รู้จัก “มะเขือเทศ” ผลไม้ช่วยผิวสวย ประโยชน์เยอะ พร้อม วิธีปลูกมะเขือเทศ

อีกหนึ่ง ผลไม้ ที่เราต่างรู้จัก อย่าง “มะเขือเทศ (Tomato)” ที่ขึ้นชื่อเรื่องทานแล้ว ช่วยบำรุงผิวสวย มีประโยชน์มากมาย อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานได้ทุกวัย บทความนี้ SGE จะพาไปรู้จักกับ มะเขือเทศ ประโยชน์ต่าง ๆ พร้อมเคล็ดลับ วิธีปลูกมะเขือเทศ แบบง่าย ๆ ที่บ้าน ตามไปดูกันเลย

รู้จักกับ มะเขือเทศ(Tomato)

• มะเขือเทศ เป็นพืชล้มลุก อายุเพียง 1 ปี ลำต้นตั้งตรง มีลักษณะเป็นพุ่ม มีขนอ่อน ๆ ปกคลุม มีถิ่นกำเนิดในประเทศแม็กซิโก
• ใบ เป็นใบประกอบ ออกสลับกัน ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน บางใบเล็กรียาว บางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหยักลึกคล้ายฟันเลื่อยมีขนอ่อน ๆ
• ออกดอกเป็นช่อ หรือดอกเดี่ยว บริเวณซอกใบ ดอกมีสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียวประมาณ 5-6 กลีบ
• ผล เป็นผลเดี่ยว มีขนาดรูปร่าง และสีต่างกัน มีขนาดเล็กประมาณ 3 เซนติเมตร จนถึง 10 เซนติเมตร มีรูปร่างทั้งกลม กลมแบน หรือกลมรี ผิวนอกกลีบเป็นมัน ผลดิบ มีสีเขียว หรือเขียวอมเทา เมื่อสุก จะมีสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อภายในฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยว มีเมล็ดเป็นจำนวนมาก
• เมล็ด มีลักษณะคล้ายรูปไข่ แบน เปลือกที่หุ้มเมล็ดมีขนละเอียดสั้น ๆ สีน้ำตาลอ่อนปกคลุมอยู่ทั่วไป เมล็ดยาว 3-5 มิลลิเมตร จำนวนเมล็ดขึ้นอยู่กับขนาดผล
• สายพันธุ์ มะเขือเทศมีหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์สีดา พันธุ์โรมาเรดเพียร์ พันธุ์ราชินี เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศ

มะเขือเทศสีแดงสด ต่อ 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

• พลังงาน 18 กิโลแคลอรี
• คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม
• ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม
• น้ำตาล 2.6 กรัม
• เส้นใย 1.2 กรัม
• ไขมัน 0.2 กรัม
• โปรตีน 0.9 กรัม
• น้ำ 94.5 กรัม
• วิตามินเอ (5%) 42 ไมโครกรัม
• เบตาแคโรทีน (4%) 449 ไมโครกรัม
• ลูทีนและซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม
• วิตามินบี (3%) 1 0.037 มิลลิกรัม
• วิตามินบี 3 (4%)0.594 มิลลิกรัม
• วิตามินบี 6 (6%) 0.08 มิลลิกรัม
• วิตามินซี (17%) 14 มิลลิกรัม
• วิตามินอี (4%) 0.54 มิลลิกรัม
• วิตามินเค (8%) 7.9 ไมโครกรัม
• ธาตุแมกนีเซียม (3%) 11 มิลลิกรัม
• ธาตุแมงกานีส (5%) 0.114 มิลลิกรัม
• ธาตุฟอสฟอรัส (3%) 24 มิลลิกรัม
• ธาตุโพแทสเซียม (5%) 237 มิลลิกรัม

อ้างอิงข้อมูลจาก: USDA Nutrient database, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สรรพคุณ และประโยชน์ของมะเขือเทศ

• ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า meให้ผิวแลดูเต่งตึง ป้องกันอันตรายจากรังสียูวี ช่วยให้เซลล์ผิวหนังได้ปรับสภาพคอลลาเจนใต้ผิวหนังให้แข็งแรง ทำให้ผิวชุ่มชื่น เรียบเนียน
• มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความชรา ต้านความเสื่อมของร่างกาย ช่วยการไหลเวียนของเลือด และสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย
• มีวิตามินซี รักษาเหงือกและฟัน ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และช่วยป้องกันหลอดเลือดต่าง ๆ
• มีวิตามินเอ ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น รักษาโรคตาแห้ง ตาฟาง และช่วยให้กระดูกเติบโตเป็นปกติ
• มีกรดมาลิค และกรดซิตริกในมะเขือเทศ ช่วยย่อยไขมันในกระเพาะอาหาร และสามารถป้องกันอาการท้องอืด และอาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย
• ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ และป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดได้
• ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
• ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
• ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อราที่ปาก
• ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ รวมถึงโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ

มะเขือเทศ เป็นผักหรือผลไม้กันแน่?

คำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยว่า มะเขือเทศนั้น เป็นผัก หรือผลไม้ จริง ๆ แล้ว มะเขือเทศ คือ ผลไม้ ตามคำนิยามของหลักทางพฤกษศาสตร์ ผลไม้ คือ ส่วนของรังไข่ ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก ส่วนผัก คือ พืชที่กินได้ของพืชล้มลุก เช่น ราก ใบ ก้าน หัว หน่อ ดอก โดยปกติคนส่วนมาก จะเข้าใจผิดว่า มะเขือเทศคือผัก เพราะนำไปใช้ประกอบอาหารเป็นส่วนใหญ่ และคิดว่า ผลไม้คือสิ่งที่มีรสหวาน ซึ่งมะเขือเทศที่นิยมทานมาก คือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี นั่นเอง

วิธีปลูกมะเขือเทศ แบบง่าย ๆ ทำได้ที่บ้าน

การปลูกมะเขือเทศส่วนใหญ่ จะนิยมปลูกโดย วิธีการเพาะเมล็ด เพราะใช้เวลาไม่นาน สามารถทำได้ ดังนี้

ปลูกแบบเพาะในกระบะเพาะ

จะนิยมเพาะจำนวนต้นกล้าที่ไม่มากนัก ใช้ดินน้อย

1. ตากดิน ก่อนประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อกำจัดเชื้อโรค เพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อโรคที่เกิดขึ้นในระหว่างปลูก
2. ใช้กระบะขนาด 45×60 ซม. ลึกไม่เกิน 10 ซม. มีรูระบายน้ำได้ ใส่ดินที่ร่อนแล้ว 3 ส่วน และปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทราย หรือแกลบ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรับผิวหน้าดินให้เรียบ
3. จากนั้น โรยเมล็ดเป็นแถวประมาณ 5-7 ซม. แล้วกลบเมล็ดด้วยแกลบ หรือทรายบาง ๆ
4. รดน้ำให้ชุ่ม และใช้สารป้องกันกำจัดแมลง ผสมน้ำ นำไปรดอีก 1 รอบ
5. เมื่อเมล็ดเริ่มงอก ให้ใช้สารเคมีป้องกันเชื้อรา เช่น แคปแทน หรือเมนเซทดี ในอัตรา 4 ช้อนแกง/ น้ำ 1 ปี๊บ

สินค้าแนะนำ: กระบะเพาะเมล็ด ถาดเพาะเมล็ด