แป้งข้าวหมาก คือ? พร้อมสูตร ข้าวหมาก ทำเองได้ที่บ้าน
แป้งข้าวหมาก เป็นวัตถุดิบอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์มาก ๆ โดยเฉพาะการทำ ข้าวหมาก ขนมไทยพื้นบ้าน ที่มีรสชาติหวานอร่อย กินแล้วเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย หากใครไม่เคยรู้มาก่อนว่า แป้งข้าวหมากคืออะไร รวมถึงอยากได้สูตรข้าวหมากแบบต่าง ๆ แล้วละก็ SGE มีข้อมูล รวมถึง สูตรการทำข้าวหมากมาฝาก รับรองว่า คุณจะได้รู้ทุกแง่มุมเกี่ยวกับ แป้งข้าวหมาก แน่นอน
แป้งข้าวหมาก คือ?
แป้งข้าวหมาก คือ หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำเป็นรูปของเม็ดแป้งครึ่งวงกลม มีขนาดประมาณ 3 – 4 เซนติเมตร เนื้อแป้งมีสีขาวนวล ในเนื้อแป้งประกอบไปด้วยจุลินทรีย์หรือยีสต์ ที่มีคุณสมบัติเปลี่ยนให้แป้ง เป็นแอลกอฮอล์อยู่จำนวนมาก ภายในมีรูพรุนและมีน้ำหนักเบา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งการนำไปหมักกับข้าวเหนียว เพื่อให้เกิดน้ำตาลและแอลกอฮอล์อ่อนๆ จนกลายเป็นของหวานอย่าง ข้าวหมาก หรือจะนำไปเป็นเชื้อให้น้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ทางการเกษตรก็ได้
แป้งข้าวหมาก:ทำจากอะไร?
แป้งข้าวหมาก หลัก ๆ เลย มีส่วนผสมจาก แป้งข้าวเจ้าผสมกับเชื้อยีสต์ โดยบางท้องถิ่น อาจมีการเติมสมุนไพรบดลงไปด้วย เช่น ขิง ข่า พริกไทย ชะเอม กระวาน กระเทียม หรือ ดีปลี ซึ่งสูตรการเติมสมุนไพรนั้นจะไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละบ้านที่สืบทอดต่อกันมา
แป้งข้าวหมาก:ทำเมนูอะไรได้บ้าง?
แป้งข้าวหมาก นิยมใช้ทำเป็น ข้าวหมาก มากที่สุก เพราะจะเปลี่ยนให้ข้าวเหนียวมีรสนุ่ม อร่อย หอมหวาน นอกจากนี้ อาจนำไปใช้แทนยีสต์ เพื่อทำขนม เช่น ขนมตาล ขนมถ้วยฟู ซาลาเปา หรือ ขนมปัง ด้วย แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้รับความนิยม
ประโยชน์อื่น ๆ ของ แป้งข้าวหมาก
นอกจากใช้ทำข้าวหมากและขนมอื่น ๆ ยังสามารถนำแป้งข้าวหมากไปเป็นหัวเชื้อ ใช้ทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ทางการเกษตรได้อีกด้วย
สูตร ข้าวหมาก แสนอร่อย
ข้าวหมาก เป็นขนมไทยพื้นบ้าน ที่ทำจากการนำข้าวเหนียวมาผสมกับแป้งข้าวหมาก แล้วหมักทิ้งไว้ จนมีรสชาติอร่อย หอมหวาน นิยมกินหลังอาหาร หรือ กินเป็นอาหารว่างเพื่อเพิ่มความสดชื่น กินแล้วช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงเป็นของหวานอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยม ดังนั้น หากใครอยากทำข้าวหมากทานเองที่บ้าน เรามีมาฝาก 3 สูตรด้วยกัน ดังนี้
ข้าวหมากขาว
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียว 1,000 กรัม
- แป้งข้าวหมาก 1/2 ก้อน
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส เสร็จแล้ว แช่ทิ้งไว้ 1 คืน
- กรองน้ำซาวข้าวออกให้หมด แล้วนึ่งข้าวเหนียวให้สุก ใช้หวดหรือซึ้งนึ่งก็ได้แล้วแต่สะดวก
- พอข้าวเหนียวสุกดีแล้ว ให้นำมาใส่ชามผสม ใส่น้ำดื่มสะอาดลงไปให้พอท่วม ใช้ทัพพีคนข้าวเหนียว ให้ยางข้าวเหนียวละลายน้ำออกให้หมด เสร็จแล้ว เทออก แล้วเติมน้ำลงไปใหม่ ล้างออกหลาย ๆ รอบ จนกว่ายางข้าวเหนียวจะถูกล้างออกจนหมด พอล้างยางข้าวเหนียว จนน้ำใสแล้ว ให้กรองน้ำออก พักให้สะเด็ดน้ำ
- นำแป้งข้าวหมากมาบดให้ละเอียด เสร็จแล้ว นำข้าวเหนียวมาใส่ชามผสม แล้วโรยแป้งข้าวหมากให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งหมด
- ใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้ทั่ว พอผสมเข้ากันดีแล้ว ให้เตรียมใบตองรองด้วยถุงร้อนไว้ แล้วตักข้าวเหนียวใส่ลงไป ห่อให้เรียบร้อย หรือ ใครจะใส่ข้าวหมาก ในถ้วยพลาสติกปิดฝาให้แน่นหนาแทนก็ได้ ทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เป็นอันรับประทานได้ ถ้าไม่ทานในทันที หรือ ทำขายแนะนำให้เก็บในตู้เย็น แช่เย็นทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เน่าเสีย
ข้าวหมากสีชมพู
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียว 5 ถ้วย
- แป้งข้าวหมาก 1/2 ก้อน
- ยีสต์แดง 1 ถ้วยเล็ก
วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส
- แช่ข้าวเหนียวในน้ำ แล้วใส่ยีสต์แดงลงไป คลุกเคล้าให้ละลายน้ำ แล้วแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 20 – 30 นาที
- พอครบเวลา ให้ล้างน้ำสะอาด 1 – 2 รอบ พักข้าวให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลา 20 นาที
- พอข้าวเหนียวสุกดีแล้ว ให้นำมากระจายบนถาดให้คลายร้อน แล้วใส่ชามผสม ใส่น้ำดื่มสะอาดลงไปให้พอท่วม ใช้ทัพพีคนข้าวเหนียว ให้ยางข้าวเหนียวละลายน้ำออกให้หมด เสร็จแล้ว เทออก แล้วเติมน้ำลงไปใหม่ ล้างออกหลาย ๆ รอบ จนกว่ายางข้าวเหนียวจะถูกล้างออกจนหมด พอล้างยางข้าวเหนียว จนน้ำใสแล้ว ให้กรองน้ำออก พักให้สะเด็ดน้ำ
- นำแป้งข้าวหมากมาบดให้ละเอียด เสร็จแล้ว นำข้าวเหนียวมาใส่ชามผสม แล้วโรยแป้งข้าวหมากให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งหมด
- พอผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ตักข้าวเหนียวใส่ในถ้วยพลาสติก ปิดฝาให้แน่นหนา บ่มทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เป็นอันรับประทานได้ แต่ถ้าไม่ทานในทันที หรือ ทำขายแนะนำให้เก็บในตู้เย็น แช่เย็นทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เน่าเสีย
ดูวิธีทำ ข้าวหมากสีชมพู เพิ่มเติมคลิก
ข้าวหมากข้าวเหนียวดำ
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียวดำ 2000 กรัม
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2000 กรัม
- แป้งข้าวหมาก 4 เม็ด
- น้ำสะอาด 10000 กรัม
วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวดำมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส เสร็จแล้ว แช่น้ำสะอาด 3 ชั่วโมง
- นำข้าวเหนียวขาวมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส พอสะอาดดีแล้ว ให้ใส่รวมกับข้าวเหนียวดำ แล้วแช่ทิ้งไว้ 1 คืน
- พอครบเวลา ให้ล้างน้ำสะอาด 1 – 2 รอบ พักข้าวให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลา 25 – 30 นาที
- พอข้าวเหนียวสุกดีแล้ว ให้นำมากระจายบนถาดให้คลายร้อน แล้วใส่ชามผสม ใส่น้ำดื่มสะอาดลงไปให้พอท่วม ใช้ทัพพีคนข้าวเหนียว ให้ยางข้าวเหนียวละลายน้ำออกให้หมด เสร็จแล้ว เทออก แล้วเติมน้ำลงไปใหม่ ล้างออกหลาย ๆ รอบ จนกว่ายางข้าวเหนียวจะถูกล้างออกจนหมด พอล้างยางข้าวเหนียว จนน้ำใสแล้ว ให้กรองน้ำออก พักให้สะเด็ดน้ำ
- นำแป้งข้าวหมากมาบดให้ละเอียด เสร็จแล้ว นำข้าวเหนียวมาใส่ชามผสม แล้วโรยแป้งข้าวหมากให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งหมด
- พอผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ตักข้าวเหนียวใส่ในถ้วยพลาสติก ปิดฝาให้แน่นหนา บ่มทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เป็นอันรับประทานได้ แต่ถ้าไม่ทานในทันที หรือ ทำขายแนะนำให้เก็บในตู้เย็น แช่เย็นทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เน่าเสีย
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทานข้าวหมาก
ประโยชน์จากการทานข้าวหมาก มักมีการบอกต่อ ๆ กันมาว่า เป็นโพรไบโอติกส์ ที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร ตลอดจนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน บำรุงผิว หรือ แม้แต่บำรุงกระดูก ฯลฯ ซึ่งหากอ้างอิงตามการให้สัมภาษณ์ของ รศ.ดร.ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล แล้ว พบว่า ข้าวหมาก ไม่ได้ให้ประโยชน์ตามที่เคยเชื่อกันมาขนาดนั้น
เนื่องจากข้าวหมากไม่ได้เป็นโพรไบโอติกส์ จึงไม่มีประโยชน์ในเรื่องของระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ เรื่องของการบำรุงผิว ก็เกี่ยวข้องกับวิตามิน และการบำรุงเลือด ก็เกี่ยวกับการได้รับธาตุเหล็กมากกว่า ซึ่งข้าวหมากไม่ได้มีทั้งวิตามินและธาตุเหล็ก โดยสรุปแล้ว ข้าวหมาก จึงไม่ได้มีประโยชน์ในการบำรุงร่างกายในด้านต่าง ๆ ตามที่เคยเชื่อกันมาแต่อย่างใด
การทานข้าวหมาก จึงมีประโยชน์ในเรื่องของการเป็นของหวาน ที่ให้ความหวานอร่อย เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายเท่านั้น โดยข้อควรระวังในการทาน ควรทานอย่างน้อยวันละ 1 ห่อ หรือ 1 ถ้วยเท่านั้น เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และควรทานข้าวหมากที่ทำขึ้นสด ๆ หรือ เก็บรักษาโดยการแช่เย็นมาแล้ว เพราะหากทานข้าวหมากที่เก็บในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน ข้าวหมากนั้นอาจจะเสียมาก่อนแล้วได้สำหรับใครที่อยากเก็บ แป้งข้าวหมาก หรือ บ่มข้าวหมาก ไว้ในถุงร้อน ถุงเย็น แนะนำให้เก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันความชื้นและอากาศเข้าได้เป็นอย่างดี อย่าง ถุงพลาสติก หรือ ถุงซีลสุญญากาศ แล้วใช้ เครื่องซีลสุญญากาศ ของ SGE ในการปิดผนึกและซีลถุงให้แน่น เพราะใช้งานได้สะดวก สามารถซีลถุงได้ในระยะเวลาไม่ถึง 1 นาที ช่วยให้การเก็บวัตถุดิบเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ
โดยเครื่องซีลสุญญากาศของเรา ยังมีหลายรุ่นหลายขนาดให้เลือกสรร ตามจำนวนถุงที่ต้องการซีลในแต่ละวัน รวมถึงชนิดของสินค้า ประเภทและขนาดถุงบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการใช้ ให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ ตามความต้องการในจัดเก็บ บรรจุภัณฑ์ที่มี และชนิดของวัตถุดิบที่ต้องการจัดเก็บ หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ https://www.sgethai.com/vacuum-sealer/ หรือสอบถามผ่านทาง โทรศัพท์ Line ของเราได้เลย
30 มกราคม 2024
โดย
Pres