สูตรจากประเทศอื่นแน่นอน
ส่วนผสมน้ำเชื่อม
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
- ใบเตย 1 กำ
- น้ำตาลทรายขาว 500 กรัม
- กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา
ส่วนผสมหัวกะทิ
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมทับทิมกรอบ
- น้ำหวานสีแดง 500 มิลลิลิตร
- น้ำหวานสีม่วงจากดอกอัญชัน 500 มิลลิลิตร
- ดอกอัญชันสด 100 กรัม
- แห้วหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 230 กรัม
- แป้งมัน 300 กรัม
- น้ำแข็งบด หรือ น้ำแข็งหลอดเล็ก 500 กรัม
วิธีทำ
- ใส่น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร ลงในหม้อ ต้มจนเดือด เสร็จแล้ว ใส่ใบเตยลงไป 1 กำ พอน้ำเดือดอีกรอบ แล้วใบเตยเริ่มสลดลง ให้ใส่น้ำตาลทราย 500 กรัม กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา คนให้น้ำตาลละลาย
- ทำน้ำกะทิ โดยใส่กะทิ 500 มิลลิลิตร ลงในหม้อ เกลือป่น 1 ช้อนชา คนให้เกลือละลาย แล้วต้มจนมีกลิ่นหอม เสร็จแล้วปิดไฟ พักไว้
- ทำทับทิมกรอบ โดยใส่แห้วลงในน้ำเชื่อมสีแดงและสีฟ้า พอซึมเข้าเนื้อดีแล้ว ให้ตักใส่กระชอน กรองเอาน้ำเชื่อมส่วนที่ไม่ต้องการออก จากนั้น นำไปคลุกกับแป้งมัน กรองเอาแป้งส่วนเกินออก เสร็จแล้วนำไปลวกในน้ำร้อน เมื่อแป้งสุกแล้ว จะใสและลอยขึ้นมา ให้ตักขึ้นแล้วนำไปแช่น้ำไว้
- ทำน้ำแข็งบิงซู โดยใส่น้ำแข็งบดลงในเครื่องปั่น ใส่น้ำใบเตยและน้ำกะทิลงไป ปั่นให้เข้ากัน จนน้ำแข็งเป็นเกล็ดละเอียด
- ตักทับทิมกรอบแดงและม่วงใส่จาน ตักเกล็ดน้ำแข็งไว้ด้านบน แล้วตักทับทิมเป็นทอปปิ้งไว้ด้านบนเล็กน้อย เป็นอันเสร็จ
หากใครอยากเปิดร้านคาเฟ่ ร้านขายของหวาน แล้วอยากจะทำเมนูบิงซูเพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างยอดขาย การทำเกล็ดน้ำแข็งจากการใช้เครื่องปั่น หรือนำนมสดไปแช่แข็งแล้วมาทุบให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งอาจไม่พอ แนะนำให้ใช้เครื่องทำบิงซู คุณภาพสูงของ SGE ที่มีกำลังผลิตมากถึง 90 กิโลกรัม/ชั่วโมงให้คุณพร้อมสำหรับการทำบิงซูขายได้ทุกเวลา โดยภายในตัวเครื่องยังสามารถปรับขนาดใบมีด ให้มีขนาดเล็กใหญ่ได้ตามต้องการ จึงสามารถทำน้ำแข็งไสได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บิงซู (Bingsu) คากิโกริ (Kakigori) เป่าปิง (Baobing)
ทั้งนี้ ตัวเครื่องยังออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพียงแค่กดปุ่มเดียวก็สามารถทำบิงซูออกมาได้เลย และยังมีฝาป้องกันตรงช่องวางน้ำแข็งป้องกันการกระเด็นของเกล็ดน้ำแข็งด้วย หากสนใจและอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ https://www.sgethai.com/bingsu-machine/ หรือสอบถามผ่านโทรศัพท์ เว็บไซต์หรือไลน์ของเราได้เลย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
30 มกราคม 2024
โดย
Pres