แครอท ประโยชน์และสรรพคุณที่ควรรู้! มีดีมากกว่าบำรุงสายตา!
สารบัญ
แครอท ผักยอดนิยมที่นำมารับประทานได้ทั้งส่วนหัว และใบ ใช้ทำอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งกินสด คั้นน้ำ ผ่านการปรุงสุก หรือใช้ทำขนม ในบทความนี้ SGE จะพาทุกคนไปรู้จัก แครอท รวมถึง ประโยชน์ของแครอท และข้อควรระวังในการทานแครอท ว่ามีอะไรบ้าง? ไปดู!
ประโยชน์และข้อควรระวังในการกินแครอท
แครอทมีประโยชน์มากกว่าที่คิด แถมกินแบบปรุงสุกยังได้สารอาหารมากกว่ากินแบบสดด้วยนะ! ไปดูพร้อมกันดีกว่าว่าประโยชน์และข้อควรระวังของแครอทมีอะไรบ้าง?
ประโยชน์ของแครอท
- บำรุงสายตา อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา โดยเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือ จอประสาทตา (Retina)
- ป้องกันมะเร็ง เพราะในแครอทเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
- เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบไหลเวียนของเลือด เนื่องจากสารในแครอท จะเข้าไปกำจัดไขมันที่เกาะสะสมอยู่ในเส้นเลือด ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- รักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ได้จากสารแคโรทีนอยด์ในแครอท ซึ่งสารตัวนี้ จะเข้าไปช่วยรักษาสมดุลระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
- ปรับปรุงระบบย่อยอาหาร โดยสารในแครอท จะเข้าไปเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานให้กับระบบย่อยอาหาร ซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
- บำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง ชุ่มชื่น ฉ่ำน้ำ สุขภาพดี เพราะในแครอทชุ่มช่ำไปด้วยน้ำ แถมยังมีประโยชน์ในเรื่องของการบำรุงเส้นผมด้วย
- เพิ่มประสิทธิภาพให้กับภูมิคุ้มกัน เพราะร่างกายจะได้ฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียจากแครอท อีกทั้งมีคุณสมบัติในการสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเป็นปกติรวดเร็วมากขึ้น
- มีฤทธิ์ขับพยาธิ เพราะแครอทมีฤทธิ์ช่วยในการขับถ่ายพยาธิได้ อีกทั้งยังเป็นการรักษาที่ไม่มีสารเคมีตกค้างในร่างกายด้วย รับรองเลยว่าเป็นยาที่ปลอดภัย
ข้อควรระวังของแครอท
- อาจทำให้เกิดภาวะผิวเหลือง หากรับประทานแครอทในปริมาณมากเกินไป เพราะในแครอทอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน (Carotenemia) ซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมาก อาจยับยั้งการทำงานของวิตามินเอ ส่งผลต่อการมองเห็น กระดูก ผิวหนัง ระบบเผาผลาญ และระบบภูมิคุ้มกันได้
- อาจเกิดอาการภูมิแพ้ช่องปาก ในบางคน เมื่อรับประทานแครอท ซึ่งอาจมีอาการคันปาก เนื่องจาก ร่างกายทำปฏิกิริยากับโปรตีนในผัก และผลไม้บางชนิด จึงควรรับประทานแครอทที่ปรุงสุกแล้ว ซึ่งอาจช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้
- ซื้อแครอทจากแหล่งเพาะปลูกที่ปลอดภัย และล้างให้สะอาด หรือปรุงให้สุกก่อนรับประทานเสมอ เพราะแครอทอาจปลูกในดินที่ปนเปื้อนสารเคมี สารตะกั่ว หรือโลหะหนักจำนวนมาก อาจส่งผลต่อสุขภาพในเรื่องของเซลล์ไขกระดูก ระบบประสาท และการทำงานของไต อาจทำให้มีอาการ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก น้ำหนักลด นอกจากนี้ อาจส่งผลต่อเม็ดเลือดแดง เสี่ยงต่อโรคโลหิตจางได้อีกด้วย
เทคนิคการล้างแครอท
- การล้างด้วยน้ำสะอาด และน้ำยาล้างผัก อาจช่วยลดสารพิษได้ประมาณ 25%
- การแช่ผัก และผลไม้ในด่างทับทิมประมาณ 20-30 เกล็ด อาจช่วยลดสารพิษได้ประมาณ 40%
- การล้างผักให้น้ำไหลผ่าน และใช้มือล้างผักประมาณ 2 นาที อาจช่วยลดสารพิษได้ถึง 60%
- การแช่ผักในน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่า 20 ลิตร ประมาณ 30-45 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาจช่วยลดปริมาณสารพิษได้ประมาณ 80%
- การแช่ผักด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต หรือผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่น 20 ลิตร ประมาณ 15 นาที อาจช่วยลดสารพิษที่ตกค้างได้ประมาณ 90%
- การแช่ผักด้วยผงถ่านแอคติเวตชาร์โคล (Activated Charcoal) หรือผงคาร์บอนกัมมันต์ ประมาณ 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 5 ลิตร แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาจช่วยดูดซับสารเคมี สี และกลิ่น ได้ประมาณ 90%
ข้อมูลโภชนาการของแครอท
ข้อมูลโภชนาการของ แครอท เปรียบเทียบโดยใช้ปริมาณต่อ 100 กรัม
สารอาหาร | แครอท |
---|---|
แคลอรี (kcal) | 46 |
ไขมันทั้งหมด | 0.2 กรัม |
ไขมันอิ่มตัว | 0 กรัม |
คอเลสเตอรอล | 0 มิลลิกรัม |
โซเดียม | 69 มิลลิกรัม |
โพแทสเซียม | 320 มิลลิกรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 10 กรัม |
เส้นใยอาหาร | 2.8 กรัม |
น้ำตาล | 4.7 กรัม |
โปรตีน | 0.9 กรัม |
วิตามินซี | 9 % |
แคลเซียม | 3 % |
เหล็ก | 1 % |
วิตามินดี | 0 % |
วิตามินบี6 | 5 % |
วิตามินบี12 | 0 % |
แมกนีเซียม | 3 % |
แหล่งข้อมูลประกอบ: Calforlife
แนะนำเมนูจากแครอท
แครอท นำเอาไปทำอาหารทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่มได้หลากหลายเมนู ตามไปจดสูตร แล้วไปเข้าครัวพร้อม ๆ กันเลย
แครอท (Carrot)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Daucus carota Linn.
ชื่อสามัญ
Carrot
กลุ่มพันธุ์ปลูก
UMBELLIFERAE
ถิ่นกำเนิด
เอเชียกลาง และเอเชียตะวันออก
แครอท (Carrot) เป็นไม้ล้มลุกและพืชกินหัวชนิดหนึ่ง มีอายุ 1-2 ปี ถิ่นกำเนิดอยู่ที่แถบเอเชียกลาง และเอเชียตะวันออก มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าแท่งดินสอ หรือที่เรียกว่า เบบี้แครอท ไปจนถึง ขนาดใหญ่ หัวแครอทมีหลายสี เช่น ส้ม เหลือง ม่วง ขาว แต่ที่นิยมรับประทานในปัจจุบัน คือ สีส้ม ทำให้ในแครอทมีสารแคโรทีนอยู่เป็นจำนวนมาก
แครอทมีหลายสี อาจมีรสชาติ และคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- แครอทสีส้ม มีเบตาแคโรทีนสูงที่สุด เป็นเม็ดสีช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- แครอทสีขาว อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- แครอทสีเหลือง อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน และลูทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย จึงอาจมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตาได้
- แครอทสีแดง อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ไบโอติน โพแทสเซียม วิตามินเค วิตามินบี 6 วิตามินซี และโมลิบดีนัม (Molybdenum) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ เพื่อกำจัดสารพิษบางชนิด
- แครอทสีแดง อุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ และแอนโธไซยานินสูง อาจช่วยรักษาอาการอักเสบ และโรคอ้วนได้
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของแครอท
ลำต้น
แครอทมีลำต้นที่สั้นมาก โดยเป็นส่วนที่งอกออกจากหัวขึ้นมาอยู่เหนือพื้นดินเพียงเล็กน้อย ลักษณะเป็นก้านอ่อน สีเขียว มักมีขนปกคลุม ลำต้นมีใบแตกออกโดยรอบ
ใบ
ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยลักษณะเป็นเส้นยาว เรียว ปลายแหลม ใบมีสีเขียว มีขนอ่อนปกคลุม
หัว
เป็นส่วนที่นิยมนำมาประกอบอาหารมากที่สุด แต่แท้ที่จริงแล้วส่วนหัวแครอท คือส่วนที่เป็นรากแก้ว โดยจะมีรูปร่างต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ เช่น ทรงกรวย ทรงกระบอก หรือ ทรงกลม และมีสีต่างกันทั้งสีส้ม เหลือง ม่วง และขาว ตามสายพันธุ์ เช่นกัน โดยลักษะอื่นที่คล้ายกันคือ หัวแครอทจะมีเนื้อที่แน่น กรอบ ฉ่ำน้ำ และมีรสหวาน เหมาะกับการนำมาทานดิบ ทำน้ำเพื่อสุขภาพ หรือนำมาปรุงผ่านความร้อน
ราก
แครอทมีระบบรากแก้ว ที่มีขนาดเล็ก รูปร่างเรียวยาว เนื้อแข็ง ออกสีคล้ายกับสีของแต่ละสายพันธุ์ มีรสขม จึงไม่นิยมนำมาบริโภค
สายพันธุ์ยอดนิยมของ แครอท
แครอทมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะ สี และรสชาติที่แตกต่างกันไป บทความนี้เลยจะหยิบยก 5 สายพันธุ์แครอทยอดนิยม มาให้รู้จักกัน!
1 แครอทสายพันธุ์ แนนเทส (Nantes)
1 แครอทสายพันธุ์ แนนเทส (Nantes)
- แครอททรงกรวย หัวเรียว ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
- เนื้อสีส้มสด หวาน กรอบ
- นิยมนำมาทานสด ต้ม นึ่ง ผัด แกง
2 แครอทสายพันธุ์ ชานเตเนย์ (Chantenay)
2 แครอทสายพันธุ์ ชานเตเนย์ (Chantenay)
- แครอททรงกรวย หัวสั้น ป้อม ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร
- เนื้อสีส้มเข้ม หวาน ฉ่ำ
- นิยมนำมาทานสด ต้ม นึ่ง ผัด แกง
3 แครอทสายพันธุ์ แดนเวอร์ส (Danvers)
3 แครอทสายพันธุ์ แดนเวอร์ส (Danvers)
- แครอททรงยาว หัวเรียว ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร
- เนื้อสีส้มอ่อน หวาน กรอบ
- นิยมนำมาทานสด ต้ม นึ่ง ผัด แกง
4 แครอทสายพันธุ์ ทัมเบอร์ลินา (Thumbelina)
4 แครอทสายพันธุ์ ทัมเบอร์ลินา (Thumbelina)
- แครอททรงกลม หัวขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร
- เนื้อสีส้ม หวาน กรอบ
- นิยมนำมาทานสด ต้ม นึ่ง ผัด แกง
5 เบบี้แครอท (Baby Carrot)
5 เบบี้แครอท (Baby Carrot)
- แครอททรงกรวย หัวเล็ก ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร
- เนื้อสีส้ม หวาน กรอบ
- นิยมนำมาทานสด ต้ม นึ่ง ผัด แกง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ แครอท ประโยชน์ของแครอท ที่มีมากมายหลากหลาย ที่ทำให้แครอทเป็นผักยอดนิยมของผู้คนมากมาย สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองทาน หรือไม่ชอบทานแครอท ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินสักหน่อย เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง
14 มีนาคม 2024
โดย
จันทร์เจ้า
เป็นผักที่เริ่มหัดให้เด็กๆทานเลยค่ะ เพราะสีสวย มีประโยชน์ด้วย เด็กๆชอบมาก เพราะรสหวาน ไม่ขม
ถูกต้องเลยค่ะ บ้านไหนกำลังฝึกเจ้าตัวน้อยให้กินผักเป็นครั้งแรก ต้องเริ่มที่แครอทเลยนะคะ~