ชีสเค้กหน้าไหม้ สไตล์ญี่ปุ่น เนื้อละมุน ครีมชีสเข้มข้น (Video)

ชีสเค้กหน้าไหม้ (Burnt Cheese Cake) หรือ บาสก์ชีสเค้กหน้าไหม้ จุดเด่นอยู่ที่ครีมชีสที่เป็นส่วนประกอบหลัก และจะใช้ไข่เป็นตัวช่วยให้เนื้อฟู เป็นเค้กที่มีแป้งน้อยมาก ๆ เลยนะคะ โดยสูตรของเจินวันนี้ มีเคล็ดลับ วิธีการ อบให้หน้าไหม้มีสีสวย เนื้อเค้กจะมีความนุ่มละมุนมาก ๆ และเจินจะใช้แค่แป้งข้าวโพด คนที่ไม่ทานผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลีสามารถทานได้ค่ะ ถ้าทานคู่กับน้ำชาหอม ๆ เข้ากันดีมาก ๆ ค่ะ เป็นเมนู เค้กหน้าไหม้ ที่ใช้วัตถุดิบน้อย ทำทานเองได้ที่บ้านง่าย ๆ เลยค่ะ

เวลาเตรียม ≈ 15 นาที  |  เวลาปรุง ≈ 35 นาที  |  สำหรับ 8 เสิร์ฟ

• ครีมชีส แองเคอร์ 460 กรัม
• ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 4 ฟอง
• น้ำตาลทราย เบเกอรี่ ลิน 150 กรัม
• แป้งข้าวโพด 15 กรัม
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• วิปปิ้งครีม 260 กรัม
• น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

อุปกรณ์อื่น ๆ:

• เครื่องตีไข่
• กระดาษไขรองอบ
• พิมพ์วงกลมขนาด 2 ปอนด์

ผสมครีมชีส น้ำตาลทราย และเกลือให้เข้ากัน

ทยอยใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ตีผสมให้เข้ากัน

• เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีส น้ำตาลทราย และเกลือ ตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วย เครื่องตีไข่ ใช้ speech เบา ประมาณ 7-8 นาที จนขึ้นฟู เมื่อน้ำตาลกับครีมชีสเข้ากันดีแล้ว ใส่แป้งข้าวโพด ลงไปตีต่อจนเข้ากัน

• ทยอยใส่ไข่ไก่ทีละฟอง สลับกับการตีไปเรื่อย ๆ ตีจนเนื้อเนียนเข้ากันดี

ใส่น้ำมะนาว และกลิ่นวานิลลา ตีให้เข้ากัน

ใส่วิปปิ้งครีม ลงไปตีจนเนื้อเนียน

• เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ใส่น้ำมะนาว และกลิ่นวานิลลา ตามลงไป และตีต่อให้เข้ากัน

• ต่อด้วยใส่วิปปิ้งครีมลงไปตีให้เข้ากัน จนเนื้อเนียน (สังเกตจากเนื้อส่วนผสมเนียน ไม่มีเม็ด ๆ ถือว่าใช้ได้แล้ว)

เทครีมชีสที่ผสมแล้วใส่พิมพ์วงกลม ขนาด 2 ปอนด์

นำเข้าเตาอบ

• เทส่วนผสมครีมชีสลงในพิมพ์วงกลม ที่รองด้วย กระดาษไขรองอบ ค่อย ๆ เทระวังเลอะขอบ

เทคนิควางกระดาษรองอบให้สวย: ก่อนเทลงพิมพ์ ต้องตัดกระดาษไขให้มีขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ และควรสูงกว่าพิมพ์ 2 ซม. เพื่อล้อมตัวเค้ก และดันกระดาษไขลงไปติดกับก้นพิมพ์ จากนั้นพับกระดาษไปกับขอบพิมพ์จนได้ทรงสวย อย่าลืม เช็กขอบกระดาษที่ต่ำที่สุด จะต้องเท่ากับขอบพิมพ์นะคะ อย่าให้แหว่ง เพราะบางทีการพับกระดาษของเราก็มีผลทำให้มีรอยแหว่งได้เหมือนกันค่ะ

• นำเข้าเตาอบ รอบแรก ใช้ไฟบน-ล่าง ที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที จากนั้น อบรอบสอง ให้ลดไฟลงเหลือ 200 องศาเซลเซียส อบต่อเป็นเวลา 10-15 นาที

เทคนิค หน้าเค้กเนียนสวย ทำตามนี้!

เนื้อครีมชีสที่เราตีไปอาจจะมีฟองอากาศได้ ก่อนเทลงพิมพ์อย่าลืมคนส่วนผสมไล่อากาศออกก่อนนะคะ และเมื่อเทลงเต็มพิมพ์แล้ว คน ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศด้านบนอีกรอบ เพื่อให้หน้าเค้กเนียนสวยค่ะ

ชีสเค้กหน้าไหม้ เตรียมเสิร์ฟ

ตัดแบ่งตามต้องการ พร้อมทาน

• นำชีสเค้กหน้าไหม้ออกจากเตา พักให้เย็น หรือหากใครชอบทานแบบเนื้อแข็ง ๆ หน่อย สามารถนำไปแช่ตู้เย็นก่อนทานได้

• ตัดเค้กหน้าไหม้ขนาดที่ต้องการ ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้สดตามชอบ หรือทานคู่กับชาหอม ๆ ก็อร่อย พร้อมทาน

เนื้อหาในวิดีโอ

• 0:00 เกริ่นนำ
• 0:36 การเตรียมครีมชีส
• 3:54 การเทครีมชีสลงพิมพ์

• 5:24 การอบชีสเค้กหน้าไหม้
• 5:46 ผลลัพธ์ ชีสเค้กหน้าไหม้
• 6:31 คำนวณสูตรทำขาย

อบเค้กหน้าไหม้ให้อร่อย ต้องมีตัวช่วย!!

ปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญก่อนเริ่มทำ เค้กหน้าไหม้ คือ เตาอบ และเตาอบที่ดี จะต้องให้ความร้อนสม่ำเสมอทั่วทั้งเตา จะทำให้เค้กออกมาได้สวยงาม อร่อย สุกทั่วถึงกัน เจินมีตัวช่วยดี ๆ เตาอบไฟฟ้า ของ SGE มีให้ได้เลือกกันทุกขนาดตามความต้องการ ราคาย่อมเยา สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ https://www.sgethai.com/baking-oven/

เค้กหน้าไหม้ หน้าไหม้สีสวย ควรอบด้วยระยะเวลาที่สั้น เป็นเวลา 20-25 นาที แต่ใช้อุณภูมิสูง 200-220 องศาเซลเซียส หากใครอยากให้หน้าเค้กเข้มน้อย-เข้มมาก ก็เพิ่ม-ลดเวลาการอบได้ และไม่ควรเปิดพัดลมในการอบ เพราะการเปิดพัดลมจะทำให้เกิดความร้อมหมุนเวียน เค้กหน้าไหม้ จะไม่สวย สีไม่เข้ม

สีน้ำตาลไหม้ บนหน้าขนม เกิดจากกระบวนการคาราเมลไลซ์ (Caramelization) จากส่วนผสมครีมชีส ไข่ น้ำตาลทราย และปฏิกิริยาเมลลาร์ด (Maillard) การเกิดสีน้ำตาลโดยไม่ใช้เอนไซม์ ทั้ง 2 ปฏิกิริยานี้ จะทำให้เค้กมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ให้รสขมจาง ๆ ปลายลิ้น มีกลิ่นคาราเมลเกรียม ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ชีสเค้กหน้าไหม้ นี่แหละ

• ปฏิกิริยาคาราเมลไลซ์ จะเกิดได้เมื่อไม่มีความชื้น ช่วงแรกที่อบเค้ก ผิวหน้าของเค้กยังฉ่ำอยู่ ปฏิกิริยานี้จะยังไม่เกิดขึ้น แต่เมื่ออบเค้กใกล้เสร็จ ความชื้นบนผิวเค้กเหลือน้อยลง น้ำตาลที่ใส่ในส่วนผสมจะเริ่มไหม้เกรียม ให้รสติดขม มีกลิ่นรสคาราเมล และมีน้ำตาลไหม้นั่นเอง
• ปฏิกิริยาเมลลาร์ด คือ การเกิดสีน้ำตาลโดยไม่ใช้เอนไซม์ เป็นปฏิกิริยาเดียวกันกับการเกิดสีที่เนื้อเสต็กย่าง เกิดจากกรดอะมิโนอิสระ ทั้งในนม ในไข่ ทำปฏิกิริยากับน้ำตาลโมเกลกุลเดี่ยว ได้สารประกอบเมลานอยดินที่มีสีน้ำตาล และให้สารอื่น ๆ ที่ให้กลิ่นรสคล้าย กลิ่นย่าง กลิ่นเผาตอนอบเค้ก ปฏิกิริยานี้จะเกิดก่อน Caramelization ประมาณนาทีที่ 20 เป็นต้นไป ปฏิกิริยานี้สามารถเกิดได้ในที่ ๆ มีความชื้นบ้าง แต่ถ้าแห้งไปเลย แบบไม่มีความชื้น จะเกิดไม่ได้ (แต่ปฏิกิริยาแรกจะเกิดแทน) ต้องมีความชื้นกลาง ๆ จะเกิดได้ดี

นำชีสเค้กแช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้นาน 3 วัน และสามารถนำกลับมาทานได้ทั้งแบบอุ่นและเย็น ขึ้นอยู่กับความชอบ

• ชอบทานชีสเค้กที่เนื้อแน่น ๆ แนะนำให้แช่ตู้เย็นก่อน ค่อยนำออกมาทาน
• ชอบทานแบบนุ่มนิ่มพร้อมละลายในปาก แนะนำให้นำออกจากตู้เย็น พักทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงก่อนที่จะทาน เพื่อให้ชีสเค้กคลายความเย็น และเนื้อจะได้กลับมานุ่มฟู
• ชอบทานอุ่น ๆ ควรตัดเป็นชิ้นขนาดพอดี นำเข้าไมโครเวฟ ใช้ความร้อนปานกลาง อุ่นใช้เวลา 3-5 วินาที พยายามค่อย ๆ อุ่นจะได้ไม่ร้อนเกิน (หากอุ่นร้อนเกิน เนื้อเค้กอาจจะแห้งเกินไปได้)

ชีสเค้กหน้าไหม้ทั้ง 2 แบบ วิธีทำและหน้าตาคล้าย ๆ กันบางทีก็แยกไม่ออก มีความแตกต่างกันที่ส่วนผสม คือ

• ชีสเค้กหน้าไหม หรือ บาสก์ชีสเค้กหน้าไหม้: เป็นต้นฉบับชีสเค้กหน้าไหม้ ไม่มีฐาน ส่วนผสมหลัก คือ ครีมชีส ไข่ น้ำตาล และอบไฟแรง ไม่รองน้ำ มีรสชาติหวานน้อยกว่า นิวยอร์กชีสเค้ก เนื้อเค้กละมุน มีความ creamy มีความละลายในปากมากกว่า มีกลิ่นไหม้เฉพาะตัว แต่รสชาติไม่ขม นิยมทานคู่กับ Hot Americano ชาร้อน กลิ่นอโรมาหอม ๆ หรือไม่ต้องทานคู่กับอะไรก็อร่อย
• นิวยอร์กชีสเค้ก: เป็นชีสเค้กที่มีฐาน ทำจาก cracker บดผสมเนยละลาย ส่วนผสมหลักคือ ครีมชีส และไข่ และอบด้วยการรองน้ำ ความร้อนไม่สูง มีรสชาติเข้มข้นครีมชีสที่มากกว่าบาสก์ชีสเค้กหน้าไหม้ เนื้อเค้กแน่น ละมุน จะรู้สึกถึงกลิ่นชีสมากกว่า นิยมทานคู่กับ Hot Americano

อย่างที่รู้กันว่าชีสเค้กหน้าไหม้ มีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศสเปน เรียกกันว่า Tarta de Queso หรือ San Sebastian Cheesecake แต่ที่ติดปาก จะเรียกกันว่า Basque Cheesecake เพราะมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ภูมิภาคบาสก์ (Basque) ของประเทศสเปนนั่นเอง

ต่อมาในปี 2018 ชีสเค้กหน้าไหม้ (Basque Burnt Cheesecake) ได้ดังไกลถึงประเทศญี่ปุ่น และมีการดัดแปลงสูตรให้มีรสที่ถูกปาก และรูปลักษณ์ มีความน่ารักในแบบญี่ปุ่น เพิ่มกลิ่นหอมคาราเมลหน้าไหม้ และเนื้อเค้กแบบกึ่งสุกด้านใน ที่ละมุนลิ้น อัดเแน่นรสชีสแบบเต็ม ๆ ทำให้ เค้กหน้าไหม้เป็นที่นิยมมาก ๆ ในญี่ปุ่น และก็โด่งดังแพร่หลายไปอีกหลายละประเทศ มีการปรับสูตรต่าง ๆ ตามความชอบ รวมถึงประเทศไทยด้วย ลองทำตามสูตรของเจินกันดูนะจ๊ะ อร่อย ทำง่าย ทำขายดีเริ่ดแน่นอนค่ะ

• 10 สูตร ชีสเค้ก ทำง่าย ๆ อร่อยทุกสูตร ได้ทานแล้วจะวางไม่ลง
• “วาฟเฟิล เรนโบว์” สูตรโฮมเมด กรอบนอกนุ่มใน ทำขายออนไลน์รวย (Video)
• “เรดเวลเวทเค้ก สูตรต้นตำรับ” Red Velvet Cake Recipe (Video)
• สูตร เค้กผลไม้ (Fruit Cake) แค่มีเตาอบ ใครๆก็ทำได้