10 พันธุ์องุ่นไวน์แดง ที่นิยมนำมาทำไวน์แดงระดับโลก
พันธุ์องุ่นไวน์แดง ที่นิยมนำมาทำไวน์แดง มีอะไรบ้าง SGE รวบรวมมาให้แล้ว 10 สายพันธุ์ด้วยกัน
มาดูกันเลยว่า มีอะไรบ้าง และ จะให้รสชาติ กลิ่น สัมผัส เป็นอย่างไร ใครอยากรู้ความแตกต่าง
รวมถึง อยากหาความรู้ว่า ควรเอาองุ่นพันธุ์ไหนมาทำไวน์แดงแล้วละก็ ตามมาดูกันเลย
Cabernet Sauvignon
Cabernet Sauvignon เป็น พันธุ์องุ่นไวน์แดง ที่มีต้นกำเนิดใน บอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส ลักษณะเป็นผลองุ่นขนาดเล็ก ผิวหนา สีเข้ม มีแทนนินสูง ทำให้เมื่อนำมาทำไวน์แดง นอกจากจะมีความ Full Bodied มีรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยแล้ว ยังจะได้รับรสชาติของแบล็กเคอร์แรนท์ เชอร์รี่ มิ้นต์ พริกหยวก และ มีกลิ่นอายของหนัง สมุนไพรแห้ง ยาสูบ กลิ่นไม้โอ๊กจากถังหมักอีกด้วย ปัจจุบัน มีการนำองุ่นนี้ไปปลูกเพื่อผลิตไวน์แดง ในประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา และ มีการนำไปเบลด์ผสมกับองุ่นชนิดอื่น ๆ เช่น Merlot, Cabernet Franc. เพื่อปรุงไวน์รสชาติใหม่ ๆ ด้วย
Merlot
เป็น พันธุ์องุ่นไวน์แดง ที่ปลูกอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำ Gironde เมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส ด้วยลักษณะดินที่อุดมสมบูรณ์ มีแร่ธาตุดี อากาศเย็นสบาย ทำให้เมื่อนำมาทำไวน์แดงแล้ว จะมีความ Full Bodied มีสีแดงสว่างสวย Acidity ต่ำ มีกรดแทนนินปานกลางถึงสูง โดยหากถูกปลูกในสภาพอากาศเย็น จะมีกลิ่นและรสชาติของเชอร์รี่ และ ลูกพลัม แต่หากอากาศอบอุ่น จะได้รับกลิ่นและรสชาติของแบล็กเบอร์รี่ เค้กผลไม้ด้วย ยิ่งหมักไว้นานเท่าไหร่ ก็จะมีรสชาติของช็อกโกแลตและกลิ่นยาสูบเพิ่มเข้ามา สำหรับแมร์โลนั้น นอกจากจะถูกปลูกในเมืองบอร์กโดซ์แล้ว ยังมีการนำไปปลูกในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึง ประเทศชิลี อิตาลี จีน เพื่อผลิตไวน์แดง Merlot จากประเทศนั้น ๆ ด้วย ทั้งนี้ ส่วนมากจะนิยมนำมาเบลนด์ผสมกับ Cabernet Franc. เพื่อให้รสชาติมีคุณภาพดีมากยิ่งขึ้น
Cabernet Franc.
ปลูกทางฝั่งขวาของแม่น้ำ Gironde ร่วมกับ Merlot ในเมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส มีความโดดเด่นตรงที่มี Medium Body Acidity สูง แทนนินปานกลางถึงสูง นอกจากนี้ กลิ่นและรสชาติของ พันธุ์องุ่นไวน์แดง นี้ ยังสามารถแปรเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศได้ด้วย โดยนอกจากจะมีกลิ่นพริกหยวก พริกแดงสด สตรอว์เบอร์รี่ ลูกพลัม เป็นเอกลักษณ์แล้ว หากปลูกในอากาศเย็น จะได้กลิ่นของดอกไวโอเลตและทาร์ตผลไม้ และ ถ้าปลูกในสภาพอากาศอบอุ่น จะได้กลิ่นพริกคาเยน และ ผลไม้ตากแห้งอีกด้วย โดยแหล่งผลิต การ์แบร์เน ฟรองค์ ที่สำคัญ นอกจากเมืองบอร์กโดซ์แล้ว ยังมี ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ในประเทศฝรั่งเศส ทัสคานี ประเทศอิตาลี มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และ Colchagua Valley ในประเทศชิลี
Carménère
Carménère เป็น พันธุ์องุ่นไวน์แดง รุ่นลูกของ Cabernet Franc. เดิมมีถิ่นกำเนิดในบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความที่มีสาร Pyrazines จำนวนมาก เช่นเดียวกับ Cabernet Franc. และ Cabernet Sauvignon เมื่อนำมาทำไวน์ จะมีความ Medium Body แทนนินปานกลาง Acidity สูง มีกลิ่นและรสชาติของ พริกหยวก ราสป์เบอร์รี่ กลิ่นวานิลลา กลิ่นไม้โอ๊ก จากถังหมักไวน์ ทำให้ได้รับความนิยมไม่แพ้ไวน์อื่น ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงปี 1950 ได้เกิดศัตรูพืชระบาด จนส่งผลให้ต้นองุ่นจำนวนมากได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ Carménère ซึ่งเป็นต้นองุ่นที่อ่อนแอเกือบสูญพันธุ์ โชคยังดีที่มันถูกนำไปขยายพันธุ์ในประเทศชิลี ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 จึงทำให้มันยังรอดมาจนถึงทุกวันนี้ โดยประเทศที่ปลูกองุ่นชนิดนี้มากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ ชิลี และ ประเทศจีน โดยในประเทศจีน จะเรียกองุ่นชนิดนี้ว่า Cabernet Gernischt
Syrah
Syrah เป็นองุ่นที่เมื่อนำมาทำไวน์แดง จะมีสีแดงเข้มจนเกือบดำที่สุดในโลก เดิมมีถิ่นกำเนิดในลุ่มแม่น้ำโรน ประเทศฝรั่งเศส ก่อนที่จะถูกนำไปปลูกในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และ ทวีปอเมริกาใต้ โดยคนออสเตรเลียจะเรียกองุ่นชนิดนี้ว่า Shiraz ด้วยมีความ Full Bodied แทนนินค่อนข้างสูง Acidity ปานกลาง ทำให้เมื่อนำมาทำไวน์แดง จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นและรสชาติหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้อย่าง แบล็กเคอร์แรนท์ แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ลูกพลัม กลิ่นของดอกไม้ สมุนไพร เช่น พริกไทย ลาเวนเดอร์ ใบเสจ รวมถึง กลิ่นยาสูบ กลิ่นวานิลลา มิลค์ช็อกโกแลต ที่ได้จากถังหมักไม้โอ๊ก ซึ่งจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอม สร้างอรรถรสในการดื่มมากขึ้น
Pinot noir
Pinot Noir เป็น พันธุ์องุ่นไวน์แดง ที่ยิ่งหมักนานเท่าไหร่ รสชาติก็ยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น ทำให้เป็นไวน์แดงที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยกลิ่นและรสชาตินั้น เต็มไปด้วยกลิ่นของของผลไม้ เช่น เชอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ รวมถึงยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายของพื้นดิน เครื่องเทศ กลิ่นควันไม้ กลิ่นวานิลลา จากถังไม้โอ๊กที่ใช้หมัก ทำให้ไวน์ปิโนต์ นัวร์ มีกลิ่นที่ซับซ้อนหลากหลาย และ มีรสชาตินุ่มละมุน โดดเด่นกว่าไวน์ชนิดอื่น ส่วนใหญ่แล้ว ปิโนต์ นัวร์ ควรบ่มไว้ในขวด อย่างน้อย 5 – 10 ปี ก่อนเปิดดื่ม หากเป็นระดับท็อป จะบ่มไว้นานมากกว่า 20 ปีเลยทีเดียว สำหรับแหล่งผลิตไวน์ปิโนต์ นัวร์ ที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้แก่ แคว้นเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศส และ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ เยอรมัน นิวซีแลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย ก็เป็นแหล่งผลิตไวน์ปิโนต์ นัวร์ คุณภาพดีเช่นเดียวกัน
Nebbiolo
Nebbiolo เป็น พันธุ์องุ่นไวน์แดง ในหมู่บ้านเล็ก ๆ คือ บาโรโล และ บาร์บาเรสโก ตั้งอยู่ในภูมิภาค Piedmont ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยรสชาติขององุ่น ที่มีกลิ่นคล้ายทาร์และดอกไวโอเลต อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เมื่อนำมาทำไวน์แล้ว จะมีความ Full Bodies แทนนินสูง แต่ก็มีรสสัมผัสนุ่มละมุน มีกลิ่นของเบอร์รี่ป่า เชอร์รี่ ผักชี ไม้ซีดาร์ ผิวส้มขูด ผงเครื่องเทศอบ และ ดาร์กช็อกโกแลต ผสมเข้าด้วยกัน ส่งความฝาดไปสู่ต่อมรับรส ตั้งแต่โคนลิ้น ย้อนกลับมาที่ริมฝีปาก จนกลายเป็น 1 ในไวน์แดงระดับ High – End ที่เหมาะสำหรับเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ โดยไวน์ที่ทำจากองุ่น Nebbiolo แล้วมีชื่อเสียง คือ Gaja Barbaresco ตั้งชื่อตามนักผลิตไวน์ Angelo Gaja และ ชื่อหมู่บ้านที่ผลิต คือ Barbaresco
Aglianico
Aglianico อีกหนึ่ง พันธุ์องุ่นไวน์แดง ที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี ส่วนใหญ่ขึ้นทางตอนใต้ บริเวณแคว้นแคมปาเนีย บาซีลีคาตา และ เกาะซิซิลี ด้วยมีความ Full Bodies แทนนินสูง Acidity สูง ทำให้เมื่อนำทำเป็นไวน์ จะมีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว เต็มไปด้วยกลิ่นและรสชาติของผลไม้ เช่น แบล็กเชอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ป่า รวมถึงกลิ่นหนัง ยาสูบ เนื้อสัตว์รมควัน ชีส สมุนไพรและผักต่าง ๆ ยิ่งหมักไว้นาน ๆ ก็จะยิ่งมีรสนุ่มละมุน และ กลิ่นอายกลมกล่อมมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งถ้าหากใช้กระบวนการผลิตดั้งเดิม จะต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี เลยทีเดียว ถึงจะหมักบ่มไวน์ให้ได้ที่ แต่หากใช้กระบวนการผลิตสมัยใหม่ ก็อาจใช้เวลาน้อยลง แม้จะทำให้รสชาติไม่นุ่มนวล ล้ำลึกเท่าเดิมก็ตาม
Tempranillo
Tempranillo เป็น พันธุ์องุ่นไวน์แดง ระดับตัวท็อปของประเทศสเปน โดยไวน์แดงของสเปนแทบทั้งหมด ผลิตจากองุ่นสายพันธุ์นี้ เพราะนอกจากจะมีความ Full Bodied แทนนินสูง Acidity สูงแล้ว ยังมีรสชาติที่ซับซ้อนหลากหลาย เต็มไปด้วยกลิ่นและรสชาติของ เชอร์รี่ ลูกพลัมเครื่องเทศ รวมถึง กลิ่นไม้โอ๊ก ไม้สนซีดาร์ และ กลิ่นยาสูบ ที่ลอยโชยขึ้นมา โดยไวน์ที่ได้นั้น จะมีสีแดงเข้มสวย เหมือนทับทิมเลยทีเดียว ยิ่งหมักไว้ในถังไม้โอ๊กนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยให้รสชาติดีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งไวน์ Tempranillo ที่มีคุณภาพดีนั้น จะใช้เวลาหมักอย่างต่ำ 1 – 20 ปี เลยทีเดียว โดยตัวอย่างของ ไวน์เทมปานิลโญ่ ที่มีชื่อเสียง คือ Vega Sicilia Unico 2009
Malbec
องุ่นดำสีม่วงเข้ม เดิมมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะถูกนำมาปลูกที่อาร์เจนตินา ด้วยมีเปลือกค่อนข้างหนา เต็มไปด้วยสารแอนโทไซยานินที่ผิวเปลือก ทำให้เมื่อนำมาทำไวน์แดง จะมีสีม่วงเข้มสวยงาม เนื้อสัมผัสมีความ Full Bodied แทนนินปานกลาง acidity ค่อนข้างต่ำ เมื่อดื่มแล้วจะได้กลิ่นและรสชาติของ ลูกพลัม แบล็กเบอร์รี่ และ ยังมีกลิ่นวานิลลา ยาสูบ และ เมล็ดโกโก้ จากถังหมักไม้โอ๊กอีกด้วย โดย Malbec นั้น ปกติเต็มไปด้วยรสชาติที่ดีอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องหมักในถังไม้โอ๊กนาน ใช้เวลา 4 – 6 เดือน ก็สามารถนำมาดื่มได้แล้ว ยิ่งเป็น Malbec ที่เบลด์ผสมกับ Cabernet Sauvignon ก็จะยิ่งมีรสชาติกลมกล่อม เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
รู้จัก พันธุ์องุ่นไวน์แดง แต่ละชนิดกันไปแล้ว หากใครอยากรู้ความแตกต่าง รวมถึง อยากหาความรู้ว่า ควรเอาองุ่นพันธุ์ไหนมาทำไวน์แดงแล้วละก็ ลองอ่านเป็นแนวทางไว้ได้เลย เพื่อที่จะได้เลือกซื้อ หรือ เลือกปลูกองุ่น สำหรับนำมาทำไวน์แดงที่มีรสชาติ ในแบบที่ตรงใจกับคุณได้มากที่สุด
สำหรับใครที่ยังไม่มีตู้แช่ไวน์ สำหรับเก็บไวน์ให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม คงรสชาติและคุณภาพไว้ได้เป็นอย่างดีแล้วละก็ ขอแนะนำ ตู้แช่ไวน์ ตู้จ่ายไวน์ รุ่นใหม่ล่าสุด จาก SGE มาพร้อมฟังค์ชั่นสุดพิเศษ! ที่จะทำให้เก็บไวน์ได้คุณภาพไปอีกขั้น ✓ควบคุมอุณหภูมิ (5 – 20 องศาเซลเซียส) ✓หน้าจอระบบสัมผัส ✓ระบบไฟ LED ✓ชั้นวางวัสดุคุณภาพ ✓ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ✓รักษาความสะอาดปลอดสาร CFC ✓ประหยัดพลังงาน สนใจตู้แช่ไวน์ ตู้จ่ายไวน์ คลิกเลย >> https://www.sgethai.com/wine-cellar/
บทความที่น่าสนใจ
30 มกราคม 2024
โดย
Pres