5 สูตร ข้าวเกรียบปากหม้อ ทำกินทำขาย สร้างอาชีพ
ทำความรู้จัก ข้าวเกรียบปากหม้อ
ข้าวเกรียบปากหม้อ หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า ปากหม้อ เป็นอาหารไทย ที่สามารถรับประทานได้ทั้งคาว – หวาน ลักษณะเป็นแป้งสีขาว ทำจากแป้งข้าวเจ้า ผสมกับ แป้งมัน และ แป้งท้าวยายม่อม ห่อด้วยไส้ชนิดต่าง ๆ เช่น ไส้หมู ไส้กุ้ง หรือ ไส้ผักต่าง ๆ ปัจจุบัน ข้าวเกรียบปากหม้อ ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่ถูกพัฒนาให้มีความเป็นเอกลักษณ์ตามแต่ละท้องถิ่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ในอ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ที่นำเอาข้าวเกรียบปากหม้อ มากินแบบก๋วยเตี๋ยว หรือ ข้าวเกรียบอ่อน หรือ ข้าวเกรียบหวาน ในจ.ตราด ที่ตัวแป้ง จะใส่น้ำตาลอ้อย ใส่ไส้ที่ทำจากถั่วเขียวต้มกับมะพร้าวขูด สำหรับที่มาของชื่อ ข้าวเกรียบปากหม้อ สันนิษฐานว่ามาจาก ลักษณะของแป้ง เมื่อได้รับความร้อนจนพองและสุก จะมีหน้าตาเหมือนข้าวเกรียบว่าว จึงเรียกชื่อดังกล่าวมาจนถึงทุกวันนี้
5 สูตร ข้าวเกรียบปากหม้อ ยอดฮิต
ปัจจุบัน พ่อค้าแม่ค้า ได้พัฒนาสูตร ข้าวเกรียบปากหม้อ ให้ มีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยการเพิ่มไส้แบบต่าง ๆ มากกว่า 20 แบบเลยทีเดียว แต่ถ้าหากถามว่า สูตร ข้าวเกรียบแบบไหน ที่ได้รับความนิยมและฮิตติดตลาด คงหนีไม่พ้น ไส้หมู ไส้กุ้ง ไส้ถั่วงอก ไส้ข้าวโพด และ ไส้กุยช่าย ซึ่งถ้าหากใครอยากได้วิธีการทำแต่ละสูตรแล้วละก็ ตามมาดูกันเลย
1. ข้าวเกรียบปากหม้อ ไส้หมู
ส่วนผสมแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- แป้งข้าวจ้าว 2 ถ้วยตวง
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง
- แป้งท้าวยายม่อม 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
ส่วนผสมไส้หมู
- หมูบด 150 กรัม
- ไชโป๊หวาน 150 กรัม
- ถั่วลิสงคั่ว 100 กรัม
- หอมแดง 80 กรัม
- กระเทียม 30 กรัม
- พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี 15 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม ค่อย ๆ เทน้ำลงไปทีละน้อย ๆ สลับกับคนแป้งไปเรื่อย ๆ จนกว่าแป้งจะละลายเข้ากันกับน้ำทั้งหมด
- พอได้ที่แล้ว พักแป้งไว้ 20 -30 นาที (ถ้าใครชอบแป้งหนากว่านี้ ให้ลดน้ำเปล่าลง)
วิธีทำไส้หมู
- เตรียมครกกับสาก ใส่พริกไทยเม็ดลงไป บดให้ละเอียด ตามด้วยกระเทียม รากผักชี โขลกให้ละเอียดเข้ากัน
- นำหอมแดงและกระเทียมอีกส่วนหนึ่งมาสับให้ละเอียด ใช้มีดหรือเครื่องปั่นก็ได้ จากนั้น ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ใส่กระเทียมลงไป เจียวให้มีสีเหลืองทอง เสร็จแล้ว ตักขึ้นพักไว้
- เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน ใส่พริกไทย กระเทียม รากผักชี ที่โขลกไว้ลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้น ใส่เนื้อหมูลงไป รวนให้เนื้อหมูสุก เสร็จแล้ว ใส่หอมแดง ไชโป๊หวาน ลงไป ผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ผัดให้น้ำตาลละลายเข้ากัน พอได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ให้ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ตักขึ้น พักไว้ให้เย็น แล้วนำไส้สาคู มาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ
2. ข้าวเกรียบปากหม้อ ไส้กุ้ง
ส่วนผสมแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- แป้งข้าวจ้าว 2 ถ้วยตวง
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง
- แป้งท้าวยายม่อม 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
ส่วนผสมไส้กุ้ง
- เนื้อกุ้ง 50 กรัม
- มันกุ้ง 50 กรัม
- มะพร้าวขูดขาว 250 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 2 – 3 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 30 กรัม
- แบะแซ (กลูโคสไซรัป) 50 กรัม
- พริกไทยขาวป่น 2 – 3 ช้อนชา
วิธีทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม ค่อย ๆ เทน้ำลงไปทีละน้อย ๆ สลับกับคนแป้งไปเรื่อย ๆ จนกว่าแป้งจะละลายเข้ากันกับน้ำทั้งหมด
- พอได้ที่แล้ว พักแป้งไว้ 20 -30 นาที (ถ้าใครชอบแป้งหนากว่านี้ ให้ลดน้ำเปล่าลง)
วิธีทำไส้กุ้ง
- ตั้งกระทะ เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน แล้วใส่น้ำมันพืช น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำเปล่า เกลือป่น คนให้เข้ากัน จากนั้น เคี่ยวไปเรื่อย ๆ ให้น้ำตาลกลายเป็นคาราเมล ที่มีความข้นเหนียว (วิธีเช็ก ให้ทำการหยดน้ำตาลลงบนน้ำเปล่า ถ้าน้ำตาลจับตัวเป็นก้อน ไม่ละลาย แสดงว่าเป็นคาราเมลแล้ว)
- ใช้มีดสับเนื้อกุ้งให้แหลกพอหยาบ ๆ จากนั้น ใส่เนื้อมะพร้าวขูดขาวลงไป ในสัดส่วนที่เท่ากับเนื้อกุ้ง แล้วใช้มีดสับรวมกัน จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- ใส่เนื้อมะพร้าวขูดขาวลงไปเพิ่ม แล้วใส่มันกุ้งลงไป สับให้เข้ากันอีกครั้ง จนมะพร้าวขูดขาวกลายเป็นสีส้ม
- พอน้ำตาลในกระทะ กลายเป็นคาราเมลดีแล้ว ให้ใส่เนื้อกุ้งสับพร้อมมะพร้าวขูดขาวลงไป คลุกเคล้ากับคาราเมลให้เข้ากัน จนกว่าจะกลายเป็นสีส้มนวล แล้วผัดต่อไปจนกว่าไส้กุ้งจะแห้ง
- ปรุงรสด้วย พริกไทย คนให้เข้ากัน เพื่อดับกลิ่นคาว แล้วใส่แบแซะลงไป กวนให้เข้ากัน ประมาณ 1 – 2 นาที
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ตักขึ้น พักไว้ให้เย็น แล้วนำไส้กุ้ง มาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ
3. ข้าวเกรียบปากหม้อ ไส้ถั่วงอก
ส่วนผสมแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- แป้งข้าวจ้าว 2 ถ้วยตวง
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง
- แป้งท้าวยายม่อม 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
ส่วนผสมไส้ถั่วงอก
- ถั่วงอก 300 กรัม
- น้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลนิดหน่อย
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่นตามชอบ
วิธีทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม ค่อย ๆ เทน้ำลงไปทีละน้อย ๆ สลับกับคนแป้งไปเรื่อย ๆ จนกว่าแป้งจะละลายเข้ากันกับน้ำทั้งหมด
- พอได้ที่แล้ว พักแป้งไว้ 20 -30 นาที (ถ้าใครชอบแป้งหนากว่านี้ ให้ลดน้ำเปล่าลง)
วิธีทำไส้ถั่วงอก
- ล้างทำความสะอาดถั่วงอก พักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- จากนั้น ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันกระเทียมเจียว น้ำตาล ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น ผัดให้เข้ากันด้วยไฟอ่อน ให้พอสุก เสร็จแล้ว ตักขึ้นใส่ชาม เตรียมไว้
4. ข้าวเกรียบปากหม้อ ไส้ข้าวโพด
ส่วนผสมแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- แป้งข้าวจ้าว 2 ถ้วยตวง
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง
- แป้งท้าวยายม่อม 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
ส่วนผสมไส้ข้าวโพด
- ข้าวโพดเหลือง 500 กรัม
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือนิดหน่อย
- พริกไทยป่นตามชอบ
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม ค่อย ๆ เทน้ำลงไปทีละน้อย ๆ สลับกับคนแป้งไปเรื่อย ๆ จนกว่าแป้งจะละลายเข้ากันกับน้ำทั้งหมด
- พอได้ที่แล้ว พักแป้งไว้ 20 -30 นาที (ถ้าใครชอบแป้งหนากว่านี้ ให้ลดน้ำเปล่าลง)
วิธีทำไส้ข้าวโพด
- ตั้งกระทะ ใส่ข้าวโพด ตามด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทยป่น และน้ำเปล่า ผัดด้วยไฟอ่อนให้น้ำตาลละลาย และข้าวโพดสุกทั่วกัน เสร็จแล้ว ตักขึ้นใส่ชาม เตรียมไว้
5. ข้าวเกรียบปากหม้อ ไส้กุยช่าย
ส่วนผสมแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- แป้งข้าวจ้าว 2 ถ้วยตวง
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง
- แป้งท้าวยายม่อม 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
ส่วนผสมไส้กุยช่าย
- กุยช่ายหั่น 500 กรัม
- น้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
- เตรียมชามผสม ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม ค่อย ๆ เทน้ำลงไปทีละน้อย ๆ สลับกับคนแป้งไปเรื่อย ๆ จนกว่าแป้งจะละลายเข้ากันกับน้ำทั้งหมด
- พอได้ที่แล้ว พักแป้งไว้ 20 -30 นาที (ถ้าใครชอบแป้งหนากว่านี้ ให้ลดน้ำเปล่าลง)
วิธีทำไส้กุยช่าย
- เตรียมชามผสม ใส่กุยช่ายหั่น น้ำมันกระเทียมเจียว เบกกิ้งโซดา น้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ใส่กุยช่ายที่ผสมไว้ลงไป ผัดด้วยไฟอ่อนให้กุยช่ายสุกทั่วกัน เสร็จแล้ว ตักขึ้นใส่ชาม เตรียมไว้ (ถ้ามีน้ำให้ตักกรองผ่านกระชอนให้แห้ง)
วิธีทำข้าวเกรียบปากหม้อ ด้วยตัวเอง
หลังจากทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ และ ไส้ต่าง ๆ แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการประกอบข้าวเกรียบปากหม้อ ให้พร้อมทาน ซึ่งอุปกรณ์ที่คุณจะต้องมี ก็คือ หม้อทรงสูง ผ้าขาวบาง สำหรับขึงด้านบน เพื่อทาแป้งให้แป้งสุก รวมถึงฝาอบที่จะช่วยให้แป้งสุกได้เร็ว และไม้พาย สำหรับห่อแป้งให้หุ้มไส้ได้อย่างสวยงาม สำหรับขั้นตอนของ วิธีทำข้าวเกรียบปากหม้อ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ส่วนผสม
- แป้งก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ
- ไส้หมู
- ไส้กุ้ง
- ไส้ถั่วงอก
- ไส้ข้าวโพด
- ไส้กุยช่าย
อุปกรณ์
- หม้อทรงสูง 1 ใบ
- ผ้าขาวบาง
- ฝาอบ สำหรับอบให้แป้งสุก
- ไม้พายซิลิโคน 1 อัน
วิธีทำ
- เตรียมหม้อทรงสูงมา 1 ใบ นำผ้าขาวบางมาปิดปากหม้อให้ทั่ว แล้วใช้หนังยางรัด ให้ชายผ้าติดกันปากหม้อ จนผ้าด้านบนขึงตึง
- จากนั้น ใช้มีดหรือกรรไกร เจาะด้านใดด้านหนึ่งของผ้าให้ขาด เพื่อระบายไอน้ำ แล้วเติมน้ำเปล่าลงไป ประมาณครึ่งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด รอไว้
- ใช้ทัพพีตักแป้งขึ้นมา ลงบนผ้าขาว วาดให้เป็นแผ่นกลม แล้วใช้ฝาอบปิด เพื่อให้แป้งสุก (ก่อนตักขึ้นมา ควรคนแป้งทุกครั้ง)
- พอแป้งสุกจนพองขึ้นมาแล้ว ให้ตักไส้หมู ไส้กุ้ง ไส้ถั่วงอก ไส้ข้าวโพด ไส้กุยช่าย ลงไปตามชอบ
- ใช้ไม้พายซิลิโคน เกลี่ยแป้งขึ้นมาห่อไส้ไว้ให้สวยงาม
- ตักก๋วยเตี๋ยวปากหม้อใส่ชาม ราดด้วยน้ำซุปที่ต้มไว้ พร้อมกับกระดูกหมู ซี่โครงหมู ซี่โครงไก่ ขาไก่ ปีกไก่ โรยหน้าด้วย ต้นหอมซอย กระเทียมเจียว ตามชอบ เป็นอันเสร็จ
ข้าวเกรียบปากหม้อ เป็นอาหารว่างยอดนิยม ที่สามารถทานได้ทั้งคาว หวาน จึงเป็นเมนูที่ขายดีอีกเมนูหนึ่ง ซึ่งถ้าหากใครสนใจ อยากจะทำทานเอง หรือ อยากจะทำขายเพื่อสร้างรายได้แล้วละก็ ลองทำตาม 5 สูตร ข้าวเกรียบปากหม้อ ยอดนิยม ที่ SGE นำมาฝากกันได้ รับรองว่า ทำง่าย ไม่ยาก ทำออกมาแล้ว อร่อย น่ารับประทานแน่นอน
สำหรับใครที่อยากจะผสมแป้ง สำหรับทำ ข้าวเกรียบปากหม้อ ให้ทำได้ง่ายขึ้น แนะนำให้ใช้ เครื่องตีแป้ง ของ SGE ปรับความแรงได้ 3 ระดับ ช่วยให้ผสมแป้งได้ง่าย แถมยังเปลี่ยนหัวตีได้ 3 แบบ ช่วยให้คุณสามารถตีแป้งให้ขึ้นฟู เหมาะสำหรับทำเค้ก และ เบเกอรี่ต่าง ๆ ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น หากสนใจคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/stand-mixer/
30 มกราคม 2024
โดย
Pres