รู้จัก องุ่นเคียวโฮ (Kyoho Grape) ประโยชน์ ข้อควรระวัง และวิธีเลือกซื้อ
สารบัญ
องุ่นเคียวโฮ (Kyoho Grape) องุ่นยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่น องุ่นพันธุ์นี้มีลักษณะเป็นอย่างไร มีประโยชน์ต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน ทำไมถึงได้รับความนิยมในประเทศไทย? ตาม SGE ไปรู้จักผลไม้ชนิดนี้ให้มากขึ้นกัน!
องุ่นเคียวโฮ (Kyoho Grape)
ชื่อสามัญ
Kyoho Grape
กลุ่มพันธุ์ปลูก
Vitaceae
ถิ่นกำเนิด
ประเทศญี่ปุ่น
ต้นกำเนิด
องุ่นเคียวโฮ เป็นลูกผสมระหว่างองุ่น Centennial และ องุ่นอิชิฮาราวาเสะ (Ishiharawase) คิดค้นโดย ยาซูชิ โออิโนะอุเอ (Yasushi Ōinoue) จากสถาบันวิทยาศาสตร์พืชไร่และชีววิทยา ในเมืองชิซูโอกะ ในปี 1937 และเปิดตัวในฐานะ องุ่นเคียวโฮ (Kyoho Grape) ในปี 1942 และ ต่อมาในปี 1957 องุ่นพันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น
แหล่งปลูกสำคัญ
ปัจจุบันแหล่งปลูกที่สำคัญของ องุ่นเคียวโฮะ อยู่ที่จังหวัดยามานาชิ และ นากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ส่งออกและวางจำหน่ายทั้งในตลาด ร้านค้า ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านค้าออนไลน์ และห้างระดับไอเอนด์ นอกจากนี้ยังนิยมปลูกในจีน ไต้หวัน เกาหลี แคลิฟอร์เนีย และชิลี โดยเฉพาะในประเทศจีนที่เริ่มครองตลาดทั้งค้าปลีกและค้าส่ง อย่างไรก็ตาม เคียวโฮ ถือเป็นหนึ่งในพันธุ์องุ่นที่มีการปลูกมากที่สุดในเอเชีย แม้ว่าจะมีสายพันธุ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา แต่สายพันธุ์เคียวโฮก็ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ลักษณะเด่น / รสชาติ
องุ่นเคียวโฮ โดดเด่นด้วยผลที่มีขนาดใหญ่ สีเข้ม เนื้อฉ่ำ รสชาติหวาน อร่อย และมีกลิ่นหอม นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด รวมถึงแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของว่าง ของทานเล่น ในท้องตลาด เช่น เยลลี่ ลูกอม น้ำผลไม้ ฯลฯ
ระดับความหวาน
องุ่นเคียวโฮมีความเป็นกรดเล็กน้อยและมีปริมาณน้ำตาลสูง โดยทั่วไปจะอยู่ที่ความหวานจะอยู่ที่ 18 – 20 บริกซ์ ทำให้มีรสหวานและเข้มข้น คล้าย ๆ กับองุ่นคองคอร์ด (Concord Grape)
เรทราคา
ราคาขององุ่นเคียวโฮะค่อนข้างสูง หากเทียบกับองุ่นพันธุ์อื่น เนื่องจากเป็นพันธุ์พิเศษ ต้องอาศัยความพิถีพิถันในการปลูก นอกจากนี้ยังมีการคัดเกรด หากมีคุณภาพดี ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วย ตกประมาณกิโลกรัมละ 350 – 1,020 บาท (ราคาปี 2567)
วิธีเลือกองุ่นเคียวโฮ
องุ่นเคียวโฮให้เลือกผลที่อวบอ้วน กลม เต่งตึง ขนาดลูกเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน เปลือกสีเข้ม มีฝ้าขาวทั่วเปลือก (ฝ้าขาว คือยีสต์ธรรมชาติ ทำหน้าที่รักษาความชุ่มฉ่ำให้ผลองุ่นและปกป้ององุ่นจากเชื้อแบคทีเรีย) ลูกองุ่นติดกันเป็นพวงไม่หล่นหรือหลุดออกจากกัน ก้านสีน้ำตาลปนเขียว ไม่เหี่ยวแห้ง
ลักษณะพฤกษศาสตร์องุ่นเคียวโฮ
ลำต้น
องุ่นเคียวโฮเป็นพืชยืนต้น ลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อย เติบโตโดยการเลื้อยเกาะตามกิ่งไม้
ใบ
ใบสีเขียว ขอบหยักเว้าลึก 5 แฉก โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ
ดอก
ออกเป็นช่อแยกแขนง ดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวก จะหลุดออกเมื่อดอกบานกลีบดอกเมื่อบานสีขาว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยก 5 กลีบ เป็นผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง (เป็นผลเดี่ยวที่เกิดจากดอกช่อแต่ดอกไม่หลอมรวมกัน)
ผล / เมล็ด
ผลองุ่นเคียวโฮมีขนาดใหญ่ เติบโตเป็นพวงกลมหนาแน่นและกระจุกสม่ำเสมอกัน องุ่นแต่ละลูกมีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 2 – 4 เซนติเมตร ลักษณะอวบอ้วน ทรงกลมถึงรูปไข่ ผิวเรียบ ตึง มันเงา และหนา มีสีตั้งแต่ม่วงไปจนถึงม่วงเข้มเกือบดำสนิท มีฟิล์มแป้งสีขาวที่ช่วยปกป้ององุ่นจากการหมักและการสูญเสียความชื้น นิยมแกะเปลือกก่อนทาน เพราะเปลือกและเมล็ดองุ่นเคียวโฮทานได้แต่มีรสขม บางสายพันธุ์เป็นพันธุ์ไร้เมล็ด
ประโยชน์ องุ่นเคียวโฮ (Kyoho Grape)
เคียวโฮ องุ่นสีม่วงหรือสีดำ เป็นแหล่งรวม “แอนโทไซยานิน” ที่เป็นสารต้านออกซิเดซัน รวมถึงอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุหลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น
- ผิวสวย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แอนโทไซยานินช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวพรรณแข็งแรง ลดการเสื่อมของเซลล์ผิว
- ลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง แอนโทไซยานินในองุ่นเคียวโฮ ยังช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณไตรกลีเซอไรด์ ลดคลอเลสเตอรอลในเลือดได้
- ลดการอักเสบในร่างกาย วิตามินเค วิตามินซี แอนโทไซยานิน ช่วยในการรักษาบาดแผลให้เร็วขึ้น ช่วยลดการอักเสบ พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
- ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มการสร้างเกล็ดเลือดในเนื้อและผิวหนัง ช่วยระบบไหลเวียนเลือด บำรุงหัวใจ และระบบสมอง
- กระตุ้นระบบย่อยอาหาร ไฟเบอร์และสารอาหารในองุ่นเคียวโฮะ ช่วยขับล้างสารพิษในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ปกติ
- ลดความเครียด ผ่อนคลายขึ้น ความหวานขององุ่นเคียวโฮ ช่วยลดความเครียดได้ หากกินแบบแช่เย็น จะยิ่งเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายได้ดี
ข้อควรระวัง
องุ่นเคียวโฮมีปริมาณน้ำตาลสูงมาก ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
อันตรายจาก “เยลลี่องุ่นเคียวโฮ” ขนมยอดฮิตในโซเชียล
ช่วงที่ผ่านมา “เยลลี่องุ่นเคียวโฮ” โด่งดังในประเทศไทยมาก โดยเฉพาะเยลลี่องุ่นเคียวโฮที่มีลักษณะกลม ๆ นิ่ม ๆ ห่อด้วยวัสดุคล้ายยางหรือลูกโป่ง เวลาทานต้องหาไม้แหลมมาเจาะให้แตก สร้างความตื่นเต้นให้ผู้บริโภค จนได้รับความนิยมและถูกวางขายเกลื่อนตลาด ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกมาเตือนว่าหลายยี่ห้อไม่ได้มี อย. และอาจมีสารอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะเยลลี่องุ่นเคียวโฮที่วางขายตามออนไลน์ แผงต่าง ๆ ใกล้โรงเรียนและชุมชน ผู้บริโภคควรสังเกตฉลากภาษาไทย เลข อย. ส่วนประกอบหรือส่วนผสม วันเดือนปีที่หมดอายุ และข้อมูลการผลิตที่สำคัญอื่น ๆ ให้ดีก่อนทาน
คลิกอ่านเพิ่มเติม : เตือนภัย : อย. เตือน “ เยลลี่องุ่นเคียวโฮ ” หากไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่ควรรับประทาน
ข้อมูลโภชนาการองุ่นเคียวโฮ
ข้อมูลโภชนาการ สารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ขององุ่นเคียวโฮ ปริมาณ 160 กรัม
สารอาหาร | ปริมาณ | หน่วย |
---|---|---|
คาร์โบไฮเดรต | 28 | กรัม |
น้ำตาล | 26 | กรัม |
ไขมันรวม | 0.5 | กรัม |
ใยอาหาร | 1 | กรัม |
โปรตีน | 1 | กรัม |
แคลเซียม | 23 | มิลลิกรัม |
โพแทสเซียม | 308 | มิลลิกรัม |
แหล่งข้อมูลประกอบ: Malissa
แนะนำเมนู องุ่นเคียวโฮ ยอดฮิต
1 แยมองุ่นเคียวโฮ
ส่วนผสม
- พวงองุ่นเคียวโฮ 2 กิโลกรัม
- เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1,000 มล.
- น้ำมะนาวสด 2 มล.
ขั้นตอนการทำ
1. แช่พวงองุ่นในน้ำเปล่าผลมเกลือเพื่อทำความสะอาดและล้างสารพิษ 10 นาที
2. เด็ดองุ่นเคียวโฮออกจากพวง ใช้มีดผ่าครึ่ง เอาเม็ดออก ปั่นในเครื่องปั่นผลไม้ ปั่นหยาบ ๆ ให้พอมีเนื้อ อ่านเพิ่มเติม
3 เยลลี่องุ่นเคียวโฮ
ส่วนผสม
- เนื้อองุ่นเคียวโฮ 100 กรัม
- วุ้นเจลาติน รสองุ่น 1 ซอง
- น้ำเปล่า 100 มล.
- พิมพ์ลวดลายที่ต้องการ
ขั้นตอนการทำ
ปั่นเนื้อองุ่นเคียวโฮให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง แยกกากและเนื้อองุ่นออก ตั้งกระทะ เทน้ำเปล่าและน้ำองุ่นเคียวโฮลงไป คนให้เข้ากัน ปิดเตา แล้วเทผงวุ้นลงไป พักให้เย็นลง แล้วเทใส่พิมพ์ แช่ตู้เย็นประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง พร้อมทาน
วิธีปลูก องุ่นเคียวโฮ ในประเทศไทย
องุ่นสายพันธุ์เคียวโฮไม่ค่อยนิยมปลูกในประเทศไทยมากนัก เนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวสวนหลายท่านที่ปลูกแล้วได้ผลดี โดยมีคำแนะนำเบื้องต้น ดังนี้
คลิกเพื่ออ่าน ฟาร์มไทยแลนด์ : วิธีปลูกองุ่นแบบละเอียด
เป็นอย่างไรบ้างกับประโยชน์และสาระน่ารู้เกี่ยวกับ องุ่นเคียวโฮ (Kyoho Grape) เป็นผลไม้ที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่งเลยใช่ไหมคะ หลาย ๆ คนน่าจะพอคุ้นรสชาติกันอยู่บ้าง เพราะเป็นผลไม้ที่นำไปเป็นส่วนผสมของขนม เยลลี่ น้ำผลไม้ แยม และอื่น ๆ ที่วางขายในตลาดมากมาย แต่หากใครอยากลองชิมรสชาติออริจินัลแบบสด ๆ ก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปได้เลย รับรองอร่อย สดชื่น คุ้มค่าแน่นอน ส่วนใครที่อยากปลูก แนะนำให้ศึกษาข้อมูลลึกกว่านี้ เนื่องจากองุ่นเป็นผลไม้ที่ต้องการความเอาใจใส่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจริง ๆ ถึงจะให้ผลดี
29 กุมภาพันธ์ 2024
โดย
Wishyouwell.