7 สูตร น้ำจิ้ม รสเด็ด ทำกินทำขาย สร้างรายได้แบบยั่งยืน
น้ำจิ้ม ถือเป็นเคล็ดลับที่ทำให้อาหารไทย อร่อยไม่มีใครเหมือน ซึ่งด้วยวัตถุดิบและเครื่องเทศที่มีอย่างหลากหลาย ทำให้มีการผสมผสานออกมา จนมีรสชาติมากมาย ไม่ว่าจะเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ก็ล้วนมีทั้งหมด
หากใครกำลังมองหาสูตร น้ำจิ้ม รสเด็ด เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหารมื้อโปรด ไมว่าจะสุกี้ ชาบู บุฟเฟ่ปิ้งย่าง หมูย่าง เนื้อย่าง ลูกชิ้นปิ้ง หรือว่าจะนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อทำมาค้าขาย SGE จะมาบอกสูตรน้ำจิ้มยอดฮิต ให้ได้ไปลองทำกัน รับรองว่า รสชาติเด็ด ไม่แพ้ร้านอาหารดัง แถมยังทำเก็บไว้กินได้ไม่อั้น จะมีน้ำจิ้มสูตรอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยน้ำจิ้มสุกี้
กินสุกี้ทั้งที จะให้อร่อย ก็ต้องมี น้ำจิ้มสุกี้ มากินคู่กัน ถึงจะเด็ด ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีน้ำจิ้มสุกี้แบบสำเร็จรูป ให้หาทานกันได้สะดวกแล้วในปัจจุบัน แต่รสชาติจากเครื่องจักรหรือจะอร่อยเท่ากับเราทำเอง ซึ่งด้วยส่วนผสมที่อัดแน่นมาทั้ง เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด จะทำให้จิ้มกับอะไรก็อร่อย แถมยังช่วยชูรสน้ำซุปสุกี้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสม
- กระเทียม 50 กรัม
- พริกแดงจินดา 30 กรัม
- น้ำส้มสายชู 30 ml. (3 ช้อนโต๊ะ)
- ซีอิ้วขาว 30 ml. (3 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำตาลทราย 120 กรัม (7 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำกระเทียมดอง 30 ml. (3 ช้อนโต๊ะ)
- กระเทียมดอง 10 กรัม (1 หัว)
- เต้าหู้ยี้ 30 กรัม (2 ก้อน) + น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสพริก 350 กรัม
- ซอสมะเขือเทศ 70 กรัม
- น้ำ 150 ml.
- งาคั่ว 40 กรัม
- น้ำมันงา 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เตรียมครกกับสาก นำงาคั่วใส่ครก แล้วตำให้พอมีเสียงแตก เสร็จแล้วพักรอไว้
- นำเครื่องปั่นออกมา ใส่กระเทียม พริกแดงจินดา เต้าหู้ยี้ 2 ก้อน น้ำเต้าหู้ยี้ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำกระเทียมดอง พร้อมกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ ลงไป เสร็จแล้วเปิดเครื่อง ปั่นให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
- เทใส่หม้อต้ม ใส่น้ำเปล่าลงในเครื่องบด เพื่อเอาส่วนผสมที่เหลืออยู่ออกมา เสร็จแล้ว ใส่ซอสมะเขือเทศ 70 กรัม ซอสพริก 350 กรัม คนให้ทุกอย่างเข้ากัน
- เปิดเตา ใช้ไฟกลางค่อนไฟอ่อน ใช้ไม้พายคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเดือด การคนให้คนถึงก้นหม้อ คนไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจิ้มจะเริ่มหมดกลิ่นน้ำส้มสายชู ใช้เวลา 7 – 8 นาที
- เมื่อน้ำจิ้มหมดกลิ่นน้ำส้มสายชูและเดือดดีแล้ว ใส่งาคั่วลงไป ตามด้วยน้ำมันงา 3 ช้อนโต๊ะ คนผสมให้ทั่วกัน เป็นอันเสร็จ
น้ำจิ้มแจ่ว
น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มสไตล์อีสานรสเด็ด ที่จิ้มกับอะไรก็อร่อย ด้วยรสชาติเปรี้ยว เค็ม แถมความเผ็ดที่มาเต็มร้อย ทำให้กลายเป็นน้ำจิ้มที่คนอีสานนิยมเสิร์ฟคู่กับอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอหมูย่าง เสือร้องไห้ และเมนูอีสานอื่น ๆ ซึ่งด้วยความอร่อยจัด ร้านชาบู ปิ้งย่าง ยังได้นำน้ำจิ้มแจ่ว มาเป็นทางเลือกสำหรับคอน้ำจิ้ม จนแทบเป็นน้ำจิ้มหลักแทนน้ำจิ้มสุกี้ธรรมดาไปเลย
ส่วนผสม
- พริกป่น 2 ช้อนยาว
- น้ำตาล 1 ช้อนยาว
- น้ำปลา 3 ช้อนยาว
- หอมแดง 1 หัว
- ต้นหอม 1 ต้น
- มะนาว 2 ลูก
- ข้าวคั่ว 1/2 ช้อนยาว
วิธีทำ
- เตรียมถ้วยผสมน้ำจิ้ม ใส่พริกป่น 2 ช้อนยาว น้ำตาล 1 ช้อนยาว น้ำปลา 3 ช้อนยาว แล้วใช้ช้อนคน จนกว่าน้ำตาลจะละลายเข้ากัน
- ซอยหอมแดง ต้นหอม ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไป
- หั่นมะนาวผ่าครึ่ง 2 ลูก เสร็จแล้วบีบน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัส่วนผสมที่เหลือ
- ใส่ข้าวคั่ว 1/2 ช้อนยาว ปิดท้าย ถ้ามีต้นหอมเหลือก็ใส่ตามลงไป เป็นอันเสร็จ
น้ำจิ้มซีฟู้ด
กินอาหารทะเล ต้องกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเท่านั้น ถึงจะอร่อย เพราะด้วยรสชาติที่เผ็ดแซ่บจากพริกขี้หนูสวน บวกกับความเปรี้ยวจากธรรมชาติที่ได้จากน้ำมะนาว ทำให้ไม่ว่าจะกินกับกุ้ง หอย ปู หรือปลาหมึก ก็แซ่บลืม อร่อยหมด สูตรนี้ สามารถทำได้ 2 แบบ คือ ถ้าอยากได้น้ำจิ้มซีฟู้ดสีเขียว ก็ใช้พริกขี้หนูสวนสีเขียว แต่ถ้าอยากได้สีแดง ให้ใช้พริกขี้หนูสวนสีแดง
ส่วนผสม
- พริกขี้หนูเขียว 15 เม็ด
- พริกแดงจินดา 3 เม็ด
- กระเทียม 15 กลีบ
- รากผักชี 1-2 ราก
- ผักชี 1-2 ต้น
- น้ำมะนาว 5 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 5 ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เตรียมเครื่องปั่น ใส่พริกขี้หนูเขียว 15 เม็ด กระเทียม 15 กลีบ ลงไป
- นำรากผักชี 2 ราก ต้นผักชี มาหั่นหยาบ ๆ ใส่ลงไปในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำมะนาว 5 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้ว ปั่นให้เข้ากันพอหยาบ
- ใส่น้ำปลา 5 ½ ช้อนโต๊ะ เปิดเครื่องปั่นอีกครั้ง
- เพิ่มสีสันด้วย พริกแดงจินดา 3 เม็ดลงไป ปั่นจนกว่าพริกแดงจินดาละเอียด เป็นอันเสร็จ
น้ำจิ้มหมูกระทะ
กินหมูกระทะ ไม่ใช่กินแค่เนื้อสัตว์ ปิ้งสุกถึงจะอร่อย แต่ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มหมูกระทะ ที่มีรสชาติเผ็ดนิดหวานหน่อย ถึงจะช่วยชูรสให้ทานได้อร่อยขึ้น ซึ่งยิ่งเพิ่มกระเทียมและพริกเข้าไปตามความต้องการของแต่ละคน ก็จะช่วยให้การกินหมูกระทะมื้อนั้น ฟินขึ้นกว่าเดิม
ส่วนผสม
- น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 270 กรัม
- เกลือแกง 60 กรัม
- น้ำเปล่า 300 กรัม
- น้ำกระเทียมดอง 150 กรัม
- น้ำมะนาวขวดสำเร็จรูป 60 กรัม
- กระเทียม 200 กรัม
- พริกแดงจินดา 170 กรัม
- ถั่วตัดบดละเอียด 170 กรัม
- งาขาวคั่ว บุบให้แตก 20 กรัม
วิธีทำ
- ใส่น้ำตาลทราย เกลือแกง น้ำเปล่า น้ำกระเทียมดอง น้ำมะนาวขวดสำเร็จรูป ลงในหม้อคน ผสมให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง คนผสมตลอดเวลาจนเดือด
- เตรียมเครื่องปั่น ใส่กระเทียม พริกแดงจินดา ลงไปปั่นให้ละเอียด ทีละอย่าง ๆ
- นำชามผสมอาหารออกมา ใส่กระเทียม พริกแดงจินดา ที่ปั่นละเอียดใส่ลงไป ตามด้วยถั่วตัดบด
- นำน้ำที่ปรุงไว้ขั้นตอนแรก ใส่ลงไป ตามด้วยน้ำมะนาวคั้นสด 60 กรัม งาขาวคั่ว
- ใส่ผักชีหั่น 20 กรัม เสร็จแล้วคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน เป็นอันเสร็จ
น้ำจิ้มอาจาด
หนึ่งในน้ำจิ้มรสเด็ด ที่หาทานได้ไม่ง่ายนัก สำหรับน้ำจิ้มอาจาด เพราะมักจะเสิร์ฟคู่กับอาหารไม่กี่อย่าง เช่น ทอดมัน โรตี หมูสะเต๊ะ ซึ่งด้วยรสชาติเปรี้ยวและหวาน ผสมกับเครื่องเคียง ไม่ว่าจะเป็นหอมแดงหรือแตงกวา ทำให้การกินของทอดเหล่านี้ไม่เคยน่าเบื่อเลย สูตรนี้ถ้าทำไว้เยอะ ยังเก็บไว้รับประทานได้นานอีกด้วยนะ
ส่วนผสม
- น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- แตงกวาซอย
- หอมแดงซอย
- พริกชี้ฟ้าแดงเม็ดใหญ่ซอย
วิธีทำ
- เตรียมหม้อต้ม ใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย ตามด้วยเกลือ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
- เปิดเตา ใช้ไฟกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย เมื่อต้มจนเดือดแล้วจึงปิดไฟ พักไว้ รอให้เย็น
- เตรียมถ้วยน้ำจิ้ม ใส่แตงกวาซอย หอมแดงซอย พริกชี้ฟ้าซอย แล้วเทน้ำเชื่อมลงไป เป็นอันเสร็จ
น้ำจิ้มลูกชิ้น
ใครชอบกินลูกชิ้นปิ้ง แล้วชอบราดน้ำจิ้มรสเผ็ด ห้ามพลาด เพราะสูตรนี้ถอดมาจากร้านลูกชิ้นรสเด็ดเหมือนเปี๊ยบ ซึ่งด้วยส่วนผสมของพริกแดงจินดาที่นำไปปั่นกับน้ำจนละเอียด ผสมกับน้ำมะขามเปียก น้ำตาลอ้อย น้ำตาลทราย น้ำกระเทียมดอง ซีอิ๊วดำ เกลือ และผงชูรสอีกนิดหน่อย จะทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ด แบบแซ่บจี๊ดถึงใจแน่นอน หมดปัญหาแม่ค้าเหนียวน้ำจิ้ม ทำเองไว้กินเท่าไหร่ ก็พอแน่นอน
ส่วนผสม
- พริกแดงจินดา 200 กรัม
- มะเขือเทศ 400 กรัม
- น้ำมะขามเปียก 65 มล
- น้ำตาลทรายแดง 130 กรัม
- น้ำตาลอ้อย. 400 กรัม
- กระเทียมดอง 1 แก้ว หรือ 220 มล
- ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 30 กรัม
- ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี 7 ราก
- กระเทียมจีน 7 กลีบ
- ผักชีหั่นซอย โรยน้ำจิ้ม.
- เอาส่วนต้นจากที่เอารากไปตำกับกระเทียม
- น้ำเปล่าปั่นกับพริก. 200 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
วิธีทำ
- เตรียมครกและสาก ใส่กระเทียม รากผักชีลงไป ตำให้ทั้งสองอย่างละเอียด
- เตรียมเครื่องปั่น ใส่พริกแดงจินดา น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร ลงไป ปั่นให้เข้ากัน
- เตรียมชามผสมอาหาร ใส่น้ำที่ปั่นกับพริกลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลอ้อย เกลือ น้ำกระเทียมดอง ซีอิ๊วดำ น้ำมะขามเปียก มะเขือเทศหั่นซอย รากผักชีและกระเทียมที่ตำไว้ เสร็จแล้ว คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
- เปิดเตา ใช้ไฟอ่อนค่อนไฟกลาง เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจิ้มจะข้นเหนียว งวดและเนื้อมะเขือเทศละลายดี
- ตักเสิร์ฟได้ โรยผักชีไว้ด้านบน เป็นอันเสร็จ
น้ำจิ้มน้ำปลาหวาน
มะม่วงมันรสเปรี้ยว กินโดด ๆ ก็อร่อย แต่ถ้าได้จิ้มกับน้ำจิ้มที่มีรสชาติหวานและเผ็ดปะแล่ม ๆ มาตัดรสเปรี้ยวหน่อย ก็จะทำให้กินมะม่วงมันได้อร่อยขึ้น ใครชอบกินมะม่วงหรือปลูกต้นมะม่วงไว้ที่บ้าน และออกผลเยอะ ถ้าเก็บไว้กินเอง ก็อย่าลืมทำน้ำจิ้มน้ำปลาหวานไว้ทานกันที่บ้าน รับรองว่า พอกินคู่กันแล้ว อร่อยจนห้ามมือไว้ไม่อยู่แน่นอน
ส่วนผสม
- น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
- น้ำปลาอย่างดี 5 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งแห้งขาวฝอย ¼ ถ้วยตวง
- กุ้งแห้ง
- หอมแดงซอยบาง 5 หัว
- พริกขี้หนูสวนซอย ปริมาณตามชอบ
- พริกแดงจินดาแห้ง
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำตาลปี๊บ ลงให้หมด ตามด้วยน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อช่วยละลาย เคี่ยวจนกว่าน้ำตาลจะละลายทั้งหมด
- ใส่น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวให้น้ำปลาเข้ากันกับน้ำตาล
- ใส่กุ้งแห้งขาวฝอย หอมแดงซอย คนให้เข้ากัน
- .ใส่พริกขี้หนูซอย กุ้งแห้ง พริกแดงจินดาแห้ง เคี่ยวต่อไป จนน้ำปลาหวานงวดดีแล้ว จึงปิดไฟ ยกลง ทิ้งไว้สักพักให้ฟองหายไป
- ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ เป็นอันเสร็จ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
30 มกราคม 2024
โดย
Pres