วิธีทำ “วาฟเฟิล เรนโบว์” สูตรโฮมเมด กรอบนอกนุ่มใน ทำขายออนไลน์รวย (Video)

โดย เชฟเจิน
อัปเดตเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2024

คะแนนสูตรนี้

วาฟเฟิล-สูตรวาฟเฟิล-rianbow-waffle-banner

ตามเจินไปทำเมนู “วาฟเฟิล (Waffle)” เป็นขนม อาหารเช้า สไตล์อเมริกัน หรือเบลเยียม จะนิยมทานกันในมื้อเช้าค่ะ แต่ปกติวาฟเฟิลก็จะมีหน้าตาเหมือนขนมรังผึ้งธรรมดา แต่วันนี้เจินจะเพิ่มลูกเล่นให้กลายเป็น วาฟเฟิล สายรุ้ง (Rainbow Waffle) กันค่ะ เพื่อเป็นการกระตุ้นความอยากอาหารและความน่าทานให้กับวาฟเฟิลของเรานะคะ

โดยสูตรนี้ เป็นสูตรโฮมเมด สีรุ้งสดใส หอมกลิ่นเนยแบบสุด ๆ จะทานคู่กับน้ำผึ้ง หรือเมเปิ้ลไซรัป ก็เข้ากันอย่างลงตัว เจินอยากให้ทุกคนได้ลองทำตามกันนะคะ ทำง่ายมาก ๆ เลยค่ะ

ดูรีวิวทั้งหมด

สูตรวาฟเฟิล สายรุ้ง

เวลาเตรียม ≈ 5 นาที  |  เวลาปรุง ≈ 30 นาที  |  สำหรับ 4 เสิร์ฟ

ส่วนผสมวาฟเฟิล-rianbow-waffle-ingredients

วัตถุดิบวาฟเฟิล สายรุ้ง

  1. แป้งอเนกประสงค์ 130 กรัม
  2. แป้งขนมปัง 50 กรัม
  3. ผงฟู 5 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 50 กรัม (ส่วนที่ 1)
  5. เกลือ 1 กรัม
  6. นมสดรสจืด 170 กรัม
  7. ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 2 ฟอง
  8. น้ำตาลทราย 20 กรัม (ส่วนที่ 2)
  9. เนยจืดละลาย 50 กรัม
  10. สีผสมอาหารแบบน้ำ
  11. วิปปิ้งครีม 100 กรัม
  12. วานิลลา ตามชอบ
  13. เมเปิ้ลไซรัป ตามชอบ
  14. น้ำตาลสีเรนโบว์

อุปกรณ์อื่น ๆ:

วิธีการทำ

STEP 1 : ละลายเนย + แยกไข่แดง และไข่ขาว
สูตรวาฟเฟิล วาฟเฟิลสายรุ้ง-rianbow-waffle-01

ละลายเนย เตรียมไว้

ผสมแป้ง วาฟเฟิล-rianbow-waffle-02

แยกไข่ขาว ไข่แดง เตรียมไว้

  • นำ เนยจืด 50 กรัม ไปละลาย เตรียมไว้ (จะละลายในกระทะ หรือนำเข้าไมโครเวฟก็ได้ค่ะ)
  • จากนั้น แยกไข่แดง และไข่ขาว ออกจากกัน เตรียมไว้
STEP 2 : เตรียมแป้งวาฟเฟิล
ส่วนผสมไข่แดง วาฟเฟิลสายรุ้ง-rianbow-waffle-03

ผสมแป้งส่วนไข่แดง

ผสมไข่ขาว แป้งวาฟเฟิล-rianbow-waffle-04

ผสมแป้งส่วนไข่ขาว

  • ทำส่วนผสมไข่แดง ใส่น้ำตาลทราย ส่วนที่ 1 (50 กรัม) แล้วรีบคนทันที (เพื่อป้องกันไข่แดงจับตัวเป็นก้อน ทำให้ส่วนผสมไม่เนียน) คนจนส่วนผสมเข้ากัน ตามด้วย ใส่เกลือ ผงฟู แป้งอเนกประสงค์ แป้งขนมปัง (โดยเราจะใช้แป้งอเนกประสงค์เป็นหลักนะคะ ส่วนแป้งขนมปังจะเพิ่มเข้ามาเพื่อให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นนั่นเองค่ะ) และนมสด คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยละลาย เติมกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้
  • ทำส่วนผสมไข่ขาว ใช้เครื่องตีไข่ก่อน และค่อย ๆ เติมน้ำตาลทราย ส่วนที่ 2 (20 กรัม) ลงไป ตีต่อจนส่วนผสมข้นขึ้น และตั้งยอด

  TIPS  

แป้งวาฟเฟิลเนียนละมุน ต้องมีตัวช่วย!!

เนื้อแป้งที่เนียนละเอียดเข้ากัน จะทำให้วาฟเฟิลนุ่ม กรอบ น่าทาน สิ่งที่ขาดไม่ได้ เครื่องตีไข่ ใช้งานง่าย ขนาดกะทัดรัด จิ๋วแต่แจ๋ว หัวตีปรับความเร็วได้หลายระดับ ทำอาหารได้ทั้งคาวและหวาน คุ้มค่าเกินราคา เหมาะกับการใช้งานในบ้าน ทำให้การทำ วาฟเฟิลสายรุ้ง ของเจินราบรื่นทุกขั้นตอนค่ะ สนใจสินค้า คลิกเลย https://www.sgethai.com/stand-mixer/

STEP 3 : ผสมสีแป้งวาฟเฟิล
ผสมสีแป้ง วาฟเฟิล-rianbow-waffle-05

ผสมสีแป้งวาฟเฟิล

ผสมสีแป้งวาฟเฟิล-rianbow-waffle-06

ตักใส่ถุงบีบ

  • ตักส่วนผสมไข่ขาว ไปผสมกับ ส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน แล้วแบ่งออกเป็น 6 ถ้วย ใส่สีผสมอาหารลงไปในแต่ละถ้วย คนให้เข้ากัน
  • จากนั้นนำแป้งที่ผสมสีเสร็จแล้ว ไปใส่ถุงบีบ เตรียมไว้
STEP 4 : เทลงพิมพ์วาฟเฟิล
บีบแป้ง วาฟเฟิล ลงเตา-rianbow-waffle-07

บีบแป้งไล่สีสายรุ้งลงเตา อบ 2-3 นาที

วาฟเฟิล-rianbow-waffle-08

นำวาฟเฟิลสายรุ้ง ออกจากเตา พักให้เย็น

  • วอร์มเตาเครื่องทำวาฟเฟิล ทาเนยกันติดทั้ง 2 ด้าน พอเตาเริ่มร้อนได้ที่ บีบแป้งลงไป โดยไล่สีเป็น เรนไบว์ (ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง) ปิดฝา รอเป็นเวลา 2-3 นาที จนสุก
  • เมื่อครบเวลา นำวาฟเฟิล พักบน ตระแกรง ให้เย็น ทำจนแป้งหมด
STEP 5 : จัดเสิร์ฟ
วาฟเฟิลสายรุ้ง-rianbow-waffle-09

จัดใส่จาน แต่งหน้าด้วยวิปครีม ผงน้ำตาล

วาฟเฟิลสายรุ้ง-rianbow-waffle-10

วาฟเฟิล สายรุ้ง พร้อมทาน

  • จัดวาฟเฟิลใส่จาน บีบวิปปิ้งครีม โรยด้วย น้ำตาลสีเรนโบว์
  • เสิร์ฟคู่เมเปิ้ลไซรัป ไอศกรีม หรือผลไม้สด ตามชอบ พร้อมทาน

วิดีโอวิธีทำ วาฟเฟิล สายรุ้ง (Rainbow Waffle)

เนื้อหาในวิดีโอ

  • 0:00 เกริ่นนำ
  • 0:42 การละลายเนย
  • 0:54 การแยกไข่
  • 2:23 การทำไข่ขาว
  • 3:02 การผสมสี
  • 3:27 การอบวาฟเฟิล
  • 3:45 ผลลัพธ์ วาฟเฟิลสายรุ้ง
  • 4:05 ชิมเมนู วาฟเฟิล
  • 5:23 คำนวณสูตรวาฟเฟิล

จับคู่ Topping แบบนี้ วาฟเฟิลอร่อยขึ้นทันตา!!

จับคู่-topping waffle
  • เมเปิ้ลไซรัป: เป็นซอสสุดคลาสสิกที่นิยมทานคู่กับวาฟเฟิลมายาวนาน ให้ความหวานละมุน เข้ากันได้ดีกับเนื้อสัมผัสของวาฟเฟิลได้ดีมาก ๆ หรือจะทานคู่กับน้ำผึ้งก็ได้
  • วิปปิ้งครีม: จะช่วยเพิ่มความนุ่ม มัน ละมุน ให้กับวาฟเฟิล
  • ไอศกรีม: เพิ่มความเย็น ชื่นใจ เข้ากันได้ดีกับวาฟเฟิล เลือกไอศกรีมรสชาติตามชอบ เช่น วนิลา ช็อกโกแลต ชาเขียว
  • ผลไม้สด: ช่วยเพิ่มความสดชื่น หวานอมเปรี้ยว ให้กับวาฟเฟิล เช่น สตรอเบอร์รี่ กล้วย บลูเบอร์รี่ กีวี เป็นต้น
  • ของคาว: ไข่ดาว แซลมอนรมควัน แฮม เบคอน หรือไส้กรอก เพิ่มความอิ่มท้อง ราดซอสต่าง ๆ เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสฮอลแลนเดซ

วาฟเฟิล เก็บได้นานกี่วัน? อุ่นยังไง ให้กรอบเหมือนเดิม!!

วาฟเฟิลที่อบแล้ว เก็บใส่บรรจุภัณฑ์มิดชิด เก็บใส่ตู้เย็นอยู่ได้ 1-2 อาทิตย์ หากซีลสูญญากาศ เก็บใส่ตู้เย็น สามารถเก็บได้นานหลายเดือน

วิธีการอุ่นวาฟเฟิล ให้กรอบนอก นุ่มใน ไม่แข็ง ไม่เหนียว ทำได้ง่าย ๆ คือ นำเข้าเตาอบลมร้อน อุณหภูมิ​ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที หรือนำไปอุ่นในเตาวาฟเฟิลใช้ไฟอ่อนทิ้งไว้ 1-2 นาที

วาฟเฟิลแบบอื่น ๆ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก!!

การพัฒนาวาฟเฟิลในหลายประเทศ มีลักษณะพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไปตามพื้นที่ ในสไตล์ต่าง ๆ ดังนี้

  • อเมริกัน วาฟเฟิล (American Waffles) มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม หรือวงกลม แป้งหนาฟู นิยมทานคู่กับท็อปปิ้งต่าง ๆ ทั้งคาว-หวาน
  • บรัสเซลส์ วาฟเฟิล (Brussels Waffle) มีลักษณะคล้าย American Waffles แต่ขนาดใหญ่กว่า แป้งฟู บางกรอบ นิยมทานในรูปแบบของหวาน หรือโรยน้ำตาลไอซิ่งด้านบน
  • ลีเก้ วาฟเฟิล (Liege Waffles) เป็นวาฟเฟิลเบลเยียมร่วมสมัย มีลักษณะเล็ก และหวานกว่า Brussels Waffles เมื่อสุก จะมีสีเหลืองทอง เนื้อนุ่มแน่น มีน้ำตาลคาราเมล เคลือบด้านบน หรือแต่งกลิ่นวนิลา ชินนามอน เพิ่มความหอม
  • สตรูป วาฟเฟิล (Stroopwafle) ต้นกำเนิดจากเนเธอร์แลนด์ ลักษณะแผ่นวาฟเฟิลกลมบาง ประกบกัน สอดไส้ด้วยน้ำเชื่อม นิยมนำมาวางบนปากแก้วเครื่องดื่มร้อน ๆ ก่อนทาน เพื่ออุ่นให้ไส้นิ่มนั่นเอง
  • ฮ่องกง วาฟเฟิล (Hong Kong Waffles) ต้นกำเนิดในฮ่องกง จะเรียกว่า Egg Waffle ทำจาก นม เนย ไข่ น้ำตาล และแป้ง อบในพิมพ์ที่เป็นปุ่ม ๆ คล้ายขนมครก แป้งบางกรอบ ด้านในนุ่ม นิยมทานคู่กับไอศกรีม วิปครีม เป็นต้น
  • ครอฟเฟิล (Croffle) เมนูลูกผสม ระหว่าง ครัวซ็อง และวาฟเฟิล โดยการนำเอาแป้งครัวซ็อง ลงอบในเตาวาฟเฟิล จนทำให้ได้เนื้อแป้งภายนอกกรอบแน่น นุ่มในหนึบขึ้นกว่าแบบปกตินั่นเอง นิยมทานคู่กับไอศกรีม และเมเปิ้ลไซรัป (ดูสูตรทำครอฟเฟิลอย่างละเอียด คลิก)
วาฟเฟิลมีกี่แบบ-types waffle

อย่างที่รู้กันว่า วาฟเฟิล (Waffle) ขนมที่ทำจากแป้ง มีลายคล้ายรังผึ้ง นิยมทานกันทั่วโลก คาดว่ามีขึ้นในศตวรรษที่ 13 ในสมัยกรีกโบราณ มีการนำแป้งสาลี น้ำตาล ไข่ และนม นำมาราดบนแผ่นเหล็กร้อน ๆ ต่อมาก็มีคนคิดแผ่นเหล็กร้อนมาประกบกัน เพื่อทำให้สุกเร็วขึ้น โดยขนมวาฟเฟิล Waffle มาจากภาษาดัตซ์ Wafel หมายถึงชิ้นส่วนของรังผึ้ง นั่นเอง

และใน ค.ศ. 1620 คนดัชต์ได้อพยพไปอเมริกา นำวาฟเฟิลไปทานด้วย ทำให้นิยมแพร่หลายในประเทศอเมริกา โดยคนอเมริกันจะทานกับน้ำเชื่อม ใส่ผลไม้ เช่น เบอร์รี่ กล้วย หรือไอศกรีม เป็นของหวาน หรือวาฟเฟิลของคาว จะทานกับ ไข่ดาว เบคอน ไก่ทอด แฮม เป็นต้น และคำว่า Waffle ถูกบัญญัติขึ้นในภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรกในปี 1735 อีกด้วย

วาฟเฟิล กับ รังผึ้ง ต่างกันยังไง

ความแตกต่าง วาฟเฟิล ขนมรังผึ้ง

ขนมวาฟเฟิล และ ขนมรังผึ้ง คือ ขนมคนละชนิดกัน!! แตกต่างกันที่ ส่วนผสม

  • วาฟเฟิล ส่วนผสมหลักคือ “นมสด” นำไปอบ ให้เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน มัน เค็ม มีกลิ่นหอมเนย นิยมทานเปล่าๆ ราดซอสต่างๆ หรือเพิ่ม Topping ตามชอบ
  • ขนมรังผึ้ง เป็นขนมไทย หน้าตาคล้ายวาฟเฟิล ส่วนผสมหลักคือ “หัวกะทิ” นำไปนึ่ง ให้เนื้อสัมผัสนุ่ม หอมกะทิ หวานมัน กลมกล่อม นิยมทานเปล่าๆ

สูตรวาฟเฟิล สายรุ้ง ที่เราได้นำมาฝากกัน คงทำให้การทำวาฟเฟิลของใครหลาย ๆ คนเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที สำหรับใครที่คิดจะนำไปทำขาย สร้างกำไร ก็บอกเลยว่าขายดีอย่างแน่นอนเลยค่ะ

⭐⭐ หากชื่นชอบบทความของ SGE ⭐⭐

ฝากกดลิงก์เยี่ยมชมสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราด้วยนะคะ🙏

เชฟเจิน

ผู้จัดการและเชฟผู้สอน
ที่ Smile Cooking Club
Le Cordon Bleu 2013

เมนูเด็ดจาก SGE

ถาม-ตอบเกี่ยวกับสูตรอาหาร

guest
2 Comments
โหวตสูงสุด
ใหม่สุด เก่าสุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด
หลินหลิน
หลินหลิน
4 เดือน ที่ผ่านมา

น่าทานสุดๆๆ