7 สูตร ปลานึ่ง เมนูปลา แสนอร่อย ดีต่อสุขภาพ
ปลานึ่ง ทำอย่างไรให้เนื้อปลาสุกกำลังดี พร้อมน้ำราดแบบต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้เมนูนี้อร่อยมากขึ้น หากใครชอบทาน ปลานึ่ง แต่ไม่รู้จะทำออกมาเป็นเมนูอะไรดี SGE มีสูตรมาฝากถึง 7 สูตรด้วยกัน รับรองว่า ใครชอบทานปลา จะต้องถูกใจ และทำตามเองได้ที่บ้านแบบง่าย ๆ ได้แน่นอน
ปลานึ่งซีอิ๊ว
เมนู ปลานึ่ง อันดับ 1 ที่ใคร ๆ ก็นึกถึง โดยเฉพาะเวลาไปทานตามภัตตาคารและร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งถ้าหากซื้อทาน รับรองว่าแพงแน่นอน แต่ถ้าใครอยากทานเมนูนี้ในแบบประหยัด ๆ แล้วละก็ สามารถทำตามสูตรที่นำมาฝากได้เลย รับรองว่าเหมือนต้นฉบับ แถมยังทำทานได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย
ส่วนผสม
- ปลากระพง 1 ตัว (ปลาอื่น ๆ ก็ได้)
- ขิงแก่ 1 แง่ง
- ต้นหอม 5 ต้น
- ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
- พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด
- น้ำมันสำหรับผัด 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง เมื่อแห้งแล้ว ให้ใช้มีด บั้งเนื้อปลา 3 บั้ง แต่ละด้าน เท่า ๆ กัน
- เตรียมซึ้งนึ่ง โดยต้มน้ำร้อนให้ร้อนจัด ด้วยไฟแรง จากนั้น นำปลากระพงใส่จานที่จะจัดเสิร์ฟ วางลงในซึ้งนึ่ง นึ่งปลาจนสุก ใช้เวลาประมาณ 10-12 นาที
- ปอกเปลือกขิง หั่นขิงเป็นแว่น ๆ แล้วซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ จากนั้น นำพริกชี้ฟ้าแดงมาผ่าครึ่ง เอาส่วนที่เป็นเมล็ดออก แล้วหั่นซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ
- นำต้นหอม มาตัดเอาส่วนโคนแยกออกจากส่วนใบ แล้วหั่นโคนต้นหอมออกเป็นเส้น ๆ ส่วนใบต้นหอมให้หั่นออกเป็นท่อน ๆ ขนาดเท่ากัน เช่นเดียวกับขึ้นฉ่าย ให้ทำแบบเดียวกัน
- เตรียมทำน้ำราดซีอิ๊ว โดยตั้งกระทะ เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป กลิ้งจนน้ำมันเคลือบกระทะทั้งหมด พอน้ำมันร้อนจัด จนมีไอร้อนขึ้นมาแล้ว ให้ใส่ ขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย ขึ้นฉ่ายซอย ต้นหอมซอย ลงไป ผัดให้เข้ากัน แค่ให้พอมีกลิ่นหอม พอผักสลดดีแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำผักเหล่านี้ มาโรยไว้บนตัวปลาตัวกระพง
- ตั้งกระทะใหม่ (ยังไม่ต้องเปิดไฟ) ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ลงไป จากนั้น เปิดไฟกลางค่อนไฟแรง คนและผัดซอสให้เข้ากัน จนกว่าจะเดือดและข้นได้ที่ ระหว่างนี้ ให้คอยคนเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ไหม้
- เมื่อซอสข้นเหนียวได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ นำน้ำซีอิ๊วมาราดลงบนตัวปลากระพง เป็นอันเสร็จ
ปลานึ่งมะนาว
นอกจาก ปลานึ่งซีอิ๊ว ก็มี ปลานึ่งมะนาวนี่และ ที่น่ารับประทานไม่แพ้กัน ซึ่งวิธีการทำก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใส่กระเทียม พริกขี้หนูสวน รากผักชี น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ใส่เครื่องปั่น ปั่นทุกอย่างให้เข้ากัน เสร็จแล้ว นำมาราดลงบนตัวปลา แล้วนำไปนึ่งในซึ้งให้เนื้อปลาสุก เท่านี้ก็เป็นเสร็จ เป็นเมนู ปลานึ่ง ที่ทำง่าย และอร่อยอีกหนึ่งเมนู
ส่วนผสม
- ปลากระพง 1 ตัว
- กะหล่ำปลี 1/4 หัว
- กระเทียม 30 กรัม
- พริกขี้หนูสวน 20 กรัม
- รากผักชี 4 – 5 ราก
- ผักชี 4 – 5 ต้น
- ผักชีผรั่ง 5 – 6 ต้น
- ขึ้นฉ่าย 5 – 6 ต้น
- น้ำมะนาว 6 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 6 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง
- ซอยกะหล่ำปลี เป็นเส้นเล็ก ๆ ใส่จานสำหรับรองตัวปลาไว้ เสร็จแล้ว หั่นรากผักชี ใบผักชี ผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่าย อย่างหยาบ ๆ เตรียมไว้
- เตรียมเครื่องปั่น ใส่กระเทียม พริกขี้หนูสวน รากผักชี น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เสร็จแล้ว ปั่นส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
- วางปลากระพงลงบนกะหล่ำปลีที่รองในจาน ตักน้ำราดลงบนปลากระพงให้ทั่ว เสร็จแล้ว ต้มน้ำในซึ้งให้เดือด นำปลากระพงไปนึ่ง ด้วยไฟแรง เป็นเวลา 10 นาที
- พอครบเวลาให้นำออกมา รับประทานได้ หรือ ใครจะจัดใส่หม้อไฟตามชอบก็ได้ โดยให้ใส่กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย ใบผักชี วางรองเอาไว้ เสร็จแล้ว นำปลามาวางด้าน บนราดน้ำมะนาวที่เหลือ เป็นอันเสร็จ
ปลานึ่งบ๊วย
ปลานึ่งบ๊วย เป็นเมนู ปลานึ่ง แบบอาหารจีน ๆ ที่เหมาะกับการทานข้าวต้มยามเช้ามาก ๆ โดยปลาส่วนใหญ่ที่นิยมมาทำเมนูนี้ ส่วนใหญ่นิยมใช้ ปลาเต๋าเต้ย หรือ ปลาจะละเม็ด แต่ใครไม่สะดวก เพราะหายาก ก็สามารถใช้ปลาชนิดอื่น ๆ แทนได้ ไม่ว่ากัน
ส่วนผสม
- ปลาเต๋าเต้ย 1 ตัว (ใช้ปลาอื่น ๆ แทนได้)
- หมูสามชั้น 50 กรัม (เอาเฉพาะเนื้อ ไม่ติดหนัง)
- เห็ดหอม 2 – 3 ชิ้น
- กระเทียมซอย ตามชอบ
- พริกชี้ฟ้าซอย 1 เม็ด
- ขิงซอย ตามชอบ
- ขึ้นฉ่าย ตามชอบ
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- บ๊วยดอง 5 เม็ด
- น้ำบ๊วยดอง 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสต็อก ½ ถ้วย
วิธีทำ
- ใช้มีดบั้งเนื้อปลาทั้ง 2 ด้าน ให้เป็นรูปกากบาท
- ทำน้ำบ๊วยสำหรับราด โดยเตรียมชามผสม ใส่บ๊วยดอง 5 เม็ด แกะเอาเมล็ดออก น้ำบ๊วยดอง น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำสต็อก จากนั้น หั่นเอาหนังของหมูสามชั้นออก ให้เหลือแต่ส่วนเนื้อหมู เสร็จแล้ว หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไป คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
- ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้นำปลาเต๋าเต้ยใส่จาน เป็นเวลา 5 นาที ระหว่างนี้ ให้ซอยกระเทียม พริกชี้ฟ้าแดง ขิงอ่อน เห็ดหอม ขึ้นฉ่าย เตรียมไว้
- พอเนื้อปลาเริ่มสุก ให้ราดน้ำบ๊วยที่ผสมไว้ลงไปให้ทั่ว วางกระเทียมซอย ขิงอ่อน เห็ดหอมหั่น ขึ้นฉ่าย ไว้ด้านบน นึ่งต่ออีก 10 นาที เพื่อให้เนื้อปลาสุกทั่วกัน
- พอครบเวลา ให้ยกออกมา ตกแต่งด้วย พริกชี้ฟ้าซอยไว้ด้านบน เป็นอันเสร็จ
ปลานึ่งสมุนไพร
ใครชอบทาน ปลานึ่ง ห้ามพลาดกับเมนู ปลานึ่งสมุนไพร เพราะนอกจากกลิ่นจะหอมฟุ้งด้วยสมุนไพรนานาชนิดแล้ว เมื่อรับประทานเครื่องสมุนไพรต่าง ๆ ก็ยังช่วยบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ส่วนผสม
- ปลานิล 1 กิโลกรัม
- ตะไคร้ 50 กรัม
- รากผักชี 6 กรัม
- ข่า 15 กรัม
- พริกจินดาแดง 60 กรัม
- เกลือ 1 1/2 ช้อนชา (ครึ่งช้อนชา ให้ใส่ตอนอยู่ในชามผสม)
- ผงปรุงรส 1/2 ช้อนชา
- กระเทียม 30 กรัม
- หอมแดง 30 กรัม
- ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ (แยกใส่ตอนโขลกพริก 3 ใบ)
- ต้นหอม 15 กรัม
- ผักชี 1 ต้น
- กะหล่ำปลี ตามชอบ
วิธีทำ
- เตรียมครกกับสาก ใส่ตะไคร้ รากผักชี ข่า พริกจินดาแดง ใบมะกรูดฉีก เกลือ กระเทียม หอมแดง ตำทุกอย่างให้เข้ากัน ให้พอแหลกอย่างหยาบ ๆ
- ตักเครื่องที่โขลกไว้ลงในชามผสม ใส่ซอสหอยนางรม ผงปรุงรส น้ำตาล เกลือ คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
- แล่ปลานิลออกมาเป็นชิ้น ๆ จากนั้น ใส่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ใช้ผ้าขาวบางหรือพลาสติกแรปปิดเอาไว้ หัมกในตู้เย็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- หั่นกะหล่ำปลีเป็นแผ่น หรือ เส้นเล็ก ๆ ตามชอบ วางลงบนจานสำหรับนึ่ง วางเนื้อปลาลงไป นึ่งในซึ้งนึ่งขณะที่น้ำเดือดจัด ใช้ไฟแรง นึ่งเป็นเวลา 20 นาที จนกว่าเนื้อปลาจะสุก
- พอครบเวลา ให้โรยหน้าด้วยใบมะกรูดฉีก ผักชี ต้นหอม นึ่งต่ออีก 5 นาที เป็นอันเสร็จ
ปลานึ่งเต้าเจี้ยว
อีกหนึ่งสูตร ปลานึ่ง ที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารแบบจีน โดยการใช้เต้าเจี้ยวมาเป็นส่วนผสมในน้ำราด ทำให้แทนที่จะจิ้มทาน ก็สามารถตักเนื้อปลามารับประทานได้ทันที ใครชอบทานเนื้อปลาจิ้มกับเต้าเจี้ยว ต้องลอง !
ส่วนผสม
- ปลาทับทิมแล่เอาแต่เนื้อ 700 ก.
- ขึ้นช่าย 1 ต้น
- ต้นหอม 2 ต้น
- พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
- ขิงแก่ปอกเปลือก 20 กรัม
- กระเทียมใหญ่ปอกเปลือก 4 กลีบ
- เต้าเจี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- แล่เนื้อปลาออกเป็นชิ้น ๆ จากนั้น หั่นขึ้นฉ่าย ต้นหอม ออกเป็นท่อน ๆ เตรียมไว้
- หั่นกระเทียม ออกเป็นแว่น ๆ และซอยขิง พริกชี้ฟ้าแดง ออกเป็นเส้นเล็ก ๆ
- ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้นำเนื้อปลาทับทิมใส่จาน นึ่งในซึ้งนึ่งเป็นเวลา 10 นาที
- ทำน้ำเต้าเจี้ยว โดยเตรียมชามผสม ใส่เต้าเจี้ยว น้ำมันงา ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย พริกไทยป่น คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
- ตักน้ำเต้าเจี้ยวราดลงไปบนตัวปลาให้ทั่ว โรยหน้าด้วยขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดง กระเทียม ขึ้นฉ่าย ต้นหอม นึ่งต่ออีก 5 นาที
- จัดจาน วางเนื้อปลาลงไป ราดด้วยน้ำเต้าเจี้ยว แล้วโรยหน้าด้วยขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย เป็นอันเสร็จ
ปลานึ่งเต้าซี่
ปลานึ่งเต้าซี่ จะใช้เต้าซี่เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งเป็นถั่วดำที่ถูกหมักกับเกลือแบบบจีน ที่มีรสชาติเค็มมัน เมื่อนำมาทำน้ำราดผสมกับน้ำตาลและพริกไทย ก็ยิ่งทำให้มีรสชาติหวานและมีกลิ่นหอม เมื่อนำมาราดปลาแล้วนำไปนึ่ง ก็จะได้ปลานึ่งที่มีรสชาติถูกปาก อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง
ส่วนผสม
- ปลาจะละเม็ด ขาว 1 ตัว
- หมูสามชั้นเส้นยาว 1 ชิ้น หรือ เบคอนหั่น 1 แผ่น
- เต้าซี่ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- เห็ดหอม (แช่น้ำ) 3 ดอก
- น้ำแช่เห็ดหอม 1 ถ้วย
- ผักกาดขาว ลวกสุก 1/2 ถ้วย
- ขิงอ่อนซอยตามยาว 1/2 ถ้วย
- พริกชี้ฟ้า สีแดง ซอยเส้นยาว 1 เม็ด
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างปลาจะละเม็ด ให้สะอาด เสร็จแล้ว ซับให้แห้ง และใช้มีดบั้งบนเนื้อปลา เป็นริ้วทั้ง 2 ด้าน
- หั่นผักกาดขาว เป็นชิ้น ๆ วางบนจานสำหรับนึ่ง เสร็จแล้ว นำปลามาวางไว้ด้านบน
- จัดวางเห็ดหอม เบคอนหรือ หมู 3 ชั้น หั่นบาง ขิงอ่อนซอย ไว้ด้านบนเนื้อปลาอีกทีหนึ่ง
- ทำน้ำราด โดยเตรียมชามผสม ใส่ เต้าซี่ น้ำตาลทราย โรย พริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาราดปลาให้ทั่ว
- ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้วางจานปลาลงบนหม้อนึ่ง นึ่ง 8-15 นาที
- พอครบเวลา ให้ยกลง โรยด้วยพริกชี้ฟ้า และ ขึ้นฉ่าย ตกแต่งจานให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ
ปลานึ่งจิ้มแจ่ว
อยากทำปลานึ่ง แบบบ้าน ๆ ต้องเมนูนี้เลยกับ ปลานึ่งจิ้มแจ่ว สูตรจาก Youtuber ช่อง อร่อยพุง ที่ใช้ ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูดฉีก ยัดเข้าไปในท้องปลาเพื่อดับกลิ่นคาว เมื่อนึ่งปลาจนสุกแล้ว ก็จะได้ปลาที่สุกหอม พร้อมรับประทาน ยิ่งจิ้มทานคู่กับน้ำพริกแจ่ว ก็ยิ่งอร่อย หากใครชอบทานปลานึ่ง แบบง่าย ๆ แล้วละก็ ลองไปทำตามสูตรนี้ได้เลย
ส่วนผสมปลานึ่ง
- ปลาทับทิม 1 ตัว
- เกลือป่น
- มะนาว 1 ซีก
- ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูก หอมแดง สำหรับยัดไส้
- ผัก ตามชอบ
ส่วนผสมน้ำพริกแจ่ว
- พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
- พริกแดงจินดา+พริกเขียว 1 กำ
- กระเทียม 2 หัว
- หอมแดง 5 หัว
- มะเขือเทศเล็ก 3 ลูก
- น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือปลายช้อน
วิธีทำ
- นำปลาทับทิมมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น ใช้กระดาษทิชชู่ซับให้แห้ง บั้งเนื้อปลาเป็นริ้ว 3 ริ้ว แต่ละด้าน เสร็จแล้ว ผ่าท้อง หั่นข่า ตะไคร้ หอมแดง เป็นชิ้น ๆ ใส่เข้าไป ตามด้วยใบมะกรูดฉีก
- โรยเกลือ และบีบน้ำมะนาว ลงบนปลาทั้ง 2 ด้าน ต้มน้ำในซึ้งนึ่งให้เดือด เสร็จแล้ว นำปลาใส่จาน นึ่งในซึ้งนึ่งเป็นเวลา 10 นาที พอครบเวลา ให้นำผักใส่จาน นึ่งต่ออีก 5 นาที
- ทำน้ำพริกแจ่ว โดยนำ พริกชี้ฟ้าแดง พริกแดงจินดา กระเทียม พริกขี้หนูสวน หอมแดง มะเขือเทศ ไปย่างให้พอไหม้ เสร็จแล้ว นำทุกอย่างมาใส่ครก โขลกให้ละเอียด
- ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำปลาร้า และเกลือ โขลกทุกอย่างให้เข้ากัน
- จัดจาน วางเนื้อปลาใส่จาน พร้อมผักตามชอบ ตักน้ำพริกแจ่วใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กัน เป็นอันเสร็จ
ส่วนใครที่ซื้อปลามาแล้ว อยากจะแล่เนื้อเก็บไว้ สำหรับทำเมนูอื่น ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด แล้วอยากจะเก็บเนื้อปลาให้ยังคงมีความสดใหม่ แม้ผ่านไปแล้วหลายวัน แนะนำให้เก็บในบรรจุภัณฑ์อาหารแบบ ถุงซีลสุญญากาศ ของ SGE เพราะผลิตจากพลาสติกแบบ Food Grade คุณภาพดี เนื้อเหนียว แน่นหนา ช่วยป้องกันอากาศและแบคทีเรียไม่ให้สัมผัสกับวัตถุดิบโดยตรง จึงช่วยให้เก็บไว้ได้นาน และสามารถนำมาประกอบอาหารได้ในวันถัด ๆ ไป
นอกจากนี้ ยังนำไปแช่แข็ง หรือ อุ่นในไมโครเวฟได้แบบไร้ปัญหา ไม่มีปัญหากรอบแตก หรือเสื่อมสภาพ สามารถทนต่ออุณหภูมิติดลบและความร้อนได้เป็นอย่างดี จึงช่วยให้คุณนำวัตถุดิบออกมาทำอาหารได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือ เครื่องเทศต่าง ๆ หากสนใจ ถุงซีลสุญญากาศ ของ SGE สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sgethai.com/vacuum-bags/ หรือ สอบถามเพิ่มเติมทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย
30 มกราคม 2024
โดย
Pres