4 สูตร ข้าวเกรียบ กรุบกรอบ ทำกินเล่นก็ได้ ทำขายก็ดี
ข้าวเกรียบปลา
ข้าวเกรียบปลา ถือว่าเป็น ข้าวเกรียบ รสยอดนิยมของคนไทยเลยก็ว่าได้ เพราะมีรสชาติเค็ม ๆ จากเนื้อปลา ผสมผสานกับกลิ่นหอมของพริกไทยและกระเทียม ยิ่งทาน ยิ่งอร่อย
ส่วนผสม
- เนื้อปลา 350
- แป้งมัน 500 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 1/2 แก้ว
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
- นำปลามาตัดครีบ หัวปลา เลาะก้างปลาออกให้เรียบร้อย เสร็จแล้ว เอาแต่เนื้อปลาออกมา แล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
- ตักกระเทียม เนื้อปลา ใส่เครื่องปั่น แล้วปั่นให้เนื้อละเอียด
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งมัน แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงปรุงรส น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย คนให้เข้ากัน
- ใส่เนื้อปลา กระเทียมจีน ที่ปั่นไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากับเนื้อแป้ง
- พอเข้ากันดีแล้ว ค่อย ๆ เทน้ำร้อนใส่ชามผสมลงไป ห้ามเทรวดเดียวหมด แล้วใช้ไม้พายหรือมือนวดแป้งไปด้วย ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ก้อนแป้งเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- แบ่งก้อนแป้งออกมา แล้วปั้นให้เป็นแท่งกลม ๆ เสร็จแล้ว ห่อด้วยถุงฟอยล์ ให้แป้งขึ้นรูปเป็นแท่งมากขึ้น พับหัวท้าย ห่อให้เรียบร้อย
- วางลงในซึ้ง นึ่งจนกว่าแป้งจะสุก ใช้เวลาประมาณ 40 นาที วิธีเช็ก ใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มลงไปในเนื้อแป้ง ถ้ายกออกมาแล้ว ไม่มีเนื้อแป้งติด แสดงว่าแป้งสุกแล้ว
- แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 1 คืน เสร็จแล้ว นำมาสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ ใส่ถาด แล้วนำไปวางตากแดดจนแห้ง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันจนท่วม วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่ จนมีฟองฟู่ขึ้นมาเมื่อใช้ตะเกียบจิ้มลงไป แล้วใส่ข้าวเกรียบแผ่นลงไป ทอดจนขึ้นฟู กรอบสวยงามได้ที่แล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จ ทั้งนี้ ระหว่างทอด ให้ใช้กระชอนคนข้าวเกรียบเล็กน้อย จะทำให้ข้าวเกรียบบานออกและกรอบทั่วกันทั้งแผ่น
ข้าวเกรียบกุ้ง
ข้าวเกรียบอีกหนึ่งรสชาติที่เป็นที่นิยมและขายดิบขายดีก็คือ ข้าวเกรียบกุ้ง ซึ่งให้รสชาติเค็มอร่อย ถูกปาก โดยวิธีการทำก็ง่าย ๆ เพียงแค่เพียงแค่นำเนื้อกุ้งมาบดให้ละเอียด ผสมกับแป้ง เกลือ พริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปั้นให้เป็นแท่ง ๆ แช่เย็นให้เซ็ตตัว เสร็จแล้ว นำไปตากแดดให้แห้ง นำมาสไลด์เป็นแผ่นบาง แล้วนำไปทอดจนกรอบฟู เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทาน
ส่วนผสม
- กุ้งสด 3 ขีด (แกะเปลือก)
- แป้งมัน 450 กรัม
- กระเทียมจีนบด 10 กลีบ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำอุ่น 1/2 แก้ว
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
- นำกุ้งมาแกะเปลือก ล้างทำความสะอาด ลอกเส้นดำออก แล้วนำเข้าเครื่องปั่น ปั่นให้เนื้อละเอียด
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งมัน เกลือ พริกไทย คนให้เข้ากัน
- ใส่กุ้งบด กระเทียมจีนบด คลุกเคล้าให้เข้ากับเนื้อแป้ง
- พอเข้ากันดีแล้ว ให้เติมน้ำเปล่าลงไป ใช้มือนวดจนกว่าจะได้ก้อนแป้งเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เตรียมถาดอบขนม รองด้วยถุงร้อนผ่าครึ่ง แบ่งก้อนแป้งออกมา แล้วปั้นให้เป็นแท่งกลม ๆ เสร็จแล้ว วางลงไป ใช้ถุงร้อนห่อให้แป้งขึ้นรูปเป็นแท่งมากขึ้น เสร็จแล้ว ห่อให้เรียบร้อย
- วางลงในซึ้ง นึ่งจนกว่าแป้งจะสุก วิธีเช็ก ใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มลงไปในเนื้อแป้ง ถ้ายกออกมาแล้ว ไม่มีเนื้อแป้งติด แสดงว่าแป้งสุกแล้ว
- แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 1 คืน เสร็จแล้ว นำมาสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ ใส่ถาด แล้วนำไปวางตากแดดจนแห้ง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันจนท่วม วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่ จนมีฟองฟู่ขึ้นมาเมื่อใช้ตะเกียบจิ้มลงไป แล้วใส่ข้าวเกรียบแผ่นลงไป ทอดจนขึ้นฟู กรอบสวยงามได้ที่แล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จ ทั้งนี้ ระหว่างทอด ให้ใช้กระชอนคนข้าวเกรียบเล็กน้อย จะทำให้ข้าวเกรียบบานออกและกรอบทั่วกันทั้งแผ่น
ข้าวเกรียบ ฟักทอง
หากใครอยากเปลี่ยนรสชาติ มาทานข้าวเกรียบหวาน ๆ บ้างแล้วละก็ แนะนำ ข้าวเกรียบฟักทองเลย ซึ่งวิธีการทำก็คล้าย ๆ กับข้าวเกรียบกุ้งเลย รับรองว่าหวานอร่อย ทำขายก็เก๊ แปลกใหมไม่เหมือนใคร
ส่วนผสม
- ฟักทอง 250 กรัม
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
- แป้งมัน 500 กรัม
- แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ½ ช้อนชา
- กระเทียมบด 1 ½ ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- น้ำร้อน 230 มิลลิลิตร
- น้ำมัน 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำฟักทองมาหั่นเปลือกและส่วนที่เป็นเมล็ดออกให้เรียบร้อย เสร็จแล้ว หั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่หม้อต้ม เติมน้ำเปล่าให้พอท่วมฟักทอง แล้วต้มให้เนื้อฟักทองสุกนิ่มหรือเละเลยยิ่งดี เพื่อให้บดได้ง่าย
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งมัน แป้งข้าวโพด เกลือ กระเทียมบด พริกไทยป่น คนให้เข้ากัน
- พอฟักทองเนื้อนิ่มเละแล้ว ให้นำไปบดจนละเอียด แล้วรีบนำใส่ชามผสม ขณะที่ยังร้อน ใช้ไม้พายคนให้กระจายไปทั่วเนื้อแป้ง พอฟักทองเริ่มคลายร้อน ให้ใช้มือจับคนบี้ให้กระจายทั่วเนื้อแป้งอีกรอบหนึ่ง
- ค่อย ๆ เทน้ำร้อนใส่ชามผสมลงไป ห้ามเทรวดเดียวหมด แล้วใช้ไม้พายหรือมือนวดแป้งไปด้วย ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้เนื้อแป้งเนียน สีเหลืองนวลทั่วกันทั้งหมด
- เติมน้ำมันพืชเพิ่มลงไป นวดแป้งจนผสมเข้ากันดี วิธีเช็กว่านวดแป้งได้ที่หรือยัง ให้หยิบขึ้นมาปั้นเป็นก้อน ถ้าเป็นก้อนได้ โดยไม่มีเนื้อแป้งแฉะติดมือ แสดงว่าใช้ได้แล้ว
- เตรียมซึ้งนึ่ง รองด้วยใบดองฉีกเป็นเส้น ๆ ทาน้ำมันให้ทั่ว เสร็จแล้ว แบ่งแป้งแล้วปั้นเป็นแท่งขนาดตามชอบ แล้ววางเรียงลงในซึ้ง นึ่งบนน้ำเดือด ใช้ไฟแรง เป็นเวลา 40 – 45 นาที
- พอครบเวลา ให้พักให้เย็น จากนั้น เก็บใส่ถุงพลาสติกหรือกล่องถนอมอาหาร แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 1 คืน ให้เนื้อแป้งพอเซ็ตตัว พอครบเวลา ให้นำมาสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ แล้ววางเรียงใส่ถาดหรือตะแกรง นำไปผึ่งแดด 1-2 วัน จนกว่าจะแห้งสนิท หรือใครจะใช้วิธีอบในเตาอบก็ได้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันจนท่วม วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่ จนมีฟองฟู่ขึ้นมาเมื่อใช้ตะเกียบจิ้มลงไป แล้วใส่ข้าวเกรียบแผ่นลงไป ทอดจนขึ้นฟู กรอบสวยงามได้ที่แล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จ ทั้งนี้ ระหว่างทอด ให้ใช้กระชอนคนข้าวเกรียบเล็กน้อย จะทำให้ข้าวเกรียบบานออกและกรอบทั่วกันทั้งแผ่น
ข้าวเกรียบ แป้งสด
หากใครมองหาสูตร ข้าวเกรียบ ที่ใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่าง ทำง่าย และลงทุนน้อย แนะนำ ข้าวเกรียบแป้งสด เลย ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เนื้อสัมผัสที่อร่อยมากนัก แต่เมื่อปรุงรสด้วยผงปรุงรส รสชาติต่าง ๆ เพิ่มเข้าไป ก็ทานได้อร่อยไม่แพ้ข้าวเกรียบสูตรอื่น ๆ เช่นกัน
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเจ้า 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 หยิบมือ
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าลงไป 5 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยเกลือ 1 หยิบมือ เปิดไฟ ต้มน้ำให้เดือด
- พอน้ำเดือดแล้ว ให้ปิดไฟ เทแป้งข้าวเจ้า 5 ช้อนโต๊ะลงไป คนให้เข้ากัน จนพอติดกันเป็นก้อน
- เตรียมถาดแผ่นเรียบ เทแป้งข้าวเจ้าลงไป นวดให้เนื้อเดียวกัน จนเป็นก้อนแป้งเนื้อเนียน เสร็จแล้ว ใช้ไม้นวดแป้ง รีดให้เป็นแผ่นบาง ๆ และใช้ส้อมจิ้มให้ทั่ว ตัดให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กเท่า ๆ กัน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันจนท่วม วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่ จนมีฟองฟู่ขึ้นมาเมื่อใช้ตะเกียบจิ้มลงไป แล้วใส่แผ่นแป้งลงไป ทอดจนขึ้นฟู กรอบสวยงามได้ที่แล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จ
- ตักเสิร์ฟ โรยเกลือหรือผงปรุงรส เพิ่มเติมตามชอบ เป็นอันเสร็จ
ส่วนใครที่ไม่อยากทอดข้าวเกรียบ ในกระทะให้น้ำมันกระเด็นใส่ตัว อยากหาอุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำข้าวเกรียบง่ายขึ้น แนะนำหม้อทอดไฟฟ้า ของ SGE ผลิตจากสแตนเลส 304 ใช้งานได้คงทน ยาวนาน ไม่เป็นสนิมง่าย ตัวหม้อทอดยังมีขนาดให้เลือกมากถึง 5 – 24 ลิตร ให้คุณทำเมนูของทอดได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเกรียบ ปอเปี๊ยะ ข้าวโพดทอด เฟรนช์ฟรายส์ทอด ให้คุณใช้ได้ทั้งในครัวเรือน และ แบบอุตสาหกรรม ราคาเริ่มต้นที่หลักพันเท่านั้น
หากสนใจ หม้อทอดไฟฟ้า ของ SGE สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/deep-fryer/ หรือ สอบถามผ่านทางโทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย
30 มกราคม 2024
โดย
Pres