ปลูกผักกินเอง ปลูกง่าย โตไว ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน
เชื่อว่าคนที่ชอบกินผักต้องมีสะดุ้งกันบ้างเล็กน้อย ผักสดหลายชนิดในท้องตลาด มีสารเคมีตกค้างอยู่สูง ดังนั้น ถ้าหากใครคิดจะกินผักใบเขียว เพื่อช่วยเสริมให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง คงต้องมีร้อน ๆ หนาว ๆ กับอันตรายที่ติดมาจากสารเคมีกันบ้างแหละ 😲
ปกติการเลือกซื้อผัก เพื่อนำมาปรุง และรับประทานเอง เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสุขภาพ เพราะเราสามารถกำหนดสัดส่วนเครื่องปรุงให้ไม่ มัน เค็ม หรือหวานมากเกินไปได้ บทความนี้ SGE เลยอยากมาชวน “ปลูกผักกินเอง” ปลูกผัก เพื่อสุขภาพที่ปลอดภัยต่อสารเคมี แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อวัตถุดิบอีกด้วยนะ
อย่างไรก็ตาม ลองหันมา ปลูกผัก ในกระถางไว้กินเองที่บ้านแทน รับรองเลยว่าปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ได้รับประโยชน์ตรงตามต้องการ ที่สำคัญไร้สารเคมีตกค้างชัวร์ เพราะเราปลูกเองกับมือมั่นใจได้แน่นอน
ข้อดีข้อการ ปลูกผักกินเอง
- สร้างความสัมพันธ์ในสังคมตั้งแต่ระดับครอบครัว ด้วยการปลูกผัก หรือการทำเกษตรในเมืองเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ ทำให้คนได้ร่วมกันเรียนรู้ ทำกิจกรรม และแบ่งปันกัน
- ลดรายจ่าย มีอาหารที่ปลอดภัยไว้บริโภค และยังสามารถสร้างงานสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว ซึ่งหากมีผลผลิตเหลือจากกินเองแล้ว ก็สามารถแบ่งขาย สร้างรายได้เสริมได้ นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่การสร้างอาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น การแปรรูปอาหาร เป็นต้น
- การปลูกพืชผักไว้บริโภคเอง ถือเป็นการช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพไว้ได้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรารู้จักนำพันธุ์ผักพื้นบ้านที่ใกล้สูญพันธุ์ ก็จะเป็นการช่วยอนุรักษ์พันธุกรรมไว้ได้อีกทางหนึ่ง ที่สำคัญการปลูกผัก ยังช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศให้ดีขึ้น บางแห่งนอกจากมีผักแล้ว ยังตามมาด้วยนก และแมลงนานาชนิดช่วยกำจัดศัตรูพืชได้อีกด้วย
- ช่วยสร้างพื้นที่สีเขียว ซึ่งส่วนช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกผักบนดาดฟ้า หรือหลังคา สามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารได้ และมีส่วนช่วยลดค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศได้ ที่สำคัญยังมีส่วนช่วยป้องกันน้ำท่วมจากฝนตกหนักได้อีกด้วย
ปลูกกินเอง ในบ้าน ปลูกอะไรได้บ้าง?
ปลูกผัก กวางตุ้ง
วิธีปลูกกวางตุ้งในกระถาง ขั้นตอนแรกให้พรวนดินให้พร้อม กำจัดวัชพืชให้หมด แล้วนำปุ๋ยคอกมาผสม จากนั้นให้หย่อนเมล็ดลงในกระถางเพาะกล้า รดน้ำ และใส่ปุ๋ย เสร็จแล้วก็รอจนกระทั่งต้นสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร แล้วค่อยย้ายลงไปปลูกในกระถางใหญ่ที่เตรียมไว้อีกที ใช้เวลาประมาณ 20-25 วัน ถึงจะเก็บเกี่ยวได้
โดยต้นกวางตุ้ง สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โตได้ดีในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนปนทรายที่มีความชื้นสูงเป็นพิเศษ ต้องการน้ำค่อนข้างมาก อย่างน้อยวันละประมาณ 1 ครั้ง มีโรคและแมลงรบกวนบ้างเล็กน้อย แต่ที่น่าสนใจ คือ มีประโยชน์เพียบ ไม่ว่าจะเป็นช่วยเสริมสร้างกระดูก ฟัน และภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ช่วยในการขับถ่าย ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดตามข้อ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอาหารที่ร่างกายต้องการ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปลูกผัก ถั่วฝักยาว
วิธีปลูกถั่วฝักยาว ในกระถาง ขั้นตอนแรก ให้เตรียมดินปลูกให้เหมาะสมด้วยการพรวนหน้าดินแล้วตากแดดทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ ดินที่เหมาะกับการปลูกมากที่สุดคือ ดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก จากนั้น นำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ ไม่มีตำหนิ โรยลงไปในหลุมดินลึก 5 เซนติเมตร แล้วกลบให้สนิท พร้อมกับรดน้ำทันที สัปดาห์แรกควรรดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หรือแล้วแต่สภาพอากาศ ประมาณ 1 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นยอดต้นอ่อน เมื่อต้นเริ่มโต ลดการให้น้ำลงเหลือ 4-6 วันต่อครั้งก็พอ โดยใช้เวลาในการปลูกประมาณ 55 วัน จึงเก็บเกี่ยวได้
สำหรับการดูแลเมื่อต้นมีอายุได้ 15 วัน ให้เริ่มใส่ปุ๋ยบำรุง โดยเน้นสูตรที่มีธาตุฟอสฟอรัสสูง พร้อมกับหมั่นกำจัดวัชพืชบ่อย ๆ และควรทำค้าง หรือนั่งร้าน เพื่อให้ถั่วฝักยาวได้เลื้อยเกาะด้วย ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกไว้กินเองมาก ๆ เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอาหารมากมาย นำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย แถมยังช่วยดูแลผิวพรรณ บำรุงสายตา กระดูก และฟัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และช่วยป้องกันเบาหวานได้ด้วย
อ่านบทความ: วิธี ปลูกถั่วฝักยาว ในกระถาง ให้ฝักดก ยาวสวย เก็บกินได้ตลอดปี
ปลูกผัก แตงกวา
วิธีปลูกแตงกวาในกระถาง ขั้นตอนแรก ให้คัดเลือกเมล็ดแตงกวาที่สมบูรณ์และแข็งแรง จากนั้นนำไปเพาะกล้าในกระถางใบเล็ก โดยใช้ดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยหมักในอัตราส่วน 50:50 ขุดหลุมลึก 1.2 เซนติเมตร เสร็จแล้วโรยเมล็ดลงในหลุม หลุมละประมาณ 4-5 เมล็ด รดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าให้แฉะ เช็กการระบายน้ำให้ดี จากนั้นนำไปวางให้โดนแสงแดด และรอจนกระทั่งต้นโตประมาณ 5-7 เซนติเมตร ก็คัดเลือกต้นกล้าที่แข็งแรงไปปลูกในกระถางใหญ่ที่ใส่ดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี สุดท้ายอย่าลืมนำแท่งไม้มาปักไว้เพื่อให้ต้นแตงกวาพันเลื้อย ก็จะเป็นอันเสร็จเรียบร้อย โดยสามารถเก็บเกี่ยวได้หลังปลูกประมาณ 60 วัน
ดูแลโดย การหมั่นรดน้ำให้ชุ่มแต่ไม่แฉะ เฉพาะบริเวณโคนต้น ระวังอย่าให้โดนเถาหรือลำต้น เพราะจะทำให้ต้นเน่าได้ และรีบระบายน้ำออกหากมีน้ำขัง นำกระถางมาวางให้โดนแดดอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง นอกจากนี้ควรหมั่นใส่ปุ๋ยและพรวนดินเพื่อป้องกันวัชพืช
ปลูกผัก คะน้า
วิธีปลูกคะน้าในกระถาง ขั้นตอนแรก ให้เตรียมดินด้วยการผสมดินร่วน 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน และขี้เถ้าแกลบหรือขุยมะพร้าวหรือใบไม้แห้ง 1 ส่วน แต่หากไม่สะดวกผสมดินเอง สามารถใช้ดินสำเร็จรูปแทนได้ จากนั้นก็ใส่ลงไปในกระถางแบบไม่ต้องเต็มมาก เสร็จแล้วหย่อนเมล็ดคะน้าตามลงไป หลังจากนั้นเติมดินกลบได้ตามต้องการ ใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน จึงเก็บเกี่ยวได้ แต่ถ้าหากจะปลูกคะน้าซ้ำในกระถางเดิม ควรผสมดินใหม่
สำหรับการดูแล คะน้า เป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ โดยต้องรดให้ชุ่มชื้นทั่วกระถางทุก ๆ เช้า-เย็น หมั่นกำจัดวัชพืช และพรวนดินบ่อย ๆ วางในบริเวณที่มีแสงเพียงพอ ส่วนปุ๋ยที่นำมาบำรุงต้นควรเป็นปุ๋ยที่ธาตุไนโตรเจนสูง
ปลูกผัก กะหล่ำปลี
วิธีปลูกกะหล่ำปลี ขั้นตอนแรก ให้ทำการเตรียมดิน โดยตากแดดทิ้งไว้ 5-7 วัน เสร็จแล้วนำดินที่ได้มาผสมกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก จากนั้นขุดหลุมแล้วหยอดเมล็ดลงไป เมื่อเติบโตเป็นต้นกล้าหลังจากวันแรกที่ปลูกได้ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือมีใบจริงงอก 5-6 ใบ ค่อยย้ายลงกระถาง ส่วนระยะการเก็บเกี่ยวก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ หากเป็นสายพันธุ์เบาใช้เวลา 50-60 วัน สายพันธุ์หนักอยู่ที่ 90-120 วัน
สำหรับการดูแล กะหล่ำปลี เป็นพืชรากตื้นจึงควรรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้หน้าดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ควรระวังไม่ให้ดินชื้นเกินไป เพราะจะทำให้รากเน่าได้ พร้อมกับคอยกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรหมั่นใส่ปุ๋ยเป็นระยะ ระยะแรก คือ ใส่ปุ๋ยรองก้นกระถางก่อนปลูก ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยคอกหลังย้ายกล้าปะมาณ 14-20 วัน และครั้งที่ 3 ใส่ปุ๋ยหลังย้ายกล้าประมาณ 35-45 วัน
อ่านบทความ: กะหล่ำปลี สรรพคุณ ประโยชน์มากมายที่ควรรู้
ปลูกผัก พริก
วิธีปลูกพริกในกระถาง ขั้นตอนแรก ให้นำพริกแช่ในน้ำอุ่น ประมาณ 1 วัน เสร็จแล้วตากแดดให้แห้งประมาณครึ่งวัน จากนั้น แกะเอาเมล็ดมาปลูก ต่อมาเตรียมดินให้พร้อม โดยควรใช้เป็นดินร่วนปนทรายผสมกับปุ๋ยหมัก จากนั้นขุดหลุมดินในกระถางลึก ½ นิ้ว แล้วหย่อนเมล็ดลงไป 3-4 เมล็ดต่อหลุม ก่อนกลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม และวางไว้ในที่ที่มีแดด เมื่อต้นกล้าสูงประมาณ 6 นิ้วขึ้นไป จึงทำการย้ายเฉพาะต้นกล้าที่แข็งแรงไปปลูกในกระถางใหญ่
สำหรับการดูแล ให้หมั่นรดน้ำทุกเช้า-เย็น ใส่ปุ๋ยเดือนละครั้ง พรวนดินเดือนละครั้ง พร้อมกับกำจัดวัชพืช ซึ่งปกติแล้ว พริกจะให้ผลผลิตประมาณเดือนที่ 2-3 ของการปลูก เรียกได้ว่า ไม่นานก็ได้พริกที่เราปลูกเองไว้กินแล้ว
อ่านบทความ: แชร์วิธี การปลูกพริก ในกระถาง สำหรับเก็บไว้ทานเอง ใช้เวลาไม่นาน
ปลูกผัก มะเขือเทศ
วิธีปลูกมะเขือในกระถาง ไม่ว่าจะเป็นมะเขือชนิดไหน ให้เริ่มด้วยการผสมดินปลูกกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก แล้วหยอดเมล็ดลงไปเพาะกล้า จากนั้นกลบหน้าดินให้หนาประมาณ 0.6-1.2 เซนติเมตร ดูแลรดน้ำจนกระทั่งต้นกล้ามีอายุ 30 วัน ก็ให้ย้ายกระถางปลูก โดยในระหว่างการย้ายต้องพยายามให้มีดินติดกับรากมากที่สุด เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่ม พรางแสงแดดเล็กน้อยในช่วงแรก ๆ หลังจากนั้น ค่อยปล่อยให้โดนแสงแดดอย่างเต็มที่ ดูแลรดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้แห้ง แต่ก็อย่าให้แฉะ พรวนดินและกำจัดวัชพืชบ่อย ๆ สักประมาณ 60-85 วัน ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้
อ่านบทความ: มะเขือเทศ ผลไม้ช่วยผิวงามและคุณประโยชน์อีกมากมาย
ปลูกผัก ผักชี
วิธีปลูกผักชีในกระถาง ทำได้ง่ายมาก ๆ เริ่มจากบดเมล็ดผักชีให้แตกแล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นนำไปตากให้แห้ง คลุกกับทราย หรือขี้เถ้าจนเมล็ดเริ่มงอก จึงนำไปปลูกลงในกระถาง ใช้ฟางคลุมเล็กน้อย สุดท้ายรดน้ำให้ชุ่ม
ระหว่างการเติบโตดูแลโดยรดน้ำวันละประมาณ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ปล่อยให้โดนแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าบ้าง และเมื่อต้นแตกใบก็ให้ใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต ในอัตราส่วน 3-4 ช้อนต่อน้ำ 1 ปี๊บ ไม่นานประมาณ 30-45 วัน ผักชีก็จะเริ่มให้ผลผลิต ซึ่งนอกจากจะนำไปปรุงอาหารให้มีรสชาติอร่อยแล้ว ต้องบอกเลยว่าผักชียังมีสรรพคุณทางยาช่วยบำรุงกระเพาะ บำรุงสายตา ลดน้ำตาลในเลือด และขับลมพิษได้อีกด้วย
อ่านบทความ: แชร์วิธี ปลูกผักชี นอกฤดูกาลแบบง่ายๆ ทำได้อย่างไร?
จบไปแล้ว การปลูกผักกินเองที่บ้าน ทำง่าย ๆ ไม่ยาก นอกจากการ ปลูกผักกินเอง แล้ว อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้มีผักสด ๆ ไว้กินอย่างปลอดภัย หมดห่วงเรื่องสารเคมีตกค้าง คือ การล้างผักให้สะอาด ก่อนนำมาทำอาหาร ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคต่าง ๆ ได้อีกทางด้วย
บทความดี ๆ น่าอ่าน:
30 มกราคม 2024
โดย
ลำดวน