ประโยชน์ ข้าวฟ่าง พร้อมวิธีหุงข้าวฟ่างให้หอมอร่อย!
ข้าวฟ่าง ประโยชน์ ต่อร่างกายมีอะไรบ้าง ทำไมคนรักสุขภาพถึงนิยมรับประทาน SGE มีคำตอบ พร้อม วิธีหุงข้าวฟ่าง ให้หอมอร่อย มาฝาก ใครอยากรู้ว่า ข้าวฟ่างมีดีอย่างไร ทำไมควรรับประทาน ถ้าอยากมีสุขภาพที่ดีแล้วละก็ ตามมาดูกันเลย
ทำความรู้จัก ข้าวฟ่าง
ข้าวฟ่าง เป็นพืชในวงศ์หญ้า จัดอยู่ในตระกูลเดียวกันกับ ข้าว ข้าวโพด มีชื่อสามัญว่า sorghum ลักษณะโดยทั่วไป ลำต้นตั้งตรง ใบเขียวเรียงสลับ ปลายใบแหลม ดอกออกเป็นช่อรวงยาว มีสีเขียว หรือ สีน้ำตาลอ่อน ๆ ด้านในมีเมล็ดข้าวฟ่างเล็ก ๆ อยู่จำนวนมาก พื้นที่ที่เหมาะกับการเพาะปลูกข้าวฟ่าง ได้แก่ พื้นที่ที่เป็น โคก ดอน หรือ ที่สูง น้ำท่วมไม่ถึง
โดยข้าวฟ่างถือเป็น Superfood ของโลก เนื่องจากมีโปรตีนสูง เส้นใยอาหาร และ วิตามินต่าง ๆ ทำให้เป็นอาหารทางเลือก สำหรับคนรักสุขภาพ สามารถนำเอามาทำเป็นอาหารคาว เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือ ขนมหวานอย่างเช่น ข้าวฟ่างเปียก ข้าวฟ่างกวน ก็ได้ เป็นต้น
ข้าวฟ่าง มีกี่ชนิด
1. ข้าวฟ่างเมล็ด (grain sorghum)
เป็นพันธุ์ข้าวฟ่างที่ให้เมล็ด มากกว่าข้าวฟ่างชนิดอื่น ๆ ลำต้นเตี้ย มีขนาดช่อรวงค่อนข้างใหญ่ เรียวยาว สามารถนำมาใช้เป็นอาหาร ทั้งมนุษย์และสัตว์ ในประเทศไทยนิยมปลูกข้าวฟ่างพันธุ์นี้มากที่สุด โดยข้าวฟ่างเมล็ดพันธุ์ที่นิยมปลูกกัน ได้แก่ พันธุ์อู่ทอง ๑ และ พันธุ์เฮการี เป็นต้น นิยมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ข้าวฟ่างหางหมา หรือ ข้าวฟ่างหางกระรอก
2. ข้าวฟ่างหญ้า (grass sorghum)
มีลำต้น และ ใบเรียวยาวเล็ก เหมือนต้นหญ้า นิยมนำมาใช้เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ โดยการทำเป็นหญ้าหมัก หญ้าแห้ง ตัดต้นสดให้สัตว์กิน ตัวอย่างข้าวฟ่างชนิดนี้ ได้แก่ หญ้าซูดาน หญ้าซูแดกซ์ ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่าง ข้าวฟ่างกับหญ้าซูดาน
3. ข้าวฟ่างหวาน (sweet sorghum)
ลำต้นสูงกว่า 2 เมตร ในลำต้นมีน้ำหวานอยู่มาก คล้ายต้นอ้อย สามารถนำมาทำเป็น น้ำตาลสด น้ำตาล หรือ หมักเป็นแอลกอฮอลล์ก็ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถทำเป็นหญ้าหมัก หรือ ปลูกเป็นทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย
4. ข้าวฟ่างไม้กวาด (broom corn)
มีใบและเมล็ดค่อนข้างน้อย ขนหรือหางลำต้นแข็ง ช่อรวงยาวถึง 30 – 90 เซนติเมตร ทำให้นิยมปลูก เพื่อนำมาทำเป็นไม้กวาด โดยเฉพาะในทวีปยุโรป และ อเมริกา
5. ข้าวฟ่างคั่ว (pop sorghum)
ลำต้นสูงประมาณ 3 เมตร ช่อดอกหลวม เมล็ดเล็กสีเหลืองนวล หรือ สีขาว ค่อนข้างแข็ง มีแป้งมาก เมื่อนำมาคั่วจะแตกพอง เช่นเดียวกับข้าวโพดคั่ว ในประเทศไทยนิยมปลูกตามคันนา หรือ บริเวณบ้าน โดยข้าวฟ่างคั่วพันธุ์ที่เป็นที่รู้จัก คือ ข้าวฟ่างหางช้าง
ข้าวฟ่าง ประโยชน์ 10 ข้อที่ควรรู้
1. ปลอดกลูเตน
สำหรับใครที่แพ้กลูเตน หรือเป็นโรค Celiac disease ควรรับประทานข้าวฟ่าง เพราะปลอดกลูเตน หรือ กลูเตนฟรี ทำให้คุณสามารถรับประทาน ทดแทนข้าวหรือธัญพืชอื่น ๆ ที่มักมีกลูเตนเป็นส่วนประกอบได้
2. ให้พลังงานสูง
ข้าวฟ่างก็เหมือนข้าว หรือ ธัญพืชอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานสูง โดยใน 100 กรัม จะให้พลังงานสูงถึง 329 แคลอรี่ สามารถรับประทานเป็นอาหารจานหลัก
3. โปรตีนสูงมากกว่าถั่วเหลือง
ใครอยากรับประทานธัญพืชที่มีโปรตีนสูง ทดแทนเนื้อสัตว์ ข้าวฟ่างถือว่าตอบโจทย์ เพราะใน 100 กรัม จะให้โปรตีนสูงถึง 11 กรัม มากกว่าถั่วเหลืองที่นิยมบริโภคกันเสียอีก ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับสายวีแกน และ มังสวิรัติ
4. มีใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย
ใยอาหารในข้าวฟ่าง มีมากถึง 7 : 100 กรัม จึงมีส่วนช่วยในการขับถ่าย ทำให้ลำไส้และกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น
5. ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน
นอกจากช่วยในการขับถ่ายแล้ว ใยอาหารในข้าวฟ่าง ยังมีคุณสมบัติละลายน้ำ จึงมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาล ควบคุมโรคเบาหวานไม่ให้ลุกลามได้
6. บำรุงประสาท ทำให้หัวใจทำงานเป็นปกติ
ในข้าวฟ่างมีวิตามิน B1 ช่วยบำรุงประสาท ทำให้หัวใจทำงานเป็นปกติ รวมถึงช่วยรักษาโรคงูสวัดดิ์ โรคเหน็บชาได้
7. เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง
การรับประทานข้าวฟ่าง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง เพราะมีวิตามิน B6 ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคทางประสาทและโรคผิวหนังหลายชนิด
8. ลดการอักเสบในร่างกาย
เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ฟลาโวนอยด์ กรดฟีโนลิก และ สารแทนนิน จึงมีส่วนช่วยยับยั้งการเกิด Oxidation ลดการอักเสบในร่างกาย ชะลอกระบวนการแก่ชรา และ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
9. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
หากอยากทานอาหารสุขภาพ เพื่อควบคุมน้ำหนัก ควรรับประทานข้าวฟ่าง เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ทำให้อิ่มท้องนาน ลดความอยากทานอาหาร ช่วยให้น้ำหนักของคุณอยู่ในเกณฑ์ปกติ
10. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
หนึ่งในแร่ธาตุสำคัญ ที่อยู่ในข้าวฟ่าง คือ แมกนีเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในการควบคุมแคลเซียมในกระดูกและเลือดให้สมดุล ทำให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกเปราะ หรือ โรคกระดูกพรุน
วิธีหุงข้าวฟ่างให้หอมอร่อย
วิธีหุงข้าวฟ่าง ให้หอมอร่อย สามารถทำได้ แบบ วิธีหุงข้าว โดยทั่วไป คือ ใส่หม้อหุงข้าว ใส่น้ำ แล้วหุงได้เลย โดยก่อนนำข้าวฟ่างใส่หม้อ แนะนำให้นำไปคั่วในกระทะก่อน จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอม ทำให้ข้าวฟ่างหอมอร่อย น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
อุปกรณ์และวัตถุดิบ
- ข้าวฟ่าง 1/2 ถ้วย
- น้ำ 2 ถ้วย
วิธีหุงข้าวฟ่าง
- ล้างข้าวฟ่างให้สะอาด และ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งกระทะ เปิดไฟอ่อน ใส่ข้าวฟ่างลงไป คั่วจนได้ยินเสียงเมล็ดข้าวแตกแล้ว จึงยกลงเตรียมไว้
- ตั้งหม้อหุงข้าว ใส่ข้าวฟ่าง ตามด้วยน้ำเปล่าลงไป
- จากนั้น กดโหมดหุงข้าว แล้วหุงต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าข้าวฟ่างจะสุก เป็นอันเสร็จ
รู้จัก ข้าวฟ่าง ประโยชน์ ต่าง ๆ กันแล้ว หากใครอยากกินธัญพืช ที่มีคุณค่าทั้งในเรื่องของพลังงาน โปรตีน และ ใยอาหารสูงแล้วละก็ แนะนำให้หา ข้าวฟ่าง แล้วนำมาหุง ตาม วิธีหุงข้าวฟ่าง ที่นำมาฝากได้เลย รับรองว่า ข้าวฟ่างของคุณจะหอมไม่เหมือนใคร ช่วยให้คุณกินได้อย่างเอร็ดอร่อย และ มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
26 เมษายน 2024
โดย
Pres