Sparkling wine คือ ต่างกับ Champagne ยังไง กินกับอะไรดีที่สุด
Sparkling wine คือ ต่างกับ Champagne ยังไง กินกับอะไรดีที่สุด SGE มีคำตอบ ใครอยากรู้ว่า
สปาร์คกลิ้งไวน์ ต่างจาก ไวน์ขาว ไวน์แดง อย่างไร ตามมาดูกันเลย
Sparkling wine คือ
Sparkling wine คือ ไวน์มีฟอง มีความซ่า ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า รสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม มักเป็นไวน์ขาว หรือ ไวน์โรเซ่ โดยฟองฟู่ในไวน์ เกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มาจากการหมักบ่มตามธรรมชาติ หรือ อัดเติมเข้าไป เพื่อทำให้ไวน์มีฟอง มีความซ่ามากขึ้น
Sparkling wine มีความหวานกี่ระดับ
ความหวานของ สปาร์คกลิ้งไวน์ แบ่งได้เป็น 6 ระดับ สามารถอ่านระดับความหวานของสปาร์คกลิ้งไวน์แต่ละขวด จากฉลากด้านหลังขวดได้ ดังนี้
- Extra Brut = Very Dry (ไม่หวาน)
- Brut = Very Dry (ไม่หวาน) – Dry (หวานน้อย)
- Extra-Sec หรือ Extra-Dry = Dry (หวานน้อย) – Medium Dry (ค่อนข้างหวาน)
- Sec = Medium Dry (ค่อนข้างหวาน)
- Demi-Sec = Sweet (หวาน)
- Doux = Luscious หรือ Super-Sweet (หวานมาก)
Sparkling wine มีแอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็นต์
Sparkling wine ผลิตเหมือนกับไวน์แดง ไวน์ขาว คือ นำองุ่นไปหมักบ่มเป็นเวลานาน ทำให้มีปริมาณแอลกอฮอล์สะสมอยู่ โดยสปาร์คกลิ้งไวน์ปกติ มักมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 8 – 14% หากดื่มน้อย ๆ จะทำให้รู้สึกรีแลกซ์ ผ่อนคลาย สบายตัว แต่ถ้าดื่มมาก ๆ ก็อาจทำให้มึนเมาได้
Sparkling wine ต่างกับ Champagne ยังไง
จริงๆ แล้ว Sparkling wines และ Champagne ไม่ได้แตกต่างกัน โดย แชมเปญ ถือเป็นSparkling wineชนิดหนึ่ง แต่เป็นชื่อเรียกเฉพาะ สปาร์คกลิ้งไวน์ ที่ผลิตในแคว้นชองปาญ (Champagne) ประเทศฝรั่งเศส โดยการนำองุ่น 3 ชนิด คือ ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และ ปิโนต์ มูนิเยร์ (Pinot Meunier) 3 ชนิด นำมาเบลนด์ผสมกัน หรือ ผลิตโดยใช้องุ่นชาร์ดอนเนย์ 100% หรือที่เรียกว่า Blanc De Blanc Champagne เท่านั้น ดังนั้น หากไวน์มีฟองขวดไหน ไม่ได้ผลิตจากองุ่น 3 ชนิดนี้ จะถูกเรียกว่า สปาร์คกลิ้งไวน์ ทั้งหมด
Sparkling wine อะไรดีที่สุด
1. Champagne
สปาร์คกลิ้งไวน์ สุดพรีเมี่ยม ที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของSparkling wineทั้งปวง ด้วยมีรสหวานน้อยถึงหวานมาก มีสีเหลืองทอง บวกกับฟองอันนุ่มละเอียด ให้ความซ่า ความนุ่มละมุนในเวลาเดียวกัน ทำให้แชมเปญได้รับความนิยมมาก จนคนส่วนใหญ่นิยมนำมาดื่มเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น งานปาร์ตี้ งานเลี้ยงสังสรรค์ หรือ เฉลิมฉลองใน ในการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ เป็นต้น
2. Cava
กาวา (Cava) เป็นสปาร์คกลิ้งไวน์อีกประเภทที่น่าลิ้มลอง ผลิตจากประเทศสเปน มีเอกลักษณ์คือ รสชาติไม่หวาน มีฟองละเอียด นุ่มละมุน คล้ายแชมเปญ เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มไวน์มีฟอง แบบไม่หวานหรือหวานน้อย โดย Cava ยี่ห้อที่แนะนำ ได้แก่ Freixenet Cordon Negro Brut
3. Prosecco
ไวน์มีฟอง จากประเทศอิตาลี มีรสค่อนข้างหวาน เต็มไปด้วยกลิ่นของผลไม้เขตร้อนและดอกไม้ป่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มไวน์รสหวาน นอกจากนี้ เนื่องจากผลิตโดยเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปในภายหลัง ทำให้สปาร์คกลิ้งไวน์ขวดนี้ มีฟองค่อนข้างใหญ่และหยาบกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟองฟู่ลอยขึ้นมาให้สะใจเล่น ๆ อีกด้วย โดย Prosecco ที่แนะนำ คือ Villa Sandi Prosecco Spumante
4. American Sparkling Wines
กลุ่มสปาร์คกลิ้งไวน์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนมากผลิตใน Napa Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยSparkling wine ส่วนใหญ่ของที่นี่ มีหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่ไม่หวานเลย ไปจนถึงหวานมาก ทำให้เหมาะกับคนที่ชอบดื่มสปาร์คกลิ้งไวน์ แบบสามารถเลือกระดับความหวานได้ตามต้องการ
5. Australia Sparkling Wines
เป็นกลุ่มสปาร์คกลิ้งไวน์จากประเทศออสเตรเลีย โดยSparkling wine ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ Chandon ด้วยมีรสชาติและคุณภาพคล้ายกับ Champagne ต้นฉบับ จากประเทศฝรั่งเศส จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากดื่มแชมเปญ ในราคาที่สามารถจับต้องได้
Sparkling wines กินยังไง
การดื่ม Sparkling wines ควรดื่มตอนเย็นจัด ๆ จะช่วยให้ สปาร์คกลิ้งไวน์ มีฟอง มีความซ่ามากขึ้น โดยการเก็บ สปาร์คกลิ้งไวน์ ควรเก็บแบบแช่เย็น ที่อุณหภูมิประมาณ 7-12 องศาเซลเซียส เวลาดื่ม ควรดื่มตอนก่อนเริ่มรับประทานอาหาร โดยกินคู่กับอาหารเบา ๆ หรือ อาหารเรียกน้ำย่อย
Sparkling wines กินกับอะไร
Sparkling wines เหมาะกินคู่กับอาหารเบา ๆ หรือ อาหารเรียกน้ำย่อย เช่น สลัด ขนมปัง ผัก ชีส ทุกชนิด รวมถึง อาหารทะเล ที่มีกลิ่นคาว เช่น หอยนางรม ปลาค็อด ปลาแซลมอน เป็นต้น สามารถทานได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น วันธรรมดา หรือ เนื่องในโอกาสพิเศษ เช่น งานปาร์ตี้ งานเลี้ยงต้อนรับ ฯลฯ
Sparkling wines เหมาะกับแก้วไวน์แบบไหน
ด้วยSparkling wines มีกิมมิคเล็ก ๆ คือ ฟองฟู่ที่ลอยขึ้นมา จึงควรใช้ แก้วไวน์ทรงสูง เช่น Flute ในการเสิร์ฟ เพราะด้วยดีไซน์ของแก้วที่สูง และ เพรียวบาง จะทำให้ฟองลอยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพิ่มความสวยงาม และ ยังช่วยกักเก็บความเย็นของสปาร์คกลิ้งไวน์ได้ดีอีกด้วย ทั้งนี้ หากเป็นสปาร์คกลิ้งไวน์ที่มีรสหวาน แนะนำให้ใช้แก้วไวน์ Tulip, Wide-Tulip เพราะจะทำให้กลิ่นหอมหวานของไวน์ลอยโชยขึ้นมา ช่วยให้สัมผัสกลิ่นและรสชาติได้ดีมากยิ่งขึ้น
รู้จัก Sparkling wines ในทุกแง่มุมกันไปแล้ว หากใครอยากดื่มไวน์มีฟอง ลอยฟู่ขึ้นมาสวยงาม น่าดื่มแล้วละก็ ลองไปเลือกซื้อ สปาร์คกลิ้งไวน์ มาดื่มกันได้เลย รับรองว่า เปรี้ยวหวานอร่อย เหมาะสำหรับดื่มในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดา หรือ วันพิเศษ
สำหรับใครที่สนใจ อยากดื่มสปาร์คกลิ้งไวน์ แล้วยังไม่มีตู้แช่ไวน์ สำหรับเก็บไวน์ให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม คงรสชาติและคุณภาพไว้ได้เป็นอย่างดีแล้วละก็ ขอแนะนำ ตู้แช่ไวน์ ตู้จ่ายไวน์ รุ่นใหม่ล่าสุด จาก SGE มาพร้อมฟังค์ชั่นสุดพิเศษ! ที่จะทำให้เก็บไวน์ได้คุณภาพไปอีกขั้น ✓ควบคุมอุณหภูมิ (5 – 20 องศาเซลเซียส) ✓หน้าจอระบบสัมผัส ✓ระบบไฟ LED ✓ชั้นวางวัสดุคุณภาพ ✓ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ✓รักษาความสะอาดปลอดสาร CFC ✓ประหยัดพลังงาน สนใจตู้แช่ไวน์ ตู้จ่ายไวน์ คลิกเลย >> https://www.sgethai.com/wine-cellar/
บทความที่น่าสนใจ
30 มกราคม 2024
โดย
Pres