8 เมนูปลากระพง เนื้อแน่นหวานอร่อย ดีต่อสุขภาพ

เมนูปลากระพง มีอะไรบ้าง เมื่อปลาชนิดนี้ เป็นปลาที่นิยมของผู้บริโภค และสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ซึ่งถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีทำ ปลากระพง ให้ออกมาอร่อยอยู่ละก็ SGE มีเมนูปลากระพงมาฝากถึง 8 สูตรด้วยกัน รับรองว่า อร่อยและทำง่ายทุกสูตรแน่นอน

ปลากระพงผัดพริกขี้หนูสวน

เมนูปลากระพง ที่ให้รสชาติเผ็ด แซ่บซี้ดถึงใจ เหมาะกับเป็นกับข้าวยามเย็นในครอบครัว วิธีทำก็ง่าย  ๆ เพียงแค่ปลากระพงไปทอดกรอบ จากนั้น ผัดคลุกเคล้ากับซอสผัดที่มีพริกขี้หนูสวนเป็นวัตถุดิบหลัก เท่านี้ ก็จะได้กับข้าวง่าย ๆ จากปลากระพงไว้ทานกันได้ทั้งครอบครัวแล้ว

ส่วนผสม

• เนื้อปลากระพง 1 กิโลกรัม
• กระเทียมสับ 1 หัว
• พริกขี้หนูสวนสับ ตามชอบ
• แป้งทอดกรอบ 2-3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ
• ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง
2. แล่เนื้อปลา แต่ละด้านออกมา โดยใช้มีด เลาะตามครีบด้านบน ไปจนถึงหางปลา แล้วใช้มีดเลาะเนื้อปลาตรงส่วนหัว ปาดยาวไปตามท้องปลา ก็จะได้เนื้อปลา แต่ละด้านออกมา
3. หั่นเนื้อปลาแต่ละด้าน ออกเป็นชิ้น ๆ โดยหั่นครึ่งก่อน จากนั้น หั่นตามแนวเฉียง ให้หนาประมาณ 3 เซนติเมตร แล้วนำเนื้อปลามาคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่ว ๆ
4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน วอร์มน้ำมันให้ร้อน พอน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ใส่เนื้อปลาลงไป ทอดให้เนื้อปลากรอบ จนมีสีเหลืองทอง เสร็จแล้ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
5. ผสมซอสผัด โดยเตรียมถ้วยผสม ใส่น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน
6. ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำมันลงไป เปิดไฟกลางค่อนไฟแรง ใส่กระเทียมสับ และพริกขี้หนูสวนสับ อย่างละครึ่งหนึ่งลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้น เทซอสผัดลงไป เคี่ยวให้ซอสมีความข้นเหนียว
7. พอซอสมีความข้นเหนียวดีแล้ว ให้ปิดแก็ส ใส่เนื้อปลาทอดลงไป คลุกเคล้ากับซอสผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ให้ใส่กระเทียมสับ พริกขี้หนูสวนที่เหลือลงไป คลุกเคล้าอีกเล็กน้อย เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลากระพงผัดพริกขี้หนูสวน เพิ่มเติมคลิก

ปลากระพงทอดสมุนไพร

เบื่อทำ ปลากระพงทอดน้ำปลา กันแล้วใช่มั้ยล่ะ ถ้ายังงั้นมาลองทำเมนู ทอดแบบสมุนไพรกันบ้าง ประกอบด้วยกระชาย ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกไทยอ่อน พริกทอด ซึ่งยิ่งโรยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไว้ทานคู่กันแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มผิวสัมผัสกรุบกรอบ ทำให้ทาน เมนูปลากระพง นี้ได้อร่อยมากขึ้น

วัตถุดิบ

• ปลากระพง
• เกลือ
• แป้งทอดกรอบ
• หอมแดง
• ตะไคร้
• ใบมะกรูด
• กระชาย
• พริกไทยอ่อน
• พริกแดงจินดา
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์

ส่วนผสมน้ำจิ้ม

• น้ำตาลปี๊บเคี่ยว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 3 ช้อน
• มะนาว 2 ลูก
• พริกขี้หนูสับ
• หอมแดง
• กุ้งแห้ง
• มะม่วงซอย
• ผักชี

วิธีทำ

1. ทำความสะอาดปลากระพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง
2. แล่เนื้อปลา แต่ละด้านออกมา โดยใช้มีด เลาะตามครีบด้านบน ไปจนถึงหางปลา แล้วใช้มีดเลาะเนื้อปลาตรงส่วนหัว ปาดยาวไปตามท้องปลา ก็จะได้เนื้อปลา แต่ละด้านออกมา
3. หั่นเนื้อปลาแต่ละด้าน ออกเป็นชิ้น ๆ โดยหั่นครึ่งก่อน จากนั้น หั่นตามแนวเฉียง ให้หนาประมาณ 3 เซนติเมตร
4. นำเนื้อปลาและโครงปลา มาคลุกเกลือ และ แป้งทอดกรอบ โดยแป้งให้คลุกบาง ๆ ไม่ต้องคลุกจนแป้งติดหนามาก
5. เตรียมเครื่องสมุนไพร โดยหั่นตะไคร้ออกเป็นท่อน ๆ แล้วโขลกให้ละเอียด จนเป็นเส้นฝอย ๆ แล้วนำกระชายมาคลุกแป้งทอดกรอบ
6. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน แล้วเปิดไฟกลาง ใส่หอมแดง ลงไป เจียวจนกว่าจะออกสีเหลืองทอง แล้วตักใส่กระชอนขึ้นมาพักไว้ ตามด้วยตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย พริกไทยอ่อน พริกแดงจินดา (ให้ทอดเสร็จเป็นอย่าง ๆ ) โดยทอดจนกว่าจะสุกหรือมีสีเหลืองกรอบ ตักใส่กระชอนขึ้นมาพักไว้
7. ใส่โครงปลาลงไป ทอดจนกว่าจะมีสีเหลืองกรอบ ทั้ง 2 ด้าน เสร็จแล้วใส่กระชอนขึ้นมาพักไว้
8. ใส่เนื้อปลาลงไป ทอดจนกว่าจะมีสีเหลืองกรอบ เสร็จแล้วใส่กระชอนขึ้นมาพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำมัน
9. จัดจาน วางโครงปลาลงไปก่อน ตามด้วยเนื้อปลา ตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย พริกไทยอ่อน พริกทอด หอมเจียว โรยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ปิดท้าย

วิธีทำน้ำจิ้ม

1. เตรียมถ้วยน้ำจิ้ม แล้วใส่น้ำตาลปี๊บเคี่ยว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อน น้ำมะนาว 2 ลูก พริกขี้หนูสับ หอมแดง ลงไป
2. ใส่กุ้งแห้ง มะม่วงซอย โรยหน้าด้วยผักชี คลุกคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลากระพงทอดสมุนไพร เพิ่มเติมคลิก

ปลากระพงผัดกระเทียม

ใครอยากทำ เมนูปลากระพง ผัดแบบง่าย ๆ แนะนำเมนูนี้เลยกับ ปลากระพงผัดกระเทียม ที่ความหอมของกระเทียม จะช่วยทำให้เมนูนี้น่ารับประทานแบบสุด ๆ แถมยังได้รับประโยชน์ทางสุขภาพแบบเต็ม ๆ อีกด้วย

ส่วนผสม

• เนื้อปลากระพง 300 กรัม
• กระเทียม(จีน) 1-2 หัว
• แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำเนื้อปลากระพงมาคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่ว ๆ
2. ผสมซอสสำหรับผัด โดยเตรียมถ้วยผสม ใส่ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
3. ทอดปลาให้สุกกรอบ โดยให้ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่ แล้วใส่เนื้อปลากระพงลงไป ทอดให้สุกกรอบ จนมีสีเหลืองทอง
4. ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย สำหรับผัด ใส่กระเทียมจีนลงไป (ไม่ต้องสับ) ผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้น ใส่ซอสผัดลงไป เคี่ยวให้ซอสมีความข้นหนืดและร้อนได้ที่
5. พอซอสข้นหนืดได้ที่แล้ว ให้ปิดแก็ส ใส่เนื้อปลาทอดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลากระพงผัดกระเทียม เพิ่มเติมคลิก

ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว

เป็น เมนูปลากระพง แบบภัตตาคารหรู ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน เพียงแค่นำปลากระพงไปนึ่งให้สุก จากนั้น หั่นขิงแก่ ต้นหอม ขึ้นฉ่าย พริกชี้ฟ้าแดง เป็นเส้น ๆ แล้วมาผัดให้มีกลิ่นหอม ราดด้วยน้ำซีอิ๊วที่ถูกเคี่ยวจนเดือด เพียงเท่านี้ ก็จะได้เมนูราคาหลักพัน ในวัตถุดิบราคาแค่หลักร้อยแล้ว

ส่วนผสม

• ปลากระพง 1 ตัว(800-1000 กรัม)
• ขิงแก่ 1 แง่ง
• ต้นหอม 5 ต้น
• ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
• พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด
• น้ำมันสำหรับผัด 2-3 ช้อนโต๊ะ
• ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
• เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด ผ่าท้องแล้วควักไส้ และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง เมื่อแห้งแล้ว ให้ใช้มีด บั้งเนื้อปลา 3 บั้ง แต่ละด้าน เท่า ๆ กัน
2. เตรียมซึ้งนึ่ง โดยต้มน้ำร้อนให้ร้อนจัด ด้วยไฟแรง จากนั้น นำปลากระพงใส่จานที่จะจัดเสิร์ฟ วางลงในซึ้งนึ่ง นึ่งปลาจนสุก ใช้เวลาประมาณ 10-12 นาที
3. ปอกเปลือกขิง หั่นขิงเป็นแว่น ๆ แล้วซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ จากนั้น นำพริกชี้ฟ้าแดงมาผ่าครึ่ง เอาส่วนที่เป็นเมล็ดออก แล้วหั่นซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ
4. นำต้นหอม มาตัดเอาส่วนโคนแยกออกจากส่วนใบ แล้วหั่นโคนต้นหอมออกเป็นเส้น ๆ ส่วนใบต้นหอมให้หั่นออกเป็นท่อน ๆ ขนาดเท่ากัน เช่นเดียวกับขึ้นฉ่าย ให้ทำแบบเดียวกัน
5. เตรียมทำน้ำราดซีอิ๊ว โดยตั้งกระทะ เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป กลิ้งจนน้ำมันเคลือบกระทะทั้งหมด พอน้ำมันร้อนจัด จนมีไอร้อนขึ้นมาแล้ว ให้ใส่ ขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย ขึ้นฉ่ายซอย ต้นหอมซอย ลงไป ผัดให้เข้ากัน แค่ให้พอมีกลิ่นหอม พอผักสลดดีแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วนำผักเหล่านี้ มาโรยไว้บนตัวปลาตัวกระพง
6. ตั้งกระทะใหม่ (ยังไม่ต้องเปิดไฟ) ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ลงไป จากนั้น เปิดไฟกลางค่อนไฟแรง คนและผัดซอสให้เข้ากัน จนกว่าจะเดือดและข้นได้ที่ ระหว่างนี้ ให้คอยคนเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ไหม้
7. เมื่อซอสข้นเหนียวได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ นำน้ำซีอิ๊วมาราดลงบนตัวปลากระพง เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว เพิ่มเติมคลิก

ต้มยำปลากระพง

ถ้าเบื่อ ต้มยำกุ้ง แล้ว แนะนำให้ลองทำ ต้มยำปลากระพง เพราะนอกจากจะได้ทานน้ำต้มยำแบบใส ๆ ที่ได้รสชาติของเครื่องต้มยำแบบเต็ม ๆ แล้ว ยังได้กินเนื้อปลากระพง แบบแน่น ๆ เต็มคำอีกด้วย ทำให้เป็น เมนูปลากระพง ที่ใครได้ทาน ก็ต้องชื่นชอบ

ส่วนผสม

• ปลากระพง 1 ตัว
• ข่าอ่อน 5 แว่น
• ตะไคร้ 3 ต้น
• ใบมะกรูด 4 ใบ
• หอมแดง 2 หัว
• มะเขือเทศหั่นซีก 1 ลูก
• ผักชีฝรั่งหั่น 1 ต้น
• น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
• พริกขี้หนูสวน 15 กรัม
• พริกแห้ง 10 กรัม

วิธีทำ

1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ประมาณครึ่งหนึ่ง จากนั้น เปิดไฟแรง ต้มน้ำให้เดือด
2. จากนั้น ใส่ข่าอ่อน ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง มะเขือเทศลงไป รอ 3-4 นาที เพื่อให้น้ำต้มยำมีกลิ่นหอม
3. ใส่เนื้อปลากระพงลงไป ต้มให้เนื้อปลาสุก ใช้เวลา 5-8 นาที ระหว่างต้มให้คอยช้อนฟองที่ลอยขึ้นมา เพื่อให้น้ำต้มยำมีความใส
4. เมื่อเนื้อปลาสุกแล้ว ให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน ใส่เกลือ พริกขี้หนูสวน คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักหนึ่ง แล้วให้ปิดไฟ
5. ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาล น้ำปลา คนให้น้ำตาลละลาย แล้วใส่น้ำมะนาว ลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้น โรยผักชีฝรั่ง และพริกแห้ง ตกแต่งปิดท้าย เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ต้มยำปลากระพง เพิ่มเติมคลิก

ปลากระพงทอดน้ำปลา

หากนึกถึง เมนูปลากระพง แบบทอด ปลากระพงทอดน้ำปลา คงเป็นเมนูอันดับ 1 ที่ใคร ๆ ก็นึกถึง เพราะเนื้อแน่น เต็ม ๆ คำ ผสมกับหนังปลาทอด ที่ถูกทอดจนกรุบกรอบ เลยกลายเป็นเมนูประร้าน ที่ใคร ๆ ก็ต้องสั่ง สำหรับสูตรนี้ มาพร้อมกับวิธีทำยำมะม่วงไว้ทานเป็นเครื่องเคียงด้วย รับรองว่าทำขายแล้ว ขายดีแน่นอน

ส่วนผสมปลากระพงทอดน้ำปลา

• ปลากระพง 1 ตัว
• น้ำมันพืช(สำหรับทอดปลา)
• น้ำปลาแท้ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมยำมะม่วง

• มะม่วงขูดเส้น 1 ถ้วยตวง
• หอมแดง(ไทย) 3-4 หัว
• พริกขี้หนู/พริกแดงจินดา 4-5 เม็ด
• ขึ้นฉ่าย 1 ต้น
• เม็ดมะม่วงหิมพานตามชอบ
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำปลากระพงทอดน้ำปลา

1. ทำความสะอาดปลากะพง โดยการถอดเกล็ด และ ถอดเหงือกออก ให้เรียบร้อย จากนั้น นำเกลือมาทาให้ทั่ว แล้วใช้น้ำล้างออก ซับด้วยกระดาษทิชชู่ซับมันให้แห้ง
2. แล่เนื้อปลา เพื่อให้ปลาแผ่ออก โดยใช้มีด เลาะตามครีบด้านบน ไปจนถึงหางปลา จากนั้น ให้ตั้งตัวปลาแล้วผ่าครึ่ง ก็จะได้ตัวปลาที่แผ่ออกแล้ว เสร็จแล้ว ให้ควักเอาเครื่องในปลาและกระดูกปลาออกให้เรียบร้อย
3. นำปลากระพงไปล้างน้ำ ทำความสะอาด จากนั้น ใช้กระดาษทิชชู่ซับเนื้อปลาให้แห้ง
4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ท่วม เปิดไฟแรง วอร์มให้น้ำมันร้อนได้ที่ พอได้ที่แล้ว ให้ใส่ปลากระพงลงไป ทอดจนด้านหนึ่งกรอบ มีสีเหลืองทองแล้ว ค่อยพลิกกลับมาทอดอีกด้าน ใช้เวลาทอดแต่ละด้าน ประมาณ 5-10 นาที พอสุกกรอบทั้ง 2 ด้านแล้วให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
5. ทำน้ำปลาสำหรับราด โดยตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วเปิดไฟกลางค่อนไฟแรง คนให้น้ำตาลปี๊บละลาย เมื่อน้ำปลาเดือดแล้ว ให้ปิดเตา แล้วตักน้ำปลาราดปลากระพง

วิธีทำยำมะม่วง

1. นำมะม่วงมาขูดเป็นเส้น ๆ และนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไปคั่วในกระทะให้มีกลิ่นหอม
2. หั่นหอมแดง ขึ้นฉ่าย พริกขี้หนูซอย เตรียมไว้
3. เตรียมถ้วยสำหรับใส่ยำมะม่วง ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลปี๊บละลายเข้ากัน
4. ใส่มะม่วงขูดเส้น หอมแดง ขึ้นฉ่าย พริกขี้หนูซอย คนให้เข้ากัน จากนั้น โรยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไว้ด้านบน เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลากระพงทอดน้ำปลา เพิ่มเติมคลิก

สเต็กปลากระพงย่าง

อีกหนึ่ง เมนูปลากระพง ที่ทำง่ายและดีต่อสุขภาพ สำหรับ สเต็กปลากระพงย่าง ที่เพียงแค่นำปลากระพงไปย่างให้สุก ก็พร้อมทานแล้ว แต่ถ้าหากใครอยากจะเพิ่มรสชาติและสีสันให้มากขึ้น สามารถนำผัก ไม่ว่าจะเป็นพริกหวานสีเหลือง-แดง กระเทียมต้น เห็ดออรินจิ ซูกินี มาทานคู่กัน รับรองว่า นอกจากจะเพิ่มความสวยหรูให้กับจานแล้ว ยังช่วยเพิ่มมูลค่าอาหารจานนี้ให้มากขึ้นได้อีกด้วย

ส่วนผสม

• เนื้อปลากระพงแล่ 1 ชิ้น
• พริกหวานเหลือง
• พริกหวานแดง
• กระเทียมต้น
• เห็ดออรินจิ
• ซูกินี
• ออริกาโน่ป่น

วิธีทำ

1. ใช้มีดบั้งหนังปลาด้านบน จากนั้น โรยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก ทั้ง 2 ด้าน
2. ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง นำเนื้อปลากระพงลงไปย่าง โดยเริ่มจากด้านหนังปลาก่อน พอสุกแล้ว ค่อยพลิกกลับด้าน ย่างเนื้อปลาให้สุก พอสุกแล้วให้ตักขึ้นพักไว้
3. หั่นซูกินี กระเทียมต้น เห็ดออรินจิ จากนั้น โรยเกลือ พริกไทย แล้วนำไปย่างให้สุก
4. หั่นพริกหวานเหลือง พริกหวานแดง ลงไปย่างรวมกัน
5. จัดจาน ตักผักต่าง ๆ ไว้ด้านล่าง ซ้อนกันขึ้นมาเป็นชั้น ๆ ตามเนื้อปลากระพงไว้ด้านบน โรยออริกาโน่ป่นลงไป เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ สเต็กปลากระพงย่าง เพิ่มเติมคลิก

ปลากระพงผัดขึ้นฉ่าย

เมนูปลากระพง ประจำร้านข้าวต้ม ที่ร้านไหนไม่ดีไม่ได้เลย เพราะกลิ่นของขึ้นฉ่ายจะทำให้ปลากระพงมีกลิ่นหอม ทานกับข้าวต้มแล้ว ยิ่งอร่อย สำหรับสูตรนี้ไม่ได้ใช้เครื่องเทศเยอะ แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความหอมให้มากขึ้น แนะนำให้ใส่ขิงลงไปด้วย อร่อยมากขึ้นแน่นอน

ส่วนผสม

• เนื้อปลากระพง
• หอมใหญ่ / ขึ้นฉ่าย / ต้นหอม (ตามชอบ)
• กระเทียม / พริก (ตามชอบ)
• แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 1 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว นิดหน่อย
• เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำเนื้อปลามาคลุกกับแป้งมันให้ทั่ว ๆ จากนั้น ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป วอร์มน้ำมันให้ร้อนได้ที่แล้ว ให้ใส่เนื้อปลาลงไป ทอดจนเนื้อปลาสุกกรอบ มีสีเหลืองทองแล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. หั่นขึ้นฉ่าย หอมใหญ่ ต้นหอม เตรียมไว้
3. ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียม เต้าเจี้ยว ผัดให้มีกลิ่นหอม
4. ใส่พริกขี้หนู หอมใหญ่ แครอท ลงไป ผัดให้เข้ากัน
5. ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำตาล แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน
6. ใส่เนื้อปลาทอดลงไป ตามด้วยขึ้นฉ่าย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

ดูวิธีทำ ปลากระพงผัดขึ้นฉ่าย เพิ่มเติมคลิก

สำหรับใครที่ซื้อปลากระพงมา แล้วใช้ประกอบอาหารได้ไม่หมด อยากจะแล่เนื้อปลาเก็บไว้ใช้ในมื้อถัด ๆ ไป โดยที่ยังคงความสดใหม่เอาไว้ แนะนำให้เก็บใส่ถุงร้อน หรือ ถุงซีลสุญญากาศ แล้วใช้เครื่องซีลสุญญากาศของ SGE ซีลปากถุง เพราะใช้งานได้สะดวก สามารถซีลถุงได้ในระยะเวลาไม่ถึง 1 นาที ช่วยให้การเก็บวัตถุดิบเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ ทำให้เนื้อปลาของคุณ ยังคงมีความสดใหม่ แม้จะเก็บไว้นานหลายวัน

โดยเครื่องซีลสุญญากาศของเรา ยังมีหลายรุ่นหลายขนาดให้เลือกสรร ตามจำนวนถุงที่ต้องการซีลในแต่ละวัน รวมถึงชนิดของสินค้า ประเภทและขนาดถุงบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการใช้ ให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ ตามความต้องการในจัดเก็บ บรรจุภัณฑ์ที่มี และชนิดของวัตถุดิบที่ต้องการจัดเก็บ หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่ https://www.sgethai.com/vacuum-sealer/ หรือสอบถามผ่านทาง โทรศัพท์ หรือ Line ของเราได้เลย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• เมนู ปลานิล ทำง่าย คุณประโยชน์เพียบ
• รวมสูตรเด็ด 5 เมนู ปลาซาบะ ทำเองได้ ไม่มีเบื่อ